แบนเนอร์บทความ

ทัวร์ญี่ปุ่น /

ห้ามพลาด! กับ 4 ไฮไลท์ แหล่งช็อบปิ้งละลายทรัพย์ ณ เมืองโอกินาว่า

  “โอกินนาว่า” เมืองที่แสนสวยงามอุดมไปวัฒนธรรมเก่าแก่ นอกจากนั้นยังเป็นศูนย์รวมความบันเทิงอย่างครบครัน เหมาะแก่สายบันเทิงที่ต้องมาทัวร์ญี่ปุนให้ได้สักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นแหล่งร่วมที่ช็อปปิ้งหลากหลายสไตร์ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้สำหรับขาช็อปทั้งหลาย ซึ่งถ้าเกิดท่านได้หลวมตัวมาแล้วอาจจะกลับบ้านตัวเปล่าก็เป็นได้! 1.อเมริกัน วิลเลจ ( American Village)   แหล่งช็อปปิ้งและศูนย์รวมความบันเทิงแบบคูลๆ ที่ได้แรงบรรดาลใจจากย่านซานดิเอโก้ของสหรัฐอเมริกา ได้กลิ่นอายของความเป็นวัฒนธรรมตะวันตก ในถิ่นฐานของโอกินาว่าก็เป็นการทัวร์ที่แปลกใหม่ดี ซึ่งที่นี่ก็ประกอบไปด้วยสถานบันเทิงมากมาย เช่น โรงภาพยนตร์ , โบว์ลิ่ง , คาราโอเกะ , เกมเซ็นเตอร์ , ชิงช้าสวรรค์ , ไลฟ์เฮ้าส์ , บาร์ , ร้านอาหาร , ร้านหนังสือ , ร้านเสื้อผ้า และร้านตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และชายหาด เรียกได้ว่าเป็นจุดไฮท์ไลท์ที่ละลายทรัพย์ได้ดีอีกที่นึงของการมาทัวร์โอกินาว่า 2.ห้างอิออน (Aeon Mall Okinawa Rycom)    เป็น Aeon Mall ที่ใหญ๋และสวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ห้อมล้อมด้วยท้องฟ้าและน้ำทะเล แหล่งรวมสินค้ามากมาย ไม่ม่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นจากแบนด์ดัง ร้านอาหารเจ๋งๆ ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องสำอาง ศูนย์รวมของเล่นสำหรับคุณหนู ขนมชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น ด้วยสินค้าที่หลากหลาย ให้คุณได้ช็อปกันอย่างเพลิดเพลินเลยทีเดียว แถมยังแฝงด้วยพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ให้เข้าไปเที่ยวชมได้ด้วยอีกนะ 3.ย่านชินโตชิน   อิสระช็อบปิ้งที่ย่านชินโตชิน ซึ่งเป็นย่านเมืองใหญ่ของโอนิกาว่า มีร้านค้าต่างๆ ให้ท่านได้ช้อปปิ้งมากมาย เช่น ร้านนะฮา เมนเพลส ซึ่งเป็นเหมือนซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้างร้านสรรพสินค้า ร้าน 100 เยน ร้านค้าต่างๆ เป็นต้น และที่ใกล้ๆ กัน มีร้านหนังสือ ดีวีดี สึตายะ ร้าน UNIQLO ซึ่งมีเสื้อผ้าผู้ชาย และผู้หญิงที่หลายหลาย หลายสไตล์ให้เลือก ร้าน MUJI เป็นต้น 4.ถนนโคคุไซ    ถนนหลักของเมืองนาฮะ นี่ก็เป็นอีก 1 ไฮไลท์ที่ใครๆก็ต้องมาเยือนเมื่อมาเที่ยวโอกินาว่า ดั่งฉายา 1 ไมล์มหัศจรรย์ ด้วยระยะทาง 1.6 กิโลเมตรบวกกับ 2 ข้างทางและตามซอกตามซอยอุดมไปด้วยร้านค้ามากมายตั้งแต่ร้านของฝาก ร้านอาหารโอกินาวา บาร์ คลับ คาเฟ่ และ ร้านขายของเก่า ซึ่งถ้าใครได้หลงเข้ามารับรองเพลินจนเงินหมดกระเป๋าแน่ๆ  ก็จบกันไปแล้วนะ กับ 4 ไฮไลท์แหล่งช็อบปิ้งละลายทรัพย์ ณ เมืองโอกินาว่า ใครที่กำลังจะเตรียมตัวมาเที่ยวโอกินาว่าก็ลองตามไปยังพิกัดที่บอกไว้ดูนะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วนคนที่อยากมาทัวร์โอกินาว่า แต่ยังไม่ได้วางแผนการเที่ยวก็ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา  PlanetHolidays ก่อนได้เลย

ทัวร์เกาหลี /

หนาวนี้ ! เตรียมตัวอย่างไร ? ก่อนไปตะลุยหิมะที่เกาหลี

      ช่วงนี้ก็เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว และเทศกาลปีใหม่ หลายๆคนคงเริ่มแพลนกันแล้วว่าจะไปพักผ่อนหย่อนใจที่ไหน ซึ่งเราก็เชื่อว่า 1 ในตัวเลือกของใครหลายๆคนต้องมีสถานที่ยอดฮิตอย่างประเทศเกาหลีอยู่ในดวงใจเป็นแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่สวยงาม อากาศ วัฒนธรรม และโอปป้าที่สาวๆทั้งหลายใฝ่ฝัน (รวมถึงฉันด้วย อิอิ ) ซึ่งวันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกทัวร์เกาหลี จะต้องทำอย่างไรบ้างตามมาดูกันค่ะ   อันดับแรกเลย เอกสารการเดินทาง  สำหรับคนที่เดินทางไปด้วยตัวเอง ตม. ประเทศเกาหลีเค้าอาจจะเข้มนิดนึงค่ะ ส่วนใครที่อยากข้ามความยุ่งยากตรงนี้ แนะนำให้ลองปรึกษาบริษัททัวร์ของเราสิคะ ให้เราช่วยแนะนำและดำเนินการด้านเอกสารให้ ส่วนเอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมก็จะมีดังนี้ พาสปอร์ต สิ่งสำคัญที่ใช้เป็นตัวแทนบัตรประชนของเรา ในระหว่างที่พักอาศัยในที่นี่ (อย่าลืมเช็ควันหมดอายุด้วยนะ) ใบ ตม. เป็นอีกสิ่งนึงที่สำคัญ เป็นเอกสารที่ระบุข้อมูลของเราไม่ว่าจะเป็น ชื่อ - นามสกุล ไฟลท์บิน ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เพื่อยืนยันว่ามาเที่ยวจริงๆ ระบุวันไป-กลับ หลักฐานการจองโรงแรม เพื่อระบุที่อยู่ให้ตรวจสอบ สำเนาบัญชีออมทรัพย์  พร้อมโชว์ยอดเงินคงเหลือ เอกสารประจำตัว บัตรประจำตัวประชาชน, ใบขับขี่รถยนต์, สำเนาทะเบียนสมรส ,เอกสารเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล (ถ้ามี) มาต่อที่เครื่องแต่งกายสำหรับการตะลุยหิมะกันเลยค่ะ  ในช่วงฤดูหนาวของประเทศเกาหลี อุณหภูมิก็จะอยู่ที่ -5 ถึง -20 องศา เรียกได้ว่าทั้งหนาวทั้งเหน็บและแห้งกันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นควรเลือกเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ใส่ทับหลายๆชั้นไปเล๊ย ส่วนคนที่อยากจะอิงแฟชั่นไปด้วยก็เลือกหากันตามสบาย ไปช่วงนี้ก็มีกิจกรรมมากมาย แต่ที่เด็ดๆเลยก็คงหนีไม่พ้นสกีหิมะ ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยเลยค่ะ สกุลเงินเกาหลี ประเทศเกาหลีเค้าจะใช้ สกุลเงินวอน 1000 วอนจะสามารถแลกเป็นเงินไทยได้ประมาณ 28-30 บาท ขึ้นอยู่ช่วงเวลา สามารถตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ https://www.xe.com/currencyconverter/ เรื่องภาษา   ส่วนใหญ่แล้วคนเกาหลีจะใช้ภาษาหลักของตัวเอง แต่ก็ยังพอที่จะสื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้าง แต่ก็ไม่ต้องซีเรียสนะคะ เพราะตามป้ายสถานที่ต่างๆก็ยังมีภาษาอังกฤษเขียนบอกเอาไว้ (บางที่ก็มีภาษาไทยด้วยนะ) เวลา ประเทศเกาหลี เวลาจะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง อย่าลืมเรื่องปรับเวลา และการนัดแนะกับทิวร์ของตัวเอง เวลาย้ายสถานที่ ขึ้นเครื่องกลับ จะได้ไม่มีปัญหานะคะ ยา ใครที่มีโรคประจำตัวก็ควรเตรียมไว้ให้พร้อมนะคะ ส่วนยาสามัญทั่วไปก็สมารถหาซื้อได้ในประเทศ  (แต่จะให้ดีควรเตรียมไปให้พร้อมดีกว่าค่ะ) และนี่ก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องเตรียม ใครที่คิดจะเดินทางไปก็ควรวางแผนให้ดีนะคะ พยายยามอย่าให้มีสิ่งใดตกหล่น เพื่อจะได้ไม่พลาดความสนุกในทริปเกาหลีนี้ ส่วนเพื่อนๆคนไหนที่ยังไม่มีแพลนเที่ยวเกาหลี หรือ ยังหาทัวร์เกาหลีไม่ได้  ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณสิคะ ที่นี่เรามีทัวร์ดีๆมากมาย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ  PlanetHolidays คำตอบของคนชอบเที่ยว โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 087-078-1777 Line เราก็มีนะ @planetholiday   

ทัวร์ตุรเคีย /

4 ความลับอันสวยงามที่ซ่อนอยู่ใน ตุรกี

เมื่อพูดถึงประเทศ ตุรกี หลายๆคนคงจะเคยได้ยินผ่านหู หรือ ดูผ่านตามาบ้างแล้วนะกับบอลลูนที่สวยงามและขึ้นชื่อของประเทศนี้ เชื่อว่าหลายๆคนคงจะเคยมาทัวร์ที่ตุรกีกันมาบ้างแล้ว แต่จะมีสักกี่คนหล่ะครับ ที่จะล่วงรู้ถึงความลับของความสวยงามในมุมอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ของประเทศแห่งนี้ วันนี้เราก็จะพาไปทัวร์ตุรกีในมุมที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน มาเผยความลับไปพร้อมกันเลยครับ ความลับที่ 1 สุเหร่าสีน้ำเงิน    สถาปัตยกรรมเก่าแก่ระดับโลก ของ ตุรกี ถ้าใครได้ย่างกรายเข้าไปแล้วก็ต้องตกอยู่ในสภาวะต้องมนต์สะกด ด้วยความสวยงามภายในวิหารบวกกับแสง ไฟ สีน้ำเงิน ที่คุณมิอาจ ลดละ สายตาได้เลย ความลับที่ 2 สุเหร่าเซนต์โซเฟีย   อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของ ตุรกี แค่สถาปัตยกรรมภายนอกก็ดูมีมนต์ขลังแล้ว เรื่องความสวยงามของภายในนี่ไม่ต้องพูดถึง ด้วยการออกแบบอย่างปราณีตทำให้สุเหร่าเซนต์โซเฟียมีความเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก และนี่ก็เป็นอีกที่นึงที่ควรมาเยือนให้ได้ ความลับที่ 3 ตลาดแกรนด์บาซาร์    ใครที่เป็นสายเสพวัฒนธรรมต้องห้ามพลาดที่แห่งนี้เด็ดขาด เรียกได้ว่าเป็นอีกส่วนสำคัญในการเที่ยวตุรกีเลย ตลาดแกรนด์บาซาร์ เป็นตลาดที่ใหญ่ และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ก่อสร้างขึ้นมานานกว่า 1,500 ปี  ที่นี่อุดมไปด้วยร้านค้านานาชนิด ทั้งเครื่องเงิน ไข่มุก เครื่องปั้นดินเผา เสื้อผ้า ผ้าไหม นาฬิกา รองเท้า ของโบราณต่างๆ ของตกแต่งบ้าน และ ซิกเจอร์ของที่นี่ก็คือ ทองคำ! ความลับที่ 4 โบดรัม    เมืองตากอากาศที่แสนสวยงามของตุรกี สนที่ที่อุดมไปด้วยกลิ่นอายความโรแมนติก และความหรูหราร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆของโลก เหมาะแก่การมาพักร้อน หรือ มาทัวร์ในช่วงเทศกาลเค้าดาวน์ปีใหม่ที่โบดรัมก็ไม่เลว นับว่าเป็นจุด view poind  อีกที่นึงในตุรกีที่มีทุกอย่างครบ ไม่ว่าจะเป็น น้ำทะเล ภูเขา เมืองที่แสนหรูหรา ผมว่าคุณก็ควรมาทัวร์ตุรกีให้ได้สักครั้งนะ   ก็จบกันไปแล้วนะครับ กับ 4 ความลับอันสวยงามของตุรกี เห็นแล้วก็อยากที่จะมาทัวร์ตุรกีกันบ้างแล้วใช่ไหมหล่ะ ? ส่วนใครที่ยังไม่เคยไปเที่ยวยุโรปเลยสักครั้ง ไม่รู้จะวางแผนการเดินทางยังไง ให้เราช่วยเติมเต็มความทรงจำของคุณ ด้วยทัวร์ดีๆ ราคาไม่แพง แล้วคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอนครับ PlanetHolidays คำตอบของคนชอบเที่ยว โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 087-078-1777 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทัวร์ญี่ปุ่น /

พาไปส่องใบไม้เปลี่ยนสี กับ 5 แลนด์มาร์กยอดฮิต ณ กรุง โตเกียว

พาไปส่องใบไม้เปลี่ยนสี กับ 5 แลนด์มาร์กยอดฮิต ณ กรุง โตเกียว          เมื่อพูดถึงเมืองหลวงอย่าง โตเกียว ในช่วงเดือนพฤศจิกายน หลายคนคงทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า ที่นี่เป็นจุดแลนด์มาร์กสำคัญในการรับชม ใบไม้เปลี่ยนสี ในฤดูใบไม้ร่วง ของประเทศญี่ปุ่น วันนี้เราก็จะมาแนะนำ 5 แลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไปให้ได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ณ กรุงโตเกียว ว่าแล้วเราก็ทัวร์ญี่ปุ่นไปชมกันเล๊ย 1.อิโช นามิกิ         สถานที่ยอดนิยมที่ตั้งอยู่ถัดจากสวนเมจิ จินกุ ไกเอน เริ่มต้นตั้งแต่สถานีรถไฟใต้ดิน Aoyama-Itchome Station แลนด์มาร์กสุดเจ๋งที่เรียงรายไปด้วย “ต้นแปะก๊วย” ที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง และร่วงโรยลงในช่วงเดือนพฤศจิกายน นับเป็นอีกที่หนึ่งที่มีผู้คนมากมายมาเดินเล่น พักผ่อน นั่งจิบกาแฟ ทานอาหาร และถ่ายรูปเก็บความทรงจำ 2.ทะเลสาบคาวากุชิโกะ        ตามมาที่แลนด์มาร์กยอดฮิตจุดที่ 2 ของโตเกียว นั่นก็คือ “ทะเลสาบคาวากุชิโกะ” แลนด์มาร์คที่มี view poind เป็นภูเขาไฟฟูจิ และต้นไม้หลายชนิดที่รายล้อม อาทิ เช่น ซากุระ ต้นเมเปิ้ลที่รอการเปลี่ยนสีในฤดูนี้ 3.สวนสาธารณะชินจูกุ       แลนด์มาร์กที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโตเกียว ที่ที่ถูกจัดว่าเป็นสถานที่ชมซากุระที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นเรียกได้ว่าใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นต้องไม่พลาดที่นี่แน่นอน นอกจากนั้นในฃ่วงฤดูใบไม้ร่วงสวนสาธารณะชินจูกุยังเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด อีกทั้งยังมีสวนสไตล์ฝรั่งเศษและอังกฤษที่สวยงาม ให้เดินเล่น พักผ่อน กันอีกด้วย 4.สวนริคุงิเอ็น       มาต่อกันที่แลนด์มาร์กสุดขลัง! อีกที่ของโตเกียว “สวนริคุงิเอ็น” แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะ และมีอายุยาวนานกว่า 300 ปี ซึ่งปัจจุบันยังคงความงดงามของสถาปัตยกรรมสไตล์ญี่ปุ่น ภายในสวนรายล้อมด้วยต้นเมเปิ้ลมากมายที่พอเปลี่ยนสีแล้วจะมีหลายเฉดสีที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง หรือ สีแดง ที่คอยเติมแต่งให้สวนแห่งนี้เกิดเป็นงานศิลปะอีกชิ้นนึงเลย 5.ภูเขาทาคาโอะ       ภูเขาทาคาโอะตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมืองโตเกียว แลนด์มาร์กสุดท้ายสำหรับสาย ลุย! เหมาะกับคนที่ชอบการเดินป่า ชมธรรมชาติ เนื่องจากที่นี่เป็นภูเขาที่มีต้นไม้นานาชนิดทำให้เมื่อเข้าสู่ ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้เปลี่ยนสี ภูเขาทั้งลูกจะมีสันที่สวยงามมาก เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เลยที่ไม่ควรพลาด      เป็นอย่างไรบ้างครับ กับ 5 แลนด์มาร์กยอดฮิตสำหรับรับชมใบไม้เปลี่ยนสี ณ กรุง โตเกียว ครั้งนี้ ?  ส่วนใครที่ยังไม่ได้วางแผนการเดินทางก็ลองค่อยๆคิด ค่อยๆวางแผนดูนะครับ หรือถ้าจะให้ดีก็สามารถเข้ามาเลือก ทัวร์โตเกียว เที่ยวญี่ปุ่น กับแพลนเนท ฮอลลิเดย์ ทราเวิล ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณสิครับ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 087-078-1777 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทัวร์ฮ่องกง /

เที่ยวฮ่องกง วิธีการไหว้ขอพรเจ้าแม่กวนอิม ณ Repulse Bay อย่างกูรู

เที่ยวฮ่องกง ไหว้ขอพรเจ้าแม่กวนอิมและเทพอื่น ๆ ที่ริมหาดรีพัลส์ เบย์ (Repulse Bay) อย่างถูกต้อง ใครอยากเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตและขอพรเรื่องอื่น ๆ ให้สมหวังดั่งใจปรารถนา ต้องไม่พลาดไปกราบไหว้เจ้าแม่กวนอิม ณ หาดรีพัลส์ เบย์ ฮ่องกง เที่ยวฮ่องกงภาพจาก T.Dallas / shutterstock.com ฮ่องกง เกาะเล็ก ๆ แต่ทรงพลังทั้งทางด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการศึกษา อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอตของเอเชีย ที่คนทั่วโลกปรารถนาจะมาเหยียบย่างกันให้ได้สักครั้งในชีวิต ถ้าตามความเชื่อของคนจีนก็จะบอกว่าฮ่องกงนั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายคุ้มครอง อีกทั้งยังวางฮวงจุ้ยของเมืองได้อย่างดีเยี่ยม วันนี้เราจึงขอพาไปกราบไหว้เจ้าแม่กวนอิมริมหาดรีพัลส์ เบย์ หนึ่งในเทพศักดิ์สิทธิ์ของฮ่องกง พร้อมทั้งรวบรวมถึงวิธีการไหว้เจ้าแม่กวนอิมและเทพต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณเดียวกันอย่างถูกต้อง เพื่อให้คนที่ศรัทธาได้สมหวังดั่งใจต้องการ เที่ยวฮ่องกง วัดเจ้าแม่กวนอิม ตั้งอยู่บริเวณริมหาดรีพัลส์ เบย์ (Repulse Bay) คนฮ่องกงเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก ไม่ว่าจะขอพรสิ่งใดก็จะสมความปรารถนาทั้งสิ้น ซึ่งนอกจากเจ้าแม่กวนอิมแล้วบริเวณนี้ก็จะมีเจ้าแม่ทับทิม, พระสังกัจจายน์, เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย ฯลฯ ให้ได้กราบไหว้กันอีกด้วย วันนี้เราจึงขอแนะนำ 8 สิ่งที่ต้องทำเมื่อไปถึงวัดเจ้าแม่กวนอิม ณ หาดรีพัลส์ เบย์ เกาะฮ่องกง จะมีอะไรบ้างไปดูกัน 1. เดินเข้าวัดด้วยเท้าซ้าย ออกด้วยเท้าขวา การเดินเข้าวัดด้วยเท้าซ้ายและออกจากวัดด้วยเท้าขวานั้น เป็นเคล็ดลับที่ชาวฮ่องกงและคนจีนบอกว่าคล้ายกับการเดินของเข็มนาฬิกา ก็จะทำให้ชีวิตเจริญก้าวหน้านั่นเอง 2. ลูบลูกแก้วในปากสิงโตด้านหน้าวัด ก่อนที่จะเดินเข้าวัดเราก็ยังสามารถที่จะเสริมดวงแห่งโชคลาภได้ด้วยการหมุนลูกแก้ว ที่อยู่ในปากของสิงโตตัวทางด้านขวาของประตูทางเข้า เพื่อให้มีแต่ความโชคดี ทำอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง มีแต่โชคลาภเข้ามาหาตัวเองและครอบครัว 3. ไหว้ขอพรต่อเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ เที่ยวฮ่องกง ภาพจาก Thitisan / shutterstock.com เจ้าแม่กวนอิม เป็นหนึ่งในเทพที่ชาวฮ่องกงและคนจีนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก โดยเฉพาะที่วัดเจ้าแม่กวนอิม บริเวณหาดรีพัลส์ เบย์ ของเกาะฮ่องกง ที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ มีคำร่ำลือมาตั้งแต่อดีตว่าไม่ว่าใครจะขอพรอันใดก็สมหวัง สมความปรารถนาทุกประการ โดยการขอพรให้ยืนอยู่บริเวณกระเบื้องที่ตรงกับพระพักตร์ท่านให้มากที่สุด เพื่อให้ท่านประทานพรให้เราแบบเต็ม ๆ บริเวณนั้นจะมีบทสวดภาษาไทยตั้งไว้ด้วย 4. ไหว้ขอพรเจ้าแม่ทับทิม เที่ยวฮ่องกง ภาพจาก 2p2play / shutterstock.com เจ้าแม่ทับทิม เป็นเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ในอดีตคนฮ่องกงประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก จึงนับถือเจ้าแม่ทับทิมกันมาก โดยเชื่อกันว่าเจ้าแม่ทับทิมจะช่วยปกปักรักษายามที่ต้องออกเดินเรือ และยังให้พลังในการทำกิจการค้าขายอีกด้วย 5. ไหว้ขอพรโชคลาภจากเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย รูปปั้นเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้ารูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ท่านเป็นเทพเจ้าที่ให้โชคลาภ และความมั่งมีเงินทอง ความร่ำรวย วิธีการขอพรจากท่านคือให้นำแบงก์ร้อย หรือแบงก์พัน หรือแบงก์ที่มีตัวเลขนำโชค ความหมายดี ๆ แล้วอธิษฐานถึงโชคลาภ

ทัวร์ญี่ปุ่น /

เสียวขั้นสุดกับ Takabisha รถไฟเหาะตีลังกาที่ชันที่สุดในโลก ที่ประเทศญี่ปุ่น

พาไปทำความรู้จักกับ Takabisha เครื่องเล่นรถไฟเหาะตีลังกาสุดหวาดเสียวภายในสวนสนุก Fuji-Q Highland ประเทศญี่ปุ่น ถูกบันทึกให้เป็นเครื่องเล่นประเภทรถไฟเหาะตีลังกาที่ชันที่สุดในโลก ด้วยความชันมากถึง 121 องศา เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวใกล้โตเกียวที่ไม่ควรพลาด ญี่ปุ่น มักจะมีสิ่งที่ทำให้โลกได้เซอร์ไพรส์อยู่ตลอดจริง ๆ นอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นให้เราไปเที่ยวชมมากมายแล้ว ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวแนวเอนเตอร์เทนเมนต์ยังจัดทำออกมาได้ดีไม่มีที่ติอีกต่างหาก อย่างในส่วนของสวนสนุก Fuji-Q Highland เมืองฟุจิโยะชิดะ (Fujiyoshida) จังหวัดยะมะนะชิ (Yamanashi) ก็มีเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวที่เป็นที่สุดของโลกตั้งอยู่ด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ Takabisha ภาพจาก Alongkorn Naranong / Shutterstock.com Takabisha เป็นเครื่องเล่นประเภทรถไฟเหาะตีลังกา (Roller Coaster) ที่จะทำให้หัวใจคุณเต้นระทึกมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต กับความชันมากที่สุดในโลก ด้วยความชันมากถึง 121 องศา เปิดให้นักท่องเที่ยวได้พิสูจน์ความหวาดเสียวครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2011 ภาพจาก Navapon Plodprong / Shutterstock.com Takabisha นั้้นเป็นเครื่องเล่นมาตรฐานระดับโลกจากบริษัท Gerstlauer ประเทศเยอรมนี มีโครงสร้างเป็นเหล็กแข็งแรงสมบูรณ์ มีระยะทางทั้งหมด 1,004 เมตร วิ่งด้วยความเร็วประมาณ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง จุดที่สูงที่สุดก่อนที่จะปล่อยตัวลงมาด้วยความชัน 121 องศานั้น มีความสูงอยู่ที่ 43 เมตร ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าเราได้นั่งบนรถไฟเหาะซึ่งสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้แบบสวยอลังการ และได้ขึ้นไปอยู่บนความสูงกว่า 43 เมตรแบบนิ่ง ๆ สัก 5-10 วินาที แล้วรถก็วิ่งดิ่งลงมาในความชันถึง 121 องศาด้วยความเร็วสูงปรี๊ด มันจะเสียวและสนุกขนาดไหน บอกเลยว่าฟินสุด ๆ ภาพจาก Navapon Plodprong / Shutterstock.com และด้วยความชันมากถึง 121 องศาของ Takabisha นี้เอง มันจึงได้รับการจดบันทึกโดย Guinness World Record ให้เป็นรถไฟเหาะตีลังกาแบบเหล็กที่ชันที่สุดในโลกในปี 2011 เครื่องเล่นชนิดนี้ในแต่ละรอบจะมีผู้เล่นนั่งได้ 8 คน ผู้เล่นต้องมีความสูงเกินกว่า 130 เซนติเมตร อายุต้องอยู่ระหว่าง 10-60 ปี ไม่มีโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงต่อการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ ค่าตั๋วคนละ 1,000

ทัวร์ฮ่องกง /

เที่ยวฮ่องกง Sai Wan Rock Pools พาไปเล่นน้ำสีเขียวมรกต

เที่ยวฮ่องกง ไปสัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวสุดอันซีนในฮ่องกงอย่าง Sai Wan Rock Pools หรือสระมรกต ที่มีน้ำสีเขียวมรกตใสแจ๋ว กระโดดเล่นได้เพลิน ๆ ฮ่องกง สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในเอเชีย เกาะเล็ก ๆ ที่ใคร ๆ ใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวกันสักครั้ง นอกจากฮ่องกงจะขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกินแล้ว ยังมีสถานที่ช้อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวอันตื่นตาตื่นใจอีกมากมาย ซึ่งก็เหมือนความโชคดีของคนไทยที่ฮ่องกงอยู่ไม่ไกลเท่าไร มีหลายสายการบินให้บริการเส้นทางบินตรงไปยังฮ่องกง อ๊ะ ๆ แต่ส่วนใหญ่คนที่ไปเที่ยวฮ่องกงมักเห็นภาพอาคารและตึกต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก แต่วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ตามบันทึกการเดินทางของ Unseen in Hong Kong สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไปเที่ยวฮ่องกงในอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นก็คือ Sai Wan Rock Pools หรือสระมรกตในฮ่องกง ซึ่งต้องเดินเท้าเข้าไปชมความสวยงามเท่านั้น จะงดงามและอันซีนขนาดไหนนั้น ไปชมกันเลยค่ะ +++++++++++++++++++++++ Sai Wan Rock Pools : พาไปโดดผาเล่นน้ำสีเขียวมรกต หลังจากห่างหายไปหาข้อมูลเรื่องการเดินทางอยู่นาน วันนี้ unseeninhongkong ก็ได้ฤกษ์งามยามดีที่จะพาไปเที่ยวที่แปลก ๆ อันซีน ๆ ในฮ่องกง อีกหนึ่งสถานที่ที่สวยและยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่ในเกาะฮ่องกงนี้มีชื่อว่า Sai Wan Rock Pools มันคือสระมรกต !! ใช่มันมีที่ฮ่องกงจริง ๆ ย้ำ !! จริง ๆ การเดินทางเริ่มต้นด้วยการนั่งรถไฟมาลงสถานี Choi Hung แล้วต่อรถบัส 1A/1 หรือดูป้ายที่มีไป Sai Kung ferry, Sai Kung town สายไหนก็ได้ขอให้ไป Sai Kung ก็พอ จาก Sai kung มีให้เลือก 3 ทางว่าจะไปต่อยังไง 1. Minibus มีวันละ 4 รอบ (เดินอีกชั่วโมงกว่าถึงหาด) 2. Taxi มีตลอด เลือกโบกสีเขียว (เดินอีกชั่วโมงกว่าถึงหาด) 3. Speed Boat

ทัวร์สิงคโปร์ /

ณิชา กับเพื่อน ๆ ดินเนอร์ใต้ท้องทะเล เล่นกับโลมา ตะลุยสวนสนุก ที่ รีสอร์ทเวิร์ด เซนโตซ่า

ณิชา น้ำตาล และวาววา ต่างพากันทำสถิติกระโดดสูงหน้า Universal Studios Singapore ณิชา กับเพื่อน ๆ รับประทานอาหารในบรรยากาศใต้ท้องทะเล ดูฝูงโลมา และหลบหนีมัมมี่สุดแสนน่ากลัว ณ Resorts World Sentosa ประเทศสิงคโปร์ ในเดือนธันวาคม 2560 เหล่าดาราคนดังอย่าง ณิชา ณัฏฐณิชา, ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด (วาววา), พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ (น้ำตาล) และไผ่ พาทิศ พิสิฐกุล ได้มาพักผ่อนที่ Resorts World Sentosa ในวันหยุด ณ ประเทศสิงคโปร์ เราได้พบกับพวกเขาระหว่างพักเบรกจากการรับประทานอาหารแบบใกล้ชิดกับฝูงโลมา และกระทบไหล่ Minions จากเรื่อง Despicable Me พวกสาว ๆ มาเป็นเพื่อนสนิทกันได้อย่างไร น้ำตาล : เรารู้จักกันเมื่อสามปีที่แล้วค่ะ เพราะพวกเรามีโอกาศได้ร่วมงานกัน พวกเราสามคนเข้ากันได้ดีเพราะมีความสนใจเหมือน ๆ กัน และสามารถปรึกษาเรื่องงานด้วยกันได้ พวกเราเริ่มเที่ยวในวันหยุดด้วยกันจนกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน พวกคุณต่างก็มีงานยุ่งกันทุกคน การจะวางแผนเที่ยวด้วยกันแบบนี้นับว่าเป็นเรื่องยากทีเดียว แล้วใครที่มักจะเป็นคนวางแผนการเดินทางคะ ทุกคน : น้ำตาล ! (หัวเราะ) ณิชา : เขาเป็นเหมือนพี่ใหญ่ค่ะ เรารู้จักความชอบของกันและกันดีมาก แต่พวกเราวางใจให้น้ำตาลเป็นคนวางแผนให้ เขารู้ว่าพวกเราชอบทำอะไรในวันหยุด ถึงแม้ว่าจะมีคุยเรื่องงานกันบ้างถ้าจำเป็น แต่ส่วนใหญ่น้ำตาลจะดูแลพวกเราอย่างดี Resorts World Sentosa สาว ๆ กำลังเที่ยวชม S.E.A. Aquarium ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ภายใน Resorts World Sentosa สำหรับการพักผ่อนในวันหยุด คุณคิดว่าวันหยุดในฝันควรจะเป็นแบบไหน ณิชา : พวกเราชอบกิจกรรมแหวกแนวและสนุกสนานที่หาไม่ได้ง่าย ๆ ในเมืองไทย แม้เมืองไทยจะเป็นสวรรค์ของนักชิมแต่เราก็ชอบลองอาหารอื่น ๆ ในประเทศที่เราไปเยือน สิ่งสำคัญที่สุดคือเพื่อนเดินทาง เพราะเป็นการยากที่จะรวมทุกคนเป็นหนึ่งเดียว พวกเราใส่ใจในการเดินทางของพวกเรามากค่ะ น้ำตาล : ใช่ค่ะ การใช้เวลาร่วมกันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ฉันคิดว่าพวกเราทุกคนต้องการจุดหมายที่ไม่ซับซ้อนและมีทุกอย่างพร้อม เช่น อาหาร ที่พัก ความสนุก และไม่ต้องช้อปปิ้งมากนัก ในปีนี้เราจึงเลือกที่จะใช้วันหยุดพักผ่อนที่ Resorts World

ทัวร์ญี่ปุ่น /

ซากุระ 2018 ญี่ปุ่น อัปเดตตารางการบานของซากุระทั่วญี่ปุ่น

มาแล้ว ตารางการบานของซากุระ 2018 ญี่ปุ่น จากการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (Japan Meteorological Corporation) ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2561 เผยข้อมูลคาดว่าซากุระจะบานที่แรกในโตเกียว วันที่ 15 มีนาคม 2561 และจะบานสะพรั่งสวยที่สุดในวันที่ 22 มีนาคม 2561 สำหรับใครที่กำลังรอตารางพยากรณ์ซากุระ 2018 ประเทศญี่ปุ่น ตอนนี้กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ได้เผยตารางการบานของซากุระทั่วประเทศมาแล้วค่ะ โดยจะเริ่มบานจากทางตอนล่างของประเทศไล่ขึ้นไปยังด้านบน การพยากรณ์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2561 ได้เผยให้เห็นว่าเมืองแรกที่ซากุระจะเริ่มบานนั้นจะอยู่ที่เมืองโตเกียว ซึ่งจะเริ่มบานวันที่ 15 มีนาคม 2561 และบานสะพรั่งเต็มที่วันที่ 22 มีนาคม 2561   เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2561 กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (Japan Meteorological Corporation) ได้อัปเดตตารางการบานของซากุระ 2018 ญี่ปุ่นอีกครั้ง จากผลการพยากรณ์การบานของซากุระสายพันธุ์ Somei Yoshino คาดการณ์ว่าจะเริ่มบานที่แรกในเมืองโตเกียว วันที่ 15 มีนาคม 2561 และบานสะพรั่งสวยสุดในวันที่ 22 มีนาคม 2561 ส่วนเมืองสุดท้ายที่ซากุระจะบานนั้นอยู่ที่เมืองมุโระรัง เกาะฮอกไกโด วันที่ 3 พฤษภาคม 2561 และบานสะพรั่งสวยสุดในวันที่ 8 พฤษภาคม 2561   ตารางอัปเดตถึงการบานของซากุระในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ เมืองฟุกุโอกะ เริ่มบานวันที่ 18 มีนาคม 2561 บานสะพรั่งวันที่ 27 มีนาคม 2561 เมืองฮิโรชิม่า เริ่มบานวันที่ 20 มีนาคม 2561 บานสะพรั่งวันที่ 28 มีนาคม 2561 เมืองนางาซากิ เริ่มบานวันที่ 20 มีนาคม 2561 บานสะพรั่งวันที่ 28 มีนาคม 2561 เมืองเกียวโต เริ่มบานวันที่ 20 มีนาคม 2561

ทวีปยุโรป /

ทริปเที่ยวยุโรปตะวันออก 13 วัน ด้วยเงิน 55,000 บาท

เที่ยวยุโรปสัมผัสเมืองสวยในดินแดนยุโรปตะวันออก อีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวต่างประเทศในฝันของใครหลายคน ที่อยากชื่นชมและสัมผัสบรรยากาศความสวยงามเหมือนในเทพนิยาย เราเชื่อว่าหนึ่งในความใฝ่ฝันของนักเดินทางหลาย ๆ คน นั่นคือการเดินทางเที่ยวยุโรป ซึ่งถือได้ว่าเป็นดินแดนในฝันสุดโรแมนติก ไม่ว่าจะเป็นเมืองดัง ๆ อย่างปารีส ลอนดอน และโรม แต่วันนี้เราจะพาไปตะลุยกับอีกหลากหลายเมืองในเส้นทางท่องเที่ยวยุโรป ตามรอย คุณ Uncle bear traveler สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่อาสาพาเราตะลุย 8 เมืองสวย ได้แก่ Budapest (Hungary), Prague (Czech Republic), Cezky Krumlov (Czech republic), Hallstatt (Austria), Salzburg (Austria), Munich (Germany), Fussen (Germany) และ Vienna (Austria) รวมทั้งหมด 13 วัน กับค่าใช้จ่ายตลอดทริป 55,500 บาท !!! มาดูกันสิว่า…แต่ละเมืองจะสวยงามดุจเมืองในฝันดั่งเทพนิยาย และทำให้เราหลงเสน่ห์แห่งความงามนั้นได้มากน้อยแค่ไหน ++++++++++++++++++++ Europe Trip in Autumn 8 เมืองสวยในฝันดั่งเทพนิยาย แห่งยุโรปตะวันออก Europe Trip เที่ยว 8 เมืองสวยในฝัน 1. Budapest (Hungary) - บูดาเปสต์ เมืองที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ คลาสสิก โรแมนติก สวยทุกมุมมอง 2. Prague (Czech Republic) - ปราก เมืองเก่าที่ยังคงมีมนตร์ขลังเหนือกาลเวลา 3. Cezky Krumlov (Czech republic) - เชสกีกรุมลอฟ เมืองแห่งเทพนิยายที่มีอยู่จริงบนโลก 4. Hallstatt (Austria) - ฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก 5. Salzburg (Austria) - ซาลซ์บูร์ก บ้านเกิดโมสาร์ท นักประพันธ์ดนตรีคลาสสิกระดับโลก 6. Munich (Germany) - มิวนิกสวรรค์ของนักดื่มเบียร์และขาหมูเยอรมันอันเลื่องชื่อ 7. Fussen (Germany)

ทัวร์เวียดนาม /

เที่ยวซาปา กับ 20 เรื่องควรรู้ก่อนไปเยือนแดนหิมะแห่งเวียดนามเหนือ

รวบรวมข้อมูลเกี่ยวเมืองซาปาและเกร็ดท่องเที่ยวเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเมืองซาปา ดินแดนที่ถูกขนานนามว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งเวียดนามเหนือ วางแผนไปเที่ยวซาปาควรรู้อะไรก่อนบ้าง เราจัดมาให้แล้ว ซาปา (Sa Pa) เมืองเล็ก ๆ ในหุบเขาทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่เอี่ยมแห่งการไปสัมผัสหิมะในฤดูหนาว ที่นี่ไม่ได้สวยเพียงแค่ในยามที่ลมหนาวพัดมาเท่านั้น เพราะฤดูกาลอื่น ๆ ซาปาก็สวยสดงดงามมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลไม่แพ้กัน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติและความเงียบสงบ ที่นี่น่าจะเป็นข้อหนึ่งในสมุดบันทึกบัคเก็ตลิสต์ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่หรือใครที่ต้องการหาที่เที่ยวใหม่ ก็อาจจะอยากรู้จักกับซาปาให้มากยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงจะไปดูข้อควรรู้เกี่ยวกับการเที่ยวซาปากันค่ะ มีเรื่องอะไรที่น่าสนใจบ้างไปดูกัน ภาพจาก thi / Shutterstock.com 1. ซาปา ตั้งอยู่ที่ไหน ? ซาปา ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดหล่าวกาย (Lao Cai) ทางฝั่งตอนเหนือสุดของประเทศเวียดนาม ติดกับชายแดนประเทศจีน เป็นเมืองเล็ก ๆ เลยค่ะ ซึ่งจะถูกรายล้อมไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ ที่นี่จึงมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามมาก ๆ ไม่ว่าฤดูกาลไหนก็น่าเที่ยว 2. ความพิเศษของซาปาอีกหนึ่งอย่างก็คือทำเลที่ตั้ง เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับยอดเขาฟานซีปัง (Fansipan) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเวียดนาม (3,143 เมตร) และเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย ซาปาจึงเต็มไปด้วยธรรมชาติแห่งขุนเขาที่งดงาม อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ที่สำคัญคุณสามารถพิชิตยอดเขาแห่งนี้ได้ง่าย ๆ เพราะมีกระเช้าไฟฟ้าให้บริการขึ้นไปเที่ยวชมด้านบนของยอดเขา (ดูรายละเอียดการขึ้นยอดเขาฟานซีปังด้วยกระเช้าไฟฟ้าได้ที่ fansipanlegend.sunworld.vn) 3. อดีตซาปาเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของชาวยุโรปที่อาศัยอยู่ในเวียดนาม เพราะครั้งหนึ่งเมืองหล่าวกายเคยตกอยู่ในการยึดครองของฝรั่งเศส ทำให้สถาปัตยกรรมและการวางผังเมืองนั้นจะมีลักษณะแบบอาณานิคมฝรั่งเศส (French Colonial) ประกอบกับธรรมชาติที่สวยงามของซาปา ที่นี่จึงกลายเป็นยุโรปตะวันออกที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างต้องการมาเยี่ยมเยือนสักครั้ง ภาพจาก melis / Shutterstock.com 4. ซาปา มีทั้งพื้นที่ที่เป็นเมืองและชนบท ในส่วนของเมืองนั้นก็จะมีตึกรามบ้านช่องและอาคารบ้านเรือนมากมาย พร้อมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานที่ราชการ โบสถ์ ที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ฯลฯ ตึกและอาคารต่าง ๆ จะปลูกสร้างให้ลดหลั่นไปตามความสูงชันของเนินเขา แม้จะมีภาพของอาคารบ้านเรือนมากมาย แต่ก็ยังงดงามเพราะเมืองทั้งเมืองจะรายล้อมไปด้วยภูเขาสีเขียวสดใส และยังมีทะเลสาบกลางเมืองอีกด้วย 5. คนท้องถิ่นซาปา จะมีหลากหลายชนเผ่า โดยส่วนใหญ่จะเป็นชาวม้ง รองลงมาคือชาวเย้า และตามด้วยชาวญวน (Kinh), ชาวไต (Tay) และชาวซั้ย (Giay) คนส่วนมากจะสื่อสารด้วยภาษาเวียดนามเป็นหลัก แต่ก็มีบางส่วนที่สามารถพูดภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว ภาพจาก martinho Smart

ทัวร์ตุรเคีย /

เที่ยวตุรกี เรื่องดี ๆ ที่ควรรู้ก่อนไปเยือนประเทศสองทวีป

ก่อนไปเที่ยวตุรกีมาทำความรู้จักกับประเทศสองทวีปให้มากขึ้น ไปเที่ยวตุรกีด้วยตัวเองยากไหม มีอะไรต้องรู้ไว้บ้าง ที่เที่ยวตุรกีและอิสตันบูลที่ห้ามพลาดมีที่ไหนบ้าง อาหารการกินเป็นอย่างไร ซื้อของฝากตุรกีอะไรดี เรามีคำตอบ ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจไม่ใช่เล่นเลยค่ะ สำหรับประเทศสองทวีปอย่าง "ตุรกี" เพราะที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ สุดอัศจรรย์ติดอันดับโลกอยู่หลายแห่ง และที่สำคัญคนไทยยังไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าอีกต่างหาก ดีเลิศสุด ๆ และสำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวไปเที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง วันนี้เราก็เอาเรื่องราวน่ารู้และเกร็ดท่องเที่ยวตุรกีเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากกันค่ะ มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง...ไปดูกัน 1. ประเทศตุรกีอยู่ที่ไหน ? หลายคนอาจจะเพิ่งเคยได้ยินชื่อตุรกีเป็นนครั้งแรก และเกิดการตั้งคำถามว่าประเทศแห่งนี้มันอยู่ส่วนไหนของโลกกันนะ ถ้าเราดูตามแผนที่ประเทศตุรกีจะตั้งอยู่ทางฝั่งเอเชียตะวันตก ติดกับยุโรปเลยค่ะ มีพื้นที่ 3% อยู่ในยุโรป เป็นประเทศที่มีทะเลล้อมรอบถึง 3 ด้าน คือทางตะวันตกเป็นทะเลอีเจียน, ทางเหนือเป็นทะเลดำ และทางใต้เป็นทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนี้ทางตะวันตกเฉียงเหนือยังมีทะเลมาร์มมะราอีกด้วย 2. ประเทศตุรกี พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 783,562 ตารางกิโลเมตร เป็นประเทศที่มีพื้นที่อยู่ทั้งทวีปยุโรป และทวีปเอเชีย โดยในฝั่งทวีปเอเชียนั้นจะเรียกว่า "อนาโตเลีย" (Anatolia) ส่วนพื้นที่ทางฝั่งยุโรปจะเรียกว่า เทรซ (Thrace) มีช่องแคบบอสพอรัส ทะเลมาร์มะรา และช่องแคบดาร์ดาเนลเลสเป็นตัวแบ่งแยก โดยทางฝั่งเอเชียจะเต็มไปด้วยอารยธรรมเก่าแก่ ส่วนทางฝั่งยุโรปก็จะเต็มไปด้วยความเจริญทันสมัย บรรยากาศค่อนไปทางฝั่งตะวันตก 3. ภูมิอากาศของประเทศตุรกี ในแต่ละภูมิภาคจะไม่เหมือนกัน เพราะมีธรรมชาติที่แตกต่างกัน ทางฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน หน้าร้อนก็จะร้อน ส่วนหน้าหนาวอากาศจะอบอุ่น และมีฝนตก ส่วนทางตอนกลางนั้นจะมีภูเขากั้น ทำให้ในฤดูหนาวจะหนาวมาก บางครั้งติดลบถึง -30 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว และบางครั้งก็มีหิมะยาวนานกว่า 4 เดือน เพราะฉะนั้นถ้าจะไปเที่ยวตุรกี ลองเช็กให้แน่ใจก่อนนะคะว่าเมืองนั้น ๆ อยู่ในแถบไหน จะได้เตรียมเสื้อผ้าได้ไม่พลาดค่ะ 4. คงมีหลายท่านที่เข้าใจว่าประเทศตุรกีอยู่ในยุโรป ก็เพราะสภาพบ้านเมือง ประเพณี และวัฒธรรมของเมืองสำคัญต่าง ๆ ในตุรกีมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุโรป อีกทั้งรัฐบาลตุรกีเองก็พยายามผลักดันให้ประเทศตุรกีเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปเรื่อยมา มีการเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตผู้คนให้กลมกลืนกับชาวยุโรป และยังเปลี่ยนแปลงการใช้ตัวอักษรจากอาหรับมาเป็นละติน โดยเฉพาะในเมืองอิสตันบูลที่มีความเจริญเทียบเท่ากับหลาย ๆ เมืองใหญ่ในยุโรป จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลาย ๆ คนจะเข้าใจว่าตุรกีเป็นส่วนหนึ่งของยุโรป 5. ถึงแม้ว่าอิสตันบูล (Istanbul) จะเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของตุรกี แต่อิสตันบูลก็ไม่ใช่เมืองหลวง เพราะจริง ๆ แล้วเมืองหลวงของตุรกีคือ เมืองอังการา (Ankara)
Promotion 0%