ยุโรปตะวันออก (ฮัลล์สตัทท์-คลุมลอฟ-คาโลวีวารี)1521_20240401155343

ทัวร์ยุโรปตะวันออก (ฮัลล์สตัทท์-คลุมลอฟ-คาโลวีวารี) 9 วัน 6 คืน (SV)

ราคาเริ่มต้น 69,990 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ฟุสเซ่นเป็นเมืองในบาวาเรีย อยู่ห่างจากชายแดนออสเตรียประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตเครื่องดนตรีไวโอลีน นอกจากนี้เมืองนี้ก็ยังมีความน่ารักในตัวเองเพราะเป็นเมืองเล็กๆ ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาและธรรมชาติ

วันที่เดินทาง

16 ต.ค. 67 – 24 ต.ค. 67

ทัวร์ยุโรป

Day1 สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย (16 ต.ค.)

23.00 นัดหมายพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โปรดสังเกตุป้าย เลทส์โกกรุ๊ป
พบเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกเช็คอินให้แก่ท่าน
Day2 สนามบินคิงอับดุลอะซีซ ประเทศซาอุดีอาระเบีย – สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน – เมืองมิวนิค – เมืองฟุสเซ่น (17 ต.ค.)

02.15 ออกเดินทางสู่ สนามบินคิงอับดุลอะซีซ ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยสายการบิน Saudi Arabian Airlines เที่ยวบินที่ SV849
(บริการ อาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
06.30 เดินทางถึง สนามบินคิงอับดุลอะซีซ ประเทศซาอุดีอาระเบีย
10.15 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยสายการบิน Saudi Arabian Airlines เที่ยวบินที่ SV175
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
14.55 เดินทางถึง สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองรับสัมภาระผ่านจุดคัดกรองตามระเบียบการของสนามบิน

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิค (Munich) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐไบเอิร์น ประเทศเยอรมัน เป็นเมืองที่ใหญ่ เป็นอันดับ 3 ในเยอรมันรองจากเบอร์ลินและฮัมบวร์ค มิวนิคตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอีซาร์ ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำดานูบ

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (Fussen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ฟุสเซ่นเป็นเมืองในบาวาเรีย อยู่ห่างจากชายแดนออสเตรียประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตเครื่องดนตรีไวโอลีน นอกจากนี้เมืองนี้ก็ยังมีความน่ารักในตัวเองเพราะเป็นเมืองเล็กๆ ขนาดไม่ใหญ่มากนัก ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาและธรรมชาติ

ค่ำ บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารร้านอาหาร (1)
ที่พัก Hotel Ludwigs, Fussen ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
Day3 เมืองฟุสเซ่น – ปราสาทนอยชวานซไตน์ – เมืองซาลส์บูร์ก – สวนมิราเบล – บ้านเกิดโมสาร์ท – ถนน Getreidegasse (18 ต.ค.)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)

นำท่านเข้าชม ปราสาทนอยชวานซไตน์ (Neuschwanstein Castle) เป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน สร้างในสมัยพระเจ้าลูทวิชที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845 – 1886 ออกแบบโดย Christian Jank ตามจินตนาการของพระเจ้าลุดวิทที่ 2 แห่งบาวาเรีย มีพระประสงค์ให้จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับอย่างสันโดษ ห่างจากผู้คนและเพื่ออุทิศให้แก่ มหากวีชื่อ ริชาร์ท วากเนอร์ ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างให้เป็นไปตามบทประพันธ์เรื่อง โลอิน ดังนั้นปราสาทแห่งนี้จึงได้รับการตกแต่งตามเรื่องราวในบทประพันธ์ดังกล่าว ปราสาทนี้เป็นปราสาทยุโรปที่งดงามมากที่สุดในโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา สวนสนุกดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมไปถึงแดนเนรมิต **รวมค่าเข้าชมปราสาทนอยชวานซไตน์แล้ว ในกรณีที่ไม่สามารถเข้าชมภายในปราสาทได้ซึ่งจะทราบ ณ วันเดินทาง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่าตั๋วเข้าชม ท่านละ 17.5 ยูโร ทั้งนี้ยังสามารถเที่ยวชมบริเวณโดยรอบของปราสาทได้ หรือ จุดชมวิวปราสาท ตามความเหมาะสม ณ วันเดินทาง**
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารร้านอาหาร (3)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลส์บูร์ก (Salzburg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในประเทศออสเตรียเมืองเก่าของซาลส์บูร์กเป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรก เป็นหนึ่งในใจกลางเมืองที่ถูกดูแลรักษาอย่างดีที่สุดในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาเยอรมันด้วยกัน ได้รับขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี 1996 นำท่านเข้าชม สวนมิราเบล (Mirabell Palace & Gardens) ซาลส์บูร์กมีอาคารและสวนเก่าแก่ไม่มากนัก แต่มีพระราชวังมิราเบลล์อันโดดเด่นและเป็นหนึ่งในอาคารที่ดีที่สุดในออสเตรีย พระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสาวรีย์มรดกทางวัฒนธรรม สร้างขึ้นในปี 1606 นอกจากพระราชวังแล้ว ยังมีสวนที่สวยงามจนน่าอัศจรรย์ สวนนี้ให้ทัศนียภาพอันงดงามของวิหาร นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ บ้านเกิดโมสาร์ท (House of Walfgang Amadeus Mozart) กวีเอกของโลกชาวออสเตรียปัจจุบันนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติของโมสาร์ทและครอบครัว นำท่านเดินทางสู่ ถนน Getreidegasse (หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Grain Lane) ยังมีแหล่งช็อปปิ้ง ที่รวมร้านค้าแบรนด์เนมให้เลือกมากมาย ทั้งเครื่องประดับ, เครื่องแต่งกายพื้นบ้าน, เครื่องประดับอินเทรนด์, ของโบราณ รวมถึงร้านอาหารนั่งดื่มชิล ๆ

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก Leonardo Hotel, Salzburg ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

Day4 เมืองซาลส์บูร์ก – เมืองฮัลล์สตัทท์ – โบสถ์แพริช – โบสถ์ประจำเมืองฮัลล์สตัทท์ – เมืองลินซ์ (19 ต.ค.)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) หมู่บ้านมรดกโลกอันแสนโรแมนติก ที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียได้ให้ฉายาเมืองนี้ว่า “ไข่มุกแห่งออสเตรีย” และ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก เมื่อปี 1997 อิสระให้ท่านเดินชมเมืองตามอัธยาศัย นำท่านถ่ายภาพกับ โบสถ์แพริช (Parish Church) โบสถ์สวยริมทะเลสาบมีอายุกว่า 500 ปี ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 ก่อสร้างขึ้นท่ามกลางซากปรักหักพังของป้อมโรมัน ถ่ายภาพกับ โบสถ์ประจำเมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt Lutheran Church) ที่มียอดแหลมสูงเด่นเป็นสง่าจากทุกมุมมองของเมือง เป็นโบสถ์นิกายโปรเตสแตนต์ สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1785 เพื่อใช้เป็นสถานที่ฟังเทศนา พระราชกฤษฎีกาโดยจักรพรรดิโยเซฟที่ 1 ผ่านชม จัตุรัสกลางเมือง (Central Square Marktplatz) ที่โดดเด่นด้วย รูปปั้นโฮลี่ทรินิตี้ (Holy Holy Trinity Statue) เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆของเมือง
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารร้านอาหาร (5)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลินซ์ (Linz) เมืองลินซ์เป็นเมืองใหญ่อันดับ สามของออสเตรีย รองจากเวียนนาและกราซ (Graz) มีประชากรราว 460,000 คน โดยลินซ์เป็นหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจสำคัญของออสเตรีย มีโรงงานเหล็กและโรงงานเคมีขนาดใหญ่อยู่ริมแม่น้ำดานูบ (Danube River) นอกจากการเป็นเมืองอุตสาหกรรมแล้ว ลินซ์ยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ พร้อมกับความเป็นเมืองแห่งศิลปวิทยาการและดนตรี การผสมผสานระหว่างศิลปะดั้งเดิมและร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ทำให้เมืองนี้เคยเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปในปี ค.ศ. 2009 มาแล้ว จุดเริ่มต้นที่จะทำให้เราเที่ยวเมืองนี้ คือ อนุสรณ์หินอ่อนสูง 20 เมตร สร้างขึ้นให้กับพระตรีเอกภาพตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ที่ช่วยให้เมืองรอดพ้นจากภัยพิบัติและโรคระบาด โดยความสวยงามของจัตุรัสแห่งนี้คือล้อมรอบด้วยอาคารสไตล์บาโรก (Baroque) พร้อมกับลานกิจกรรมกลางแจ้งและตลาดนัดขายของ ตรงนี้ถือเป็นศูนย์กลางของเมืองที่เราจะเห็นรถรางแทรมวิ่งผ่านด้วย

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก Best Western Hotel Spinnerei, Linz ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า
Day5 เมืองลินซ์ – เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ – ปราสาทครุมลอฟ – กรุงปราก – มหาวิหารเซนต์วิตัส – สะพานชาร์ลส์ (20 ต.ค.)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองขนาดเล็กในภูมิภาคโบฮีเมียทางตอนใต้ของประเทศสาธารณรัฐเช็ก มีชื่อเสียงจากสถาปัตยกรรม และศิลปะของเขตเมืองเก่า ด้วยทำเลที่ตั้งของตัวเมืองที่มีคู่น้ำล้อมรอบ ทำให้กลายเป็นปราการที่สำคัญในการป้องกันข้าศึก ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางด้านการปกครอง การพิพากษาคดีและการจัดเก็บภาษี ต่อมาในปี ค.ศ. 1963 ได้รับการประกาศว่าเป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์และภายหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของประเทศ ในตอนปลายปี ค.ศ. 1989 ได้มีการบูรณะอาคารและปราสาทครั้งใหญ่โดยยังคงรักษารูปแบบเดิมไว้อย่างน่าชื่นชม จากประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีความสำคัญและโดดเด่นในการอนุรักษณ์สถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า ที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งโบฮีเมีย” ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1992 นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ ปราสาทครุมลอฟ (Krumlov Castle) จากบริเวณรอบนอก ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1250 ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองลงมาจากปราสาทปราก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวอลตาวา (Valtawa River) ตรงบริเวณคุ้งน้ำ ฝั่งตรงข้ามเป็นย่านเมืองเก่าคลาสสิค (Senete Square) และโบสถ์เก่าแก่กลางเมือง

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารร้านอาหาร (7)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงปราก (Praque) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง) เมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐเช็ก มหานครที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ปรากเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม ที่เต็มไปด้วยปราสาทเก่าแก่ มีเสน่ห์ เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ มหาวิหารเซนต์วิตัส (St.Vitus Cathedral) โดยตัววิหารตั้งอยู่บริเวณปราสาทปราก เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของกรุงปรากเลยก็ว่าได้ เป็นปราสาทอันเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.885 และกินเนสต์บุ๊คยังรับรองว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกด้วย ซึ่งมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ที่ประกอบไปด้วย ปราสาท พระราชวัง สวนขนาดใหญ่ และ มหาวิหารเซน์วิตัส นอกจากความเก่าแก่และความยิ่งใหญ่แล้ว สถาปัตยกรรมของปราสาทปรากยังมีความน่าสนใจ จากนั้นนำท่านเดินทางชม สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสะพานที่ทำหน้าที่เชื่อมระหว่างฝั่งตะวันออก กับฝั่งตะวันตกของเมืองปราก มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1375 ตัวสะพานมีความยาวถึง 621 เมตร และในสมัยก่อนถูกใช้สำหรับการสัญจรไปมาสำหรับพระราชวงศ์เท่านั้น ปัจจุบันสะพานแห่งนี้ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมกันหนาแน่นทุกวัน

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก Holiday Inn, Prague ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

Day6 กรุงปราก – ย่านจัตุรัสเมืองเก่า – จัตุรัสเมืองเก่าสตาเรเมสโต – เมืองคาโลวี วารี – ย่านเมืองเก่าคาโลวีวารี (21 ต.ค.)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)
นำท่านชม ย่านจัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square) ที่คลาสสิกโดยเฉพาะอาคารศาลาว่าการเมืองของกรุงปราก ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาทิ โรงละครโอเปร่า, พิพิธภัณฑ์, หอคอยดินปืน ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีเยี่ยม นำท่านเดินทาง จัตุรัสเมืองเก่าสตาเรเมสโต (Staré Mesto) โดยรอบล้วนเป็นอาคารและวิหารเก่าแก่อายุกว่า 600-700 ปี มีความงดงามโดดเด่นจน ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก บริเวณจัตุรัสแห่ง นี้เป็นที่ตั้งของ วิหารตินส์ และ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ที่ทุกๆ ชั่วโมงจะมีตุ๊กตาสาวกพระคริสต์ (12 Apostles) ออกมาเดินผ่านหน้าต่างเล็กๆ ด้านบนหอคอยจนครบ ให้อิสระแก่ท่านได้เดินชมเมืองและซื้อของฝากตามอัธยาศัย ในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าแบรนด์เนม หรือจะ เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกพื้นเมืองน่ารักสไตล์เช็กและโบฮีเมียนที่มีให้เลือกมากมาย เช่น เครื่องแก้วสีต่างๆ ที่ ประดับด้วยเงิน, ตุ๊กตาหุ่นกระบอก, งานผ้าปัก รวมถึงชิ้นงานแกะสลักรูปแบบต่างๆ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารร้านอาหาร (9)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคาโลวี วารี (Karlovy Vary) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองสวยของสาธารณรัฐเช็ก หรือ เมืองคาร์ลบาด เป็นเมืองที่มีการค้นพบน้ำแร่โดยพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ซึ่งดำรง ตำแหน่งเป็นพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันตะวันออก อีกทั้งยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง เจมส์บอนด์ 007 ตอนคาสิโนรอยัลอีกด้วย นอกจากนี้เมืองนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดของเหล้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียง BECHEROVKA ซึ่งเพาะบ่มแอลกอฮอล์ร่วมกับสมุนไพรชั้นดี โดยชาวเช็กมีความเชื่อว่าหากเหล้าสมุนไพร ดังกล่าวนี้จะสามารถรักษาโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหารได้ นำท่านเที่ยวชม เมืองน้ำแร่ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของแคว้นโบฮีเมีย ย่านเมืองเก่าคาโลวีวารี ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาริมสองฝั่งแม่น้ำเทบลา เป็น เมืองที่มีแหล่งน้ำแร่ร้อนธรรมชาติและมีบ่อน้ำพุร้อนถึง 12 แห่ง น้ำพุที่ร้อนที่สุดอยู่ในศูนย์นิทรรศการซึ่งมี ความร้อนถึง 72 ํ c ภายในศูนย์แห่งนี้มีการจัดแสดงสายน้ำแร่ และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาเข้าคอร์สสปา เพื่อรักษาสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงามที่เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมเมืองเป็นอย่างยิ่ง เช่น โบสถ์ของแมรี่เมดิลีน โบสถ์สไตล์รัสเซียนออร์ธอดอกซ์ วิหารของเซนต์ปีเตอร์, และเซนต์ปอล อาคารก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรม ทู โอดอร์ เป็นต้น
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก Ibis Wien Messe, Karlovy Vary ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

Day7 เมืองคาโลวี วารี – เมืองนูเรมเบิร์ก – โบสถ์เฟราเอน – น้ำพุเชินเนอร์บรุนเนิน – สะพานเก่า – อิงกอลสตัดท์ เอ้าท์เลท วิลเลจ – เมืองมิวนิค (22 ต.ค.)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (10)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยปราสาท วัง โบสถ์ ตั้งอยู่ในรัฐบาวาเรีย อันมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปี โดยเป็นเมืองของจักรวรรดิ์โรมันอันศักดิ์สิทธิ์ นำท่านเดินเล่นชมเมืองโบราณที่มีอายุกว่า 900 ปี ปัจจุบันได้รับกาการบูรณะขึ้นใหม่ให้งดงามดังเดิม ผ่านชม เม้าท์เฮาท์ โรงเก็บส่วยภาษีอากรในอดตีด เป็นอาคารประวัติศาสตร์ อีกแห่งของเมือง ชม บ้านนัสเซา หนึ่งในตัวอย่างบ้านขุนนางชั้นสูงสมัยยุคกลาง ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีที่สุดหลังหนึ่ง จากนั้น นำท่านชมบริวณจัตุรัสกลางใจกลางเมือง โดยเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ประจำเมือง (Hauptmarkt) นำท่านชม โบสถ์เฟราเอน (Frauenkirche) หรือ โบสถ์แม่พระ เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นในสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึงสิบปี ที่นี่มีจุดเด่นที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนกันมากก็คือ น้ำพุเชินเนอร์บรุนเนิน (Schoner Brunnen) หรือ Beautiful Fountain เป็นน้ำพุที่ได้รับการบูรณะอย่างสวยงาม ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เพื่อเป็นอนุสรณ์ของ Hauptmarkt ของนูเรมเบิร์ก ประเทศเยอรมนี อีกมุมนึง สะพานเก่า (Hangman’s Bridge) ข้ามแม่น้ำ Pegnitz สะพานแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1457 เป็นสะพานไม้เก่าแก่ ที่มีเรื่องราวของหอคอยเหนือแม่น้ำเพกนิทซ์ และยังเคยถูกน้ำท่วมจนพังเสียหายตั้งแต่ปี 1595 หลังจากนั้นได้ถูกสร้างใหม่ ให้มีหลังคามุงกระเบื้อง ปัจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวได้มาเยือน และถ่ายรูปกับสะพานเก่าแก่นี้
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารร้านอาหาร (11)
จากนั้นนำท่าเดินทางสู่ อิงกอลสตัดท์ เอ้าท์เลท วิลเลจ (Ingolstadt Outlet Village) (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นเอาท์เลตขนาดใหญ่ที่มีสินค้าหลากหลายแบรนด์ อาทิ AIGNER, BALLY, Birkenstock, Calvin Klein, COACH, ESCADA, FOSSIL, GEOX, GUESS,Hugo Boss, L Occitane, LACOSTE, Levi’s, Lindtt, MICHAEL KORS, Nike, PUMA, Samsonite, SUPERDRY, Swarovski,The North Face,Timberland, TOM TAILOR, TOMMY HILFIGER,TUMI,VALENTINO, Versace, นอกจากนี้ยังมีช็อคโกแลตสวิส, มีด กรรไกรตุ๊กตาคู่ สินค้าของฝากของที่ระลึกอีกมากมาย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิค (Munich) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นเมืองหลวงรัฐและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐไบเอิร์น ประเทศเยอรมนี มีประชากร 1.55 ล้านคน ในพื้นที่ 310 ตารางกิโลเมตร เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามในเยอรมนีรองจากเบอร์ลินและฮัมบวร์ค และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดที่ไม่ได้มีสถานะเป็นรัฐในตัวเอง มิวนิกตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำอีซาร์ ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำดานูบ ทางเหนือของเทือกเขาแอลป์ มิวนิกเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในพื้นที่ภาษาถิ่นไบเอิร์น รองจากกรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน
ที่พัก Ibis Wien Messe, Munich ระดับ 3 ดาว หรือเทียบเท่า

Day8 เมืองมิวนิค – ศาลากลางเมืองมิวนิค – จัตุรัสมาเรียน พลัทซ์ – สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน – สนามบินนคิงคาลิด ประเทศซาอุดีอาระเบีย (23 ต.ค.)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (12)

นำท่านชม ศาลากลางเมืองมิวนิค (Neues Rathaus) ที่ตั้งอยู่ด้านเหนือของ จัตุรัสมาเรียน พลัทซ์ (Marienplatz) จัตุรัสมาเรียน พลัทซ์ หรือ จัตุรัสพระแม่มารี คือจัตุรัสกลางเมืองของนครมิวนิค ถือเป็นจัตุรัสหลักประจำเมืองมาตั้งแต่ ค.ศ. 1158 และยังเป็นที่ตั้งของเสาอนุสรณ์ พระแม่มารี ซึ่งตั้งตระหง่านที่จัตุรัสแห่งนี้มาตั้งแต่ ค.ศ. 1638 ในปัจจุบัน ด้านเหนือของจัตุรัสนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองแห่งเก่า และด้านตะวันออกเป็นที่ตั้งของศาลาการเมืองแห่งใหม่ จัตุรัสนี้ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของมิวนิคเลยก็ว่าได้ ซึ่งมีร้านอาหาร ร้านสินค้า แบรนด์เนมต่างๆ ให้ท่านเดินเลือกชมได้อย่างมากมาย มีสถาปัตยกรรมต่างๆที่ออกแบบและตกแต่งสไตล์โกธิค อิสระให้ท่านเดินชมเมืองและช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

เที่ยง อิสระอาหารเที่ยง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งของท่าน

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางเข้าสู่ สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
16.30 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยสายการบิน Saudi Arabian Airlines เที่ยวบินที่ SV170 (บริการอาหารแล เครื่องดื่ม บนเครื่อง)
23.30 เดินทางถึง สนามบินนคิงคาลิด ประเทศซาอุดีอาระเบีย

Day9 สนามบินนคิงคาลิด ประเทศซาอุดีอาระเบีย – สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย (24 ต.ค.)
02.10 นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน Saudi Arabian Airlines เที่ยวบินที่ SV846
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
13.45 เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ … พร้อมความประทับใจ

ทัวร์ยุโรป