17189490761

ทัวร์ยุโรป พิซซ่า เอสคาร์โก ฟองดู ดรีมคัมทรู อิตาลี – สวิตเซอร์แลนด์ – ฝรั่งเศส 10 วัน 7 คืน TK

ราคาเริ่มต้น 99,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

นำท่านเดินทางสู่เมืองมิลาน Milan เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน Duomo di Milano สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิคที่ผสมผสานกันเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล Galleria Vittorio Emanuele II ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินชี ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
วันที่เดินทาง

11 ต.ค. 67 – 20 ต.ค. 67, 27 ก.ย. 67 – 6 ต.ค. 67

ทัวร์ยุโรป 

วันที่หนึ่ง สนามบินสุวรรณภูมิ
20.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 4 บริเวณประตูทางเข้าหมายเลข 7 เคาน์เตอร์สายการบิน Turkish เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
23.05 น. ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินที่ TK069

วันที่สอง สนามบินอิสตันบูล – สนามบินฟูมิชิโน – โรม – มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ – โคลอสเซี่ยม – น้ำพุเทรวี่ (อิตาลี)
05.15 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล ให้ท่านรอเปลี่ยนเครื่อง
07.50 น. ออกเดินทางจากสนามบินอิสตันบูล โดยสายการบิน Turkish เที่ยวบินที่ TK1861
09.25 น. นำท่านเดินทางถึงสนามบินฟูมิชิโน กรุงโรม ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) ให้ท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร รถโค้ชรอรับท่าน
นำท่านเดินทางพาท่านเข้าสู่นครรัฐวาติกัน Vatican ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกำแพงล้อมรอบเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าทางเข้า และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกโดยมีพระสันตะปาปา มีอำนาจปกครองสูงสุด นำท่านเข้าชมมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ St.Peter’s Basilica ชมประติมากรรมอันลือชื่อปิเอต้า Pieta ของมิเคลันเจโลหรือไมเคิลแองเจโลและชมแท่นบูชาบัลแดคคิโน St. Peter’s Baldachin ซุ้มสำริดที่สร้างโดยจานโลเรนโซ แบร์นินี ซึ่งสร้างตรงบริเวณที่เชื่อกันว่าเป็นที่ฝังพระศพของนักบุญปีเตอร์ (การเข้าชมด้านในมหาวิหารไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ท่านต้องต่อคิวที่ค่อนข้างยาวมาก การให้เวลาในแต่ละสถานที่เที่ยว ขึ้นอยู่ที่สถานการณ์หน้างาน)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

บ่าย นำท่านผ่านชมกลุ่มโรมันฟอรัม Roman Forum อดีตศูนย์กลางทางด้านการเมือง ศาสนา และเศรษฐกิจของอาณาจักรโรมัน ที่สะท้อนให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของอารยะธรรมโรมันในช่วง 2,000 ปีที่ผ่านมา นำชมความยิ่งใหญ่ในอดีตและเก็บภาพสวยบริเวณรอบนอกของสถานสร้างความบันเทิงของชาวโรมันมาแต่สมัยโบราณโคลอสเซี่ยม Colosseum 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ อดีตสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน จากนั้นนำท่านเดินชมงานประติมากรรมของเทพนิยายกรีกและโยนเหรียญอธิษฐานบริเวณน้ำพุเทรวี่ Trevi Fountain สัญลักษณ์ของกรุงโรมที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง สามรักในกรุงโรม

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hampton by Rome North หรือระดับเทียบเท่า

วันที่สาม โรม – ฟลอเรนซ์ – ปิซ่า (อิตาลี)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่แคว้นทัสคานี Tuscany โดยเมืองหลวงของแคว้น คือ ฟลอเรนซ์ Florence ที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีโบราณสถานสำคัญ และมีทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงาม จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก้เมื่อปี ค.ศ.1982 ทำให้ทัสคานีมีชื่อเสียงในฐานะดินแดนท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) นำท่านชมความยิ่งใหญ่และอลังการของมหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร Santa Maria Dell Fiore วิหารของเมืองฟลอเรนซ์ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของทวีปยุโรป ซึ่งโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ใช้หินอ่อนหลายสีตกแต่งผสมผสานกันได้อย่างงดงาม นำชมจัตุรัสเดลลาซิญญอเรีย Piazza Della Signoria ซึ่งรายล้อมไปด้วยรูปปั้น อาทิ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าเนปจูน(Fountain of Neptune, วีรบุรุษเปอร์ซิอุสถือหัวเมดูซ่า Perseus with the Head of Medusa, รูปปั้นเดวิด ผลงานที่มีชื่อเสียงของไมเคิลแองเจโล่ จากนั้นนำท่านเดินเล่นบริเวณริมฝั่งแม่น้ำอาร์โน ชมสะพานเวคคิโอ Vecchio สะพานเก่าแก่ที่มีมีร้านขายทอง และอัญมณีอยู่ทั้งสองข้าง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองพร้อมด้วยเมนูพิซซ่าสไตล์อิตาเลียน

บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองปิซ่า Pisa เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เมืองเล็กๆ อยู่ทางตะวันตกของ Florence ด้านตะวันตกของเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ Pisa ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านเข้าสู่บริเวณจัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี Compo Dei Miracoli ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ Baptistry of St. John ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี, มหาวิหารดูโอโม Duomo ที่งดงามและหอเอนแห่งเมืองปิซ่าอันเลื่อง ชมหอเอนปิซ่า Leaning Tower of Pisa สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน จากนั้นให้ท่านอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกราคาถูก ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Lucca Best Western Grand Guinigi Pisa หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ ปิซ่า -เวโรนา-เวนิสเมสเทร่-เกาะเวนิส-เวนิสเมสเทร่ (อิตาลี)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองเวโรน่า Verona เมืองใหญ่อันดับ 2 ของแคว้นเวเนโต้รองจากเวนิส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เมืองเวโรน่ายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 2000 อีกทั้งวิลเลียม เชกสเปียร์ นักกวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษและของโลก เขายังใช้บรรยากาศและเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองตระกูลในเวโรน่าแต่งเป็นละครโศกนาฏกรรมขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1595 เรื่องโรมิโอกับจูเลียต นำท่านเดินชมอาคารบ้านเรือนสีสดใสสวยงามภายในจัตุรัสกลางเมืองที่คึกครื้นมีชีวิตชีวา จากนั้นพาท่านถ่ายรูปกับโรงละครโรมันกลางแจ้ง Verona Arena ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างขึ้นเมื่อตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 โดยมีลักษณะเช่นเดียวกับโคลอสเซียมในกรุงโรมเพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการเปิดแสดงโอเปร่าหรือคอนเสิร์ตกลางเเจ้งในสนามกีฬาอยู่เป็นประจำ นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ บ้านเลขที่ 23 ของจูเลียต ชมระเบียงแห่งเรื่องราว โรแมนติกที่จูเลียตเฝ้ารอคอยพบโรมิโอทุกค่ำคืน และบริเวณหน้าบ้านยังมีรูปปั้นสำริดขนาดเท่าตัวจริงของจูเลียต

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองเวนิส Venice Mestre ฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต เวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็ก ๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริก เป็นเมืองท่าโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคมมากที่สุด (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำท่านเดินทาง สู่ท่าเรือตรอนเคตโต้ Tronchetto นำท่านล่องเรือสู่เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย Venezia ดินแดนแสนโรแมนติก เมืองที่ไม่เหมือนใคร ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชมสะพานถอนหายใจ Bridge of Sighs ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ Doge’s Palace อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือ คาสโนว่านั่นเอง นำท่านถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสซานมาร์โค St.Mark’s Square ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้งโบสถ์ซานมาร์โค St.Mark’s Bacilica ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเที่ยวชมเกาะอันแสนโรแมนติก เช่น เพื่อชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, เข้าชมโบสถ์ซานมาร์โค, ช๊อปปิ้งสินค้าของที่ระลึก อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1720

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง ด้วยเมนูสปาเกตตี้หมึกดำ
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ฝั่งแผ่นดินใหญ่ Venice Mestre
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Crowne Plaza Venice East หรือระดับเทียบเท่า

วันที่ห้า เวนิสเมสเทร่ – ซีร์มิโอเน่ – มิลาน (อิตาลี)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซีร์มิโอเน่ Sirmione เมืองแห่งป้อมปราการโบราณเก่าแก่อายุนับ 2,000 ปี ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ดา Lake Garda (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) นำท่านถ่ายภาพด้านหน้าปราสาทเก่าแก่ของเมือง The Scallger of Sirmione สร้างในปี 1277 ซึ่งเมืองนี้เคยอยู่ในการปกครองของตระกูล SCALIGER จากนั้นเดินเล่นชมเมืองเก่าชิมไอศรีมเจลาโต้ที่มีชื่อเสียงของอิตาลีหลากหลายร้านและของที่ระลึกอื่นๆ อิสระให้ท่านชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบการ์ด้า ซี่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่เกิดจากน้ำแข็งละลายจากเทือกเขาแอลป์

กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองมิลาน Milan เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน Duomo di Milano สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิคที่ผสมผสานกันเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล Galleria Vittorio Emanuele II ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินชี ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า

ค่ำ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Crowne Plaza Milan Linate หรือระดับเทียบเท่า

วันที่หก มิลาน – โคโม – ทะเลสาบโคโม (อิตาลี) – ซุก – ลูเซิร์น (สวิตเซอร์แลนด์)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโม Como ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองริมทะเลสาบที่สวยงามบริเวณพรมแดนอิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ทะเลสาบโคโมที่ล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์สูงตระหง่านอันงดงาม (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำท่านชมทะเลสาบโคโม่เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอิตาลีแต่เรื่องความสวยงามนั้นมาเป็นอันดับ 1 โดยพื้นที่โดยรอบมีความยาวถึง 146 กิโลเมตรเลยทีเดียว

นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเดินทางเข้าสู่ เมืองซุก Zug เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านชมหอนาฬิกาเมืองซุก Clock Tower แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่นของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักรวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier, Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC, Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น Lucerne เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) ถ่ายรูปกับสิงโตหินแกะสลัก Dying Lion of Lucerne ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล Chapel Bridge ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน แบบสมัยใหม่ มีถนนเลียบไปตามเนินเขาตลอดระยะทาง จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น

ค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Grand Hotel Europe Lucerne หรือระดับเทียบเท่า

วันที่เจ็ด ลูเซิร์น – ไอเกอร์เอ็กเพรสสู่ยอดเขาจุงเฟรา – อินเทอร์ลาเก้น (สวิตเซอร์แลนด์) –
ดิจอง (ฝรั่งเศส)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ กรินเดอวาลด์ กรุนด์ เทอร์มินอล Grindelwald Grund Terminal สถานีกระเช้า Eiger Express กระเช้าลอยฟ้าตัวใหม่ โดยใช้เวลาเพียง 15 นาทีสู่สถานี Eigergletscher และเดินทางต่อด้วยรถไฟเพื่อขึ้นสู่สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค Jungfraujoch สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรปจนได้รับฉายา Top of Europe ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ โดยเมื่อปี ค.ศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร หลังจากนั้นนำท่านเข้าชมถ้ำน้ำแข็ง Ice Palace ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขา และที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา พร้อมด้วยเมนูฟองดูชีส เมนูเอกลักษณ์สวิตเซอร์แลนด์

บ่าย นำท่านเดินสู่เมืองอินเทอร์ลาเก้น Interlaken เมืองระหว่างทะเลสาบ เมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน Lake Thun และทะเลสาบเบรียนซ์ Lake Brienz (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ และเลือกซื้อสินค้าจากร้าน Kirchhofer สินค้าแบรนด์เนมและนาฬิกาแบรนด์สวิสชั้นนำมากมาย

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศฝรั่งเศส โดยเดินทางเข้าสู่เมืองดิจอง Dijon ประเทศฝรั่งเศส อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดี ผ่านทุ่งราบอันกว้างใหญ่แหล่งผลิตมัสตาร์ดชื่อดัง อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในการผลิตไวน์ชั้นเลิศอีกด้วย ผ่านชมอาคารบ้านเรือนสมัยเรเนสซองส์ โบสถ์และวิหารเก่าแก่ในสมัยยุคกลาง ซึ่งมีจุดเด่นคือ การมุงหลังคาด้วยกระเบื้องสีแดงสดจัดเรียงเป็นลวดลายงดงาม (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Holiday Inn Dijon หรือระดับเทียบเท่า

วันที่แปด ดิจอง – พระราชวังแวร์ซายส์ – ปารีส – ช้อปปิ้งห้างแกลลอรี่ลาฟาแยต (ฝรั่งเศส)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองแวร์ซายส์ เมืองที่ตั้งของพระราชวังแวร์ซายส์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) ผ่านชมทัศนียภาพระหว่างทาง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านเข้าชมความงดงามของพระราชวังแวร์ซายส์ Versailles Palace อันยิ่งใหญ่ (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยายในพระราชวัง) ที่สร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรอลังการ ทั้งจิตรกรรมฝาผนัง รูปปั้น รูปแกะสลักและเครื่องเรือน ซึ่งเป็นการใช้เงินอย่างมหาศาล พาท่านชมห้องต่างๆของพระราชวัง เช่น โบสถ์หลวงประจำพระราชวัง,ท้องพระโรงที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง, ห้องอพอลโล, ห้องเมอคิวรี่, ห้องกระจก (Hall of Mirror) ที่มี ความยาวถึง 73 เมตร ซึ่งเป็นห้องที่พระยาโกษาธิบดี (ปาน) ราชทูตไทยสมัยพระนารายณ์มหาราชเคยเข้าถวายสาส์นต่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นห้องที่ใช้สำหรับจัดงานเลี้ยงและ เต้นรำของพระนางมารี อังตัวแนตต์ มเหสีของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16, ชมห้องบรรทมพระราชินีที่ตกแต่งอย่างงดงาม, ภาพเขียนปราบดาภิเษกของจักรพรรดินโปเลียนที่ยิ่งใหญ่

นำท่านเดินทางสู่มหานครปารีส Paris เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแลวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากนั้นพาท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยนักชอปปิงจากทั่วทุกมุมโลกในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุงปารีสที่แกลเลอรี่ ลาฟาแยต Galleries Lafayette หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดอยู่ใจกลางกรุงปารีส โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมืองด้วยเมนูหอยเอสคาร์โก เมนูเอกลักษณ์ของฝรั่งเศส
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Mercure Paris Orly Rungis หรือระดับเทียบเท่า

วันที่เก้า ปารีส – ประตูชัย – หอไอเฟล – พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ – ช้อปปิ้งร้านค้าปลอดภาษี – ช้อปปิ้ง La Vallee Village Outlet – สนามบินชาร์ลเดอโกลล์ (ฝรั่งเศส)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านผ่านลานประวัติศาสตร์จัตุรัสคองคอร์ด Place de la Concorde ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเนต ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส แล้วผ่านเข้าสู่ถนนสายโรแมนติกชองป์เอลิเซ่ Champs Elysees ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัยนโปเลียน นำชมและถ่ายรูปคู่กับประตูชัยนโปเลียน Arc de Triomphe สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนในศึก เอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี 1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836 แล้วจากนั้นนำถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับกับหอไอเฟล Tour Eiffel สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1889 ที่บริเวณจัตุรัสทรอคคาเดโร่ นำท่านถ่ายรูปคู่กับพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ Louvre Museum พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงและยังมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในอดีตที่นี่เคยเป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์กาเปเซียง ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นที่จัดแสดงผลงานกว่า 35,000 ชิ้น ในพื้นที่กว่า 60,600 ตารางเมตร และมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากถึง 9.7 ล้านคนต่อปี และที่นี่ยังเป็นที่จัดแสดงของภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ภาพโมนาลิซา (Monalisa) ของเลโอนาร์โด ดาวินชี ศิลปินผู้มีชื่อเสียงชาวอิตาลี อีกด้วย จากนั้นนำท่าน
ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมจากร้านค้าปลอดภาษี Paris Look

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เอ๊าท์เล็ตใหญ่ไม่ไกลจากนครปารีส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ให้เวลาท่านอิสระเพื่อช้อปปิ้งที่ La Valle Village Outlet เอ๊าท์เล็ตขนาดใหญ่ทีมีสินค้าแบรนด์เนมให้เลือกมากมาย อาทิเช่น Coach, Calvin Klein, Armani, Burberry, Fred Perry, Versace, Diesel, Givenchy, Jimmy Choo, Longchamp, Michael Kors, Roberto Cavalli, Samsonite, Polo Ralph Lauren, Ted Baker, Superdry, Valentino, Salvatore Ferragamo, Hugo Boss และอื่นๆ อีกมากมาย อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย

15.00 น. สมควรแก่เวลานัดหมายนำคณะเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund) และ มีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
19.50 น. เดินทางออกจากสนามบินชาร์ลเดอโกลล ฝรั่งเศส โดยสายการบิน Turkish เที่ยวบินที่ TK1828

วันที่สิบ สนามบินอิสตันบูล – สนามบินสุวรรณภูมิ
00.20 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย ให้ท่านรอเปลี่ยนเครื่อง
01.35 น. ออกเดินทางจากสนามบินอิสตันบูล โดยสายการบิน Turkish เที่ยวบินที่ TK068
15.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ.

ทัวร์ยุโรป