21. VMXP97T5-21 โอ้โห Dolomites สวยมาก IT-AT-DE-FR-CH BY T5 9 วัน 7 คืน BY T5 (SEP-OCT)

ทัวร์ยุโรป โอ้โห Dolomites กระแทกใจ IT-AT-DE-FR-CH 9 วัน 7 คืน (T5)

ราคาเริ่มต้น 72,999 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: ดาวน์โหลด

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอร์ตินา ดัม เปซโซ่ (Cortina D’ Ampezzo) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.45 ชั่วโมง) เมืองนี้เป็นเมืองสกีรีสอร์ท Best of  The Alps ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ (Dolomites) หรือ โดโลมิติ ตามการเรียกขานของชาวอิตาลี เพียงแห่งเดียวในอิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 ของสกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโลก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไข่มุกแห่งโดโลไมท์ ให้อิสระท่านเดินเล่น เก็บภาพบรรยากาศ ซึมซับกับทัศนียภาพที่สวยงาม และอากาศบริสุทธิ์  

วันที่เดินทาง

14 ก.ย. 67 – 22 ก.ย. 67, 12 ต.ค. 67 – 20 ต.ค. 67, 28 ก.ย. 67 – 6 ต.ค. 67

ทัวร์ยุโรป

วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินอาชกาบัต – สนามบินมิลาน – เวโรนา (อิตาลี)
01.30 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน เติร์กเมนิสถานแอร์ไลน์ (T5) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
*** เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด ***
ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบินเนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ป การจัดที่นั่งจะเป็นระบบ RANDOM ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน
ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบิน

04.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน โดยสายการบินเติร์กเมนิสถาน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ T5 642 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 40 นาที) (เวลาประเทศเติร์กเมนิสถานช้ากว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง)
10.10 น. เดินทางถึง สนามบินอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศอิตาลี (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 3 ชั่วโมง 20 นาที)
11.30 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสายการบิน เติร์กเมนิสถาน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ T5 463 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 30 นาที)
14.30 น. ถึง สนามบินมิลาน ประเทศอิตาลี (เวลาประเทศอิตาลีช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) ผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวโรนา เป็นเมืองใน จังหวัดเวโรนา (Province of Verona) แคว้นเวเนโต (Veneto) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เมืองนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอะดิเจ (Adige River) ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ชั้นดีในการตั้งถิ่นฐานสมัยโบราณ ชนเผ่าดั้งเดิมในอิตาลีอย่างยูกาไน (Euganei) และเซโนมานี (Cenomani) จึงผลัดกันยึดครองเวโรนาระหว่าง 500 ปีจนถึง 300 ปีก่อนคริสตกาล เวโรนาเป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน เมืองนี้เต็มไปด้วยโบราณสถานน่าตื่นตา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งปลูกสร้างในสมัยโรมัน โบสถ์วิหารเก่าแก่ หรือแม้แต่บ้านเรือนก่อด้วยอิฐและหิน ด้วยเหตุนี้ใน ค.ศ. 2000 องค์การยูเนสโก (UNESCO) จึงประกาศให้เวโรนาเป็นมรดกโลกอันทรงคุณค่า เนื่องจากสถาปัตยกรรมที่คงอยู่เหนือกาลเวลาในเมืองนี้นั่นเอง อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่สอง คอร์ติน่า ดัมเปซโซ่ – ทะเลสาบมิซูริน่า – ทะเลสาบบรายเอียซ – ซานต้ามาดดาเลน่า (B/-/D)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอร์ตินา ดัม เปซโซ่ (Cortina D’ Ampezzo) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.45 ชั่วโมง) เมืองนี้เป็นเมืองสกีรีสอร์ท Best of The Alps ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ (Dolomites) หรือ โดโลมิติ ตามการเรียกขานของชาวอิตาลี เพียงแห่งเดียวในอิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 ของสกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโลก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไข่มุกแห่งโดโลไมท์ ให้อิสระท่านเดินเล่น เก็บภาพบรรยากาศ ซึมซับกับทัศนียภาพที่สวยงาม และอากาศบริสุทธิ์

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบมิซูริน่า (Lake Misurina) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ทะเลสาบที่หลบซ่อนตัวในหุบเขาที่ถือเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งใดในโดโลไมท์ อิสระให้ท่านเดินเล่นชมวิวทะเลสาบเก็บภาพสุดแสนประทับใจ

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบบรายเอียซ (Lake Braies) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Fanes Sennes Braies เขตป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเทือกเขาโดโลไมท์ เพื่อชมความงามของทะเลสาบ ตั้งอยู่ริมขอบทางทิศเหนือของอุทยานมีทางเดินอย่างดีเป็นวงกลมรอบทะเลสาบ อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจ

จากนั้นนำท่านเก็บภาพความประทับใจกับวิวไฮไลท์ ของเทือกเขา Dolomites ณ Santa Maddalena (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ถ่ายรูปกับหนึ่งจุดไฮไลต์ด้วยวิวยอดเขาแปลกตาอีกแห่งหนึ่งในโดโลไมท์ ณ โบสถ์ Santa Maddalena โบสถ์ที่ถือเป็นสถานที่ไฮไลต์ทที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุด ในอุทยานโดโลไมท์ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมีฉากหลังเป็นเทือกเขา Odles

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่สาม อินส์บรุค (ออสเตรีย) – หลังคาทองคำ – แม่น้ำอินส์ – ฟุสเซ่น (เยอรมนี) – ปราสาทโฮเฮนชวานเกา (บริเวณภายนอก) – มิวนิค (B/L/-)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินส์บูร์ก (Innsbruck) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองสีลูกกวาดพาสเทล แห่งออสเตรีย เมืองนี้ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำอินน์ อยู่ท่ามกลางหุบเขาของเทือกเขาแอลป์ ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ท่านก็จะได้เห็นวิวของเทือกเขาแอลป์ที่โอบล้อมท่านอยู่ โดยคำว่า บรุค (Bruck) มีรากศัพท์มาจากภาษาเยอรมัน แปล Bridge และคำว่า Inns ก็หมายถึงชื่อแม่น้ำอินส์ รวมแล้ว Innsbruck จึงมีความหมาย Bridge over The Inn ซึ่งแปลว่าสะพานแห่งแม่น้ำอินส์ ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศดีมาก จนได้รับการขนานนามว่า Capital of Alp ชมบริเวณแลนด์มาร์คของเมือง Goldenes Dachl หรือ หลังคาทองทำ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสครั้งที่สองของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 โดยใช้กระเบื้องทองแดงปิดทอง 2,657 แผ่น ในการมุงหลังคากว้าง 16 เมตร เพื่อพยายามลบข่าวลือว่าสถานภาพทางการเงินที่ไม่ดีในช่วงนั้น

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) อิสระทุกท่านตามอัธยาศัย ชมปราสาทโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau Castel) (บริเวณภายนอก) ปราสาทพระราชวังฤดูร้อนแห่งบาวาเรีย ปราสาทสีเหลืองที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิคแห่งนี้ ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบ Alpsee เป็นปราสาทที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 เคยประทับอยู่เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ และชมความงดงามของ ปราสาทนอยชวานสไตน์ ท่านสามารถเดินทางไปที่ สะพานมาเรียน (Marienbrücke) จุดชมวิวด้านบน มุมสูงของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castel) ปราสาทแห่งยุคกลางที่มีชื่อเสียง ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 ตามจินตนาการของคีตกวีชาวเยอรมนี ริชาร์ด วากเนอร์ ตัวปราสาทมีที่ตั้งอันน่าทึ่งบนหินผาขนาดใหญ่ยักษ์ สูงกว่า 200 เมตร เหนือออบแก่งของแม่น้ำพอลลัท พร้อมชื่นชมธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงาม ซึ่ง วอลซ์ ดิสนีย์ ได้จำลองแบบไปสร้างปราสาทไว้ในดิสนีย์แลนด์ทุกแห่งในโลก จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของดิสนีย์แลนด์ อิสระให้ท่านถ่ายภาพเก็บความประทับใจ (ราคาทัวร์ไม่รวมค่ารถ Shuttle bus หรือ รถม้า ขึ้นไปยังสะพานมาเรียน หากสนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่หัวหน้าทัวร์)

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทาง สู่ เมืองมิวนิค (Munich) (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองหลวงที่มีเสน่ห์แห่งแคว้นบาวาเรีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของประเทศ ตั้งอยู่บนแม่น้ำอีซาร์เหนือเทือกเขาแอลป์ บนที่ราบสูงบาวาเรีย เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็งที่สุดในประเทศเยอรมนี เต็มไปด้วยสถานที่ทางวัฒนธรรมและศาสนา และยังเมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมัน
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ มิวนิค – จตุรัสมาเรียนพลัทซ์ – สตุตการ์ต – สตราส์บูร์ก (ฝรั่งเศส) – ย่านเมืองเก่า (B/L/-)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเที่ยวชม จตุรัสมาเรียนพลัทซ์ (Marienplatz) หรือ จัตุรัสมารี (Mary) แลนด์มาร์คใจกลางเมือง ให้ท่านถ่ายรูป ศาลาว่าการเมืองใหม่ (Neues Rathaus) ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ หอนาฬิกา Glockenspiel ที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบํา ทุกวัน ตอน 11 โมงเช้า และจะเพิ่มรอบในช่วงหน้าร้อน ตอน 5 โมงเย็นโดยตุ๊กตาจะมี 2 ชั้น ชั้นบนเป็นเรื่องราวการแต่งงาน ชั้นล่างเป็นการเต้นรำแบบพื้นเมือง ถ่ายรูปกับ โบสถ์แม่พระมิวนิก (Frauenkirche) เป็นโบสถ์คริสต์ระดับอาสนวิหารของนิกายโรมันคาทอลิกในนครมิวนิก จุดเด่นของโบสถ์แห่งนี้คือ หอคอยหัวหอมคู่ โดมหอมหัวใหญ่สีฟ้าเขียว 2 โดม ซึ่งเป็นหอคอยที่มีความสูงถึง 99 เมตร ใกล้กันมี โบสถ์เซนต์ไมเคิล (St. Michael Church) แต่เดิมเป็นโบสถ์พระเยซูอิตซึ่งเป็นนิกายเก่าแก่นิกายหนึ่งของศาสนาคริสต์ ปัจจุบันเป็นโบสถ์คาทอลิค

นำท่านเดินทางสู่เมืองสตุตการ์ต (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองหลักและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐบาลเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเน็คคาร์ เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 6 ของประเทศเยอรมนี

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส(Alsace) ของประเทศฝรั่งเศส และยังได้รับการยกย่องเป็นเมืองมรดกโลกด้านมนุษยชาติจากองค์การยูเนสโกเมืองซึ่งผสมผสาน 2 วัฒนธรรมคือ ฝรั่งเศสและเยอรมัน เนื่องจากในอดีตถูกผลัดเปลี่ยนอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา ทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งขององค์กรสำคัญของยุโรป อาทิ สภายุโรป องค์กรสิทธิมนุษยชน และศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ที่นี่ยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัยดังชั้นนำที่เกอร์เธ (Goethe) นักเขียนชาวเยอรมันเคยศึกษาอยู่

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า กอล์มาร์ – เอกิชไฮม์ – เบิร์น (สวิตเซอร์แลนด์) – บ่อหมีสีน้ำตาล – ย่านเมืองเก่า – หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ไซ้ท์ กล็อคเค่น – ลูเซิร์น (B/L/-)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองเล็กๆน่ารัก ตั้งอยู่ในแคว้นอัลซาส (Alsace) เป็น 1 ใน 8 แคว้นผลิตไวน์ สำคัญของฝรั่งเศสถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติคเมืองหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส อันเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไวน์แหล่งปลูกองุ่นพันธุ์ดี เพื่อผลิตไวน์ชั้นเลิศบริเวณเชิงเขาของเทือกเขาโวชจ์ ซึ่งมีไร่องุ่นจำนวนมากเคียงคู่ไปกับอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม นำท่านเดินเที่ยวชมสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ช่วยทำให้เมืองดูโรแมนติกยิ่งขึ้นมรดกทางสถาปัตยกรรมพบเห็นได้จากโบสถ์แบบโกธิคและโรมันสไตล์ และอาคารเก่าหลายหลังสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 15 บ้านเรือนเรียงรายสองฝั่งคลองดูงดงามน่ารักจนได้รับการขนานนามว่า “ลิตเติ้ลเวนิส” อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเอกิซไฮม์ (Equisheim) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) เป็นหมู่บ้านที่งดงามราวภาพวาดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอาลซาส มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมยุคกลางที่มีเสน่ห์ ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี และยังได้รับยกย่องให้เป็น “Plus Beaux Villages de France” (หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส) นอกจากนี้ยังเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในเส้นทางไวน์ Alsace และมีชื่อเสียงในด้านการผลิตไวน์อีกด้วย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางไปยัง เมืองเบิร์น (Bern) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมายังสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามด้วยบ้านเรือนในบรรยากาศสบายๆ ตามสไตล์เมืองเก่าทั่วไป ให้ท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล Bear Park สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น จากนั้นเที่ยวชม ย่านเมืองเก่า (Old City of Berne) ซึ่งได้รับการบรรจุไว้ในรายชื่อมรดกโลกในปี ค.ศ. 1983 และก่อตั้งขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษ ที่ 12 ตั้งอยู่บนภูเขาล้อมรอบด้วยแม่น้ำอาเร (Aare River) มาร์คกาสเซ ย่านเมืองเก่าที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้ และร้านเสื้อผ้าบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200 – 300 ปี โบสถ์แห่งกรุงเบิร์น (The Cathedral of Bern) มหาวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยยุคโกธิค ตั้งแต่ปี ค.ศ.1964 หอคอยมีความสูงราวๆ 100 เมตร สร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1893 ถือเป็นมหาวิหารที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และถือเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของประเทศด้วย จากนั้นชม หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ไซ้ท์ กล็อคเค่น (Zytglogge Clock Tower) หอนาฬิกายุคกลางที่มีชื่อเสียงที่สุดของย่านเมืองเก่าเบิร์น ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 อายุ 800 ปี จะมีโชว์ให้ดูทุกๆ ชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกรุงเบิร์น

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

เดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) ลูเซิร์นเป็นเมืองเล็กๆ เกือบใจกลางประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ ที่ชวนหลงใหล ตั้งอยู่ริมฝั่ง “ทะเลสาบลูเซิร์น” (Lake Lucerne) มองเห็นแนวเทือกเขาแอลป์เรียงสลับเป็นทิวสวยงามทุกฤดูกาล และนอกจากทิวเขาแล้วลูเซิร์นยังมีป่าไม้ค่อนข้างหนาแน่น และทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ตามแนวเชิงเขา ความดีงามของลูเซิร์น คือเป็นเมืองที่ยังคงอนุรักษ์ความเก่าแก่ของพื้นที่ไว้ได้อย่างดี แบ่งเขตชัดเจนระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่

ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่หก ลูเซิร์น – อนุสาวรีย์สิงโต – สะพานไม้ชาเปล – ซุก – โลคาร์โน – โคโม่ (อิตาลี) – ทะเลสาบโคโม่ (B/-/D)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านถ่ายภาพกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) สัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึก และเป็นเกียรติแก่เหล่าทหารหาญชาวสวิสซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์นมากกว่า 700 คนที่ออกรบและเสียชีวิตในฝรั่งเศสเมื่อครั้งเกิดสงครามปฏิวัติยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ซึ่งเป็นการเจาะเนื้อหินและแกะสลักขึ้นรูปเป็นประติมากรรมสิงโตตัวใหญ่สวยงามมากแม้จะมีใบหน้าโศกเศร้าดังที่ว่าก็ตาม และอีกจุดหนึ่งที่น่าชมมากในย่านนี้ก็คือ สะพานไม้ชาเปล (Chapel bridge) สะพานที่ดูไม่เหมือนสะพานและมีอายุเก่าแก่มากกว่า 600 ปี ที่ว่าไม่เหมือนสะพานก็เพราะแวบแร กอาจดูคล้ายอาคารกลางน้ำ แต่จริงๆ แล้วสร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามไปมาระหว่างสองฝั่งแม่นํ้ารอยซ์

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซุก (Zug) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี ปัจจุบันเป็นเมืองที่รวยที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองที่เรียกเก็บค่าภาษีในอัตราต่ำที่สุดในโลกอีกด้วย ท่านสามารถเดินเที่ยวในเขตเมืองเก่าของซุกได้อย่างเพลิดเพลิน บรรยากาศของอาคารบ้านเรือนที่ยังคงความเก่าแก่แต่สวยงาม พื้นถนนที่ปูด้วยหินจากยุคกลาง จัตุรัสที่มีน้ำพุโบราณประดับด้วยรูปปั้นอยู่หลายจุด ไปจนถึงทะเลสาบซุกที่สวยงามและถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาที่อยู่ไกลออกไป ล้วนแล้วแต่เป็นมนต์เสน่ห์ของเมืองเก่าแก่เล็กๆ แห่งนี้

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโลคาร์โน (Locarno) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่พักตากอากาศสวยทรงเสน่ห์เมืองนึงของคนสวิตเซอร์แลนด์ อยู่ทางภาคใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเมืองในรัฐ Ticino (ทิชิโน) มีภูมิศาสตร์ที่สวยงาม ล้อมไปด้วยภูเขาและทะเลสาบ Locarno หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ทะเลสาบ Maggiore (ทะเลสาบมาโจเร่) ที่กว้างใหญ่และมีชื่อเสียง มีกิจกรรมให้ทำตลอดปี เมือง Locarno นี้ ได้รับฉายาว่าเป็นเมืองแห่งเทศกาลหนังริมทะเลสาบ โดยมีการฉายหนังที่โรงหนังกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่จัตุรัส Piazza Grande อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโม่ (Como) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองที่เพียบพร้อมด้วยทัศนียภาพอันงดงาม ทั้งเทือกเขาแอลป์สูง และทะเลสาบโคโม่ ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ยังไม่นับผลงานศิลปะชั้นเลิศมากมายทั่วเมือง โบสถ์เก่าแก่ โรงละคร และพิพิธภัณฑ์อีกมากมาย
นำท่านเดินเที่ยวชมเมือง ชมวิวสวยๆ ริมทะเลสาบโคโม่ ทะเลสาบมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของอิตาลี ด้วยพื้นที่กว้างถึง 146 ตารางกิโลเมตร และด้วยความลึกสูงสุดถึง 400 เมตร ทำให้เป็นหนึ่งเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดของทวีปยุโรปเลยทีเดียว

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด ลูกาโน่ – มิลาน – มหาวิหารดูโอโม มิลาน – ห้างสรรพสินค้ากลางเมืองมิลาน (Galleria Vittorio Emanuele II) (B/-/D)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

เดินทางสู่ เมืองลูกาโน (Lugano) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในรัฐทิชีโน (Tichino) ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของทะเลสาบลูกาโน่ ตัวเมืองถูกห้อมล้อมดูภูเขา เป็นเมืองเก่าขนาดเล็ก แต่มากไปด้วยเสน่ห์ ผสมผสานกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และที่นี่ยังมีร้านบูติกระดับไฮเอน ร้านค้าริมทาง ให้ท่านได้เลือกซื้อ อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองมิลาน (Milan) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) หรือที่คนอิตาเลียนเรียกว่า “ มิลาโน่ (Milano) มิลานเป็นเมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดีย เป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอิตาลี มีประวัติศาสตร์ศิลปะและวัฒนธรรมที่หลากหลายผ่านสถานที่สำคัญมากมาย เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองผู้นำแฟชั่นระดับแนวหน้าของโลก มีชื่อเสียงในการเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าแฟชั่นโมเดิร์นที่มีความทันสมัย เช่นเดียวกับ ปารีส และ นิวยอร์ค อีกทั้งมิลานยังเป็นหัวใจด้านเศรษฐกิจของอิตาลีเพราะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมเขตอุสาหกรรมที่หนาแน่นที่สุดของประเทศและเป็นศูนย์กลางการเดินทางเข้าอิตาลี โดยเฉพาะรถไฟมาจากประเทศอื่นๆในยุโรป มีสถาปัตยกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองมิลานที่สุดก็คือ “มหาวิหารดูโอโม่” (Duomo di Milano)

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

นำท่านชม มหาวิหารดูโอโม่ (Duomo di Milano) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิลาน วิหารโอ่อ่าใหญ่โตอลังการ สถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคสีขาวเด่นสวยงาม เป็นอันดับ 3 ของโลก เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1386 แต่ระหว่างการก่อสร้างก็พบกับปัญหา และอุปสรรคมากมาย ทั้งปัญหาการเมือง และการเงิน กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ก็ใช้เวลาไปถึง 579 ปี เปลี่ยนคนก่อสร้างไปหลายชั่วอายุคน แต่มีสถาปนิกที่คุมการก่อสร้าง ที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้นั่นก็คือ ลีโอนาโด นาวินชี ศิลปินชื่อก้องโลก วิหารนั้นมีการประดับประดาไปด้วยรูปปั้นกว่า 3,200 รูปที่สวยงาม และมียอดรวม 135 ยอด จนได้รับฉายาว่า “วิหารเม่น”

บริเวณใกล้กันจะเป็น ห้างสรรพสินค้ากลางเมืองมิลาน (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นี่เป็นห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ที่สุดในอิตาลี และเรียกได้ว่า เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิลาน ศูนย์การค้าสุดหรูของผู้หลงใหลแฟชั่นและอาหารชั้นเลิศแห่งนี้ Galleria Vittorio manuele II ตั้งอยู่ใกล้ๆกับ The Duomo

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่แปด อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย – สนามบินมิลาน (B/-/-)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

อิสระทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

12.00 น. ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินมิลาน
16.30 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน โดยสายการบิน เติร์กเมนิสถาน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ T5 444 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 5.45 ชั่วโมง)

วันที่เก้า สนามบินอาชกาบัต – สนามบินสุวรรณภูมิ
01.15 น. เดินทางถึง สนามบินอาชกาบัต ประเทศเติร์กเมนิสถาน (เวลาท้องถิ่น) จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2.35 ชั่วโมง ) (เวลาประเทศเติร์กเมนิสถานช้ากว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง)
03.15 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ T5 647 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 5.45 ชั่วโมง)
11.55 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

ทัวร์ยุโรป