SA-GRPZAG251

ทัวร์ยุโรป CROATIA TASTE OF AUTUMN CROATIA 8D5N (QR)

ราคาเริ่มต้น 45,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: QR

นำท่านออกเดินทางสู่  ซาดาร์ (Zadar) เมืองประวัติศาสตร์มากว่า 3,000 ปี  เป็นเมืองท่าที่สำคัญของทะเลเอเดรียติค มีบทบาทมาตั้งแต่สมัยโรมันจนถึงปัจจุบัน  อดีตเมืองหลวงเก่าของภูมิภาคดัลเมเชีย (Dalmatia) ปัจจุบันกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่  นอกจากนี้แล้วเมืองหลวงเก่าแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวเรือที่มาค้าขายในแถบนี้ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์กลางทางด้านการค้าขายมาตั้งแต่สมัยอดีต…

วันที่เดินทาง

ตุลาคม 67 – พฤศจิกายน 67

ทัวร์ยุโรป
วันแรก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – สนามบินโดฮา (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
17.00 น.  บริษัทฯ ขอเชิญท่านที่จุดนัดพบ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางเข้าเลขที่ 8 เคาน์เตอร์ Q สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ (QATAR AIRWAYS) ขอให้ท่านสังเกตป้าย “ALLIANCE CONSORTIUM ” เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ รอคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแด่ท่านก่อนขึ้นเครื่อง…….
20.00 น.
เหินฟ้าสู่ ซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR835 (ใช้เวลาบินโดยรวม 7 ชั่วโมง)
23.00 น. ถึงกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง ให้ท่านได้ยืดเส้นยืดสาย และเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง DUTY FREE ใน Hamad ที่หรูหราและอลังการ มีสารพัดสิ่งให้ท่านได้เลือกซื้อ พร้อมบริการ Free WiFi ทุกซอกทุกมุมของสนามบินแห่งนี้ หมายเหตุ : เนื่องด้วยเราเดินทางมาเป็นหมู่คณะ ดังนั้นเมื่อเครื่องลงจอดแล้ว…รบกวนผู้เดินทางทุกท่านโปรดรอหัวหน้าทัวร์ของท่านก่อน เพื่อที่หัวหน้าทัวร์จะได้นำท่านลงจากเครื่องพร้อมๆกัน ไปขึ้นรถต่อไปยังอาคารสำหรับผู้โดยสารต่อเครื่อง เพื่อเป็นการป้องกันการสับสนและพลัดหลงกัน
วันที่สอง สนามบินโดฮา (แวะเปลี่ยนเครื่อง) – ซาเกร็บ – รีเยกา – ชมเมือง – โอพาเทีย – ชมเมือง
02.10 น. ออกเดินทางต่อสู่ ซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR215 (ใช้เวลาบินโดยรวม 5 ชั่วโมง 45 นาที)
06.55 น. เมื่อเครื่องบินสัมผัสขอบฟ้า นำท่านเข้าสู่น่านฟ้าของประเทศโครเอเชีย คณะเดินทางถึง สนามบิน PLESO INTERNATIONAL AIRPORT แห่งซาเกร็บ (Zagreb) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี มีแม่น้ำสายหลักชื่อ ซาวา (Sava River) ไหลผ่านด้านหนึ่งของเมือง นอกจากนี้ประเทศโครเอเชียยังเป็นประเทศต้นกำเนิดของ “เนคไท” อาภรณ์อันงามสง่าและเป็นสากลของสุภาพบุรุษอีกด้วย…. (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าเวลาของประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ ผ่านกรมศุลกากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางหัวหน้าทัวร์และมัคคุเทศก์ท้องถิ่นจะนำคณะท่านฯขึ้นรถปรับอากาศ แล้วออกเดินทางต่อสู่
รีเยกา (Rijeka) หรือ ริเจกา เมืองริมชายฝั่งทะเลเอเดรียติกเหนือ จัดเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของโครเอเชียและเป็นเมืองท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เสน่ห์ของเมืองคือความหลากหลายของผู้คนและความเปิดกว้างของวัฒนธรรมสมกับตำแหน่งเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรป ประจำปี 2020
พาท่านเดินชมเมือง ผ่านชมโบสถ์อัสสัมชัญของพระแม่มารีย์ (Church of the Assumption of the Blessed Virgin Mary and the Leaning Tower) โบสถ์เก่าแก่ประจำเมืองที่มีหอเอน Kosi toranj อันเป็นเอกลักษณ์ตั้งอยู่ด้านหน้า อิสระช้อปปิ้ง ณ ถนนคนเดิน Korzo ที่เรียงรายไปด้วยคาเฟ่และร้านค้าต่างๆ ผ่านชม Old Gateway (Roman Arch) ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 4

เที่ยง  ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย แล้วมุ่งหน้าสู่ ภาคตะวันตกของประเทศโครเอเชียซึ่งมีชื่อเรียกภูมิภาคนี้ว่าแคว้น “ อิสเตรีย (Istria) ” เยือน โอพาเทีย (Opatija) สมญานาม “ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติก” ชื่อเดิมของเมืองนี้ในภาษาอิตาลีคือ “Abbazia” ด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ประกอบกับอยู่ริมทะเลอะเดรียติกที่มีวิลล่าหรูหราสไตล์ออสเตรีย จึงทำให้เป็นเมืองท่องเที่ยวและพักผ่อนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย
เดินเล่นชมตัวเมือง พร้อมแวะถ่ายรูปคู่กับนางแห่งนกนางนวล (City Tour with Maiden with the Seagull) ซึ่งเป็นรูปปั้นแกะสลักโดย ZVONKO CAR นักประติมากรที่มีชื่อเสียง เป็นรูปปั้นหญิงสาวงดงามที่มีนกนางนวลเกาะอยู่ที่มือยืนเด่นถือเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองนี้ ผ่านชมโบสถ์เซนต์
จาคอบ (Saint Jacob Church) อิสระให้ท่านได้ชื่นชมบรรยากาศอันน่ารักของเมืองแห่งนี้…

เย็น ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ค่ำ  พักค้างคืน ณ DESIGN HOTEL,OPATIJA หรือเทียบเท่า 4 ดาว (คืนที่ 1)
วันที่สาม โอพาเทีย – ซาดาร์ (Unesco) – ชมเมือง – Sea Organ – ซีบินิค (Unesco)
เช้า อรุณสวัสดิ์…..รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่ ซาดาร์ (Zadar) เมืองประวัติศาสตร์มากว่า 3,000 ปี เป็นเมืองท่าที่สำคัญของทะเลเอเดรียติค มีบทบาทมาตั้งแต่สมัยโรมันจนถึงปัจจุบัน อดีตเมืองหลวงเก่าของภูมิภาคดัลเมเชีย (Dalmatia) ปัจจุบันกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ นอกจากนี้แล้วเมืองหลวงเก่าแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวเรือที่มาค้าขายในแถบนี้ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์กลางทางด้านการค้าขายมาตั้งแต่สมัยอดีต…

เดินชม ตัวเมืองซาดาร์ โดยเริ่มต้นจาก ประตูเมืองเก่า (Zadar Land City Gate/ Land Gate) ถูกสร้างขึ้นในปี 1543 มีลักษณะคล้ายซุ้มประตูชัยสมัยเวนีซมีอิทธิพลเหนือซาด้าร์ งดงามด้วยลวดลายและสัญลักษณ์ต่างๆ ชมบริเวณด้านนอกของโบสถ์เซนต์ โดแนท (St.Donat) ซึ่งเป็นโบสถ์สำคัญประจำเมือง และมหาวิหารเซนต์ อนาตาเซีย (St. Anastasia Church) ที่งดงามด้วยศิลปะผสมโรมาเนสก์และโกธิค

ชม ฟอรัมหรือย่านชุมชน (Roman Forum) ของโรมันเมื่อสองพันปีก่อนที่นักโบราณคดีจะใช้ความอุตสาหะในการขุดค้นพบหลักฐานสำคัญต่างๆ ในการอยู่อาศัยของชาวโรมัน อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง ณ ตลาดกลางเมือง ที่มีชีวิตชีวาสดใสด้วยผัก ผลไม้ ไม้ดอกและอื่นๆ อันแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นดิน…พาเดินเล่นริมเมือง โดยที่นี่จะมีความพิเศษตรงที่มี ออร์แกนน้ำทะเล (Sea Organ) ที่แรกและที่เดียวของโลก โดยใช้คลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งทำให้เกิดเสียงต่างๆ สถาปัตยกรรมการก่อสร้างเครื่องดนตรีโดยอาศัยเกลียวคลื่นที่ซัดเข้ากระทบกับบันไดหินอ่อนและท่อใต้ขั้นบันไดก่อให้เกิดเป็นท่วงทำนองเสียงดนตรี เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิก Nikola Basic ซึ่งเปิดให้สาธารณะชนเข้าชมนับแต่วันที่ 15 เมษายน ปี ค.ศ. 2005
เที่ยง  ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย แล้วเดินทางต่อไปยัง ซีบินิค (Sibenik) เมืองเก่าริมฝั่งทะเลอาเดรียติค ซึ่งทะเลอาเดรียติคก็คือทะเลย่อยของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยเมืองนี้จะมีอาคารบ้านเรือนที่มีหลังคาทำด้วยกระเบื้องสีแสด สไตล์เรอเนสซองส์ที่ได้รับอิทธิพลจากทางอิตาลี…..

เย็น ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ค่ำ พักค้างคืน ณ HOTEL SOLARIS AMADRIA PARK, SIBENIK หรือเทียบเท่า 4 ดาว (คืนที่ 2)
วันที่สี่ ชมเมือง – โทรเกียร์ (Unesco) – เขตเมืองเก่า – ดูบรอฟนิค (Unesco)
เช้า อรุณสวัสดิ์….รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม
พาท่าน เดินชมเมืองเก่า ผ่านชม สภาว่าการเมืองเก่า THE OLD LOGGIA ที่สร้างขึ้นราว ค.ศ. 15 อีกทั้งยังมีร้านค้าต่างๆ ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก ชม มหาวิหารเซนต์เจมส์
(St. James) หรือ เซนต์จาคอบ (St. Jakob ) สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1431 ผสมผสานสถาปัตยกรรมอิตาเลี่ยน – ดัลเมเชี่ยนได้อย่างลงตัว งดงามด้วยยอดโดมและหลังคาที่ประดับด้วยแผ่นหิน และไม่มีการใช้วัสดุมาเชื่อมต่อ จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้

นำคณะมุ่งหน้าต่อสู่ โทรเกียร์ (Trogir) ถือว่าเป็นอีกเมืองประวัติศาสตร์ของโครเอเชีย เป็นเมืองโบราณบนเกาะเล็กๆ ซึ่งในอดีตเคยถูกปกครองโดยพวกกรีกและโรมัน แต่ปัจจุบันมีการอนุรักษ์เป็นเมืองเก่า และได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1997
เที่ยง  ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ชม เขตเมืองเก่า สัมผัสอาคารบ้านเรือนที่ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมกรีกและโรมันโบราณ อาทิ ประตูเมือง Kopnena Vrata ที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในสมัยศตวรรษที่ 17 หอนาฬิกา (The Clock Tower) ที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14 แวะถ่ายรูปคู่กับมหาวิหารเซนต์ลอว์เรนซ์ (St. Lawrence Cathedral) ที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 12 จุดเด่นคือประตูทางเข้าที่แกะสลักเป็นเรื่องราวต่างๆ อย่างวิจิตรตระการตา มีรูปปั้นสิงโต อดัมกับอีฟ และรูปสลักนักบุญเซนต์ลอว์เรนซ์ ที่ผู้สร้างมหาวิหารแห่งนี้อุทิศให้ มีเวลาให้ท่านเดินเล่นในเมืองเก่า เลือกซื้อสินค้าท้องถิ่น และของที่ระลึก

จากนั้นคณะออกเดินทางต่อสู่ ดูบรอฟนิค (Dubrovnik) เมืองมรดกโลกทางตอนใต้ของสาธารณรัฐโครเอเชีย ตลอดสองข้างทางตื่นตาตื่นใจกับอาคารบ้านเรือนที่มีหลังคาสีแสดแดงที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่ง เมืองแห่งนี้นับเป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป ถูกขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติค” ด้วยความที่มีเอกลักษณ์โดยเฉพาะเรื่องของการวางผังเมืองที่สวยงาม….
เย็น  ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ค่ำ พักค้างคืน ณ HOTEL ADRIA ,DUBROVNIK หรือเทียบเท่า 4 ดาว (คืนที่ 3)
วันที่ห้า ชมเมือง – อ่าวมาลีสตอน – ล่องเรือชมฟาร์มเลี้ยงหอย + ชิมหอยนางรมสดๆ – สปลิท พระราชวังไดโอคลีเชียน – เขตเมืองเก่า
เช้า อรุณสวัสดิ์…..รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม
พาท่านเดินเที่ยวชม บริเวณเมืองเก่า (Old Town) หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำของซีรีย์ชื่อดัง Game of Thrones ฉากเมืองหลวงแห่ง 7 อาณาจักร King’s Landing ซึ่งตั้งอยู่ในโอบล้อมกำแพงโบราณสูงตระหง่าน ตรงบริเวณพื้นที่ริมทะเลอาเดรียติค เป็นเขตชุมชนเริ่มแรกที่บรรพบุรุษชาวดูบรอฟนิกมาสร้างบ้านเมืองไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 และสร้างกำแพงเมืองแข็งแรงขึ้นล้อมเมืองไว้ในศตวรรษที่ 13 เพื่อป้องกันภัยจากศัตรู เช่น พวกอาหรับ เวเนเชียนมาชีโดเนียนและเซิร์บ ภายในเขตเมืองเก่ามากมายด้วยสิ่งก่อสร้างโบราณ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้

โดยเริ่มต้นจาก ประตูหลัก (Pile Gate) นำไปสู่ ถนนสตราดัน (Stradun) พื้นทางเดินเป็นหินอันเป็นถนนสายหลักจาก น้ำพุโบราณโอโนฟริโอทรงกลม (The Large Fountain of Onofrio) ไปจนสุดมุมถนนล้วนเรียงรายไปด้วยสถานที่สำคัญๆ เช่น พระอารามฟรานซิสกัน (Franciscan Church and Monastery) วิหารในสถาปัตยกรรมโกธิก สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ก่อนจะถูกรื้อถอนไปในช่วงสงคราม แล้วสร้างขึ้นใหม่อีกหลายครั้ง ภายในเป็นที่ตั้งของโบสถ์ Francisca หอสวดมนต์ ห้องสมุด พาท่านเดินเล่น ณ จัตุรัสกลางเมือง (Loggia Square) ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบและประกอบกิจกรรมของชาวเมืองในอดีต รวมถึงสถานที่ลงโทษผู้กระทำผิดด้วย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกกับ เสาหินอัศวิน (Orlando Column) และหอนาฬิกา (Bell Tower) ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444 หน้าปัดทำด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัด ซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อน และรูปปั้นของนักบุญ St. Blaise

คณะท่านฯมุ่งหน้าสู่ อ่าวมาลีสตอน (Mali Ston) ผ่านชมกำแพงเมืองโบราณสตอน (Walls of Ston / Stonske zidine) ที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมยุคกลาง ถูกสร้างขึ้นเพื่อล้อมรอบเมือง โดยกำแพงโบราณแห่งนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 200 ปี มีความยาวมากกว่า 5.5 กิโลเมตร แม้ว่าในอดีตนั้นตัวกำแพงเคยถูกระเบิดในสงครามปี ค.ศ. 1991 และแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 1996 แต่ก็สามารถคงมีบางส่วนที่อยู่มาจนได้ถึงทุกวันนี้ ปรับเปลี่ยนอิริยาบถโดยการล่องเรือ 45 นาที เยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงหอย ชมขั้นตอนต่างๆ ของการเลี้ยง และ ชิมหอยนางรมสดๆจากทะเลอาเดรียติก พร้อมด้วยเครื่องเคียง เติมเต็มรสชาติท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามของอ่าวมาลีสตอน *** หมายเหตุ – การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ณ วันที่เดินทาง ***

เที่ยง  ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย แล้วเดินทางต่อสู่ สปลิท (Split) โดยใช้เส้นทางลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งทะเลอาเดรียติคที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีส้มสลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ สปลิทเป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองลงมาจากซาเกร็บ เป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ การคมนาคม แหล่งอารยธรรมของแคว้นดัลเมเชีย และเป็นเมืองชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชีย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดด้วย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งแรกๆของโลก และเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธ์ดัลเมเชียนอีกด้วย….

จากนั้นพาท่านฯเดินชมรอบๆ พระราชวังไดโอคลีเชียน (Diocletian Palace) สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเชี่ยน เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 4 ที่ต้องการสร้างพระราชวังสาหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1979 ภายในประกอบด้วย วิหารจูปีเตอร์ (Catacombes) สุสานใต้ดินที่มีชื่อเสียงและวิหารต่างๆ ห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินเชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ลาน Peristyle ซึ่งล้อมด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรงดงาม
ยอดระฆังแห่งวิหาร (The Cathedral Belfry) แท่นบูชาของเซนต์โดมินัส และเซนต์สตาดิอุส ซึ่งอยู่ภายในวิหาร นอกจากนี้ยังมี มหาวิหารเทพเจ้าจูปิเตอร์, โบสถ์แห่งเทพวีนัส, วิหารดอมนิอุส (Cathedral of St.Domnius) ที่จัดเรียงรายรวมกันอย่างลงตัว และประตูทอง (The Golden Gate) หนึ่งในสี่ประตูหลักของโรมันที่เข้าไปใน Stari Grad (เมืองเก่า) ของสปลิท สร้างขึ้นโดยเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังไดโอคลีเชียน โดยทำหน้าที่เป็นประตูหลักที่จักรพรรดิ์เสด็จเข้าไปในบริเวณนี้ ต่อด้วยเดินชม จัตุรัสประชาชน และรูปปั้นของ GREGORY OF NIN ผู้นำศาสนาคนสำคัญของโครเอเชีย ในยุคศตวรรษที่ 10

เย็น  ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ค่ำ พักค้างคืน ณ HOTEL ORA,SPLIT หรือเทียบเท่า 4 ดาว (คืนที่ 4)
วันที่หก สปลิท – พลิทวิตเซ่ – อุทยานแห่งชาติพลิทวิตเซ่ (Unesco) – ล่องเรือข้าม KOZJAK LAKE ซาเกร็บ
เช้า อรุณสวัสดิ์…..รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม
นำคณะออกเดินทางสู่ พลิทวิตเซ่ (Plitvice) แห่งแคว้น Istria & Kvarner ระหว่างทาง….ให้ท่านได้อิ่มเอมไปกับธรรมชาติและความงามของทิวทัศน์สองข้างทางที่รายล้อมด้วยป่าเขาสลับทุ่งหญ้า ฟาร์มการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์….เพื่อเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติพลิทวิตเซ่ (Plitvice Lake National Park) หนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่งดงามแห่งหนึ่งของยุโรป และยังได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์การยูเนสโก้ (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1979 ทะเลสาบพลิทไวซ์ ตั้งอยู่ในดินแดนทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป ในส่วนของประเทศโครเอเชีย(Croatia) แม่น้ำโครานา(Korana) ทำให้เกิดทะเลสาบ 16 แห่งไหลผ่านหินปูนและหินชอล์กเชื่อมต่อกับ Cascades น้ำตกเล็กๆที่ไหลไล่ระดับลงมาเป็นชั้นๆเล็กๆ และ waterfalls น้ำตกขนาดใหญ่ที่สูงชัน Plitvice Falls (น้ำตกพลิทไวซ์) ชวนมหัศจรรย์กับอุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทไวซ์หนึ่งในป่าไม้ที่มีอายุมากรุ่นสุดท้ายในยุโรป ภูมิประเทศเป็นที่มหัศจรรย์ บ่งบอกถึงสภาพความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้มีความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมไปด้วยพืชและสัตว์ ทะเลสาบถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ ชั้นบนและชั้นล่าง การเปลี่ยนของสภาพอากาศตามฤดูกาลระหว่างชายฝั่งและเขตภาคพื้นทวีป….

เที่ยง  ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย แล้วพาท่านไปยังท่าเรือ เพื่อ ล่องเรือข้าม KOZJAK LAKE ที่เชื่อมระหว่างทะเลสาบล่างขึ้นสู่ชั้นบนของอุทยาน (LOWER & UPPER LAKE) ท่านจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามและอลังการของ LOWER LAKE ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และงดงามท่ามกลางหุบเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่าน อีกทั้งยังเชื่อมต่อด้วยน้ำตกต่างๆมากมาย จากนั้นพาเดินชมทะเลสาบต่างๆ ตามทางเดินสะพานไม้ที่เชื่อมแต่ละทะเลสาบเข้าด้วยกันทั้ง 16 แห่ง นอกจากนั้นบริเวณรายล้อมยังเต็มไปด้วยถ้ำน้อยใหญ่กว่า 20 ถ้ำ และชม Big Waterfalls ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งนี้ *** หมายเหตุ – การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ณ วันที่เดินทาง ***

จนได้เวลาอันสมควร….นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองซาเกร็บ (Zagreb) เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี มีแม่น้ำสายหลักชื่อ ซาวา (Sava River) ไหลผ่านด้านหนึ่งของเมือง นอกจากนี้ประเทศโครเอเชียยังเป็นประเทศต้นกำเนิดของ “เนคไท” อาภรณ์อันงามสง่าและเป็นสากลของสุภาพบุรุษอีกด้วย…..และพาท่านเข้าสู่ที่พัก
เย็น  ร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ค่ำ พักค้างคืน ณ HILTON GARDEN INN, ZAGREB หรือเทียบเท่า 4 ดาว (คืนที่ 5)
วันที่เจ็ด ชมเมือง – สนามบินซาเกร็บ
เช้า อรุณสวัสดิ์…..รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของทางโรงแรม
เดินเยี่ยมชม จัตุรัส BAN JELACIC (Trg bana Jelačića) ที่มีรูปปั้นของนายพลบาน โจซิฟ เจลาซิค (Ban Josip Jelacic) วีระบุรุษของประเทศ โดยนำทหารชาวโครแอตต่อต้านฮังการีในสมัยต้นศตวรรษที่ 19 และชม ย่านเมืองเก่าของกรุงซาเกร็บ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 เขต คือ เมืองตอนบน (Upper Town / Gronji Grad) และเมืองตอนล่าง ( Lower Town) ที่เชื่อมต่อกันด้วยรถราง FUNICULAR ที่มีความยาวสั้นที่สุดในยุโรป แล้วนั่งรถรางโดยชมเมืองจะเริ่มจากเมืองเก่าที่เป็น Upper Town ซึ่งมีแหล่งโบราณสถานและเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถเดินลัดเลาะตรอกซอกซอยเล็กๆ ไปเรื่อยๆ จนไปถึงบริเวณ Lower Town ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นย่านธุรกิจที่มีความคึกคักมากกว่าบริเวณ Upper Town ผ่านชมอาคารรัฐสภา (Sabor) ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1918 ในโอกาสที่โครเอเชียแยกตัวออกจากอาณาจักรออสโตร-ฮังกาเรียน (AUSTRO-HUNGARIAN EMPIRE) โดยมีการประกาศแยกตัวออกอย่างเป็นทางการ บริเวณระเบียงชั้นบนของอาคาร หลังจากนั้นมีการตัดสินใจแยกตัวออกจากระบบสังคมนิยมยูโกสลาเวียขึ้น ณ ที่แห่งนี้ในปี ค.ศ. 1991 และประกาศตัวเป็นประเทศอิสระไม่ขึ้นกับประเทศใด…..

จากนั้น บันทึกภาพคู่ทำเนียบประธานาธิบดี (Presidential Palace) หรือ BANSKI DVORI ที่พำนักของประธานาธิบดีโครเอเชีย แวะชม จัตุรัส โบสถ์เซนต์มาร์ค (St. Mark’s Square) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ โบสถ์เซนต์มาร์ค (St. Mark’s Church) หัวใจของส่วน Upper Town สร้างขึ้นราวคริสต์ศตวรรษที่ 13 กระเบื้องมุงหลังคาโบสถ์โดดเด่นมองเห็นได้แต่ไกล เป็นตราสัญลักษณ์ของราชอาณาจักรทรุนแห่งโครเอเชีย ดัลเมเชีย และ สลาโวเนีย (The Truine Kingdom of Croatia, Dalmatia and Slavonia) ตราหมากรุกขาวแดงเครื่องหมายโครเอเชีย, ลีโอพาร์ด 3 ตัว คือ แคว้นดัลเมเทีย และสโลเวเนียคือแถบฟ้าแดง ส่วนด้านขวาหมายถึงซาเกร็บ รอบๆโบสถ์จะมีโคมไฟที่ใช้น้ำมันในการจุดไฟให้สว่างตลอดเวลา เป็นธรรมเนียมมาแต่ดั้งเดิม……ชม มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น
(The Cathedral of the Assumption of the Blessed Virgin Mary) ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอ – กอธิก ในช่วงศตวรรษที่ 11 งดงามด้วยหอระฆังแฝด ปลายยอดแหลมสีทอง ภายในประดิษฐานรูปปั้นนักบุญองค์สำคัญต่างๆ อย่างนักบุญปีเตอร์ แท่นบูชาโลงแก้วบรรจุร่างจำลองของอาร์คบิชอปสตีเฟ่นผู้ต่อสู้กับลัทธิเผด็จการฟาสซิสต์ ถือว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโครเอเชีย และยังเป็นศูนย์กลางของคริสต์จักรในประเทศโครเอเชีย ด้านหน้าของมหาวิหารมีบ่อน้ำพุที่เป็นแบบ นีโอ-กอธิก บนยอดเสาเป็นรูปปั้นสีทองของพระแม่มารี ส่วนที่ฐานของเสาเป็นรูปปั้นนางฟ้าสีทองทั้ง 4 ตั้งอยู่รายรอบตัวมหาวิหาร ต่อด้วยชม ประตูหินตะวันออก (Kamenita Vrata /The Stone Gate) ประตูหินที่มีชื่อเสียงเครื่องหมายทางเข้าด้านทิศตะวันออกของเมือง ประตูสุดท้ายที่เหลืออยู่จากห้าประตู ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ตามตำนานเล่าว่า
ไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปี ค. ศ. 1731 เผาทำลายบ้านเรือนละแวกนี้จนราบคาบ ยกเว้นแต่ Stone Gate ซึ่งภายในมีรูปภาพ Jesus and Mary พร้อมมงกุฎ เป็นของที่ระลึกจากสมเด็จพระสังฆราชเมื่อคราวที่มาเยือนซาเกร็บ ที่ไม่ได้รับความเสียหายเลย ชาวบ้านเชื่อว่ารูปภาพนี้ศักดิ์สิทธิ์จึงพากันกราบไหว้บูชาหรือขอบคุณกับสิ่งปาฎิหาริย์ที่เคยขอแล้วได้ดังที่ต้องการ ท่านจะสังเกตเห็นจากแผ่นหินที่ติดโดยรอบ จะสลักคำว่า “HVALA” ที่แปลว่า “ ขอบคุณ” ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่น ผ่านชมโรงละครแห่งชาติโครเอเชีย (Croatian National Theatre) สร้างขึ้นในปี 1895 โดยรูปแบบของอาคารการสร้างสไตล์นีโอบาร็อค มีลักษณะเป็นรูปตัว U รายรอบไปด้วยสวนสาธารณะจนได้รับสมญานามว่า “The Green Horse shoe” ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของ “Marshal Tito Square” เป็นหนึ่งในจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุด ได้รับการยกย่องว่าเป็นจัตุรัสที่สวยงามที่สุดของซาเกร็บด้วย

อิสระให้ท่านเลือกซื้อของที่ระลึก/ของฝากตามอัธยาศัย ณ ตลาดกลางเมือง (Dolac Market) ตลาดเก่ากลางแจ้งที่เก่าแก่ที่มีสีสันสดใส ขายพวกไม้ดอกไม้ประดับ ผลไม้ราคาถูกและผ้าลูกไม้สีสันสวยงามแบบต่างๆ และอิสระช้อปปิ้งเพื่อละลายเงินคูนา ณ ห้างสรรพสินค้า Arena Centar ซึ่งมีสินค้าหลากหลายให้ท่านได้เลือกซื้อ แวะซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่ท่านสามารถซื้อสินค้าท้องถิ่นเป็นของฝาก เช่น ช็อคโกแลตยี่ห้อ KRAS , ไวน์ผลไม้ , น้ำมันมะกอก, เห็ดทรัฟเฟิลที่ขึ้นชื่อ ฯลฯ
11.30 น. จนได้เวลาอันสมควร….นำคณะเดินทางสู่ สนามบิน PLESO INTERNATIONAL AIRPORT แห่งเมืองซาเกร็บ อีกครั้ง และมีเวลาทำ TAX REFUND ก่อนขึ้นเครื่อง เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
15.45 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR218 (ใช้เวลาบินโดยรวม 5 ชั่วโมง 25 นาที)
22.10 น. ถึงกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง ให้ท่านได้ยืดเส้นยืดสาย และเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง DUTY FREE ใน Hamad ที่หรูหราและอลังการ มีสารพัดสิ่งให้ท่านได้เลือกซื้อ พร้อมบริการ Free WiFi ทุกซอกทุกมุมของสนามบินแห่งนี้ หมายเหตุ : เนื่องด้วยเราเดินทางมาเป็นหมู่คณะ ดังนั้นเมื่อเครื่องลงจอดแล้ว…รบกวนผู้เดินทางทุกท่านโปรดรอหัวหน้าทัวร์ของท่านก่อน เพื่อที่หัวหน้าทัวร์จะได้นำท่านลงจากเครื่องพร้อมๆกัน ไปขึ้นรถต่อไปยังอาคารสำหรับผู้โดยสารต่อเครื่อง เพื่อเป็นการป้องกันการสับสนและพลัดหลงกัน
วันที่แปด สนามบินโดฮา (แวะเปลี่ยนเครื่อง) – สนามบินสุวรรณภูมิ
01.50 น. เดินทางต่อสู่ประเทศไทย โดยสายการบินกาต้าร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR834 (ใช้เวลาบินโดยรวม 6 ชั่วโมง 55 นาที)
12.45 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ….พร้อมกับความประทับใจมิรู้ลืม 

ทัวร์ยุโรป