ทัวร์ยุโรป

วันที่ 1/ กรุงเทพฯ-สนามบินสุวรรณภูมิ
20.30 น.  พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4
ประตู 9 เคาเตอร์ U สายการบินเตอร์กิช กรุณาสังเกตุป้าย MALTA&SOUTH ITALY
23.55 น. ออกเดินทางโดยเที่ยวบินที่ TK69 BKK-ITS 22.55-05.10 น. บินประมาณ 10 ช.ม

วันที่ 2/ อิสตันบูล-ประเทศมอลตา-เมืองวัลเลตตา-หมู่บ้านป๊อปอาย
05.10 น. ถึงสนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี รอเที่ยวบินต่อสู่มอลต้า (รอประมาณ 3.10 ช.ม)
08.20 น. ออกเดินทางโดยเที่ยวบินที่ TK1369 ITS-MLA 08.20-09.45 น. บินประมาณ 2.30 ช.ม
09.45 น. เดินทางถึงสนามบินมอลตา ประเทศมอลตา หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อย นำท่านเดินทางสู่ เมืองวัลเลตตา (Valletta) เมืองหลวงของประเทศมอลตา ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1980 เป็นประเทศซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่เต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรมอันหลากหลายเนื่องจากมีการเปลี่ยนการปกครองจากหลายประเทศ แต่วัฒนธรรมถูกผสมผสานกันได้อย่างลงตัว
เที่ยง ä รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
นำท่านเข้าชม เอ็มดินา (Mdina) เมืองเก่าแก่ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งความเงียบ” (The Silent City) เพราะเป็นเมืองที่เล็ก และมีประชากรกว่า 300 คนเท่านั้น ถ้าพูดถึงความเก่าแก่ของเมืองนี้ บอกเลยว่าเก่ามากกก เพราะสร้างเมื่อปลายยุคสำริด (Bronze Age) ในช่วง 1500 – 1000 ปีก่อนคริสตกาลแหนะ แถมยังเป็นเมืองหลวงเก่าของมอลตาในยุคกลางด้วยนะ เรียกว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์หลายยุคหลายสมัย ใครที่เข้าเมืองนี้จะได้ฟีลเหมือนตัวเองหลุดเข้าไปในยุคกลาง เพราะนอกจากความเงียบงันสมชื่อแล้ว ถนนหนทางก็ยังคับแคบ บ้านเมืองก็ยังคงความโบราณไว้อยู่
นำท่านถ่ายรูปจุดชมวิว หมู่บ้านป๊อปอาย (Popeye Village) ซึ่งตั้งอยู่ที่ Anchor Bay หรือ อ่าวแองเคอร์ เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ละครเพลงสดเรื่อง “Popeye” ในปี 1980
ค่ำ  รับประทานอาหารภัตราคารอาหารในโรงแรม
 นำท่านเข้าสู๋ที่พักโรงแรม 4 ดาว Pergola Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่ 3/ เกาะโคมิโน – เกาะโกโซ B L D
เช้า  รับประทานอาหารเช้า – เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เกาะโกโซ (Gozo) เกาะแห่งคาลิปโซ่ (Isle of Calypso) เทพธิดาแห่งท้องทะเล เป็นเกาะที่มีธรรมชาติที่สวยงาม ชม หน้าต่างแห่งอาซูเร (Azure Window) ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลเป็นเวลาหลายล้านปีจนเกิดเป็นรู ลักษณะคล้ายซุ้มประตู มีความกว้างกว่า 100 เมตร และสูง 50 เมตร เมืองราบัต (Rabat) หรือ วิกตอเรีย (Victoria) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงในเกาะโกโซ ชมป้อมปราการวิคตอเรีย( Victoria Fortress) ป้อมปราการใหญ่แห่งนี้สร้างอยู่บนที่สูงของเกาะตั้งแต่ในสมัยยุคกลาง ชมเมืองเก่าชมหมู่อาคารบ้านเรือนโรมันโบราณที่ยังคงความสวยงาม
เที่ยง ä รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารอาหาร
นำท่านสู่ท่านเรือเพื่อเดินทางสู่ เกาะโคมิโน (Comino) ที่ตั้งของ Blue Lagoon สถานที่ชื่อดังที่ว่าน้ำใสแจ๋วราวกับกระจก เป็นเขตอนุรักษ์พืชพันธุ์ธรรมชาติ เมื่อได้เวลาอันควรน้ำท่านกับสู่โรงแรม
ค่ำ  รับประทานอาหารภัตราคารอาหารในโรงแรม Pergola Hotel หรือเทียบเท่า
 นำท่านเข้าสู๋ที่พักโรงแรม 4 ดาว Pergola Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่ 4/ พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ – ประเทศอิตาลี – เมืองมาเทรา B – D
เช้า  รับประทานอาหารเช้า – เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม
นำท่านเข้าชม พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grand Master Palace) อดีตพระราชวังยุคศตวรรษที่ 16 ถือครองโดยอุสตาจิโอ้ เดล มอนเต้ ญาติคนสนิทของผู้ครองแคว้นมอลตานาม ฌองป์ เดอลา วาเลตเต้ แรกเริ่มเดิมทีถูกใช้เป็นสถานที่บัญชาการรบของอัศวินในยุคนั้นและภายหลังเสร็จสิ้นสงคราม ได้ถูกต่อเติมเป็นพระราชวัง ปัจจุบันใช้เป็นอาคารรัฐสภาแห่งมอลตาหรือสถานที่ทำงานของประธานาธิบดีแห่งมอลตา จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินมอลตาเพื่อเดินทางสู่อิตาลี
13.20 น. ออกเดินทางด้วยสายการบินมอลตา เที่ยวบิน KM674 MLA-NAP 13.20-14.35
14.35 น. ถึงสนามบินเนเปิล ประเทศอิตาลี หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อย นำท่านเดินทางข้าสู่ เมือง มาเทรา (Matera) หรือ Sassi di Matera เมืองลึกลับที่งดงามในหุบเขา ที่น้อยคนนักจะรู้จักและได้ไปเยือน เป็นเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในประเทศอิตาลี (เดินทางประมาณ 3 ช.ม) เมืองนี้ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองใต้ดินหรือ เมืองมนุษย์ถ้ำ เมืองนี้สร้างอยู่ในหิน และผู้คนอาศัยอยู่ในบ้านหินโบราณที่เป็นถ้ำที่เรียกว่า ซาสซี (SASSI) มานานหลายศตวรรษ ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลก
ค่ำ  รับประทานอาหารภัตราคารอาหาร
 นำท่านเข้าสู๋ที่พักโรงแรม 4 ดาว Nazionale Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 5/ มาเทรา – Polignano a Mare B L D
เช้า  รับประทานอาหารเช้า – เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม
นำท่านชมเมืองมาเทรา (Matera) เมืองนี้จะมีสองส่วนคือส่วนเมืองเก่าและส่วนเมืองใหม่ที่รัฐบาลพยายามอพยพผู้คนให้มาอยู่ที่เมืองใหม่ แต่ก็ยังมีพลเมืองบางส่วนยังคงอาศัยอยู่ในถ้ำหินของเมืองเก่า ชมย่านเมืองเก่า สัมผัสชีวิตท่ามกลางเขาวงกตที่มีทางเดินขนาดเล็กที่ปูด้วยหิน บันไดสูงชัน และถนนที่คดเคี้ยว ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนอันแสนเก่าแก่ ไม่มีสถาปัตยกรรม หรือพระราช วังที่สวยงามใดๆ มีแต่บ้านช่องที่มีอยู่ตามถ้ำที่เรียกกันว่า ซาสซี (SASSI) และ โบสถ์รูเปสเตรียน ที่ขุดไว้ ตามโขดหินในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยูเนสโกได้กำหนดให้เป็นถิ่นฐานที่มีวัฒนธรรมที่ควรเก็บรักษาจนได้ขึ้นเป็นมรดกโลก นำท่านเข้าชมบ้านถ้ำหิน (CASA GROTTA DI VICO SOLITATIO) สัมผัสความเป็นอยู่ของมนุษย์ถ้ำแห่งเมืองนี้
เที่ยง ä รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารอาหาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมือง Polignano a Mare เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่า ที่ยังคงเสน่ห์แบบกะลาสีเรือไว้ในทุกมุม เป็นเมืองที่สามารถมองเห็นได้ง่ายในวันเดียวและมีเมืองเก่าที่สวยงาม มีความโดดเด่นในบางสิ่งเช่นบ้านที่ดู เหมือนแขวนอยู่บนหน้าผา นำท่านเดินชมหาด Lama Monachile ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ด้วยความเป็นหาดทรายเล็กๆ โอบล้อมไปด้วยหน้าผ้าสูงที่ยื่นออกไปยังทะเลและยังมีบ้านสีขาวตั้งโดดเด่นเหน้าหน้าผา ทำให้เป็นชายหาดที่แปลกตาและสวยงามอย่างมาก นำท่านสู่ Grotta Palazzese ร้านอาหารที่อยู่ในถ้ำเมื่อได้เวลาอันควรนำท่านเดินทางสู่ที่พัก
ค่ำ  รับประทานอาหารภัตราคารอาหาร Grotta Palazzese
 นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม 4 ดาว d’Aragona หรือเทียบเท่า

วันที่ 6/ อัลเบอโรเบลโร – อมัลฟี่โคสท์ – เมืองโพสิตาโน B L D
เช้า  รับประทานอาหารเช้า – เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมือง อัลเบอโรเบลโร (Alberobello) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นำท่านชมหมู่บ้านสวยแปลกตา The Trulli of Alberobello หมู่บ้านเก่าแก่ที่มีประวัติเกือบพันปี ด้วยความโดดเด่นของบ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์เป็นรูปหลังคากรวยมียอดแหลมกลมส่งผลให้หมู่บ้านนี้มีความสวยแปลกตา ด้วยความมีเอกลักษณ์และประวัติที่เก่าแก่ของหมู่บ้านแห่งนี้ ทำให้ในปี 1996 ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)

เที่ยง ä รับประทานอาหาร ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
บ่าย จากนั้น อมัลฟี่โคสท์ (AMALFI COAST) ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ซี่งได้รับการยกย่องว่าเป็นชายฝั่งที่สวยที่สุดในยุโรป โดยถนนจะแคบมาก และเส้นทางจะเลียบไปตามหน้าผาสูงชัน จนถึงเมืองหลัก 3 เมือง คือ โพสิตาโน อมัลฟี และราเวลโล เส้นทางเลียบชายฝั่งและเมืองทั้งสามได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ในปี ค.ศ.1997
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโพสิตาโน (POSITANO) เมืองเล็กๆแต่มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหลตั้งอยู่ตามหน้าผาแคบ ๆ อันมียอดโดมของโบสถ์ซานตา มาเรีย อัสสันต้า เป็นสัญญลักษณ์ของเมือง ผ่านชมบ้านเรือนที่ตั้งเรียงรายอยู่บนหน้าผา ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศชวนมอง
ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำ ภัตตาคารอาหาร
 นำท่านเข้าสู๋ที่พักโรงแรม 4 ดาว Da Salvatore Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 7/ เกาะคาปรี – อมาลฟี B L D
เช้า  รับประทานอาหารเช้า
นำท่านสู่ท่าเรือเพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามไปสู่ เกาะคาปรี (Capri) เกาะที่มีเสน่ห์เป็นของตัวเองมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟวิซูสเวียส นำท่านนั่งรถรางขึ้นสู่ยอดเขาคาปรี (คาปรีเซนเตอร์) นำท่านเดินชมเขตตัว เมืองที่มีบรรยากาศน่ารัก และแวะพักที่สวนออกุสต้า พร้อมบันทึกภาพกับโขดหิน FARAGLIONI สัญลักษณ์ของเกาะคาปรี นำท่านชมล่องเรือเพื่อไปชม ถ้ำบลูกร๊อตโต้ ( Blue Grotto ) ถ้ำที่อยู่ในทะเลมีแสงสะท้อนสีฟ้าจากน้ำทะเลขั้นมากระทบถ้ำสวยงามยิ่งนัก
หมายเหตุ : การชมถ้ำบลูกร๊อตโต้ ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเอื้ออำนวยด้วย เช็ควันต่อวัน
เที่ยง ä รับประทานอาหาร ภัตตาคารอาหาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ท่านเรือเพื่อเดินทางชมเมือง อมาลฟี เมืองนี้เคยเป็นเมืองที่มีอํานาจทาง ทะเล ต่อมาคาดว่าเกิดแผ่นดินถล่มจมหายไปในทะเล เมืองนี้จึงกลายเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ มีประชากรราว 3 พันคน มีมหาวิหารใหญ่ ที่สวยงาม นำท่านชมตัวเมืองอมาลฟี นำท่านเข้าชมมหาวิหารใหญ่ที่สวยงามคือ มหาวิหารเซ็นท์แอนเดรีย “Duomo di Sant’Andre” ใจกลางเมือง มีอายุเก่าแก่กว่า 900 ปี
ค่ำ  รับประทานอาหาร ภัตราคารอาหาร
 นำท่านเข้าสู๋ที่พักโรงแรม 4 ดาว Da Salvatore Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่ 8/ อมาลฟี – เนเปิล – อิสตันบูล B L –
เช้า  รับประทานอาหารเช้า – เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม
นำท่านชมเมือง ราเวลโล่ เมืองตากอากาศบนเขาสูง ด้านหน้าเป็นวิว ทะเลสวยมากถึงมากที่สุด ด้านหลังเป็นวิวภูเขาสูง ตัวเมืองเป็นบ้านเก่าๆ เล็กๆ อยู่ข้างๆ จตุรัสมีร้านกาแฟน่ารักอยู่ รอบๆ นำท่านเดินชมตัวเมืองเริ่มจากจตุรัสกลางเมืองเวสโควาโด (PIAZZA VESCOVADO) โบสถ์ประจำเมืองอายุกว่า 800 ปี ชม ประตูสัมฤทธิ์ (THE BRONZE DOOR) ที่มีภาพสลักเรื่องราวของพระคริสต์ถึง 54 ช่อง ชมวิวสวยรอบจตุรัส และวิลล่า รูโฟโล (VILLA RUFOLO) คฤหาสน์บนหน้าผาริมทะเลที่สวยงาม ภายในมีสวนดอกไม้ริมหน้าผา
เที่ยง ä รับประทานอาหาร ภัตตาคารอาหาร
อิสระถ่ายรูปหรือเลือกนั่งรถชมวิวด้วยรถคลาสสิก หรือจะเป็นเช่ารถเวสปาแบบอิตาลี
จากนั้นเมื่อได้เวลาอันควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินเนเปิลเพื่อกลับสู่ประเทศไทย
19.35 น. ออกเดินทางโดยเที่ยวบินที่ TK1880 NAP-BKK 19.35-22.55 น. บินประมาณ 2 ช.ม
22.55 น. ถึงสนามบินอิสดันบูลเพื่อรอเปลื่ยนเครื่องสู่ประเทศไทย (รอประมาณ 2.15 ช.ม)
วันที่ 9/ อิสตันบูล – สุวรรณภูมิ
01.45 น. ออกเดินทางโดยเที่ยวบินที่ TK68 IST-BKK 01.45-15.25 น. บินประมาณ 10 ช.ม
15.25 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ 

ทัวร์ยุโรป