1718785917

ทัวร์ยุโรป TASTING ON THE EIFFEL TOWER 10 วัน 7 คืน (EK)

ราคาเริ่มต้น 93,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: Image

นำท่านเข้าสู่ถนนสายโรแมนติก ชองป์เอลิเซ่ Champs Elysees ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัยนโปเลียน นำชมและถ่ายรูปคู่กับประตูชัยนโปเลียน Arc de Triomphe สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนในศึก เอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836 แล้วจากนั้นนำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหอไอเฟล Tour Eiffel สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1889 ที่บริเวณจัตุรัสทรอคคาเดโร่

วันที่เดินทาง

18 ต.ค. 67 – 27 ต.ค. 67, 10 ต.ค. 67 – 19 ต.ค. 67, 28 พ.ย. 67 – 7 ธ.ค. 67

ทัวร์ยุโรป 
วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ
18.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 8 สายการบิน Emirates เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
**กำหนดการเดินทาง 28 พ.ย.-7 ธ.ค.67 เวลานัดหมายที่สนามบินสุวรรณภูมิปรับเวลาเป็น 17.30 น.**
21.25 ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK373
**กำหนดการเดินทาง 28 พ.ย.-7 ธ.ค.67 เวลาออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิปรับเวลาเป็น 20.35 น.**

วันที่สอง สนามบินดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ปารีส – ล่องเรือแม่น้ำแซน – ถ่ายรูปพิพิธภัณฑ์ลุฟวร์ – ช้อปปิ้งร้านค้าปลอดภาษี – ห้างลา ซามาริแตง (ฝรั่งเศส)
00.50 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้ท่านรอเปลี่ยนเครื่อง
04.05 น. ออกเดินทางจากสนามบินดูไบ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK71
**กำหนดการเดินทาง 28 พ.ย.-7 ธ.ค.67 เวลาออกเดินทางจากสนามบินดูไบ ปรับเวลาเป็น 03.20 น.**
09.25 น. ถึงท่าอากาศยานชาร์ล เดอ โกลด์ ประเทศฝรั่งเศส นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั๋วโมง)
**กำหนดการเดินทาง 28 พ.ย.-7 ธ.ค.67 เวลาเดินทางถึงสนามบินชาร์ลเดอโกลล์ปรับเวลาเป็น 08.00 น.**
นำท่านเดินทางสู่มหานครปารีส Paris เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแลวัฒนธรรมที่ล้าสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทาให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สาคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำท่านเที่ยวชมความงดงามของมหานครปารีส ผ่านชมความสวยงามของแม่น้าแซนที่ตัดผ่านใจกลางกรุงปารีส ข้ามสะพานสู่ เกาะเดอ ลา ซิเต้ กลางแม่น้ำแซน ผ่านลานประวัติศาสตร์จัตุรัสคองคอร์ด Place de la Concorde ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเนต ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำท่านล่องเรือแม่น้ำแซน ไปตามแม่น้ำแซน ที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของอาคารต่างๆ ตลอดสองฝั่งแม่น้ำนับว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจโดยเรือจะล่องผ่านมหาวิหารนอเตรอดามแห่งปารีส Notre-dame de Paris อายุกว่า 800 ปี เป็นมหาวิหารสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่งามเลิศ โดดเด่นด้วยหอคอยคู่หน้าทรงเหลี่ยมและยอดปลายแหลมบนหลังคาวิหารสูงจากระดับพื้นดินถึง 96 เมตร เป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารี อังตัวแนตต์ และยังเป็นจุดกิโลเมตรที่ 0 ของประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย

นำท่านถ่ายรูปคู่กับพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ Louvre Museum พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงและยังมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในอดีตที่นี่เคยเป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์กาเปเซียง ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นที่จัดแสดงผลงานกว่า 35,000 ชิ้น ในพื้นที่กว่า 60,600 ตารางเมตร และมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากถึง 9.7 ล้านคนต่อปี และที่นี่ยังเป็นที่จัดแสดงของภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ภาพโมนาลิซา (Monalisa) ของเลโอนาร์โด ดาวินชี ศิลปินผู้มีชื่อเสียงชาวอิตาลี อีกด้วย จากนั้นแวะช้อปิ้งสินค้าแบรนด์เนมจากร้านค้าปลอดภาษีจากร้าน Paris Look จากนั้นนำท่านเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลกอย่าง ลา ซามาริแตง La Samaritaine ที่ก่อตั้งในปี 1870 โดย Ernest Cognacq และ Marie-Louise Jaÿ โดยสถาปนิกผู้ออกแบบคือ Frantz Jourdain โดยเป็นอาคารเก่าแก่คลาสสิกที่ถูกขึ้นทะเบียน Monument Historique ให้เป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1990 พบกับความหรูหร่าโดดเด่นทั้งภายนอก และ ภายในอาคารของห้างด้วยศิลปะหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ภาพวาดฝาผนัง , แผงประดับอาคารที่แสนวิจิตร มีเสน่ห์เฉพาะตัว มีการผสมผสานระหว่างศิลปะอาร์ตนูโว (Art Nouveau) กับอาร์ตเดโค (Art Déco) ได้อย่างลงตัว และภายในอาคารยังมีโครงสร้างเหล็กอันมีเอกลักษณ์ที่ถอดแบบลักษณะมาจากหอไอเฟล ซึ่งห้างได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา และกลายเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ ที่เน้นย้ำถึงเสน่ห์ของปารีส มีร้านค้าระดับพรีเมียม อาหาร และงานศิลปะ รวมแล้วกว่า 600 แบรนด์ มีนิทรรศการที่จะสลับหมุนเวียนให้ได้ชมตลอด

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พิเศษ!! เมนูหอยเอสคาร์โก เมนูยอดนิยมและเอกลักษณ์ฝรั่งเศส
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hampton by Hilton Paris Clichy หรือระดับเทียบเท่า

วันที่สาม ปารีส – มงมาร์ต – อาหารกลางวันบนหอไอเฟล – ปารีส ถ่ายรูปประตูชัย ชองป์เอลิเซ่ – ช้อปปิ้งแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (ฝรั่งเศส)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ย่านมงมาร์ต Montmartre ย่านศิลปินมากว่า 200 ปี สัมผัสกับมนต์เสน่ห์และกลิ่นอายของวันวานที่ศิลปะในฝรั่งเศสรุ่งเรืองถึงขีดสุด ชมวิวสวยของนครปารีสจากด้านหน้าบันไดของวิหารสเกรเกอร์ (Basilica of Sacre Coeur) วิหารสีขาวที่เป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของปารีส นำท่านเข้าชมวิหารสเกรเกอร์ วิหารในคริสตจักรโรมันคาทอลิก สถานที่ที่ถูกขนานนามว่าเป็นหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของปารีส สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่พระหฤทัยของพระเยซู ถูกออกแบบโดยโปล อะบาดี สถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นหนึ่งใน 77 สถาปนิกผู้ชนะการประกวด เริ่มการก่อสร้างในปี ค.ศ.1875 และเสร็จสิ้นในปี ค.ศ.1914 จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่นครปารีส

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนหอไอเฟลพร้อมชมวิวกรุงปารีสอันแสนโรแมนติค
บ่าย นำท่านเข้าสู่ถนนสายโรแมนติก ชองป์เอลิเซ่ Champs Elysees ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัยนโปเลียน นำชมและถ่ายรูปคู่กับประตูชัยนโปเลียน Arc de Triomphe สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนในศึก เอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836 แล้วจากนั้นนำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหอไอเฟล Tour Eiffel สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1889 ที่บริเวณจัตุรัสทรอคคาเดโร่
จากนั้นพาท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยนักชอปปิ้งจากทั่วทุกมุมโลกในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุง ปารีสที่แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ Galleries Lafayette หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดอยู่ใจกลางกรุงปารีส โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hampton by Hilton Paris Clichy หรือระดับเทียบเท่า

วันที่สี่ ปารีส (ฝรั่งเศส) – บรูกส์ – บรัสเซลส์ (เบลเยี่ยม)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
รถโค้ชนำเดินทางสู่ เมืองบรูกส์ Bruges เมืองริมชายฝั่งทะเลที่มีชื่อเสียงของประเทศเบลเยียมและได้รับเลือกเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ โดยมีสมญานามว่า เวนิสแห่งยุโรปเหนือ เพราะเป็นเมืองที่มีการใช้ลำคลองในการสัญจรรอบๆ เมืองได้ ลักษณะของเมืองนี้ล้อมรอบด้วยคูเมืองสองชั้นและมีอาคาร โบสถ์ บ้านเรือน ถนนที่สะอาดสวยงาม ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นสถาปัตยกรรมแบบ เฟลมมิช และแบบเรเนซองค์ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย นำชมจัตุรัสใจกลางเมือง หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองบรูกส์ ถ่ายรูปกับหอระฆังเก่าแก่ที่มีประวัติอันยาวนานและมีประติมากรรมที่งดงามที่ชื่อว่า Madonna & Child ซึ่งเป็นประติมากรรมที่อยู่ภายในโบสถ์พระแม่มารี มีลักษณะเป็นหินอ่อนที่มีการแกะสลักโดย ไมเคิลแอนเจโล ซึ่งในปัจจุบันได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดศิลปินเอกของโลกชาวอิตาเลียน จากนั้นชมจัตุรัสมาร์ก Market Square หรือตลาดที่คึกคักกลางเมืองล้อมรอบด้วยอาคารหลากสีสัน ถ่ายรูปกับ Basilica of the Holy Blood โบสถ์พระโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์ที่มีความโดดเด่นด้านงานสถาปัตยกรรมที่ละเอียดอ่อน

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่กรุงบรัสเซลส์ Brussels เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม สถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำท่านเข้าสู่จัตุรัสกรองด์ปลาสต์ Grand Place ที่มีชื่อเสียงกล่าวขานกันว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ชมศาลาว่าการเมืองและอาคารที่สวยงามโดยรอบจัตุรัส นำชมและถ่ายรูปกับเมเนเก้นพีส Manneken pis ซึ่งเป็นประติมากรรมเด็กชายตัวเล็กๆกำลังยืนแอ่นตัวปัสสาวะอย่างน่ารัก ผู้สร้างประวัติศาสตร์และตำนานพื้นเมืองของชาวเบลเยี่ยมซึ่งมีการเล่าขานกันมาหลากหลายตำนาน เช่น มีเด็กชายชื่อจูเลียนสกี มาพบสายชนวนระเบิดกำลังติดไฟ จึงปัสสาวะรดเพื่อดับชนวนและป้องกันเมืองไว้ได้ ชาวเมืองจึงทำรูปแกะสลักนี้ เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง ด้วยเมนูหอยแมลงภู่อบไวน์ขาว เมนูเอกลักษณ์ชาวเบลเยี่ยม
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก Off Meeting Brussels หรือระดับเทียบเท่า

วันที่ห้า บรัสเซลส์ (เบลเยี่ยม) – รอตเตอร์ดัม – อัมสเตอร์ดัม – ล่องเรือหลังคากระจก – สถาบันสอนการเจียระไนเพชร – จัตุรัสดัมสแควร์ (เนเธอร์แลนด์)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองรอตเตอร์ดัม Rotterdam เมืองท่าหลักและเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมาส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) ในปี ค.ศ. 2007 เมืองนี้ได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็น “เมืองแห่งสถาปัตยกรรม ปัจจุบันเมืองรอตเตอร์ดัมเป็นศูนย์กลางการค้าโลกในยุโรป อเมริกา และแอฟริกา และที่นี่มีระบบการขนส่งที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งระหว่างประเทศหรือภายในประเทศ เช่น รถไฟฟ้าใต้ดิน รถบัส รถราง และรถไฟ ที่สะอาดและตรงเวลา นำท่านแวะถ่ายรูปกับบ้านลูกเต๋า ไคก์คูมูส Kiji kubus The Cubic Houses กลุ่มอาคารเหลืองขาวทรงลูกเต๋า 39 หลัง ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศการออกแบบสาขาประหยัดพลังงาน โดยสถาปนิกนาม Piet Bloem นำท่านเข้าสู่ Markthal อาคารคอมเพล็กสุดทันสมัยใจกลางเมือง โครงสร้างอาคารตกแต่งด้วยกระจก ประกอบ่ไปด้วยร้านค้าต่างๆ ในพื้นที่กว่า 4,600 ตรม. มีร้านค้ามากกว่า 100 ร้าน ทั้งร้านอาหาร, ซุปเปอร์มาร์เก็ต, รวมไปถึงด้านบนเป็นที่พักอาศัยถึง 228 ห้อง มีเวลาให้ท่านสัมผัสบรรยาศกาศที่มีชีวิตชีวาของชาวเมือง สนุกกับการเลือกซื้อสินค้า ทั้งของกิน ของใช้ ของฝากมากมาย
กลางวัน อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

บ่าย นำท่านเดินทางสู่กรุงอัมสเตอดัม Amsterdam เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ เมืองแห่งแสงสี และอิสรเสรีภาพ ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
นำท่านชมเมืองอัมสเตอร์ดัมโดยการล่องเรือหลังคากระจก ลัดเลี้ยวเข้าตามลำคลอง สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้งสภาพบ้านเรือนเก่าแก่อันงดงามสืบทอดมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 และทัศนียภาพของบ้านเรือนอันสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ นำท่านเข้าชมสถาบันสอนการเจียระไนเพชร ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งท่านจะได้สัมผัสและเรียนรู้พื้นฐานในการดูและการเจียระไนเพชรในรูปแบบต่างๆ พร้อมกันนั้นยังได้มีโอกาสเลือกซื้อเพชรเม็ดงามในราคาโรงงาน และท่านสามารถเลือกชมสินค้าอื่น อย่างนาฬิกายี่ห้อดังมากมาย อาทิ เช่น Rolex, Panerai, Tag Heuer, IWC, Piaget, Longines, Omega, Cartier, Breitling รวมไปถึงนาฬิกาแฟชั่นอย่าง GUCCI, Diesel, DKNY, Chanel, ICE, Emporio Armani, Swatch, Michael Kors, Tommy ฯลฯ นำท่านเดินเที่ยวชมและเลือกซื้อสินค้าที่บริเวณจัตุรัสดัมสแควร์ Dam Square ศูนย์กลางของเมืองที่มีอนุสรณ์สงครามเพื่อรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 และอดีตศาลาว่าการเมืองที่หลุยส์ โบนาปาร์ต เคยใช้เป็นพระราชวังหลวงในช่วงที่จักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศสเรืองอำนาจ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Best Western Plus Amstelveen หรือระดับเทียบเท่า

วันที่หก อัมสเตอร์ดัม – หมู่บ้านกีธูร์น – ล่องเรือชมหมู่บ้านกีธูร์น – โวเลนดัม – หมู่บ้านกังหันลมซานสคันส์ – อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำเดินทางโดยรถโค้ชสู่ หมู่บ้านกีธูร์น Giethoorn Village หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) หมู่บ้านที่อาศัยการสัญจรทางน้ำเพียงอย่างเดียว จนได้ฉายาว่าเป็น “หมู่บ้านไร้ถนน” มีผู้คนอาศัยเพียงแค่ 2,600 กว่าคนแต่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนนับล้านคน นำท่านดื่มด่ำกับการล่องเรือผ่านลำคลองน้ำใส ต้นไม้ใบหญ้า และอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นดั่งสวรรค์สำหรับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์อย่างแท้จริง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองโวเลนดัม Volendam เมืองชายทะเลที่มีหมู่บ้านชาวประมงสไตล์ดัตช์แบบดั้งเดิมตั้งเรียงรายอยู่ริมทะเล จนได้รับฉายา ไข่มุกแห่งซุยเดอร์ ซี The Pearl of the Zuiderzee จัดว่าเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างมากแห่งหนึ่งของเนเธอร์แลนด์ และยังเป็นแหล่งผลิดตชีสที่มีชื่อเสียง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เดินเล่นชมบรรยากาศบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้ทาสีสันสดใสและท่าเรือเก่าและหมู่บ้านชาวประมง ซื้อสินค้าเอกลัษณ์ของชาวดัตช์ อาทิ ชีส หรือขนมสตรูปวาฟเฟิล แป้งบางสองชั้นประกบกันราดด้วยซอสคาราเมล และร้านค้าต่างๆ มากมาย

จากนั้นเดินทางสู่ หมู่บ้านกังหันลมซานสคันส์ Zaanse Schans (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับกังหันลม สัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาวดัตช์ และเรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กของประเทศและชมการสาธิตวิธีการผลิตรองเท้าไม้ของชาวดัตช์ที่ใช้ใส่ในชีวิตประจำวันในงานอาชีพต่างๆพร้อมเชิญเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่เมืองอัมสเตอร์ดัม (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที)
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Best Western Plus Amstelveen หรือระดับเทียบเท่า

วันที่เจ็ด อัมสเตอร์ดัม – โรมอนด์เอ๊าท์เล็ต (เนเธอร์แลนด์) – ลักเซมเบิร์ก
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ Roermond Village Ouetlet เอ๊าท์เล็ตในเครือแม็คอาร์เธอร์เกล็นดีไซเนอร์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.15 ชั่วโมง) ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมที่นำมาจัดรายการต่างๆ อาทิ Tag Heuer, Adidas, BOSS, Burberry, Calvin Klein, Coach, Diesel, Fossil, Gucci, Guess, L’Occitane, Levi’s, New Balance, Nike, Oakley, Polo, Prada, Puma, Samsonite, Superdry, Under Armour, VANS เป็นต้น
กลางวัน อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัยภายในเอ๊าท์เล็ต
บ่าย สมควรแก่เวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่กรุงลักเซมเบิร์ก Luxembourg ประเทศลักเซมเบิร์ก นครรัฐที่มีพื้นที่ขนาดเล็กที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป มีขนาด 2,586 ตร.กม. (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) นำชมย่านเมืองเก่าแห่งลักเซมเบิร์ก เมืองแห่งแกรนด์ดยุค ชมสะพานสมัยโรมัน โบสถ์โนเตรอะดาม ประติมากรรมสำริดของแกรนด์ดัชเชส ชาร์ล็อตต์ ศาลาว่าการเมือง พระราชวังที่ประทับของแกรนด์ดยุค ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองที่บ้านเรือนตั้งเรียงรายอยู่ในแนวหุบเขาดูสวยงามยิ่ง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hotel de la Poste หรือระดับเทียบเท่า

วันที่แปด ลักเซมเบิร์ก – สตราสบรูก – กอลมาร์ (ฝรั่งเศส) – ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนเข้าสู่เขตประเทศฝรั่งเศสอีกครั้งที่เมืองสตราสบูร์ก Strasbourg ประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส Alsace ที่มี 2 วัฒนธรรม คือฝรั่งเศสและเยอรมนี เนื่องจากผลัดกันอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.15 ชั่วโมง) สตราสบูร์ก จัดเป็นเมืองใหญ่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่นชม นำท่านชมย่านริมน้ำฝรั่งเศสน้อย หรือ La Petite France หรือ Little France เป็นย่านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ที่เกาะใหญ่ กร็องดีล Grande Île บนถนน Rue des Moulins พื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำอิล River III ทั้งสี่ด้าน นับว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเมืองสตราสบูร์กที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เป็นหนึ่งในจุดสำคัญที่สุดของเมืองนี้ ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมบ้านเรือนริมน้ำต่างๆ อีกทั้งยังได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตคารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองกอลมาร์ Colmar ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของไวน์แห่งแคว้นอาลซัส Capitale des Vins d’Alsace (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงบรรยากาศของเมืองโบราณ โดยเฉพาะในตัวเมืองเก่าที่เรียงรายไปด้วยเรือนไม้เก่าแก่ ร้านค้าสวยงาม โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่ อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลางได้อย่างดีสุดแห่งหนึ่งในประเทศ เมืองนี้มีคลองตัดไปมา จนได้รับสมญานามว่า “Little Venice” นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารเซ็นต์มาร์ติน โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากหินสีชมพูทั้งหลัง สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ.1234 – 1365 ถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองกอลมาร์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่สวยงามโอ่อ่า

จากนั้นนำท่านข้ามพรมแดนเข้าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเดินทางเข้าสู่ เมืองซูริค Zurich เมืองขนาดใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์และเป็นเมืองหลวงของรัฐซูริคและยังเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญของประเทศและของทวีปยุโรปและเป็นที่ตั้งของสนามบินและสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุด การจราจรหนาแน่นที่สุดในประเทศ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Harry’s Home Zurich-Wallisellen หรือระดับเทียบเท่า

วันที่เก้า ซูริค – ซุก – ลูเซิร์น – ยอดเขาทิตลิส – สนามบินซูริค (สวิตเซอร์แลนด์)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองซุก Zug เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่ำจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก Clock Tower แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมืองซุก นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น Lucerne เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) นำท่านชมสิงโตหินแกะสลัก Dying Lion of Lucerne ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปลChapel Bridge ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโก แลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น

กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย นำท่านเดินทางสู่สถานีกระเช้าเมืองเมืองแองเกิลเบิร์กเพื่อขึ้นกระเช้าโรแตร์ทันสมัยระบบใหม่ล่าสุดหมุน 360 องศา รอบตัวเอง ชมทัศนียภาพอันตระการตาได้รอบทิศทางตามเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาทิตลิส Titlis เข้าชมถ้ำน้ำแข็ง Ice Grotto ที่ไม่เคยละลาย เชิญเพลิดเพลินสนุกสนานกับการเล่นหิมะบนลานสกี สุดแสนประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ชมทิวทัศน์ของยอดเขาต่างๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลนสร้างความงดงามให้กับขุนเขาเป็นอันมาก ให้เวลาท่านเดินข้าม” The Titlis Cliff Walk “สะพานแขวนที่ตั้งอยู่สูงที่สุดของทวีปยุโรป ที่ความสูง 3,041 เมตรจากระดับน้ำทะเล สะพานมีความยาว 100 เมตร ท่านจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ อันสวยงามแบบกว้างไกลสุดสายตา (สะพานแขวนอาจจะปิด ในกรณีถ้าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย)

17.00 น. สมควรแก่เวลานำท่านลงจากยอดเขา รถโค้ชรับท่าน นำท่านเดินทางสู่สนามบินซูริค และเผื่อเวลาในการทำคืนภาษี Tax Refund และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี Duty Free ภายในสนามบิน
22.15 น. นำท่านเดินทางออกจากสนามบินซูริค โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK086
**กำหนดการเดินทาง 28 พ.ย.-7 ธ.ค.67 เวลาออกเดินทางจากสนามบินซูริคปรับเวลาเป็น 21.50 น.**

วันที่สิบ สนามบินดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) – สนามบินสุวรรณภูมิ
06.25 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้ท่านรอเปลี่ยนเครี่อง
**กำหนดการเดินทาง 28 พ.ย.-7 ธ.ค.67 เวลาถึงสนามบินดูไบ ปรับเวลาเป็น 07.05 น.**
09.40 น. ออกเดินทางจากสนามบินดูไบ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบิน EK372
**กำหนดการเดินทาง 28 พ.ย.-7 ธ.ค.67 เวลาออกเดินทางจากสนามบินดูไบปรับเวลาเป็น 09.30 น.**
19.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรณณภูมิโดยสวัสดิภาพ.
**กำหนดการเดินทางเดือน พ.ย.เป็นต้นไป เวลาเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิปรับเวลาเป็น 18.40 น.**
ทัวร์ยุโรป