UIEU009

ทัวร์ยุโรป อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส 9 วัน

ราคาเริ่มต้น 115,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

กรุงโรม หอเอนปิซ่า ชิงเควเทเร่ นั่งรถไฟเที่ยวลาสเปเซีย

ขึ้นยอดเขาจุงฟราว นั่งรถไฟ TGV ล่องเรือแม่น้ำแซนน์

โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว

วันที่เดินทาง

21 ต.ค. 67 – 29 ต.ค. 67, 20 ก.ย. 67 – 28 ก.ย. 67, 5 ต.ค. 67 – 13 ต.ค. 67

ทัวร์ยุโรป
23.00 น.  คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
02.50 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK377 ( บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
06.00 น. เดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
09.10 น.  ออกเดินทางสู่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK097 ( บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
13.25 น.  เดินทางถึง สนามบินกรุงโรม ประเทศอิตาลี หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงโรม (Rome) เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอิตาลี นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต่างเดินทางไปกรุงโรมเพื่อชื่นชมกับศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์แห่งความยิ่งใหญ่ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขาทั้ง 7 ริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ตอนกลางของประเทศ โรมเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตกและในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านหน้าของ สนามกีฬาโคลอสเซี่ยม (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ในอดีตนั้นเป็นสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน จากนั้นนำท่านชมงานประติมากรรมของเทพนิยายกรีกและโยนเหรียญอธิษฐานบริเวณ น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) สัญลักษณ์ของกรุงโรมที่โด่งดัง แล้วเชิญอิสระตามอัธยาศัยกับการเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นและของที่ระลึกในบริเวณย่าน บันไดสเปน (The Spanish Step) ซึ่งเป็นแหล่งแฟชั่นชั้นนำสุดหรูและยังเป็นแหล่งนัดพบของชาวอิตาเลี่ยน
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 Marriott Rome Park Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครรัฐวาติกัน (Vatican) ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกำแพงล้อมรอบเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าทางเข้า และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก โดยมีพระสันตะปาปา มีอำนาจปกครองสูงสุด นำท่านชมมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica)

เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟลอเรนซ์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เมืองสวยอันดับ 1 ของอิตาลี เมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าหากมาอิตาลีแล้วไม่ได้มาเยือนฟลอเรนซ์ก็เหมือนว่ายังมาไม่ถึงอิตาลีอย่างแท้จริง เมืองเก่าที่มีความเจริญสูงสุดในศตวรรษที่ 13-16 เมืองที่ถือเป็นต้นกำเนิดของชาวอิตาลี เป็นเมืองที่ยังคงความสวยงามและมีการอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดี เมืองทั้งเมืองเต็มไปด้วยศิลปะ โดยเฉพาะศิลปะยุคเรเนสซองส์เป็นยุคที่ศิลปะเฟื่องฟูที่สุด นำท่านเดินทางสู่เนินเขา Piazzale Michelangelo เพื่อชมวิวของเมือง Florence ที่นักท่องเที่ยวรวมไปถึงชาว Florence เอง มักขึ้นมาชมบรรยากาศในมุมสูงของเมือง ซึ่งจะเห็นหลังคาสีแดงของอาคารบ้านเรือนต่างๆ รวมไปถึง Duomo เรียงรายกันเป็นแนวสวยงามยิ่งนัก อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 Grand Hotel Mediterraneo, Florence หรือเทียบเท่า

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เป็นเมืองเล็กๆอยู่ทางตะวันตกของ Florence ด้านตะวันตกของเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ Pisa ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และนำท่านเดินทางเข้าสู่ บริเวณ จัตุรัสดูโอโมแห่งปิซ่า หรือ จัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli) ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ชม มหาวิหารดูโอโม (Duomo) ที่งดงามและหอเอนแห่งเมืองปิซ่าอันเลื่องชื่อ นำท่านถ่ายภาพคู่กับ หอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน จากนั้นให้ท่านอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกราคาถูก ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย

เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลา สเปเซีย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง จากนั้นนำท่านเดินทางต่อด้วยรถไฟสู่หมู่บ้านมรดกโลกและอุทยานแห่งชาติ ชิงเคว เทเร (Cinque Terre) Cinque Terre อ่านว่า ชิงเคว เทเร หรือแปลในความหมายตามภาษาอังกฤษก็คือ The Five Land แดนมหัศจรรย์ทั้ง 5 ที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นดินแดนแห่งความงดงาม หมู่บ้านเล็กๆ 5 หมู่บ้านที่ซ่อนตัวเองอยู่ห่างไกลจากสายตาของคนภายนอก แผ่นดินที่ยากจะเข้าถึงได้โดยง่าย หมู่บ้านเล็กๆ 5 หมู่บ้านที่ตั้งเรียงอยู่มิห่างกัน นำคณะเที่ยวชม ชิงเคว เทเร เป็นพื้นที่ UNESCO ประกาศให้เป็นมรดกโลก ด้วยทำเลที่ตั้งของทั้งหมดอยู่บนภูเขาสูง โดนมีหน้าผาสูงชัน และทะเลกว้างใหญ่เป็นฉากหน้า ทำให้มีความสวยงามประดุจดังภาพวาด จึงเป็นอุปสรรคสำหรับผู้คนจากภายนอกในการที่จะเข้าไปให้ถึงเพชรกลางมงกุฎเม็ดนี้ยิ่งนัก แต่ในแง่ดีก็คือ หมู่บ้านทั้งห้า ยังคงสภาพดั้งเดิมของมันมาได้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ประกอบไปด้วย Monterosso al Mare (มอนเตรอสโซ อัล มาเร), Vernazza (เวร์นาซซา), Corniglia (คอร์นีเลีย) , Manarola (มานาโรลา) และ Riomaggiore (ริโอมัจจอร์เร)
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองเจนัว (GENOA) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง หนึ่งในเมืองใหญ่ของอิตาลี ทั้งยังเป็นรัฐอิสระที่ตั้งอยู่ที่ลิกูเรีย ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของฝั่งทะเลอิตาลีที่มีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 และด้วยสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมต่อการเดินเรือนี่เอง จึงส่งผลให้เมืองเจนัวกลายเป็นเมืองท่าที่สําคัญริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางฝั่งตะวันตกของอิตาลี
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 Holiday Inn Genoa City หรือเทียบเท่า

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงมิลาน (MILAN) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง ประเทศอิตาลี เมืองสำคัญทาง ภาคเหนือของอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์เดีย ชื่อเมืองมิลานมาจากภาษาเซลต์คำว่า MID-LAN ซึ่งหมายถึงอยู่กลางที่ราบ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ นำท่านเที่ยวชม ปิอาซซ่า เดล ดูโอโม่ (Piazza Del Duomo) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือ ที่เรียกว่าดูโอโม่ (DUOMO) ชื่อนี้ไว้ใช้เรียกมหาวิหารประจำเมือง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 แล้วเสร็จ 400 กว่าปีหลังจากนั้น ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเรียกว่า “มหาวิหารเม่น” มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่างๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูป บนยอดของมหาวิหารมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่า และบริเวณนั้นยังเป็นศูนย์กลางแหล่งชุมนุมของผู้คนมาทุกยุคสมัย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปตามอัธยาศัย
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเดินทางต่อไปยัง เมืองลูเซิร์น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.45 ชั่วโมง อดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม จากนั้นนำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับ สะพานไม้ชาเปล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด จากนั้นนำท่านเที่ยวชม รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
ค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 Radisson Blu Lucerne หรือเทียบเท่า

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินเดอร์วาล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง และนำท่านเดินทางขึ้นสู่ ยอดเขาจุงฟราว TOP OF EUROPE โดยกระช้าไฟฟ้า EIGER EXPRESS ซึ่งเป็นกระเช้าใหม่ล่าสุดที่จะพาทุกท่านขึ้นสู่ยอดเขาในเวลาเพียง 15 นาที (จากสถานี Grindelwald Terminal ไปยัง Eiger Glacier Terminal)

ซึ่งยอดเขาจุงฟราวได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกของสวิตเซอร์แลนด์ ที่อยู่บนความสูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 4,158 เมตร ที่มี่หิมะปกคลุมตลอดทั้งปี นำท่านชม กลาเซียร์ หรือธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ จากนั้นสนุกสนานกับการเล่นหิมะในลานกว้าง (Plateau) หรือเลือกเดินไปยัง SPHINX ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป สามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร หรือเที่ยวชม ถ้ำน้ำแข็ง ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Alestsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ยาวถึง 22 ก.ม. และหนา 700 เมตร และไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย

เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางลงจากยอดเขา และเดินทางโดยรถโค้ชไปยัง เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เมืองมรดกโลกด้านมนุษยชาติขององค์การยูเนสโก เป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส (Alsace)
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 Hotel Mercure Strasbourg Centre หรือเทียบเท่า

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำคณะชม จัตุรัสเกลแบร์ จัตุรัสที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางของเมืองและยังเป็นที่ตั้งของ รูปปั้นช็อง แบ๊บติสต์ เกลแบร์ ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องสงครามการปฏิวัติของประเทศฝรั่งเศส นำท่านถ่ายรูป มหาวิหารแห่งสตราสบูร์ก มีความสูงอยู่ที่ 142 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่างปี 1176 ถึง 1439 ที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพูดูงามโดดเด่นเห็นแต่ไกลและถือว่าเป็นอาคารโบสถ์ที่สูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศส

จากนั้นนำท่านเดินทางด้วย รถไฟความเร็วสูง TGV สู่ มหานครปารีส (Paris) เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย หลังจากเดินทางถึง กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นำท่าน ล่องเรือบาโตมุช (Bateaux Mouches River Cruise) ไปตามแม่น้ำแซนที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของอาคารต่า งๆตลอดสองฝากฝั่งแม่น้ำ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจ โดยเรือจะล่องผ่าน มหาวิหารนอเตรอดาม แห่งปารีส (Notre-dame de Paris) อายุกว่า 800ปี เป็นมหาวิหารสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิกที่งามเลิศ โดดเด่นด้วยหอคอยคู่หน้าทรงเหลี่ยมและ ยอดปลายแหลมบนหลังคาวิหารสูงจากระดับพื้นดินถึง 96 เมตร เป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารี อังตัวเนตต์ และยังเป็นจุดกิโลเมตรที่ศูนย์ของประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย นำท่านสู่ Samaritaine อิสระท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์ชื่อดัง หรือเดินชมวิวทิวทัศน์ตามอัธยาศัย
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 Mercure Paris Val de Fontenay หรือเทียบเท่า
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ หอไอเฟล สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปีค.ศ.1889 จากนั้นนำท่านถ่ายรูป ประตูชัย และผ่านชมทิวทัศน์ของร้านค้าบูติคชั้นนำระดับโลกที่ตั้งเรียงรายอยู่บนถนนฌ็องเชลิเซ่ จากนั้นนำท่านถ่ายรูปหน้า พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ พิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง แต่ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงาน ทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมาก

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ La Vallee Village Outlet แหล่งช้อปปิ้งที่รวมร้านค้าแบรนด์เนมดังมากมายกว่า 70 ร้าน สัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ครบครันด้วยสินค้าชั้นนำต่าง ๆ มากมาย เช่น CELINE, KENZO, LONGCHAMP, POLO, BLANC BLEU, FRANCOIS, DIESEL GIRBAUD, PAUL SMITH, BURBERRY, VALENTINO, VERSACE, KEVIN KLEIN, SAMSONITE,ARMANI, CERRUTI, DOLCE & GABBANA, GIVENCHY ฯลฯ อิสระอาหารกลางวันเพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้ง ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่สนามบิน
21.55 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK076 ( บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
06.35 น. เดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 372 ( บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
19.15 น.  เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

ทัวร์ยุโรป