ยุโรป

ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์-ฝรั่งเศส 10 วัน TG พรีเมี่ยม

ราคาเริ่มต้น 169,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: tg

ไฮไลท์รายการทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ – ฝรั่งเศส(อัลซาส) 10 วัน TG การบินไทย
1. เที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวยังคงบรรยากาศดั้งเดิมของสวิตเซอร์แลนด์อันสวยงาม
2. พิชิตสถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป เต็มอิ่มกับลานหิมะตลอดทั้งปี ที่เขาจุงเฟรา TOP OF EUROPE
3. ชมวิวแสนสวยพร้อมรับประทานอาหารค่ำ บน ฮาเดอร์คลุม (Harder Kulm)
4. นั่งเรือชมความงามของทะเลสาบเบรียนซ์ และเดินชมหมู่บ้านอิสวาลด์ ตามรอยซีรี่ย์ Crash Landing on You
5. นั่งกระเช้าขึ้นชมกรินเดลวาลด์ เฟียซ Grindelwald First ชมวิวทะเลสาบบาชแอล์ปซี
6. ลิ้มรสอาหารพิเศษ ที่ถูกคัดสรรมาในเพื่อท่าน อาทิ ฟองดูสวิส แบบคอมโบ้ (ชีส / เนื้อสัตว์ / ช๊อคโกแลต) พร้อมไวน์ท้องถิ่น, หอยเอสคาโก, อกเป็ดสไตล์ฝรั่งเศส, อาหารไทย-จีน พร้อมชิมไวน์รสเลิศในเขตอัลซาส
7. ชมเมือง ริคเวียร์, กอลมาร์ และริโบว์วิล เมืองที่ห้ามพลาดแห่งแคว้นอัลซาสของประเทศฝรั่งเศส
9. ชิมไวน์พื้นเมือง ณ เมือง ริบูวิลเล่
8. เที่ยวชมเมืองเก่าสตราซบูร์ก(มรดกโลก)เมืองหลวงอัลซาส พร้อมล่องเรือชมเมือง
9. นั่งรถไฟด่วน TGV สู่มหานครปารีส
10. เข้าชมพระราชวังแวร์ซายน์ พิพิธภัณฑ์ลูฟท์ ชมมหานครปารีส วิวจากหอไอเฟล
11. อิสระชอปปิ้งตามอัธยาศัย ชอปปิ้งจุใจ

วันที่เดินทาง

เมษายน 67 – ตุลาคม 67

วันแรกของการเดินทาง(1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – ซูริค
22.00 คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 แถว D เคาน์เตอร์สายการบินไทย แอร์เวย์ Thai Airways
โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทคอยอำนวยความสะดวก
วันที่สองของการเดินทาง(2) ซูริค – น้ำกไรน์ – ลูเซิร์น – ล่องเรือทะเลสาบเบรียนซ์
ชมน้ำตกตกกีสบาค – อิเซล์ทวาลด์ – อินเทอลาเคน – สวิสฯ ฟองดู
01.05 เหินฟ้าสู่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG940 (บินตรงสู่ซูริค)
07.50 ถึงสนามบินนานาชาติซูริค หลังผ่านพิธีการด้านศุลกากรเรียบร้อย นำคณะออกเดินทางเข้าสู่“เมืองซาฟเฮาส์เซ่น” Schaffhausen เมืองชายแดนเยอรมัน-สวิสฯ ชมความสวยงามของ “น้ำตกไรน์” (Rhine Falls) ซึ่งเกิดจากแม่น้ำไรน์สายน้ำนานาชาติที่สำคัญที่สุดในยุโรป แม่น้ำแห่งนี้เกิดขึ้นจากการละลายของหิมะจากเทือกเขาแอลป์เริ่มจากเป็นลำธารเล็กๆ ผ่านลิคเท่นสไตน์เข้าสู่ทะเลสาบคอนสแตนท์ ที่กั้นพรหมแดนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับเยอรมันนี ส่วนที่ล้นไหลออกจากทะเลสาบคอนสแตนท์ก่อกำเนิดแม่น้ำไรน์สายใหญ่ ไหลผ่านหน้าผาสูงชันที่เมืองซาฟเฮาส์เซ่นเกิดเป็น “น้ำตกไรน์ที่สวยงามที่สุดในยุโรปกลาง”
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น เดินทางถึงเมืองลูเซิร์น(Lucerne) นำคณะไปถ่ายรูปกับ “อนุสาวรีย์สิงโต” อนุสรณ์รำลึกถึงการเสียชีวิต ของทหารสวิสฯผู้ถวายการอารักขาแด่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ในสงครามปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศส นำท่านเดินชมเมืองเก่าเดินข้าม “สะพานไม้คาเปล” ที่มีชื่อเสียงที่สุดของลูเซิร์น ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาคลุมตลอด ทอดตัวข้าม “ แม่น้ำรุซซ์” (Reuss) ซึ่งสร้างมากว่า 660 ปี เพื่อเชื่อมเขตเมืองใหม่ในฝั่งใต้และเขตเมืองเก่าในฝั่งเหนือ นำท่านเดินทางเข้าสู่บริเวณจัตุรัสใจกลางเมือง “ชวาเน่นท์พลัทซ์” อิสระกับการเดินเที่ยวชมบรรยากาศของเมือง หรือชมความสวยงามของทะเลสาบลูเซิร์น ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเบรียนซ์ (Brienz) ตั้งอยู่กลางภูเขาที่มีเสน่ห์ที่ปลายด้านตะวันออกของทะเลสาบเบรียนซ์สีฟ้าคราม เดินเล่นบนนถนนโรแมนติกที่สุดของเบรียนซ์ คือ Brunngasse ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับรางวัล “ถนนที่สวยที่สุดในยุโรป” บ้านส่วนใหญ่ในท้องถนนมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 และตกแต่งด้วยไม้แกะสลัก เบรียนซ์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในนาม “หมู่บ้านแกะสลัก” มีประเพณีการแปรรูปไม้มาอย่างยาวนาน และจนถึงทุกวันนี้ก็มีโรงเรียนสอนแกะสลักและทำไวโอลิน

เที่ยง  บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านล่องเรือเรือกลไฟ “Lötschberg” อันเก่าแก่ ชมทะเลสาบเบรียนซ์ผ่านภูมิประเทศที่มีทัศนียภาพอันสวยงามทั้งภูเขาแอลป์และทะเลสาบสีฟ้าครามเป็นประกายระยิบระยับอันเป็นเอกลักษณ์ ทะเลสาบตั้งอยู่ในใจกลางเทือกเขา Bernese Oberland เป็นประสบการณ์ที่ควรค่าแห่งการจดจำ ในการล่องเรือยังช่วยให้เราได้ชมวิวความน่ารักของหมู่บ้านเล็กๆ บริเวณรอบทะเลสาบก็มีทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ อย่างเช่น น้ำตกกีสบาคอันน่าประทับใจที่สามารถชมความสวยงามได้จากเรือ และสายน้ำอื่นๆ ที่ไหลลงสู่ทะเลสาบเบรียนซ์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านเทพนิยายเล็กๆ “อิเซล์ทวาลด์” (Iseltwald) หมู่บ้านเล็กๆ แห่งอิเซล์ทวาลด์ เป็นที่รู้จักดีที่สุดจากภาพถ่ายที่สวยงามของ Schloss Seeburg ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลสาบ Brienz หมู่บ้านเล็กๆ ในเทพนิยายแห่งนี้ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ของทะเลสาบ Brienz ที่สวยงามมากในภูมิภาค Bernese Oberland ของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่งดงามตั้งอยู่ริมทะเลสาบอันเงียบสงบพร้อมทิวทัศน์อันตระการตาและสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีสภาพแวดล้อมที่งดงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย มีผู้คนเพียง 400 คน ตั้งอยู่ตรงข้ามกับน้ำทะเลสีฟ้าครามของทะเลสาบและเทือกเขาแอลป์สวิสที่สวยงาม หมู่บ้านอิซวาลด์ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์เกาหลีชื่อดัง “Crash Landing On You” อีกด้วย เดินเล่นตามอัธยาศัย จากนั้นเดินทางสู่ “เมืองอินเทอร์ลาเก้น” เมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ เมืองตากอากาศ สวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมือง ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ Thunersee และ Brienzersee ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นเขาจุงเฟราอันสวยงาม อิสระกับการเดินเล่น ชมเมือง หรือช้อปปิ้งสินคาพื้นเมืองสวิสฯ ตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ เมนูพิเศษ ! อาหารพื้นเมืองชาวสวิส “ฟองดู” (Fondue) ทั้งสามชนิด ชีส, เนื้อสัตว์, ช๊อคโกแล๊ต สัมผัสวัฒนธรรมแบบสวิตเซอร์แลนด์ ฟองดูชีส ปรุงโดยการนำเอาชีส มาตั้งไฟและหลอมละลายรวมกับไวน์ขาว
พักที่: HOTEL ROYAL ST. GEORGE / METROPOLE HOTEL / หรือระดับใกล้เคียง
วันที่สามของการเดินทาง (3) เลาเทอบรุนเนน – น้ำตกสเตาบอร์ – นั่งรถไฟพิชิตจุงเฟรา
ถ้ำน้ำแข็ง – เดินเล่นในมืองอินเทอลาเคน – รับประทานอาหารพร้อมชมวิวบนเขาฮาเดอร์คลุม
เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ “หมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนน” ชมวิว น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach Waterfall) ที่ไหลลงมาจากหน้าผาเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้ จากนั้นนั่ง รถไฟฟันเฟือง สู่ “ยอดเขาจุงเฟรา” ที่ได้ชื่อว่า “สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป” เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป เปลี่ยนขบวนรถไฟ (Cog Wheel) ณ “สถานีไคลน์ไชเด็ค” ขึ้นสู่ความสูงถึง 3,464 เมตร จนถึง “สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป” ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็น Top of Europe ชม “ถ้ำน้ำแข็ง 1,000 ปี” ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ชมงานแกะสลักน้ำแข็งที่สวยงามอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร เก็บภาพความสวยงามและยิ่งใหญ่ของของธารน้ำแข็ง Aletsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ จากนั้นอิสระทุกท่านสนุกสนานบนลานหิมะอย่างเต็มอิ่ม สำหรับภายในตัวอาคารจุงเฟรายังมีห้องนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติการสร้างทางรถไฟจุงเฟรา, ร้านจำหน่ายช็อคโกแลตลินน์, ร้านนาฬิกาและร้านจำหน่ายของที่ระลึก ท่านสามารถส่งโปรการ์ดถึงคนพิเศษเพื่อเป็นที่ระลึกจากยอดเขาแห่งนี้ได้อีกด้วย
เที่ยง  บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
บ่าย นำท่านเดินทางลงเขาด้วยรถไฟ ฟันเฟืองสู่สถานีไอเกอร์(Eiger) จากนั้นโดยสารกระเช้าชมวิวเทือกเขาแอล์ป (THE V-CABLEWAY) ลงสู่สถานีกริลเดลวาล์วกรุนด์ ซึ่งใช้เวลาเพียง 12 นาทีเท่านั้น จากนั้นเดินทางสู่ “เมืองอินเทอร์ลาเก้น” มีเวลาให้ทุกท่านชื่นชมกับธรรมชาติละความงดงามของเมืองอินเทอร์ลาเคน แบบสบายๆไม่เร่งรีบ ท่านอาจจะเลือกพักผ่อนในโรงแรมหรือจิบกาแฟยามบ่าย, เดินเลือกซื้อของฝากของที่ระลึก หรือช้อปปิ้งในร้านนาฬิกาแบรนด์ดังของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ใด้เวลาสมควรนำท่านเดินทางเข้าสู่สถานีรถราง โดยสารสู่ยอดเขา ฮาเดอคลุม (Harder Kulm) จุดชมวิวเมืองอินเทอลาเคน(Interlaken) ที่สวยที่สุดให้ท่านได้ทำกิจกรรมเดินเล่นถ่ายรูปบริเวณยอดเขา
*** นำท่านโดยสารรถรางไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเขาฮาร์เดอร์ คุล์ม (Harder Kulm) เดินสู่จุดชมวิวพระอาทิตย์อัศดงที่แสนสวย ให้ท่านเก็บวิวความสวยงามของเมืองอินเทอลาเค่น เทือกเขาแอล์ป ทะเลสาบทุนและทะเลสาบเบรียนซ์ได้อย่างชัดเจน *** (เปิดให้บริการระหว่าง เดือน เม.ย.-พ.ย. ของทุกปี)
ค่ำ  บริการอาหารมื้อค่ำ พร้อมชมวิว ณ ภัตตาคารบนยอดเขาฮาร์เดอร์ คุล์ม
*** หมายเหตุ… รถรางขึ้นฮาร์เดอร์ คลุม(Harder Kulm) จะเปิดให้บริการระหว่าง 07 เมษายน – 27 ตุลาคม 2567
ช่วงอื่นของการเดินทางทางบริษัทจะปรับเปลี่ยนไปทานอาหาร ณ ภัตตาคารพื้นเมืองแทน
พักที่: HOTEL ROYAL ST. GEORGE / METROPOLE HOTEL / หรือระดับใกล้เคียง
วันที่สี่ของการเดินทาง (4) อินเทอลาเค่น – นั่งกระเช้าสู่กรินเดลวาลด์ เฟรียส
เดินชมวิวคลิฟวอล์ค – ทะเลสาบบาชแอล์ปซี – เบลาซี – บาเซิล
เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านกรินเดลวาลด์(Grindelwald) หมู่บ้านที่น่ารักที่ห้อมล้อมด้วยเทือกเขาแอล์ป ท่านจะประทับใจไปกับบรรยากาศแบบสวิสฯแอลไพน์ บ้านเรือนที่น่ารัก ลำธารใสสะอาดที่ไหลอยู่สองข้างทาง เดินทางถึงสถานีกระเช้าเฟียส นำท่านโดยสารการเช้าขึ้นสู่จุดชมวิวบนยอดเขากรินเดลวาลด์ เฟียส ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสุดบรรยาย ท่านจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน ด้านบนสถานีจะมีกิจกรรมให้ทุกท่านร่วม

สนุกหลายอย่าง เช่น ท่านสามารถเดินชมวิวริมหน้าผาบริเวณ คลิฟ วอล์ค(Cliff Walk) หรือลองพิสูจน์ความกล้าของท่านโดยการเล่นเฟีรส์ ฟรายเยอร์ (First Flyer) (First Glider) โดยตัวท่านจะถูกแขวนไว้กับรางสลิงความปลอดภัยสูงแล้วโรยตัวลงมาด้านล่างด้วยความเร็วกว่า 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะทาง 50 เมตร(ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์) ท่านใดที่ต้องการ ชมความงดงามของทะเลสาบบาชแอล์ปซี (Bachalpsee) ท่านสามารถเดินชมวิวไปตามเส้นทางแอล์ไพน์วอล์ค(Hiking) เส้นทางค่อนข้างเป็นพื้นราบไม่ลำบาก ระยะทางเดินไปกลับประมาณ 1.40 ชั่วโมง(ไปกลับ 5 กิโลเมตร) ท่านจะได้พบกับภาพบรรยากาศความงดงามที่ไม่สามารถหาที่ไหนเหมือน เนื่องจากตัวทะเลสาบตั้งอยู่ในระดับความสูง 2,265 เมตรจากระดับน้ำทะเล เทียบเท่าความสูงของหลายยอดเขาในบริเวณนั้น ท่านจะรู้สึกเพลิดจนลืมระยะทางเลยทีเดียว
เที่ยง  บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคารบนเขากรินเดอร์วาล์ว เฟียส
นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบ “เบลาเซ” Blausee หรือ “ทะเลสาบสีน้ำเงิน” ตั้งอยู่ในเขต Berner Oberlandเป็นทะเลสาบขนาดย่อมล้อมรอบไปด้วยป่าขนาดเล็กที่มีเป็นสถานที่เพาะพันธุ์ปลาเทราต์ที่มีชื่อเสียง และมีความเด่นดังในเรื่องสีของน้ำในทะเลสาบที่ใสเหมือนผลึกคริสตัลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ จนมองเห็นปลาเทราต์ที่แหวกว่ายไปมา ทะเลสาบแห่งนี้จะมีความสวยงามทุกฤดู ในฤดูร้อนจะมาดอกไม้สวยงามริมทะเลสาบในฤดูใบไม้ร่วงใบไม้จะเปลี่ยนสีและฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุม จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองบาเซิล(Basel) เมืองบาเซิล เสมือนศูนย์รวมวัฒนธรรมโบราณและสมัยใหม่ของสวิตเซอร์แลนด์ให้เข้ากันได้ในพื้นที่เดียวกันได้อย่างน่าประหลาดใจ ที่นี่เป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์ที่หลากหลายมากที่สุด จนอาจเรียกได้ว่าเป็นเมกกะแห่งความรู้วัฒนธรรมแห่งหนึ่งของยุโรป นำท่านเดินชมเมืองเก่า ชมอาคารโบราณที่แทรกการแต่งแบบใหม่ไว้สลับกันไปกับอาคารแบบโมเดิร์น แสดงให้เห็นลูกเล่นของสถาปนิกในบาเซิล ด้วยที่นี่มีชื่อเสียงอีกด้านของความเป็นแถวหน้าในสถาปัตยกรรมทุกรูปแบบ
นำท่านชมอาคารศาลากลางเมือง (Basel Town Hall) และโบสถ์บาเซิล (Basel Minster) ชมทัศนียภาพและความงามของแม่น้ำไรน์ที่ไหลผ่านเมืองเก็บภาพโบสถ์จากสมัยยุโรปยุคกลาง, บ้านทรงโบราณที่ยังคงมีผู้อาศัยใช้งาน, และน้ำพุที่ตกแต่งด้วยการเพ้นท์สีสันใหม่ให้สดใส สิ่งที่ทำให้บริเวณเมืองเก่าของบาเซิลน่าสนใจกว่าที่อื่นๆ เก็บภาพศาลาว่าการเมืองบาเซิล (Basel City Hall) อาคารสีแดงสด อาคารศาลาว่าการเมืองที่ตั้งอยู่ในใจกลางจัตุรัสเมืองเก่า เด่นสะดุดตาด้วยสีแดงสดทั้งอาคาร ตกแต่งด้วยภาพวาดเขียนสีเป็นลวดลายสดใสสวยงาม เป็นอาคารสไตล์เบอร์กันดีโกธิคสร้างในราว ฟ ปี 1504-1521 มีบางส่วนต่อเติมเพิ่มบ้าง หากได้เข้าไปชมลานรับแขกภายในอาคาร จะเสมือนได้เดินย้อนยุคไปในยุโรปยุคโบราณเลยทีเดียว เก็บภาพโบสถ์ประจำเมืองบาเซิล (Basel Minster) ตั้งอยู่บนเนินที่สูง ทั้งยังมีหอคอยที่สูงตระหง่านเป็นคู่กัน โบสถ์แห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองบาเซิล นอกจากหอคอยคู่ทรงแหลมนี้แล้ว ยังเด่นด้วยหลังคาโบสถ์สีสดประดับไว้เป็นลายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด / อิสระทุกท่านตามอัธยาศัย
ค่ำ  บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำเข้าสู่โรงแรมที่พัก
ที่พัก: Hotel Metropol Basel / Basel Marriott Hotel / หรือระดับใกล้เคียง
วันที่ห้าของการเดินทาง (5) บาเซิล – ริคเวียร์ – กอลมาร์ – ริโบวิลเล่ – ชิมไวน์รสเลิศ
สตราซบูร์ก
เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกหมู่บ้านริคเวียร์ Riquewihr สวยที่สุดในแคว้นอัลซาส(Alsace) หมู่บ้านเล็กๆน่ารักในชนบทที่อยู่ในหุบเขาถูกโอบล้อมไปด้วยไร่องุ่นมีชื่อเสียงด้านเป็นแหล่งผลิตไวน์อีกด้วย เนื่องจากภูมิอากาศที่เหมาะสมและภูมิประเทศของเมืองที่อยู่ในหุบเขา ทำให้องุ่นมีรสชาติดี ไวน์ของ Riquewihr จึงมีชื่อเสียงอันดับต้นๆของประเทศ นอกจากนั้นจะเห็นได้ว่าชาวบ้านท้องถิ่น ยังคงรักษาสภาพบ้านเรือนแม้แต่อาชีพยังคงเป็นแบบดั้งเดิม ทำไวน์ ทำขนมท้องถิ่น ทำงานฝีมือ บรรยากาศภายในหมู่บ้านจะคล้ายกับเดินเข้าไปเหมือนหลงอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเกือบทุกหลังจะตกแต่ง และประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่น่ารักๆเต็มไปหมดและได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Villages de France หมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส
ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่เมือง กอลมาร์ “Colmar” เมืองหลวงของจังหวัดโอ-แร็ง (Haut-Rhin) เป็นเมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งไวน์แห่งอาลซัส” (Capitale des Vins d’Alsace) นำท่านชมเมืองที่มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้ยังคงเป็นเมืองที่ มีลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยกาศของเมืองโบราณ โดยเฉพาะในตัวเมืองเก่าที่เรียงรายไปด้วยเรือนไม้โบราณ ร้านค้าโบราณ โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่ อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลาง
เที่ยง  บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่เมือง ริโบวิเล “Ribeauvillé” หมู่บ้านเล็กๆ ในแคว้นอัลซาส มีบรรยากาศที่สวยงาม บ้านเรือนในแบบยุคกลาง ที่มี่ไร่องุ่นโอบล้อมหมู่บ้านเอาไว้ เมืองเล็กๆ แห่งนี้ถูก ล้อมรอบด้วยกำแพงโบราณ ภายในเมืองยังคงกลิ่นอายของเมืองแบบยุโรปยุคกลางได้เป็นอย่างดี และยังคงมีโบสถ์ที่สร้างด้วยสไตล์กอธิคอีกสองแห่งคือ โบสถ์เเซนต์เกรกรอรี่ และโบสถ์เซนต์ออกัสติน อิสระให้ท่านเดินเล่นในย่านเมืองริโบวิเลตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางเข้าสู่เขตปลูกองุ่นแสนสวย แห่ง ริโบวิเล “ให้ท่านได้ชิมไวน์เลิศรสแห่งแคว้นอัลซาส” เก็บภาพความทรงจำในบริเวณเมือง ริโบวิเล ท่านจะได้สัมผัสกับไวน์องุ่นเลิศรส ที่รสชาติลงตัว นำท่านออกเดินทางสู่เมือง “สตารสบูร์ก” Strasbourg เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส (Alsace) แห่งฝรั่งเศส ที่ก่อตั้งขึ้นโดยชาวโรมันเมื่อ 12 ปีก่อนคริสต์ศักราช
ค่ำ  บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: HOTEL HILTON STRASBOURG / หรือระดับใกล้เคียง
วันที่หกของการเดินทาง (6) เดินชมเมืองเก่าสตารส์บูร์ก – ล่องเรือชมเมือง
นั่งรถไฟด่วน TGV เข้ามหานครปารีส – ชมวิวถนนช็อง เซลีเซ
เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าสู่เขตเมืองเก่า “กรอง อิลล์” Grande Île ที่มีแม่น้ำล้อมรอบเหมือนเป็นเกาะ และเขตเมืองเก่านี้ก็ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย ชมย่าน Le Petite France ย่านเก่าแก่ที่รายรอบร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ที่พักในรูปแบบการก่อสร้างแบบ Timber Framing บ้านกรอบไม้กึ่งปูนที่บางหลังมีอายุเก่าแก่ 400-500 ปี ชมมหาวิหารแห่งเมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg Cathedral)
วิหารโรมันคาทอลิกเก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางเมือง เดิมสร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ ต่อมาถูกไฟไหม้เสียหายมากจึงมีการบูรณะใหม่และกลายเป็นศิลปะแบบกอธิคคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก มีความสูงอยู่ที่ 142 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่าง ปี ค.ศ.1176-1439 นำท่านล่องเรือ BATORAMA ชมเมือง Strasbourg ให้ท่านสัมผัสบรรยากาศของเมืองในอีกมุมนึง ให้ท่านได้ถ่ายรูปเมืองสตารส์บูร์กจากมุมต่างๆ เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสวยๆ สบายๆ บนเรือที่ออกแบบมาไม่เหมือนใคร เรือ BATORAMA มีหลังคากระจกโค้งใส เหมือนแก่การชมวิวและถ่ายรูปเรือจะล่องพาท่านผ่านจุดไฮไลท์สำคัญของเมือง และ มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
เที่ยง  บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านออกเดินทางเข้าสู่ “ มหานครปารีส ” เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส โดยรถไฟด่วน TGV หรือ Train A Grande Vitesse ด้วยความเร็วกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ท่านจะได้ชมวิวสวยงามระหว่างทางและเปลี่ยนบรรยากาศ การเดินทางด้วยรถไฟถึงมหานครปารีส นำท่านผ่านชมมหานครปารีส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซนน์บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศสบนใจกลางแคว้นอีล-เดอ-ฟรองซ์ จากการตั้งถิ่นฐานมากว่า 2,000 ปี

ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลกและด้วยอิทธิพลของการเมืองการศึกษาบันเทิงสื่อ แฟชั่นวิทยาศาสตร์และศิลปะทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำท่านชมวิวที่สวยงามบริเวณถนนถนนช็อง เอลีเซ เป็นถนนที่สวยที่สุดของมหานครปารีส เป็นย่านการค้า มีร้านค้า โรงละคร ร้านกาแฟ ฯลฯ สองข้างทางมีต้นเกาลัดที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม
ค่ำ  บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Hotel Pullman Paris La Defense / Le Meridien Paris Étoile / หรือระดับใกล้เคียง
วันเจ็ดของการเดินทาง (7) มหานครปารีส – เข้าชมพระราชวังแวร์ซายย์
ทานอาหารกลางวันบนหอไอเฟล – เข้าชมพิพิธภัณฑ์ลูร์ฟ – ล่องเรือชมวิวแม่น้ำแซนน์
เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชมความสวยงามภายใน “ พระราชวังแวร์ซายย์” (ไกด์ประจำพระราชวังคอยบรรยายตามจุดต่างที่สำคัญๆของพระราชวัง) จัดเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน เพราะความสวยงามใหญ่โตของตัวปราสาท และสวนดอกไม้ที่มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ผู้ที่ก่อสร้างพระราชวังแวร์ซายส์ ที่งดงามแห่งนี้
คือพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ของฝรั่งเศส นำท่านชมห้องต่างๆ ที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงตามชื่อเทพเจ้าต่างๆ อาทิเช่น ห้องเฮอคิวลีส, ห้องวีนัส, ห้องนโปเลียน, ห้องอพอลโล, ฮอลล์ออฟมิเรอร์ Hall of Mirrors
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวันสุดพิเศสบนหอไอเฟล…ณภัตตาคาร Madame-Brasserie พร้อมชมวิวมหานครปารีสแบบเบิร์ด อาย วิว ชมสถานที่สำคัญโบราณสถานและอาคารที่เก่าแก่สร้างด้วยศิลปะแบบบารอคและเรอเนสซองส์ รวมถึงโกธิค ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสร้างภาพให้ปารีสโดดเด่นเป็นมหานครที่งดงามอันดับหนึ่งของโลก
บ่าย จากนั้น นำท่านเดินทางเพื่อ เข้าชมภายใน “พิพิธภัณฑ์ลูฟร์” (ไกด์ประจำพิพิธภัณฑ์ คอยบรรยายตามจุดต่างที่สำคัญๆของพิพิธภัณฑ์) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเป็นสถานที่ตั้ง
แสดงศิลปวัตถุนับชิ้นไม่ถ้วน ภายในจัดแสดงศิลปวัตถุชิ้นสำคัญอาทิ ภาพวาด โมนาลิซ่า ของลีโอนาร์โด ดาวินชี, รูปปั้นวีนัส เดอมิโล, รูปแกะสลักทาสของไมเคิล แองเจโล ฯลฯ นำผ่านชม “ จัตุรัสคองคอร์ด” Place de la Concorde ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเนต ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส ชมถนนแห่งแฟชั่น“ ชองเอลิเซ่ ” (Champs-Elysees) ที่มี ความยาวกว่า 2 กิโลเมตรที่ร่มรื่นไปด้วยต้นเมเปิ้ลตลอดสองข้างทางและถือว่าเป็นถนนที่ติด อันดับสวยที่สุดในโลก นำท่านถ่ายภาพคู่กับ “หอไอเฟล” สัญลักษณ์อันโดดเด่นของมหานครปารีส บริเวณ“จัตุรัสทรอคาเดโร” จากนั้น นำท่านถ่ายภาพคู่กับ “ ประตูชัย” Arc de Triomphe สัญลักษณ์แห่งชัยชนะที่จักรพรรดินโปเลียนให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1805 นำท่าน “ล่องเรือชมแม่น้ำแซนน์” พร้อมชมชมสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองสองฝั่งของแม่น้ำแซนน์ โบราณสถานและอาคารที่เก่าแก่สร้างด้วยศิลปะแบบเรอเนสซองส์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสร้างภาพให้ปารีสโดดเด่นเป็นมหานครที่งดงามแห่งหนึ่งของโลก อาทิเช่น หอไอเฟล, พิพิธภัณฑ์ลูฟร์, ศาลาว่าการ โอเต็ล เดอ วิลส์, เกาะเซนต์ หลุยส์, โบสถ์นอร์ทเตรอดาม, พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์, แซงวาลี้ด, พระราชวังบูร์บ็อง, สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ฯลฯ
ค่ำ  บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Hotel Pullman Paris La Defense / Le Meridien Paris Étoile / หรือระดับใกล้เคียง
วันที่แปดของการเดินทาง(8) ชมวิวย่านมองมาร์ต – ช้อปปิ้งจุใจ ห้างลาฟาแยต
เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่ “ย่านมองมาร์ต” (Montmarte) เป็นเนินเขา ทางเหนือของปารีสและเป็นจุดที่สูงที่สุดของเมือง ชม “มหาวิหารซาเครเกอร์” (Bassilica of Sacre Coeur) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่อุทิศแด่ชาวฝรั่งเศส ที่เสียชีวิตจากสงครามกับปรัสเซีย ออกแบบตามแบบศิลปะสไตล์โรมัน – ไบเซนไทน์ Roman-Byzantine สีขาวสวยเด่นเป็นสง่าบนเนิน เขามองมาร์ต นำท่านชมความงามของวิว สวยของปารีส ที่แห่งนี้ยังเปรียบได้กับว่าเป็นเนินแห่งความฝัน ของบรรดาศิลปินทั้งหลาย
ณ ที่แห่งนี้คือ ที่นัดพบของศิลปินมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ผลงานศิลปะได้มี การสร้างสรรค์จากที่นี่เป็นจำนวนมากอิสระให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศแบบชาวปารีเซียง ในย่านมองมาร์ตตลอดสองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านกาแฟสไตล์ปารีเซียง อิสระให้ท่านได้เดินชมบรรยากาศ และเลือกซื้อของที่ระลึกต่างๆ
เที่ยง  บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีที่ Duty Free อิสระกับการ ช้อปปิ้งสินค้าตามรสนิยมแบรนด์ชื่อดังนานาชนิด อาทิ น้ำหอม เสื้อผ้า กระเป๋า กระเป๋าเดินทาง เครื่องสำอาง จากนั้นสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังที่ห้างสรรพสินค้า แกลลารี-ลาฟาแยตต์ Galerie Lafayette
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารมื้อพิเศษ หอยเอสคาโก้ (Escargots au beurre persillé), สเต๊กฝรั่งเศสให้ท่านเลือก(เนื้อวัว, หมูหรือไก่) เสริฟพร้อมไวน์แดงฝรั่งเศส
พักที่: Hotel Pullman Paris La Defense / Le Meridien Paris Étoile / หรือระดับใกล้เคียง
วันที่เก้าของการเดินทาง(9) ปารีส – กรุงเทพมหานคร
เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พร้อมกัน ณ จุดนัดหมายเพื่อออกเดินทางสู่สนามบิน (กรุณาตรงต่อเวลานัดหมาย)เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน อาหารกลางวันอิสระตามอัธยาศัย
13.00 ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG931
วันที่สิบของการเดินทาง(10) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
06.00 เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ / โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ