1219207

ทัวร์ยุโรปตะวันออก เยอรมัน ออสเตรีย เช็ก สโลวาเกีย ฮังการี 8 วัน 5 คืน (TK)

ราคาเริ่มต้น 64,999 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: packageLogo683_Turkish Airlines Logo

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกอันแสนโรแมนติก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.45 ชั่วโมง) ที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาสวยงามราวกับภาพวาด ว่ากันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียได้ให้ฉายาเมืองนี้ว่า “ไข่มุกแห่งออสเตรีย” และ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก เมื่อปี 1997

วันที่เดินทาง

19 พ.ย. 67 – 26 พ.ย. 67

ทัวร์ยุโรป

วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ
20.00 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ N สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK ) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง

*** เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด ***
ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบินเนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ป การจัดที่นั่งจะเป็นระบบ RANDOM ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน
ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบินเป็นผู้กำหนด

23.05 น. ออกเดินทางสู่ อิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK) เที่ยวบินที่ TK69 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 10 ชั่วโมง 15 นาที)

วันที่สอง สนามบินอิสตันบูล – สนามบินมิวนิค (เยอรมนี) – จตุรัสมาเรียนพลัทซ์ – อินส์บรุค (ออสเตรีย) – หลังคาทองคำ – แม่น้ำอินส์ (-/L/-)
05.15 น. เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี (เวลาท้องถิ่น) จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ มิวนิค ประเทศเยอรมนี (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง)
07.55 น. ออกเดินทางสู่มิวนิค ประเทศเยอรมนี โดยเที่ยวบินที่ TK1629 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 2.40 ชั่วโมง)
08.40 น. เดินทางถึง สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมนี (เวลาประเทศเยอรมนีช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) ผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว

นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองมิวนิค (Munich) เมืองหลวงที่มีเสน่ห์แห่งแคว้นบาวาเรีย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามของประเทศ ตั้งอยู่บนแม่น้ำอีซาร์เหนือเทือกเขาแอลป์ บนที่ราบสูงบาวาเรีย เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็งที่สุดในประเทศเยอรมนี เต็มไปด้วยสถานที่ทางวัฒนธรรมและศาสนา และยังเมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมัน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) นำท่านชม มาเรียนพลัทซ์ (Marienplatz) ในเขตเมืองเก่าที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการทำความรู้จักกับมิวนิค ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่สำหรับงานพิธีต่างๆ ที่สำคัญของเมือง ที่บริเวณจัตุรัสมาเรียนพลัสซ์นี้เราจะได้เห็น ศาลาว่าการใหม่ (New Town Hall) ที่ได้ใช้ทำการแทนศาลาว่าการเก่าตั้งแต่ปี 1874 เห็นได้ง่ายด้วยหอคอยแหลมสูงและการออกแบบและตกแต่งอย่างประณีตไม่แพ้ปราสาทหรือพระราชวัง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และนาฬิกา Glockenspiel หอนาฬิกาที่มีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ บริเวณใกล้กันนั้นเป็น ศาลาว่าการเก่า (Old Town Hall) อาคารสีขาวสะอาดหลังนี้เป็นศาลาว่าการของเมืองมิวนิคมาตั้งแต่ปี 1310 แม้จะผ่านมากว่า 700 ปี ใกล้กันนั้นจะเห็น โบสถ์พระแม่มารี (Frauenkirche-Church of Our Lady) เป็นโบสถ์ทรงหัวหอมคู่ที่สร้างด้วยอิฐแดงสูง 99 เมตร ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองมิวนิคเช่นกัน จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่น หรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินส์บรุค (Innsbruck) ประเทศออสเตรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง) หัวใจแห่งเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มอินน์ (Inn Valley) ทางตะวันตกของประเทศ เป็นเมืองเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยภูเขาหิมะขนาดใหญ่ยักษ์ประกบอยู่ทางทิศเหนือ และทิศใต้ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมสวยงามที่สามารถเที่ยวชมได้ทั้งเมือง
อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองอินส์บรุค (Innsbruck) บริเวณแลนด์มาร์คของเมือง นั่นคือ “หลังคาทองคำ” สัญลักษณ์สำคัญของเมืองตั้งอยู่ในเขต Old Town ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ส่วนของหลังคาที่ยื่นออกมาจากระเบียงตกแต่งด้วยทองคำแท้ จำนวน 2,738 แผ่น ในการมุงหลังคากว้าง 16 เมตร เพื่อพยายามลบข่าวลือว่าสถานภาพทางการเงินที่ไม่ดีในช่วงนั้น ตกแต่งสวยงามแปลกตา และมีมูลค่าสูงจนไม่สามารถประเมินค่าได้ อาคารสไตล์โกธิคผสมบาโรกนี้ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เพื่อเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสครั้งที่ 2 ของจักรพรรดิแมกมิเลียนที่ 1 ในอดีตจะทรงประทับที่ระเบียง เพื่อทอดพระเนตรกิจกรรม และเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นบริเวณจัตุรัสด้านล่าง ใกล้ๆกันท่านจะเห็น City Tower หอคอยเก่าแก่อายุมากกว่า 450 ปี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Innsbruck มีความสูง 31 เมตร เป็นอาคารที่มีความสูงที่สุดในเมือง โดดเด่นจนสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล เดินถัดมาอีกไม่ไกลท่านจะได้สัมผัสความงดงามของ แม่น้ำอินส์ (Inn River) แม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านอาคารตึกเก่าหลากสี แวะถ่ายรูป Candy House บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำอินน์ กลุ่มอาคารเก่าสีพาสเทลที่ตั้งอยู่เรียงกันริมแม่น้ำ มีวิวภูเขาแอลป์เป็นฉากตระการตา เป็นจุดแลนด์มาร์คห้ามพลาดเช็คอินอีกแห่งหนึ่งของอินส์บรุค

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่สาม ฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านริมทะเลสาบ – ซาลส์บวร์ก – สวนมิราเบิล – บ้านเกิดโมสาร์ท – ถนนเกรไทเดร้ (B/L/-)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกอันแสนโรแมนติก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.45 ชั่วโมง) ที่มีอายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาสวยงามราวกับภาพวาด ว่ากันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียได้ให้ฉายาเมืองนี้ว่า “ไข่มุกแห่งออสเตรีย” และ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก เมื่อปี 1997

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน (เมนูปลาเทราซ์ ย่าง)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลส์บวร์ก (Salzburg) ประเทศออสเตรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองสวยแสนโรแมนติกที่สุดเมืองหนึ่งของทวีปยุโรป ได้รับการอนุรักษ์เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1996 อีกทั้งยังเป็นบ้านเกิดของคีตกวีผู้ยิ่งใหญ่ของโลกนามว่า วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) และเป็นสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์อมตะ เรื่อง The Sound of Music ซึ่งทำให้เมืองนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยเมืองนี้มีอดีตที่เติบโตมาจากการผลิตเกลือและการค้าเกลือซึ่งในยุคนั้นมีค่าประดุจทองคำขาว เกลือจึงเป็นที่มาของทั้งชื่อแคว้นและเมืองแห่งนี้
นำท่านผ่านชม สวนมิราเบล (Mirabell Garden) สวนสาธารณะสไตล์บาโรกที่สวยที่สวยที่สุดในเมือง เดิมเป็นสวนของ พระราชวังมิราเบล (Mirabell Palace) ซึ่งพระราชวังแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่โมสาร์ทเคยมาจัดการแสดง แถมยังเป็นสถานที่ถ่ายทำของ The Sound of Music ด้วย จึงไม่แปลกใจเลยหากที่พระราชวังแห่งนี้จะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากนั้นนำท่านเดินข้ามสะพานมายัง บ้านเกิดโมสาร์ท (Mozart Geburtshaus) (ชมบริเวณภายนอก) เป็นอาคารสีเหลืองหมายเลข 9 อาคารแห่งนี้เป็นสถานที่เกิดของโมสาร์ท และเติบโตมาตลอด 20 ปี ก่อนจะย้ายไปอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งข้างๆ กัน ซึ่งปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเครื่องดนตรีที่โมสาร์ทเคยใช้ เช่น ไวโอลิน และ เปียโน รวมถึงชีวประวัติและจดหมายที่โมสาร์ทเคยเขียนอีกด้วย (ไม่รวมค่าเข้าพิพิธภัณฑ์) อิสระให้ท่านช้อปปิ้งที่ถนน Getreidegasse (เกรไทเดร้) ที่รวมร้านค้าแบรนด์เนมให้ท่านเลือกมากมาย ทั้งเครื่องประดับ, เครื่องแต่งกายพื้นบ้าน, รวมถึงร้านอาหารนั่งดื่มชิล ๆ จุดเด่นของถนนสายนี้คือป้ายชื่อร้านที่อยู่ด้านหน้าอาคารทำให้เหล่านักท่องเที่ยวได้แหงนมอง

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ ลินซ์ – เชสกี้ คลุมลอฟ (เช็ก) – เชสกี้ บูเดอโจวิซ (B/L/-)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่เมืองลินซ์ (Linz) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ ริมแม่น้ำดานูบ เมืองนี้พัฒนามาจากค่ายสมัยโรมัน เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญในคริสต์ศตวรรษที่ 13 เมืองเก่าที่มีบ้านสไตล์บาโรกจำนวนมากได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ปัจจุบันมีอาคารสถานที่ท่องเที่ยวและมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ลินทซ์เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรป และใน ค.ศ. 2009 ลินทซ์เป็นสมาชิกของ UNESCO Creative Cities Network (UCCN) ในฐานะเมืองแห่งศิลปะ อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นครโบราณขนาดเล็กดั่งเทพนิยาย โดยมีแม่น้ำวัลตาวา (Vltava) ไหลผ่านและล้อมรอบเมืองไปตามเนินเขา คดเคี้ยวเหมือนรูปตัว S จนทำให้ภูมิทัศน์ของตัวเมือง เหมือนกับหยดน้ำ นอกจากนี้บ้านและอาคารทุกหลังล้วนใช้หลังคาสีส้มแดง ทำให้เมืองแห่งนี้ เมื่อมองจากมุมสูงจะเห็นภาพที่สวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังมีชื่อเสียงโด่งดังจากงานสถาปัตยกรรมและศิลปะสุดคลาสสิคตั้งแต่ยุคกลางในเขตเมืองเก่า (Old Town) และยังคงรักษาศิลปวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์ จนได้รับการยกย่องจากองค์กรยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1992 และ ได้รับการขนานนามว่า ไข่มุกเม็ดงามแห่งโบฮีเมีย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ บูเดอโจวิซ (Ceske Budejovice) เมืองท่องเที่ยวเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นโบฮีเมียใต้ (South Bohemia) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น จากการผสมผสานกันระหว่างศิลปะโกธิค เรอเนสซองซ์ และบารอกได้อย่างงดงาม ทั้งยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจที่เจริญ รุ่งเรือง เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และยังเป็นเมืองต้นกำเนิดของเบียร์ชื่อดังในยุโรป อย่าง Budweiser Budvar เดินเที่ยว ณ จัตุรัสบูเดโจวิช หรือจัตุรัส นาเมสตี เปรมีสลา โอตาการ่า (Namesti Premysla Otakara II) จัตุรัสขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ชมความงามของอาคารบ้านเรือนสีพาสเทล ใจกลางของจัตุรัสประดับด้วยน้ำพุแซมซั่น (Samson’s Fountain) ที่ทำจากหิน และในบริเวณรอบๆ ยังเต็มไปด้วยร้านค้าสำหรับเดินเลือกซื้อของที่ระลึก ผ่านชม BlackTower หอคอยสีดำ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 ตั้งอยู่ใกล้มุมตะวันออกเฉียงเหนือของจัตุรัส ปรเมสเซอร์โอโตก้าที่ 2 ติดกับโบสถ์หลักของเซนต์นิโคลัส หอคอยสูง 72.25 เมตร ได้รับการตั้งชื่อเพราะสีเข้ม หอคอยสี่เหลี่ยมมีแผ่นนาฬิกาสีทองซึ่งดูสะดุดตามากในเมือง นาฬิกาจะเคาะทุกสิบห้านาที อีกทั้งเมื่อก่อนหอคอยโบราณแห่งนี้ยังใช้เป็นหอสังเกตการณ์ไฟในเมืองอีกด้วย

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า เวียนนา (ออสเตรีย) – พระราชวังฮอฟบวร์ก (บริเวณด้านนอก) – ช้อปปิ้ง คาร์ทเนอร์สตรีท (B/L/-)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ศูนย์กลางวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และการเมือง เมืองนี้ยังคงมนต์เสน่ห์แห่งเมืองหลวงของจักรวรรดิออสเตรียในอดีต โดยยังคงร่องรอยของศิลปะ ดนตรีคลาสสิก สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ แหล่งอุดมวัฒนธรรม จนขึ้นชื่อว่าโรแมนติกที่สุดอีกเมืองของโลก

นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) (บริเวณด้านนอก) เป็นพระราชวังที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก่อสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1275 แต่เดิมคือพระราชวังฤดูหนาวของราชวงศ์ฮอฟบวร์ก ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ชั้นยอดในบริเวณที่พำนักอันเก่าแก่ของราชวงศ์ที่ทรงอำนาจแห่งออสเตรีย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

จากนั้นอิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งแบบเต็มอิ่ม ณ คาร์ทเนอร์สตรีท (Karntner Strasse) ถนนสายนี้ปัจจุบันเปลี่ยนสภาพเป็นถนนคนเดิน ปูด้วยแนวหิน และขนาบข้างด้วยอาคารร้านค้าทั้งเก่าและใหม่สลับกันไป บรรยากาศของผู้คน ร้านรวงริมทาง และอุณหภูมิเย็นสบาย กระตุ้นต่อมช้อปปิ้งของเราให้เดินเข้าออกร้านสวยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด ทั้งร้านขนม ร้านขายงานประดิษฐ์ และร้านขายเครื่องแก้วอื่นๆอีกมากมาย
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่หก บราติสลาวา (สโลวาเกีย) – ย่านเมืองเก่า- Cumil รูปปั้นคนที่โผล่มาจากท่อระบายน้ำ – บูดาเปสต์ (ฮังการี) (B/-/D)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

เดินทางสู่ กรุงบราติสลาวา (Bratislava) เมืองหลวงของสาธารณรัฐสโลวาเกีย และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง) เมืองนี้ตั้งอยู่บนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ ตรงบริเวณพรมแดนของสโลวาเกียกับออสเตรียและฮังการี และใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็กด้วย ผ่านชม ปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle) ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา Little Carpathians ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 9-18 ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบโกธิค เรอเนสซองส์ และบารอกได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกถึงความหรูหรางดงาม
ผ่านชม มหาวิหารเซนต์มาร์ติน (St. Martin’s Cathedral) โบสถ์โกธิค ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 เป็นโบสถ์ที่ใช้สำหรับพิธีบรมราชาภิเษก บนยอดหอคอยของโบสถ์ที่มีความสูง 85 เมตร ภายในมีรูปจำลองมงกุฎที่มีน้ำหนักถึง 150 กิโลกรัม ติดตั้งอยู่ เพื่อเป็นสิ่งแสดงถึงอดีตที่เคยรุ่งโรจน์ จากนั้นเข้าสู่ ย่านเมืองเก่าบราติสลาวา (Old Town) ย่านแห่งประวัติศาสตร์ ประกอบไปด้วยอาคารสไตล์เรอเนสซองส์สวยๆ และสัญลักษณ์ที่ทำให้เมืองนี้เป็นที่รู้จัก ก็คือ รูปปั้นคูมิล Cumil Man at work (Peeping Tom) ผู้ชายยิ้มหวาน ที่โผล่ศีรษะออกมาจากท่อระบายน้ำทักทายนักท่องเที่ยว อิสระทุกท่านชมเมืองตามอัธยาศัย

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงบูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงของประเทศฮังการี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบที่ไหลผ่านใจกลางเมือง ทำให้แบ่งเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งบูดา (Buda) และฝั่งเปสต์ (Pest) กรุงปูดาเปสต์ได้ชื่อว่าเป้นเมืองแห่งสปา เนื่องด้วยมีบ่อน้ำร้อนจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วเมือง

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด จัตุรัสวีรบุรุษ – สะพานเชน – ปราสาทบูดา – ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ – สนามบินบูดาเปสต์ (ฮังการี) (B/-/-)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านชม จัตุรัสวีรบุรุษ (Hero Square) เป็นจัตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของบูดาเปสต์ ใจกลางจัตุรัสมีอนุสรณ์สถานพันปี หรือ Millennium Memorial ซึ่งมีความสูงถึง 36 เมตร และถูกขนาบด้วยรูปปั้นของอดีตกษัตริย์และบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของฮังการี 14 คน ปัจจุบันจัตุรัสวีรบุรุษถือเป็น พื้นที่มรดกโลกร่วมกับย่านถนนอันดราสซี Andrássy Avenue)

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ สะพานเชน (Chain Bridge) เป็นหนึ่งในสะพานที่สวยที่สุดในยุโรปที่สร้างข้ามแม่น้ำดานูบ (Danube River) ถือว่าเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของกรุงบูดาเปสต์ (Budapest) ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1839 โดยวิศวกรชาวอังกฤษชื่อ William Tierney Clark เป็นสะพานโซ่ขนาดใหญ่แห่งแรกที่เชื่อมระหว่างฝั่งบูดาและฝั่งเปสต์ ซึ่งเหล็กและวัสดุทั้งหมดได้นำมาจากประเทศอังกฤษทั้งสิ้น ที่คอสะพานเชนมีรูปปั้นหินแกะสลักรูปสิงห์โตนอนหมอบอยู่ทั้งสองข้าง

แวะถ่ายรูป ปราสาทบูดา พระราชวังแห่งอดีตของเมืองบูดา (Buda Castle) สถานที่แห่งประวัติศาสตร์ซึ่งเก็บทั้งความงดงามรุ่งโรจน์รวมถึงร่องรอยของอดีตแห่งเมืองบูดาเปสต์เอาไว้ รูปร่างสถาปัตยกรรมเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะในอดีตและสมัยใหม่ ทั้งยังได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก ปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บูดาเปสต์, หอศิลป์แห่งชาติ, หอสมุดเซเยนซีแห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ไวน์ใต้ดิน ซึ่งล้วนเป็นสถานที่สนใจที่น่าไปชมทั้งสิ้น

ถนนแฟชั่นบูดาเปสต์ เป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ถนนสายนี้เป็นที่รู้จักในด้านร้านค้าแฟชั่นชั้นนำจากแบรนด์ระดับโลก อาทิ Gucci, Louis Vuitton, Dior, Armani, Prada และ Chanel ถนนสายนี้ยังเต็มไปด้วยร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่มากมาย จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองบุดาเปสต์เองด้วย

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินบูดาเปสต์

20.20 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK) เที่ยวบินที่ TK1038 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที)

วันที่แปด สนามบินอิสตันบูล – สนามบินสุวรรณภูมิ
00.30 น. เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี (เวลาท้องถิ่น) จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 1.25 ชั่วโมง)
01.55 น. ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK068 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง 50 นาที)
15.20 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
ทัวร์ยุโรป