10. VFCOGVA85SV-10 ริเวียร่า อู้วลั้ลลา อิตาลี ฝรั่งเศ

ทัวร์ยุโรป ริเวียร่า อู้วลั้ลลา อิตาลี ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ 8 วัน 5 คืน (SV)

ราคาเริ่มต้น 75,555 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

ย่านเมืองเก่านีซ (Old Nice) หรือ Vieille Ville เต็มไปด้วยตึกอาคารโบราณสีสันสดใสและตรอกซอกซอยที่มีร้านค้าและร้านอาหารอยู่ตามมุมต่างๆ ให้เลือกสรร ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่บริเวณ คาสเซิล ฮิลล์ ตลอดมาจนถึง จัตุรัสมาเซน่า ย่านเมืองเก่านีซนับว่าเป็นจุดศูนย์รวมของสถานที่สำคัญในเมือง ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารนีซ (Nice Cathedral)Palais De La Préfectureตลาดกูร์ ซาลียา (Cours Saleya) และอื่นๆ อีกมากมาย ใครที่ชอบบรรยากาศเก่าๆ จะต้องหลงรักย่านนี้อย่างแน่นอน

วันที่เดินทาง

9 ต.ค. 67 – 16 ต.ค. 67

ทัวร์ยุโรป

วันที่ (1) สนามบินสุวรรณภูมิ
23.00 น. คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินซาอุเดีย (SV) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
*** เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด ***
ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบินเนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ป การจัดที่นั่งจะเป็นระบบ RANDOM
ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบิน

วันที่ (2) สนามบินเจดดาห์ – สนามบินโรม ฟูมิซิโน่ – โรม – โคลอสเซียม – น้ำพุเทรวี – บันไดสเปน (-/-/D)
02.15 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยสายการบินซาอุเดีย เที่ยวบินที่ SV849 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 8.15 ชั่วโมง) (เวลาประเทศซาอุดิอาระเบีย ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)
06.30 น. เดินทางถึง สนามบินเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศอิตาลี (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 4 ชั่วโมง)
10.30 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินโรม ฟูมิชิโน่ ประเทศอิตาลี โดยสายการบินซาอุเดีย เที่ยวบินที่ SV201 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง 10 นาที)
14.40 น. ถึง สนามบินโรม ฟูมิชิโน่ ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว
นำท่านเดินทางสู่กรุงโรม (Rome) เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศอิตาลีซึ่งมีอายุเก่าแก่ถึง 2700 ปี ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโรมัน ซึ่งเป็นผู้ที่วางราหฐานอารยธรรมตะวันตกเผยแพร่ไปทั่วยุโรป และอาณาจักรแห่งนี้ได้เสื่อมถอยจากการมาถึงของศาสนจักรจึงเข้าสู่ยุคมืดในที่สุด
พาท่านชม โคลอสเซียม (Colosseum) แลนมาร์กและสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอิตาลี เป็นสนามกีฬาทรงกลมขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ 72 แล้วเสร็จในปี ค.ศ 80 ทั้งนี้ยังสามาถจุคนได้มากถึง 80,000 คนเลยทีเดียว โดยวัตถุประสงค์ในการสร้างโคลอสเซียมนั้นเพื่อเป็นการชมกีฬาและการต่อสู้ของเหล่าทาสและกลาดิเอเตอร์ในการประลองเพื่อเอาชีวิตรอดรวมถึงการแสดงฝีมือของเหล่านักรบอีกทั้งหากผู้ที่ชนะศึกการประลองจะได้รับชื่อเสียงและเงินทองมากมายอีกด้วย โดยในปี 1980 โคลอสเซียมได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลกโดยองค์กร Unesco และในปี 2007 และได้ถูกยกให้กลายเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่อีกด้วย

บริเวณใกล้กันนั้นท่านจะได้เห็น ประตูชัยคอนสแตนติน (Arch of Constantine) สร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะของจักรพรรดิคอนสแตนตินในการสู้รบที่สะพานมิลเวียน การออกแบบโดยทั่วไปของซุ้มประตูนั้นมีส่วนหลักที่มีโครงสร้างเป็นเสาเดี่ยว และห้องใต้หลังคาที่มีจารึกหลักอยู่ที่บริเวณด้านบน ซึ่งได้จารึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ในชัยชนะของการรบอันยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์โรมัน

จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) ถูกสร้างขึ้นในปี 1732 โดยสถาปนิกนามว่านิโคลา ซาลวี แต่เนื่องจากสถาปนิกท่านนี้ได้เสียชีวิตไปก่อนหลังจากก่อสร้างน้ำพุแห่งนี้ซึ่งสร้างเสร็จไปเพียงครึ่งนึงเท่านั้น ซึ่งแล้วเสร็จในปี 1762 โดยศิลปินนาว่า โจวานนี เปาโล ปานินิ ซึ่งน้ำพุแห่งนี้มีรูปปั้นของเทพเนปจูนหรือเทพเจ้าโพไซดอนตามตำนานปกรนัมกรีก โดยน้ำพุแห่งนี้มีความเชื่อกันว่าหากเราโยนเหรียญในการอธิษฐานตกลงไปใต้น้ำพุซึ่งเชื่อกันว่าจะทำให้กลับมายังน้ำพุเทรวีแห่งนี้อีกครั้ง

และไม่ไกลจากน้ำพุเทรวีมากนัก นำท่านเดินทางสู่ บันไดสเปน (Spanish Step) เป็นบันไดที่กว้างและยาวที่สุดในยุโรป ด้วยขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่และมีความเป็นเอกลักษณ์ในแบบฉบับโรมัน ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลีนามว่า ฟรานเชสโก เด ซังค์ติส และ อาเลสซานโดร สเปคชี ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ 1723 แล้วเสร็จในปีค.ศ 1725 ด้วยเงินจากกองทุนมรดกของนักการทูตชาวฝรั่งเศส

เย็น รับประทานอาหารเย็น
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่ (3) ฟลอเรนซ์ – วิหารฟลอเรนซ์ – เปียซซา เดลลา ซิญญอเรีย – สะพานเวคคิโอ – ปิซ่า – หอเอนปิซ่า (B/-/D)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าสู่เมือง ฟลอเรนซ์ (Florence) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เมืองที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งศิลปะในยุคเรอเนสซองส์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มี โบราณสถานสําคัญ และมีทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงามจนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกจาก องค์กรยูเนสโก้เมื่อ ปี ค.ศ.1982 ทําให้ทัสคานีมีชื่อเสียงในฐานะดินแดนท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก อิตาลี จากนั้นนําท่านชมความยิ่งใหญ่ และอลังการของ มหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร (Santa Maria Dell Fiore) วิหารของเมืองฟลอเรนซ์ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4ของทวีปยุโรป ซึ่งโดด เด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ใช้หินอ่อนหลายสีตกแต่งผสมผสานกันได้อย่างงดงาม นําชม จัตุรัสเดลลา ซิญญอเรีย (Piazza Della Signoria) ซึ่งรายล้อมไปด้วยรูปปั้น อาทิ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าเนปจูน (Fountain Of Neptune), วีรบุรุษเปอร์ซิอุสถือหัวเมดูซ่า (Perseus With The Head Of Medusa), รูปปั้นเดวิด ผลงานที่มีชื่อเสียงของ ไมเคิล แองเจโล่ นําท่านมาริมฝั่งแม่น้ำอาร์โน จะพบกับ สะพานเวคคิโอ (Vecchio) สะพานเก่าแก่ที่มีมีร้านขายทอง และอัญมณีอยู่ทั้งสองข้างสะพาน ให้เวลาท่านอิสระเลือกซื้อสินค้าทั้งของฝาก ของที่ระลึก รวมทั้งสินค้าแฟชั่นนําสมัย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นทอสคานา ประเทศอิตาลี พาท่านชม หอเอนเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ใช้เวลาในการก่อสร้างกว่า 200 ปี โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกเป็นเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 ไม่ปรากฏชัดเจนว่าใครเป็นคนออกแบบ เมื่อสร้างไปได้ 3 ชั้น การก่อสร้างก็มีอันต้องยุติลง เพราะเมืองปิซ่าเข้าสู่ภาวะสงคราม ระหว่างการก่อสร้างช่วงแรก เพียงแค่ 5 ปี หลังจากเริ่มทำการก่อสร้างก็พบว่า หอคอยแห่งนี้ก็เริ่มเอนลงไปทางเหนือแล้ว โดยครั้งแรกที่สามารถสังเกตเห็นความผิดปกติของหอคอยแห่งนี้ก็ในช่วงที่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมช่วงที่สอง แต่ทว่าสถาปนิก จิโอวานนี ดิ ซิโมเน ก็ยังคงเดินหน้าสร้างต่อ โดยปัจจุบันนี้ หอเอนเมืองปิซ่า ลาดเอียงลงมาประมาณ 13 องศาแล้ว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า หอเอนมีโอกาสพังถล่มลงมาแน่นอน โดยทุกๆ 20 ปี หอคอยแห่งนี้จะเอนลง 1 นิ้ว และมีคนทำนายว่า หอคอยแห่งนี้จะพังถล่มลงมาในปี 2200 หากยังไม่มีใครหาทางป้องกันได้

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่ (4) สถานีรถไฟ ลา สเปเซีย – ชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) – หมู่บ้านริโอ แมกจิโอเร่ (Rio – Maggiore) – หมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) – หมู่บ้านเวร์นาซซา (Vernazza) – สถานีรถไฟ เลวานโต้ – นีซ
(B/-/D)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นําท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟ ลา สเปเซีย (La Spezia) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เพื่อนั่งรถไฟ สู่ ชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี ที่มีความหมายว่า “ดินแดนทั้งห้า (Five Land)” ตั้งบนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่ MONTEROSSO AL MARE, VERNAZZA, CORNIGLIA, MANAROLA และ RIO MAGGIORE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้มีหุบเขาล้อมรอบ ประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้อีกด้วย
นําท่านเดินเล่นชม หมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ (Rio – Maggiore) เป็นหมู่บ้านประมง เล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วย ต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์

กลับขึ้นรถไฟไปต่อยัง หมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) ที่ถือได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุดในห้าหมู่บ้าน ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 อาคารสีสันสดใสที่ตั้งเรียงรายไล่ระดับลงมาหน้าผา ตัดกับสีของน้ำทะเลที่ท่านจะต้องเพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นชมเมือง

นำท่านกลับขึ้นรถไฟไปต่อยัง หมู่บ้านเวร์นาซซา (Vernazza) หมู่บ้านชาวชาวประมงเล็กๆ ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงเรื่องความสวยงามของบ้านเรือนที่อยู่ติดทะเล โดยมีโบสถ์หลังเล็กตั้งเด่นเป็นเเลนด์มาร์คอยู่ริมอ่าวคือ โบสถ์ Santa Margherita Di Antiochia สร้างขึ้นตั้งเเต่ราวศตวรรษที่ 9 มี หอนาฬิกาเเปดเหลี่ยม ตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า ไม่ไกลจากโบสถ์จะมีบันไดทางขึ้นเล็กๆ ที่แทรกตัวอยู่ระหว่างตึก เมื่อเดินตามทางขึ้นไปเรื่อยๆ จะพาเรามาอยู่ด้านหลังของโบสถ์ Santa Margherita หลังจากเดินผ่านจุด Check Point ไปอีกเล็กน้อย จะเป็นจุดชมวิว และจุดถ่ายภาพที่สวยที่สุดของหมู่บ้าน Vernazz จากจุดนี้ เราจะสามารถมองเห็นอาคารบ้านเรือนหลากสีที่ตั้งอยู่ลดหลั่น ตัดกับท้องฟ้าสดใส และท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
สมควรแก่เวลานำท่านขึ้นรถไฟกลับสู่เมืองเลวานโต้ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนีซ (Nice) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.15 ชั่วโมง) หนึ่งในเมืองใหญ่ของฝรั่งเศสที่อยู่ติดชายฝั่งทะเล เป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองตากอากาศที่ดีที่สุดในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสามารถชมความสวยงามของท้องทะเลสีน้ำเงินอมฟ้าได้ตลอดทั้งปี เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของฝรั่งเศสทางตอนใต้
เย็น รับประทานอาหารเย็น
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่ (5) นีซ – จตุรัสมาเซนา – ย่านเมืองเก่านีซ – มหาวิหารนีซ – โมนาโก – คานส์ – เอ็กซองโพรวองซ์ – ย่านเมืองเก่าเอ็กซองโพรวองซ์ (B/L/-)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสมาเซน่า (Place Massena) จัตุรัสใจกลางเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เชื่อมต่อกับส่วนของย่านเมืองเก่านีซ รายล้อมไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมสมัยศตวรรษที่ 17 รวมถึงร้านค้าต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ยังมีงานประติมากรรมของ Jaume Plensa ศิลปินชาวสเปนที่นำมาประดับตกแต่งรอบๆ จัตุรัส รวมถึง น้ำพุ Fontaine Du Soleil ที่มีรูปปั้น Apollo อยู่ตรงกลาง ในยามค่ำคืนก็จะมีการประดับแสงสีอย่างสวยงาม

ย่านเมืองเก่านีซ (Old Nice) หรือ Vieille Ville เต็มไปด้วยตึกอาคารโบราณสีสันสดใสและตรอกซอกซอยที่มีร้านค้าและร้านอาหารอยู่ตามมุมต่างๆ ให้เลือกสรร ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่บริเวณ คาสเซิล ฮิลล์ ตลอดมาจนถึง จัตุรัสมาเซน่า ย่านเมืองเก่านีซนับว่าเป็นจุดศูนย์รวมของสถานที่สำคัญในเมือง ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารนีซ (Nice Cathedral), Palais De La Préfecture, ตลาดกูร์ ซาลียา (Cours Saleya) และอื่นๆ อีกมากมาย ใครที่ชอบบรรยากาศเก่าๆ จะต้องหลงรักย่านนี้อย่างแน่นอน

นำท่านเดินทางสู่ โมนาโก อีกหนึ่งประเทศที่สุดอลัง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ประเทศที่ตั้งอยู่ในบริเวณยุโรปตะวันตกอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เรียกว่าใครที่เป็นสาย F1 จะต้องคุ้นเคยกับประเทศนี้เป็นอย่างดีเพราะจะจัดเป็นประจำและมีสนามแข่งริมทะเลที่สวยงามแบบเห็นทั้งการแข่งขันสุดมันส์และวิวของทะเลที่สวยงามอลังการอีกด้วย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคานส์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) หลายๆ คนคงรู้จักกันอยู่แล้ว เพราะทุกๆ ปีจะมีการจัดงาน เทศกาลภาพยนต์นานาชาติเมืองคานส์ (Cannes Film Festival) คานส์ อยู่ทางภาคใต้ของประเทศฝรั่งเศส ริมชายฝั่งโกต์ ดาซูร์ (Côte d’Azur) ติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สมัยก่อนเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ กระทั่งยุคศตวรรษที่ 19 เมืองเริ่มเจริญขึ้น มีการสร้างสถานที่พักตากอากาศสำหรับชนชั้นสูง ประกอบกับสภาพอากาศของที่นี่อบอุ่นตลอดทั้งปี ไม่เคยมีฤดูหนาว ชายหาดก็สวยกว่าเมืองอื่นๆ ในยุโรป ทำให้ที่คานส์กลายมาเป็นเมืองตากอากาศขึ้นชื่อ สำหรับแวะเวียนมาพักผ่อนในช่วงฤดูหนาวนั่นเอง อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง
นำท่านเดินทางสู่เมือง แอ็ก-ซ็อง โพรวองซ์ (Aix-En Provence) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.15 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลวงของแคว้นโพรวองซ์ เมืองเก่าที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ 123 ปีก่อนคริสตกาล มักจะถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งศิลปินเนื่องจากมีเหล่านักเขียนและศิลปินต่างๆ พากันมาพักผ่อนหย่อนใจที่เมืองนี้เป็นส่วนใหญ่และบ่อยครั้ง อีกทั้งยังเป็นบ้านเกิดของศิลปินระดับโลกอย่าง ปอล เซซาน จิตรกรลัทธิประทับใจผู้เปลี่ยนภูมิทัศน์ของศิลปะผู้ซึ่งเป็นเพื่อนคนสนิทของวินเซน์ แวนโก๊ะ อีกด้วย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง
นำท่านเดินทาง ชมย่านเมืองเก่าของแอ็ก-ซอง โพรวองซ์ บริเวนย่านเมืองเก่าแห่งนี้มีวงเวียนน้ำพุที่สวยงามตั้งอยู่มีร้านอาหารและคาเฟ่ตั้งอยู่หลากหลายคอยให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศสบายๆในเมืองแห่งนี้ โดย Highlight ที่พลาดไม่ได้นั่นก็คือรูปปั้นของ ปอล เซซาน ขนาดเท่าคนจริงตั้งโดดเด่นอยู่ในย่านแห่งนี้นั่นเอง

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่ (6) อาวีญง – ลียง – เจนีวา (B/-/D)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอาวีญง (Avignon) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งพระสันตะปาปา เนื่องจากในอดีตนั้นเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตะปาปา นอกจากนี้อาวีญงยังเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองที่ยังมีกำแพงเมืองเก่าที่สภาพยังคงมีความสมบูรณ์อยู่และยังมีศูนย์เรียนรู้ประวัติศาสตร์ให้บริการ ทั้งนี้ภายในเมืองยังมีพระราชวังพระสันตะปาปาและสะพานอาวีญง ซึ่งยังคงอยู่ในสภาพที่ดีทั้งสองแห่ง ซึ่งสถานที่ทั้งสองแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ Unesco ในปีค.ศ. 1995 อีกด้วย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง

เดินทางสู่ เมืองลียง (Lyon) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เมืองลียงเป็นเมืองที่มีมีชื่อเสียงในด้านของสถาปัตยกรรม , การทอผ้าไหมโบราณ และได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1998 อีกทั้งยังมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของอาหาร และยังมีส่วนสำคัญกับประวัติศาสตร์ภาพยนตร์โดยเป็นบ้านเกิดของพี่น้องลูมิแยร์ ผู้ประดิษฐ์เครื่องฉายภาพยนตร์ในลียง ซี่งในทุกๆวันที่ 8 ในเดือนธันวาคมของทุกปีจะมีเทศกาล Fête Des Lumières หรือเทศกาลแห่งแสงสว่าง ที่ทั้งเมืองจะจัดแสดงแสงไฟที่มีความสวยงามและโดดเด่นทำให้เมืองแห่งนี้เองได้ถูกยกให้ว่าเป็นเมืองหลวงแห่งแสงสว่างอีกด้วย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง
เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนีวา (Geneva) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.15 ชั่วโมง) เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (รองจากซูริค) โดยถือว่าเป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกมากมายเช่น ทะเลสาบเจนีวา น้ำพุเจ็ทโด้ เป็นต้น เมืองที่มีประชากรมากที่สุดในภาครอม็องดีอัน เป็นภูมิภาคที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลักในสวิตเซอร์แลนด์ นครเจนีวาตั้งอยู่บริเวณต้นแม่น้ำโรนซึ่งไหลออกจากทะเลสาบเจนีวา ณ ปัจจุบัน เจนีวามีสถานะเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐแห่งรัฐเจนีวา ในอดีตเมืองเจนีวาเคยอยู่ภายใต้การปกครองของโรมัน และฝรั่งเศส แต่เมื่อได้รับอิสรภาพจึงรีบหาพันธมิตรเพราะไม่อยากโดนรุกรานอีก โดยการเข้าร่วมเป็นสมาชิกพันธรัฐสวิส จากนั้นเจนีวาก็รู้จักอย่างกว้างขวางในนาม “เมืองแห่งองค์กรนานาชาติ”
เย็น เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วัน (7) ทะเลสาบเจนีวา – น้ำพุ JET D’ EAU – นาฬิกาดอกไม้ – สนามบินเจนีวา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

ชม ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ทะเลสาบคล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยว และเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถ่ายรูปกับ น้ำพุเจทโด (Jet d’Eau หรือ แฌโด) ที่ฉีดสายน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 140 เมตร (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับ นาฬิกาดอกไม้ สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนีวา อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง

เที่ยง อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินเจนีวา

16.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยสายการบินซาอุเดีย เที่ยวบินที่ SV236 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 5.30 ชั่วโมง) (เวลาประเทศซาอุดิอาระเบีย ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)
22.30 น. เดินทางถึง สนามบินเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย (เวลาท้องถิ่น) นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางสู่ประเทศเยอรมนี (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 3 ชั่วโมง)

วันที่ (8) สนามบินเจดดาห์ – สนามบินสุวรรณภูมิ
01.30 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบินซาอุเดีย เที่ยวบินที่ SV844 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 8 ชั่วโมง 15 นาที)
13.45 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

ทัวร์ยุโรป