UIEU017

ทัวร์ยุโรป GERMANY AUSTRIA ITALY 9 DAYS (EK)

ราคาเริ่มต้น 99,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: Image

จากนั้นนำท่านเดินทาสู่ เมืองอินส์บรูค (Innsbruck) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง เป็นเมืองหลวงของแคว้นทีโรล ประเทศออสเตรีย เป็นเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอินซึ่งคำว่า “อินส์บรูคนั้น” แปลว่า สะพานแห่งแม่น้ำอินมีลักษณะแคบๆ แทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ ชมหลังคาทองคำ (Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรูค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล ต่อมาจักรพรรดิ Maximilian

วันที่เดินทาง

17 ก.ย. 67 – 25 ก.ย. 67, 16 ต.ค. 67 – 24 ต.ค. 67, 18 ต.ค. 67 – 26 ต.ค. 67

ทัวร์ยุโรป

23.00 น.  คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

02.50 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK377 ( บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
06.00 น. เดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
08.50 น.  ออกเดินทางสู่ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK049 ( บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

13.15 น.  เดินทางถึง สนามบินเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิค (MUNICH) เมืองที่เต็มไปด้วยความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมในหลายรูปแบบ ไม่ว่าแบบเรอเนซองส์ คลาสสิคหรือทันสมัย นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสมาเรียน พลัทซ์ (Marienplatz) หรือ จัตุรัสมารี (Mary) แลนด์มาร์คใจกลางเมือง ในอดีตพื้นที่นี้เคยเป็นตลาดเรียกว่า “ตลาดสี่เหลี่ยม” ภายหลังได้กลายเป็นที่ตั้งของ New Town Hall ได้รับการออกแบบและตกแต่งในสไตล์โกธิค ในบริเวณจตุรัสประกอบไปด้วย ศาลากลางเก่าที่มีซุ้มประตูและหอคอย ศาลาว่าการ New Town สถาปัตยกรรมเสารูปปั้นของพระแม่มารีสีทอง น้ำพุปลา และหอคอย Glockenspiel ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในช่วงฤดูร้อนจะมีการโชว์ระบำตุ๊กตาในช่วงเวลา 11.00 น. – 12.00 น. และ 17.00 น.อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย หรือเลือกเดินเล่นชมเมืองถ่ายรุปบริเวณจัตุรัสมาเรียน ตามอัธยาศัย
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร **เมนูขาหมูเยอรมัน เสิร์ฟพร้อมเบียร์** จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก  Holiday Inn Munich City Center Hotel หรือเทียบเท่า

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ ฮัลล์สตัทท์ ประเทศออสเตรีย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวยงามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่งโดย อิสระท่านชมเมือง ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร **เมนูพิเศษ ปลาเทร้าท์** จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลบูร์ก ประเทศออสเตรีย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ระหว่างทางมีวิวทิวทัศน์สวยงามเป็นเอกลักษณ์ออสเตรีย เนินภูเขาหญ้า สลับทะเลสาบตลอดเส้นทาง นำท่านชม สวนมิราเบล ให้ท่านเก็บบันทึกภาพประทับใจไว้เป็นที่ระลึก อีกทั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำของ The Sound of Music ภาพยนต์เพลงที่ยิ่งใหญ่ฮอลิวู๊ด จากนั้นนำท่านข้ามแม่น้ำซาลส์ซัคสู่ย่านเมืองเก่า และแวะเก็บบันทึกภาพ ปราสาทโฮเฮ็นซาลส์บวร์ก ที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนเนินเหนือเมืองเก่า นำท่านเดินเล่น ย่านเขตเมืองซาลบูร์ก ที่มีชื่อเสียงในสถาปัตยกรรมบาร็อค ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะบริเวณเมืองเก่า จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1997 มีอาณาเขตติดกับเทือกเขาแอลป์ นำท่านชม บ้านเลขที่ 9 เป็นบ้านเกิดของคีตกวีเอกในศตวรรษที่ 18 นามว่า วูล์ฟกัง อามาเดอุส โมสาท (Wolfgang Amadeus Mozart) ตั้งอยู่บนถนน Geteidegasse จากนั้นอิสระให้ท่านชมร้านค้าที่รายเรียงอยู่สองข้างทางถนนคนเดิน หรือจะแวะถ่ายรูปมหาวิหารของเมืองซาลส์บวร์ก ที่ตั้งอยู่ตรงจัตุรัสกลางเมือง
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 Fourside Hotel Salzburg หรือเทียบเท่า

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทาสู่ เมืองอินส์บรูค (Innsbruck) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง เป็นเมืองหลวงของแคว้นทีโรล ประเทศออสเตรีย เป็นเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอินซึ่งคำว่า “อินส์บรูคนั้น” แปลว่า สะพานแห่งแม่น้ำอินมีลักษณะแคบๆ แทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ ชมหลังคาทองคำ (Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรูค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล ต่อมาจักรพรรดิ Maximilian

เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ชุมชน Val di Funes หรือ Villnöß ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง ชุมชนเล็กๆทางภาคตะวันตกของอุทยานโดโลไมต์ ประกอบไปด้วยหมู่บ้านเล็กๆ 6 หมู่บ้าน โดยมีชื่อเสียงจากการมีวิวทิวทัศน์ที่สวยที่ในเขต South Tyrol จากนั้นนำท่านเก็บภาพความประทับใจอีกนึงสถานที่ ณ โบสถ์ Santa Maddalena โบสถ์ที่ถือเป็นสถานที่ไฮไลต์ทที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในอุทยานโดโลไมต์ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมีฉาหหลังเป็นเทือกเขา Odles (การเดินขึ้นไปเก็บภาพความประทับใจนี้ ท่านจะต้องเดินขึ้นลงเนินไปและกลับประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อไปเก็บภาพ)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบลซาโน (Bolzano) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในเขตโดโลไมท์ โบลซาโน่เป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ ซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ ที่นี่แม่น้ำ Talvera จะไหลลงไปในแม่น้ำ Israco และมารวมกันเป็นแม่น้ำ Adige (เมืองโบลซาโน เป็นเมืองที่ใช้ในการพักค้างคืนเท่านั้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้หากไม่มีที่พักว่างในช่วงวันเดินทางนั้นๆ โดยทางบริษัทจะเปลี่ยนไปยังเมืองอื่นแทนโดยยังคงซึ่งความสะดวกสบายในการเดินทาง)
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 Four Points by Sheraton Bolzano Hotel หรือเทียบเท่า
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองออร์ติเซ่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที เมืองแห่งศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในแถบอุทยานโดโลไมท์ เป็นเมืองรีสอร์ทเล็กๆที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Dolomites Val Gardena โดยมีเทือกเขาต่างๆอยู่ราย ล้อม เช่น Seceda, Resciesa, Alpe di Siusi, Monte Piz และ Col de Mesdí ฯลฯ ที่นี่จัดได้ว่าเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวโดโลไมท์ในด้านตะวันตก จึงมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนตลอดทั้งปี นำท่านขึ้น กระเช้า Ortisei / St.Ulrich – Seiser Alm / Alpe di Suisi นำท่านขึ้นไปที่ระดับความสูง 1,684 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สู่บนเนินเขาที่เราเรียกว่า “ALPE DI SIUSI” นำท่านชมวิวทิวทศน์บนทุ่งหญ้า ราบเลียบบนภูเขา Seiser Alm ที่ได้ขึ้นชื่อว่ากว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป และยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก Unesco อีกด้วย ท่านจะได้สัมผัสความงดงามอันประหลาดมหัศจรรย์ของดินแดนเทือกเขาโดโลไมท์ จากมุมสูงรอบด้าน ชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของหุบเขา โตรกผา โดยมีเทือกเขา SASOLUNGO MOUNTAIN RANGE ที่มีรูปทรงประหลาดยอดเขาแหลมชันเป็นจุดเด่น อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย

เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเบรียส (Lake Braies) หรือ (Pragser Wildsee) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ทะเลสาบที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมต์ และยังได้เป็นส่วนหนึ่งในมรดกโลกที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกอีกด้วย อิสระให้ท่านได้เดินทางถ่ายภาพรอบๆทะเลสาบตามอัธยาศัย

ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองคอร์ติน่า เดมปาสโซ่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ (DOLOMITE) คอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ สกีรีสอร์ท BEST OF THE ALPS เพียงแห่งเดียวของอิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 สกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโลก และเคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1956 รวมถึงเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เจมส์บอนด์ 007 ตอน FOR YOUR EYE ONLY
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 Boutique Hotel Villa Blu หรือเทียบเท่า
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ที่ ทะเลสาบมิซูลิน่า (MISURINA LAKE) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที เป็นทะเลสาบที่สวยงามและเป็นเหมือนกับหนึ่งในแลนด์มาร์คที่นักท่อวเที่ยวต้องมาเยือนสักครรั้งหนึ่ง เป็นทะเลสาบที่หลบซ่อนตัวในหุบเขา ที่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งในโดโลไมท์

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เวนิส เมสเตร้ แคว้นเวเนเซีย (Venezia) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะและมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง
เที่ยง  บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ และนั่งเรือต่อไปยัง ท่าเรือซานมาร์โค (San Marco Pier) บนเกาะเวนิส
แวะให้ถ่ายรูปสวยๆ เก็บเป็นที่ระลึกกันที่ พระราชวังดอดจ์ (Doge’s Palace) พระราชวังริมน้ำแสนอลังการที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ในสไตล์เวเนเชียนโกธิค ที่เคยเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแต่เก่าก่อนของเวนิส แต่ตั้งแต่ปี 1923 ก็ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ให้คนทั่วไปได้เข้าชม เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กหลักของเวนิส จากนั้นเดินเที่ยวชมแลนด์มาร์คสำคัญต่างๆ ในเมือง และเก็บภาพสถานที่ต่างของเมืองแห่งคลองไม่ว่าจะเป็น จัตุรัสเซนต์มาร์ค (St. Mark’s Square) จัตุรัสหลักของเมืองเวนิสและยังเป็นศูนย์กลางเมืองตั้งแต่โบราณ รายล้อมไปด้วยอาคารสวยๆ สไตล์โกธิค และจุดเด่นของจัตุรัสเซนต์มาร์คแห่งนี้ก็คือ มหาวิหารเซนต์มาร์ค (St. Mark’s Basilica) ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของจัตุรัสเซนต์มาร์ค มหาวิหารใหญ่ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก อลังการด้วยการตกแต่งด้วยโดมใหญ่ รูปปั้นมากมายที่ทั้งละเอียดและประณีต และที่อยู่ติดกันและโดดเด่นด้วยความสูงถึง 50 เมตรก็คือ หอระฆัง ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองที่เห็นได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของเมืองก็ตาม และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ สะพานถอนหายใจ สะพานอันโด่งดังแห่งนี้ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำที่คั่นกลางระหว่างคุกเก่ากับพระราชวังดอดจ์ ทำจากหินปูนที่แกะสลักและออกแบบอย่างงดงามเช่นเดียวกับพระราชวังดอดจ์และอาคารโดยรอบ ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางโดยเรือกลับสู่ เวนิส เมสเตร้
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 Antony Palace Hotel หรือเทียบเท่า
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวโรน่า (Verona) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง หนึ่งในหัวเมืองใหญ่ของแคว้นและเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่3ทางภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลีและยังเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของอิตาลีตอนเหนืออีกด้วยนำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่าที่ยังคงเสน่ห์ของความเป็นเมืองยุคกลางไว้ได้อย่างครบถ้วนเมืองเวโรน่าแนี้ยังมีชื่อเสียงด้วยการเป็นเมืองโลเกชั่นของวรรณกรรมชื่อดังอย่าง โรมิโอแอนด์จูเลียต นำท่านถ่ายรูป บ้านโรมิโอ&จูเลียต (Casa di Giulietta) บ้านปูนสีขาวที่มีจุดเด่นคือระเบียงสถานที่ๆโรมิโอและจูเลียตได้พบรักกันจุดนี้เองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายมายังเมืองเวโรน่าเพื่อชมต้นกำเนิดของตำนานความรักชื่อดัง
เที่ยง  บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซีร์มิโอเน่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นเมืองเก่าแก่อายุนับ 2000 ปี ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ดา (LAKE GARDA) ที่สวยงาม ก่อนศตวรรษที่ 15 ซีร์มิโอเน่ อยู่ภายใต้การปกครองของเมืองเวนิส หรือจะเรียกได้ว่าเป็นอาณาบริเวณหนึ่งของเมืองเวนิสนั่นเอง เพราะสมัยนั้นเมืองต่างๆ ในประเทศอิตาลียังไม่ได้รวมตัวกันต่างเป็นเอกเทศปกครองกันเองแถมมีการทำสงครามเพื่อแย่ง ชิงเมือง ซีร์มิโอเน่เลยเป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ที่สำคัญมีหลักฐานและร่องรอยทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคสมัยโรมันทั้งกำแพงเมืองที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันสงคราม ในอดีตเคยเป็นเมืองที่มีผู้คนที่มีฐานะในยุคสมัยโรมันใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและปัจจุบันก็เป็นเมืองพักผ่อนริมทะเลสาบ นำท่านถ่ายภาพด้านหน้าปราสาทเก่าแก่ของเมือง THE SCALLGER OF SIRMIONE สร้างในปี 1277 เมืองนี้เคยอยู่ในการปกครองของตระกูล Scaliger

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (MILAN) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ในแคว้นที่ราบลอมบาร์ดีเป็น เมืองที่มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 The Hub Hotel หรือเทียบเท่า
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเที่ยวชม ปิอาซซ่า เดล ดูโอโม่ (Piazza Del Duomo) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือ ที่เรียกว่าดูโอโม่ (DUOMO) ชื่อนี้ไว้ใช้เรียกมหาวิหารประจำเมือง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 แล้วเสร็จ 400 กว่าปีหลังจากนั้น ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเรียกว่า “มหาวิหารเม่น” มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่างๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูป บนยอดของมหาวิหารมีรูปปั้นทอง ขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่า และบริเวณนั้นยังเป็นศูนย์กลางแหล่งชุมนุมของผู้คนมาทุกยุคสมัย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม ซึ่งมีจำหน่ายมากมายในบริเวณ กัลเลเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล หรือจะเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ McArthurGlen Designer Outlet in Serravalle ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง  อิสระอาหารกลางวันอัธยาศัย (ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารได้ภายใน OUTLET)

ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS ,BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE , NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย เมื่อได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่สนามบิน
22.20 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK092 ( บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

06.25 น. เดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 372 ( บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
19.15 น.  เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

ทัวร์ยุโรป