1719829455

ทัวร์ยุโรป ITALY เกาะเวนิสทำเราเพ้อ แต่เกาะแขนเธอทำเรารัก 8 วัน 5 คืน (GF)

ราคาเริ่มต้น 75,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

นำท่านเดินสู่ทะเลสาบมิสุริน่า (Misurina Lake) ทะเลสาบสีเขียวมรกตที่รายล้อมไปด้วยป่าสนแห่งเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูง 1,754 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่เป็นทะเลสาบที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งในแถบ Dolomite นี้เลย เนื่องด้วยความสวยงามของทะเลสาบ บางเวลาน้ำนิ่งราวกระจกเงาใส ที่นักท่องเที่ยวจะแวะเวียนมาอิสระท่าน ถ่ายภาพความงดงามของทะเลสาบจนเต็มอิ่ม จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเบรียส ( Lake Braies ) หรือ (Pragser Wildsee) ทะเลสาบที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมต์ และยังได้เป็นส่วนหนึ่งใน มรดกโลก (Unesco) อีกด้วย

วันที่เดินทาง

18 ต.ค. 67 – 25 ต.ค. 67, 11 ต.ค. 67 – 18 ต.ค. 67, 25 ต.ค. 67 – 1 พ.ย. 67

ทัวร์ยุโรป 

วันที่หนึ่ง กรุงเทพ
12.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบินกัฟฟ์แอร์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
15.45 น. ออกเดินทางสู่บาห์เรนด้วยเที่ยวบิน GF153
19. น. เดินทางถึงสนามบินบาห์เรน รอเปลี่ยนเครื่อง

วันที่สอง บาห์เรน – โรม – วาติกัน – โคลอสเซียม – น้ำพุเทรวี่ – ปิซ่า -หอเอนปิซ่า
01.40 น. ออกเดินทางสู่กรุงโรมด้วยเที่ยวบิน GF27
05.50 น. ถึงสนามบินฟูมิชิโน กรุงโรม ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง และ วันที่ ตุลาคม ปรับเวลาท้องถื่นเป็นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นผ่านชมกลุ่มโรมันฟอรัม (Roman Forum) อดีตศูนย์กลางทางด้านการเมือง ศาสนา และเศรษฐกิจของอาณาจักรโรมัน ที่สะท้อนให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของอารยะธรรมโรมันในช่วง 2,000 ปีที่ผ่านมา นำท่านเดินทางพาท่านเข้าสู่นครรัฐวาติกัน (Vatican) ประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีกำแพงล้อมรอบเมืองเอาไว้ได้ทั้งหมด ยกเว้นด้านหน้าทางเข้า และเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกโดยมีพระสันตะปาปา มีอำนาจปกครองสูงสุด ชมมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica) นำท่านผ่านชมกลุ่มโรมันฟอรัม (Roman Forum) อดีตศูนย์กลางทางด้านการเมือง ศาสนา และเศรษฐกิจของอาณาจักรโรมัน ที่สะท้อนให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของอารยะธรรมโรมันในช่วง 2,000 ปีที่ผ่านมา นำชมความยิ่งใหญ่ในอดีตและเก็บภาพสวยบริเวณรอบนอกของสถานสร้างความบันเทิงของชาวโรมันมาแต่สมัยโบราณโคลอสเซี่ยม (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ อดีตสนามประลองการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 50,000 คน จากนั้นนำท่านเดินชมงานประติมากรรมของเทพนิยายกรีกและโยนเหรียญอธิษฐานบริเวณน้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) สัญลักษณ์ของกรุงโรมที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง สามรักในกรุงโรม
กลางวัน รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองปิซ่า (Pisa) เมืองแห่งศิลปะที่สำคัญของอิตาลี เป็นเมืองเล็กๆอยู่ทางตะวันตกของ Florence ด้านตะวันตกของเมืองติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แม้ว่าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ Pisa ก็เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก นำท่านเข้าสู่บริเวณจัตุรัสกัมโป เดย์ มีราโกลี (Compo Dei Miracoli) ที่ประกอบด้วยกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ โดยเริ่มจากหอพิธีเจิมน้ำมนต์ (Baptistry of St. John) ที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี, มหาวิหารดูโอโม (Duomo) ที่งดงามและหอเอนแห่งเมืองปิซ่าอันเลื่อง ชมหอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) สัญลักษณ์แห่งเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1173 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่ระหว่างการก่อสร้างต้องหยุดชะงักลงไปเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 ก็เกิดการยุบตัวของฐานขึ้นมา และต่อมาก็มีการสร้างหอต่อเติมขึ้นอีกจนแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 177 ปี โดยที่หอเอนปิซ่านี้ กาลิเลโอ บิดาแห่งวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยนได้ใช้เป็นสถานที่ทดลองทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลกที่ว่า สิ่งของสองชิ้น น้ำหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยสิ่งของทั้งสองชิ้นจากที่สูงพร้อมกัน ก็จะตกถึงพื้นพร้อมกัน จากนั้นให้ท่านอิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกราคาถูก ที่มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (พิซซ่าอิตาเลียน)
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN GRAND HOTEL GUINIGI หรือเทียบเท่า

วันที่สาม ปิซ่า – ชิงเกว แตร์เร – หมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ – หมู่บ้านมานาโรล่า – หมู่บ้านมอนเตรอสโซ อัล มาเร – เมสเตร้
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นําท่านโดยสารรถไฟสู่ชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี ที่มีความหมายว่า “ดินแดนทั้งห้า (Five Land)” ตั้งบนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่ MONTEROSSO AL MARE, VERNAZZA, CORNIGLIA, MANAROLA และ RIOMAGGIORE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้ มีหุบเขาล้อมรอบ ประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้อีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมหมู่บ้านริโอแมกจิโอเร่ (Rio –Maggiore) อยู่ทางตอนใต้สุดของหมู่บ้านทั้งห้า เป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และมีบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนที่ตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์ อิสระให้ท่านชมความงดงามและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
จากนั้นนําท่านสู่หมู่บ้านมานาโรล่า (Manarola) อาจได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่เล็กเป็นอันดับสอง แต่มีความเก่าแก่ที่สุดในบรรดาหมู่บ้านทั้ง 5 ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 มีความสวยงามที่ไม่แพ้หมู่บ้านอื่นๆ มีไวน์ท้องถิ่นที่ปลูกในพื้นที่ที่รสชาดเยี่ยมอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านมอนเตรอสโซ อัล มาเร ( Monterosso al Mare) เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่และกว้างมากที่สุด มีหาดทรายยาวสวยงามที่สุดในชิงเกว แตร์เร นำท่านเดินทางสู่เมืองเวนิส (Venice Mestre) ฝั่งแผ่นดินใหญ่ เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต เวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็ก ๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย เป็นเมืองท่าโบราณ และเป็นเมืองที่ใช้คลองในการคมนาคม มากที่สุด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก CROWNE PLAZA VENICE EAST หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ เมสเตร้ – เกาะเวนิส – เวโรน่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทาง สู่ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) นำท่านล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่เกาะเวนิส หรือ เวเนเซีย (Venezia) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส ชมสะพานถอนหายใจ ( Bridge of Sighs) ที่มีเรื่องราวน่าสนใจในอดีต เมื่อนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปสู่คุกจะได้มีโอกาสเห็นแสงสว่างและโลกภายนอกเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเดินผ่านช่องหน้าต่างที่สะพานนี้ ซึ่งเชื่อมต่อกับวังดอดจ์ (Doge’s Palace) อันเป็นสถานที่พำนักของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต ซึ่งนักโทษชื่อดังที่เคยเดินผ่านสะพานนี้มาเเล้วคือ คาสโนว่านั่นเอง นำท่านถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสซานมาร์โค (St.Mark’s Square) ที่นโปเลียนเคยกล่าวไว้ว่า “เป็นห้องนั่งเล่นที่สวยที่สุดในยุโรป” จัตุรัสถูกล้อมรอบด้วยอาเขตอันงดงาม รวมทั้งโบสถ์ซานมาร์โค (St.Mark’s Bacilica) ที่มีโดมใหญ่ 5 โดม ตามแบบศิลปะไบแซนไทน์ จากนั้นอิสระให้ท่านได้มีเวลาเที่ยวชมเกาะอันแสนโรแมนติก เช่น เพื่อชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิส, เข้าชมโบสถ์ซานมาร์โค, ช๊อปปิ้งสินค้าของที่ระลึก อาทิเช่น เครื่องแก้วมูราโน่,หน้ากากเวนิส หรือนั่งจิบกาแฟในร้าน Café Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1720
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (สปาร์เก๊ตตี้หมึกดำ)
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวโรน่า (Verona) เมืองใหญ่อันดับ 2 ของแคว้นเวเนโต้รองจากเวนิส เมืองเวโรน่ายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 2000 อีกทั้งวิลเลียม เชกสเปียร์ นักกวี และนักเขียนบทละครชาวอังกฤษผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษและของโลก เขายังใช้บรรยากาศ และเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองตระกูลในเวโรน่าแต่งเป็นละครโศกนาฏกรรมขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1595 เรื่อง โรมิโอกับจูเลียต นำท่านเดินชมอาคารบ้านเรือนสีสดใสสวยงามภายในจัตุรัสกลางเมืองที่คึกครื้นมีชีวิตชีวา จากนั้นพาท่านถ่ายรูปกับโรงละครโรมันกลางแจ้ง (Verona Arena) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก สร้างขึ้นเมื่อตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 1 โดยมีลักษณะเช่นเดียวกับโคลอสเซียมในกรุงโรมเพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งปัจจุบันยังคงมีการเปิดแสดงโอเปร่าหรือคอนเสิร์ตกลางเเจ้งในสนามกีฬาอยู่เป็นประจำ นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ บ้านเลขที่ 23 ของจูเลียต ชมระเบียงแห่งเรื่องราว โรแมนติกที่จูเลียตเฝ้ารอคอยพบโรมิโอทุกค่ำคืน และบริเวณหน้าบ้านยังมีรูปปั้นสำริดขนาดเท่าตัวจริงของจูเลียต
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก HOTEL MAXIM หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า เวโรนา – ออร์ทิเซ่ – แอลป์ ดิ ซุสเซ่ – ทะเลสาบเบรียส – ทะเลสาบมิสุริน่า – โบลซาโน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองออร์ทิเซ่ (Ortisei) ศูนย์กลางของแถบอุทยานโดโลไมท์ โดยเมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขา มีเทือกเขาล้อมรอบสวยงาม อิสระให้ท่านพักผ่อนเพลิดเพลิน กับอากาศอันบริสุทธิ์ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา จากนั้นนำท่านขึ้นกระเช้า (Cable Car) เราจะพาขึ้นสู่บนเนินเขาที่เรียกว่า แอลป์ ดิ ซุสเซ่ ( Alp di Siusi ) นำท่านชมวิวทิวทัศน์บนทุ่งหญ้าราบเลียบบนภูเขา ที่ได้ขึ้นชื่อว่า “กว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป” ให้ท่านได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของทิวทัศน์มุมสูงของเทือกเขาโดโลไมท์ เวลาที่มองลงไปด้านล่างจะยังเห็นบ้านเรือนในสไตล์ยูโรเปี้ยนรีสอร์ทกระจายอยู่ตามไหล่เขา อิสระให้ท่านเดินเล่น ถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้ากลับลงสู่ด้านล่าง ***การนั่งกระเช้า หากสภาพอากาศหรือมีเหตุขัดข้องไม่สามารถขึ้นได้ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้นั่งกระเช้าเพื่อความปลอดภัยและในกรณีที่กระเช้าปิดจะเปลี่ยนไปขึ้นเขาข้างเคียงแทน***
นำท่านเดินสู่ทะเลสาบมิสุริน่า (Misurina Lake) ทะเลสาบสีเขียวมรกตที่รายล้อมไปด้วยป่าสนแห่งเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูง 1,754 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นี่เป็นทะเลสาบที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดแห่งหนึ่งในแถบ Dolomite นี้เลย เนื่องด้วยความสวยงามของทะเลสาบ บางเวลาน้ำนิ่งราวกระจกเงาใส ที่นักท่องเที่ยวจะแวะเวียนมาอิสระท่าน ถ่ายภาพความงดงามของทะเลสาบจนเต็มอิ่ม จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเบรียส ( Lake Braies ) หรือ (Pragser Wildsee) ทะเลสาบที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมต์ และยังได้เป็นส่วนหนึ่งใน มรดกโลก (Unesco) อีกด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
นำท่านเดินทางเข้าสู่ โบลซาโน (Bolzano)เมืองที่ถือว่าเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์และเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคทีโรลใต้ซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ เนินเขาที่เป็นป่าทุ่งหญ้า ไร่องุ่นและเทือกเขาโดโลไมท์ในทางทิศตะวันออก
ค่ำ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก FOUR POINTS BY SHERATON BOLZANO หรือเทียบเท่า
วันที่หก โบลซาโน – ซีร์มิโอเน่ – มิลาน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองซีร์มิโอเน่ (Sirmione) เมืองแห่งป้อมปราการโบราณ เก่าแก่อายุนับ 2000 ปี ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ดา (Lake Garda) นำท่านถ่ายภาพด้านหน้าปราสาทเก่าแก่ของเมือง (The Scallger of Sirmione) สร้างในปี 1277 ซึ่งเมืองนี้เคยอยู่ในการปกครองของตระกูล SCALIGER จากนั้นเดินเล่นชมเมืองเก่าชิมไอศรีมเจลาโต้ที่มีชื่อเสียงของอิตาลี หลากหลายร้านและของที่ระลึกอื่นๆ อิสระให้ท่านชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบการ์ด้า ซี่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่เกิดจากน้ำแข็งละลายจากเทือกเขาแอลป์
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย จากนั้นเดินทางสู่เมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้างด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน อนุสาวรีย์ ของกษัตริย์วิคเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ผู้ริเริ่มการรวมชาติหัวเมืองต่างๆในอิตาลี และอนุสาวรีย์ของศิลปินชื่อดังในยุคเรเนซองส์อีก 1 ท่าน คือ ลิโอนาร์โด ดาร์วินซี่ ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของโรงละครสกาล่า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN GOLDENMILE หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด มิลาน – สนามบิน – บาห์เรน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
11.35น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ GF22
18.35 น. เดินทางถึงกรุงบาห์เรน รอเปลี่ยนเครื่อง
22.25 น. ออกเดินทางต่อสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบิน GF152
วันที่แปด กรุงเทพ
09.30 น. เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

ทัวร์ยุโรป