5. VZRH108WY-5 สวิตเซอร์แลนด์ แถม 5 หมู่บ้านอัลซาส ฝรั่งเศส CH FR 10 วัน 8 คืน BY WY (Nov-Dec)

ทัวร์ยุโรป สวิตเซอร์แลนด์ แถม 5 หมู่บ้านอัลซาส ฝรั่งเศส CH FR 10 วัน 8 คืน (WY)

ราคาเริ่มต้น 98,888 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: download

นำท่านเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก(Strasbourg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง) เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส(Alsace) ของประเทศฝรั่งเศส และยังเป็นได้รับการยกย่องเป็นเมืองมรดกโลกด้านมนุษยชาติจากองค์การยูเนสโกเมืองซึ่งผสมผสาน 2 วัฒนธรรมคือ ฝรั่งเศสและเยอรมัน เนื่องจากในอดีตถูกผลัดเปลี่ยนอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา ทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งขององค์กรสำคัญของยุโรป อาทิ สภายุโรป องค์กรสิทธิมนุษยชน และศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ที่นี่ยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัยดังชั้นนำที่เกอร์เธ (Goethe) นักเขียนชาวเยอรมันเคยศึกษาอยู่

วันที่เดินทาง

17 พ.ย. 67 – 26 พ.ย. 67, 8 ธ.ค. 67 – 17 ธ.ค. 67

ทัวร์ยุโรป

วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินมัสกัต – สนามบินซูริค (สวิตเซอร์แลนด์) (-/-/-)
06.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน โอมานแอร์ (WY) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง
09.10 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน โดยสายการบิน โอมานแอร์ เที่ยวบินที่ WY818 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6.10 ชั่วโมง)

***เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด***
ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน เนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ป การจัดที่นั่งจะเป็นระบบ RANDOM
ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน ทางบริษัทไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบิน

12.00 น. เดินทางถึง สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน (เวลาท้องถิ่น) จากนั้นรอต่อเครื่องเพื่อเดินทางสู่ เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 3 ชั่วโมง)
15.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบิน โอมานแอร์ เที่ยวบินที่ WY153 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6.15 ชั่วโมง)
19.05 น. ถึง สนามบินซูริค เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง, ศุลกากรและรับสัมภาระเรียบร้อย (เวลาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาให้ตรงตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร
หลังรับสัมภาระเรียบร้อยนำท่านเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่สอง ซังค์กัลเลน – น้ำตกไรน์ – ชาฟฟ์เฮาเซิน – สตราส์บูร์ก (B/L/-)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซังค์กัลเลน (St.Gallen) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 7 เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการศึกษาและประกอบพิธีกรรมทางศาสนา นำท่านแวะถ่ายรูป มหาวิหารซังค์กัลเลน (St.Gallen Cathedrl) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 แบบสไตล์โรมาเนสก์ผสมผสานกับบารอก เพื่อเป็นสำนักสงฆ์และใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน ชมความยิ่งใหญ่และสวยงามของน้ำตกไรน์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง) น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป เกิดจากการที่แม่น้ำไรน์ ซึ่งเป็นแม่น้ำนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปไหลจากต้นน้ำในเทือกเขาแอลป์ มาบรรจบบริเวณที่พื้นที่โลกเปลี่ยนระดับจึงกลายเป็นน้ำตกที่สวยงามมาก ตัวน้ำตกมีความสูง 25 เมตร กว้าง 150 เมตร มีอายุราว 14,000 – 17,000 ปี ให้ท่านได้ชื่นชมธรรมชาติ และถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก(Strasbourg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง) เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส(Alsace) ของประเทศฝรั่งเศส และยังเป็นได้รับการยกย่องเป็นเมืองมรดกโลกด้านมนุษยชาติจากองค์การยูเนสโกเมืองซึ่งผสมผสาน 2 วัฒนธรรมคือ ฝรั่งเศสและเยอรมัน เนื่องจากในอดีตถูกผลัดเปลี่ยนอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา ทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งขององค์กรสำคัญของยุโรป อาทิ สภายุโรป องค์กรสิทธิมนุษยชน และศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ที่นี่ยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัยดังชั้นนำที่เกอร์เธ (Goethe) นักเขียนชาวเยอรมันเคยศึกษาอยู่

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่สาม ริเกอวีร์ – ไกเซอร์สแบร์ก – กอล์มาร์ – เอกิสไฮม์ – บาเซิล (B/L/-)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านริเกอวีร์ (Riquewihr) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) หมู่บ้านเล็กๆ ที่โอบล้อมไปด้วยไร่องุ่น มีชื่อเสียงในเรื่องการทำไวน์ และขนมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยความน่ารักเหล่านี้ทำให้ริเกอวีร์ ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก และยังขึ้นชื่อว่าเป็น Les Plus Beaux Villages De France หมู่บ้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส

จากนั้นชม เมืองไกเซอร์สแบร์ก (Kaysersberg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) หากแปลเป็นภาษาไทยก็คือภูเขาของจักรพรรดิ และในปี ค.ศ. 2016 ไปรวมเข้ากับหมู่บ้น Vignoble ชื่อใหม่เป็น Kaysersberg-Vignoble ที่หมู่บ้านนี้เคยถูกใช้เป็นป้อมปราการสำหรับเตือนภัยที่มีความสำคัญในอดีต และเคยถูกยืดครองโดยเยอรมัน 2 ครั้ง ได้แก่ ช่วงสงครามฝรั่งเศส – ปรัสเซียและในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองเล็กๆน่ารัก ตั้งอยู่ในแคว้นอัลซาส Alsace) เป็น 1 ใน 8 แคว้นผลิตไวน์ สำคัญของฝรั่งเศสถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติคเมืองหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส อันเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไวน์แหล่งปลูกองุ่นพันธุ์ดี เพื่อผลิตไวน์ชั้นเลิศบริเวณเชิงเขาของเทือกเขาโวชจ์ซึ่งมีไร่องุ่นจำนวนมากเคียงคู่ไปกับอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ชั้นเยี่ยม นำท่านเดินเที่ยวชมสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ ช่วยทำให้เมืองดูโรแมนติกยิ่งขึ้นมรดกทางสถาปัตยกรรมพบเห็นได้จากโบสถ์แบบโกธิคและโรมันสไตล์ และอาคารเก่าหลายหลังสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 15 บ้านเรือนเรียงรายสองฝั่งคลองดูงดงามน่ารักจนได้รับการขนานนามว่า “ลิตเติ้ลเวนิส”

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเอกิซไฮม์ (Equisheim) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) เป็นหมู่บ้านที่งดงามราวภาพวาดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอาลซาส มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมยุคกลางที่มีเสน่ห์ ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี และยังได้รับยกย่องให้เป็น “Plus Beaux Villages de France” (หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส) นอกจากนี้ยังเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในเส้นทางไวน์ Alsace และมีชื่อเสียงในด้านการผลิตไวน์อีกด้วย อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง
จากนั้น เดินทางสู่ เมืองบาเซิล (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองบาเซิลตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศริมฝั่งแม่น้ำไรน์ และยังเป็นเมืองเก่าที่มีอายุกว่า 2000 ผ่านชม ศาลากลางบาเซิล (City Hall of Basel) ที่มีอายุมากกว่า 500 ปี ตั้งอยู่ใจกลาง จัตุรัส Marktplatz อิสระให้ท่านเดินชมเมืองและช้อปปิ้งย่านจัตุรัส Marktplatz ถนนสายหลักของบาเซิลที่ขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่มีร้านค้ามากมาย

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ มองเทรอซ์ – ปราสาทชิลยอง – เวอแว – รูปปั้น ชาร์ลี แชปลิน – ส้อมยักษ์ สัญลักษณ์เมืองเวอแว – โลซานน์ – มหาวิหารแห่งโลซานน์ – เจนีวา – ทะเลสาบเจนีวา – น้ำพุเจดโด – นาฬิกาดอกไม้ (B/-/D)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอ (Montreux) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เมืองพักผ่อนตากอากาศที่มีชื่อเสียงทั้งในฤดูร้อน และฤดูหนาว ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งได้รับสมญานามว่า “ไข่มุกริเวียร่าแห่งสวิส” ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ แวะถ่ายภาพที่ระลึกกับ ปราสาทชิลยอง (Castle of Chillon หรือ Château de Chillon) นับว่าเป็นปราสาทยุคกลางที่มีความเก่าแก่กว่า 1,000 ปี โดยปราสาทถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยของโดยราชวงศ์ SAVOY ซึ่งถือได้ว่าเป็นอัญมณีทางประวัติศาสตร์ของสวิตเซอร์แลนด์ ในอดีตปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดควบคุมการเดินทางของนักเดินทาง และขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมา จากเหนือสู่ใต้ หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวอแว (Vevey) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) เมืองเล็กๆ น่ารักในรัฐโวด์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บนชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา ที่มีทิวทัศน์เบื้องหลังเป็นเทือกเขาแอลป์ที่งดงาม เป็นเมืองที่ศิลปินชื่อดังชาวอังกฤษอย่าง ชาร์ลี แชปลิน ได้มาใช้ช่วงเวลา 25 ปีสุดท้ายในชีวิต ที่เมืองแห่งนี้ ภายหลังจากที่เค้าเสียชีวิตจึงได้มีการสร้างอนุสาวรีย์เพื่ออุทิศให้กับเขา หันหน้าไปทางทะเลสาบเจนีวา และได้เปลี่ยนบ้านที่เคยอยู่ให้เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับชีวิตของศิลปินท่านนี้อีกด้วย และไม่ไกลจาก อนุสาวรีย์ชาร์ลี แชปลิน จะเห็น The Fork ส้อมขนาดใหญ่ ทำจากสแตนเลสสูง 8 เมตร กว้าง 1.3 เมตร ออกแบบโดย Jean-Pierre Zaugg ชาว Neuchatel ตั้งตระหง่านตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1995 เพื่อเป็นการรำลึกวันครอบรอบ10 ปี ของ Alimentarium (พิพิธภัณฑ์อาหาร) ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Vevey
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองโลซานน์ (Lausanne) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นเมืองหลวงของรัฐโว และตั้งอยู่ห่างจากเมืองเจนีวาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 60 กิโลเมตร นำท่านชม มหาวิหารแห่งโลซานน์ (Cathédrale de Lausanne) (บริเวณภายนอก) หรือชื่อเต็มคือ อาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งโลซาน เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ อาสนวิหารแห่งนี้เริ่มก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 12 ในปี ค.ศ. 1170 และแล้วเสร็จในปี 1235 ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ต่อมาอาสนวิหารแห่งนี้ถูกประกาศอุทิศให้แก่พระแม่มารีย์โดยคำประกาศของสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 10 ในปี 1275 และยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า มหาวิหารนอร์ทเทอร์ดาม (Notre-Dame)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนีวา (Geneva) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (รองจากซูริค) โดยถือว่าเป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกมากมายเช่น ทะเลสาบเจนีวา น้ำพุเจ็ทโด้ เป็นต้น เมืองที่มีประชากรมากที่สุดในภาครอม็องดีอัน เป็นภูมิภาคที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นหลักในสวิตเซอร์แลนด์ นครเจนีวาตั้งอยู่บริเวณต้นแม่น้ำโรนซึ่งไหลออกจากทะเลสาบเจนีวา ณ ปัจจุบัน เจนีวามีสถานะเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐแห่งรัฐเจนีวา ในอดีตเมืองเจนีวาเคยอยู่ภายใต้การปกครองของโรมัน และฝรั่งเศส แต่เมื่อได้รับอิสรภาพจึงรีบหาพันธมิตรเพราะไม่อยากโดนรุกรานอีก โดยการเข้าร่วมเป็นสมาชิกพันธรัฐสวิส จากนั้นเจนีวาก็รู้จักอย่างกว้างขวางในนาม “เมืองแห่งองค์กรนานาชาติ”

นำท่านชม ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ทะเลสาบคล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยว และเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถ่ายรูปกับ น้ำพุเจทโด (Jet d’Eau หรือ แฌโด) ที่ฉีดสายน้ำพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 140 เมตร (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับ นาฬิกาดอกไม้ สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนีวา

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า แทซ – นั่งรถไฟเข้าเมืองเซอร์แมท – อิสระเดินเล่นชมเมือง – เบิร์น (B/-/D)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ สถานี Tasch station เพื่อนั่งรถไฟสู่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เพื่อขึ้นรถไฟเข้าสู่ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองเล็กๆ อยู่ในมณฑล VALAIS เมืองตั้งอยู่เชิงเขา แมทเทอร์ฮอร์น ยอดเขาแหลมสูงชันเสียดฟ้า สัญลักษณ์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดเมืองปลอดมลพิษแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากทางรัฐบาลมีข้อจำกัดเรื่องการห้ามนำรถยนต์ที่ใช้น้ำมันและแก็สเข้าเขตตัวเมือง ภายในตัวเมืองจึงมีเพียงรถไฟฟ้า เพื่อบริการนักท่องเที่ยวและผู้คนที่ต้องการสัญจรไปมาเท่านั้น อิสระท่านเดินเล่นในเมืองเซอร์แมท ชมวิวเขาแมทเธอร์ฮอร์นในมุมกว้าง หรือ ท่านสามารถเลือกซื้อ OPTIONAL TOUR นั่งรถรางขึ้นยอดเขากรอเนอร์แกรท เพื่อไปชมวิวยอดเขาแมธเธอร์ฮอร์นแบบใกล้ชิดมากขึ้น

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
**Optional Tour** เดินทาง โดยรถราง จากเมืองเซอร์แมท สู่ ยอดเขากรอเนอร์แกรท ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูป ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่สวยที่สุดของเทือกเขาแอลป์ โดยนั่งรถรางที่สถานีกรอเนอร์แกรท ขึ้นไปยังยอดเขา ชมทัศนียภาพธรรมชาติสวย ๆ ตลอดทาง จนกระทั่งถึงจุดชมวิว ท่านจะได้พบกับยอดเขาทรงพีระมิดสุดโด่งดัง ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่จะอวดโฉมให้ท่านเห็นแบบเต็มตา

เดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Bern) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมายังสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามด้วยบ้านเรือนในบรรยากาศสบายๆ ตามสไตล์เมืองเก่าทั่วไป

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่หก เบิร์น – บ่อหมีสีน้ำตาล – ย่านเมืองเก่า – หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ไซ้ท์ กล็อคเค่น – ทูน – อิสระช้อปปิ้งอินเทอร์ลาเคน – ลูเซิร์น (B/L/-)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล Bear Park สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น จากนั้นเที่ยวชม ย่านเมืองเก่า (Old City of Berne) ซึ่งได้รับการบรรจุไว้ในรายชื่อมรดกโลกในปี ค.ศ. 1983 และก่อตั้งขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษ ที่ 12 ตั้งอยู่บนภูเขาล้อมรอบด้วยแม่น้ำอาเร (Aare River) ชม มาร์คกาสเซ ย่านเมืองเก่าที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้ และร้านเสื้อผ้าบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200 – 300 ปี ชม โบสถ์แห่งกรุงเบิร์น (The Cathedral of Bern) มหาวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยยุคโกธิค ตั้งแต่ปี ค.ศ.1964 หอคอยมีความสูงราวๆ 100 เมตร สร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1893 ถือเป็นมหาวิหารที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และถือเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของประเทศด้วย จากนั้นชม หอนาฬิกาดาราศาสตร์ ไซ้ท์ กล็อคเค่น (Zytglogge Clock Tower) หอนาฬิกายุคกลางที่มีชื่อเสียงที่สุดของย่านเมืองเก่าเบิร์น ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 อายุ 800 ปี จะมีโชว์ให้ดูทุกๆ ชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกรุงเบิร์น ถัดจากหอนาฬิกาไปไม่ไกล จะเป็น ไอน์สไตน์เฮาส์ (Einstein House) ท่านสามารถแวะถ่ายรูปภายนอกกับบ้านที่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยอาศัยอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ รวมถึงภาพถ่าย เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่นักฟิสิกส์ชื่อก้องโลกคนนี้

เดินทางสู่ เมืองทูน (Thun) สวิตเซอร์แลนด์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองสวยริมทะเลสาบ เป็นที่รู้จักในฐานะประตูสู่ Bernese Oberland ซึ่งเป็นเขตที่มีทั้งภูเขา เนินเขา และป่าสนและทะเลสาบอันสวยงามหลายแห่ง ไม่ใช่เพียงเพราะที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่สวยงามเท่านั้น สถาปัตยกรรมของเมืองและภูมิทัศน์โดยรอบเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับศึกษาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และชมความงามตามธรรมชาติของภูมิภาคนี้ในสวิตเซอร์แลนด์

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เที่ยวชมเมืองสวยที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาสูง ซึ่งนอกจากเทือกเขาใหญ่แล้ว เมืองอินเทอร์ลาเคน ยังเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง 2 ทะเลสาบใหญ่คือ ทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อาคารบ้านเรือนในเมืองส่วนใหญ่จะสร้างด้วยสไตล์สวิสที่สวยและดูอบอุ่นให้เราได้ซึมซับ และสัมผัสกับความเป็นสวิตเซอร์แลนด์อย่างเต็มที่ ทั้งหมดรวมกันแล้วทำให้เมืองนี้น่าสนใจและบรรยากาศดีจนกลายเป็นเมืองรีสอร์ทพักร้อนติดอันดับต้นๆ เลยทีเดียว อิสระให้ทุกท่านเดินเล่นถ่ายภาพ และช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด แองเกลเบิร์ก – ขึ้นเขาทิตลิส – ลูเซิร์น – อนุสาวรีย์สิงโต – สะพานไม้ชาเปล (B/L/-)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองแองเกลเบิร์ก (Engelberg) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เพื่อ นั่งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขาทิตลิส คือยอดเขาที่มีธารน้ำแข็งที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยยอดเขามีความสูงถึง 3,238 เมตร มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี มีจุดเด่นคือ Titlis Rotair กระเช้าไฟฟ้าหมุนได้ 360 องศา แห่งแรกของโลก ให้นักท่องเที่ยวชมวิวและถ่ายรูปได้เพลิดเพลิน บนยอดเขามีกิจกรรม Ice Flyer กระเช้านั่งห้อยขา ลานสกี และ Titlis Cliff สะพานแขวนที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในยุโรป

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (บนเขาทิตลิส)

เดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านถ่ายภาพกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) สัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึก และเป็นเกียรติแก่เหล่าทหารหาญชาวสวิสซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์นมากกว่า 700 คนที่ออกรบและเสียชีวิตในฝรั่งเศสเมื่อครั้งเกิดสงครามปฏิวัติยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ซึ่งเป็นการเจาะเนื้อหินและแกะสลักขึ้นรูปเป็นประติมากรรมสิงโตตัวใหญ่สวยงามมากแม้จะมีใบหน้าโศกเศร้าดังที่ว่าก็ตาม และอีกจุดหนึ่งที่น่าชมมากในย่านนี้ก็คือ สะพานไม้ชาเปล (Chapel bridge) สะพานที่ดูไม่เหมือนสะพานและมีอายุเก่าแก่มากกว่า 600 ปี ที่ว่าไม่เหมือนสะพานก็เพราะแวบแรกอาจดูคล้ายอาคารกลางน้ำ แต่จริงๆ แล้วสร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามไปมาระหว่างสองฝั่งแม่นํ้ารอยซ์

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันที่แปด ลูเซิร์น – นั่งกระเช้าสู่ยอดเขาริกิ – ซุก (B/L/-)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่าน นั่งรถรางสู่ยอดเขาริกิ (Mt.Rigi) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ราชินีแห่งเทือกเขา เดินทางโดยรถไฟฟันเฟือง ท่านจะได้ชมวิวแบบ พาโนราม่า ซึ่งได้ให้บริการมาตั้งแต่ปี 1871 เพื่อขึ้นพิชิตยอดเขาริกิซึ่งมีความสูง 6,000 ฟุต หรือ 1,800 เมตร ด้วยรถไฟกลไกใช้ระบบไอน้ำ ซึ่งเป็นรถจักรที่เก่าแก่ที่สุดสร้างเมื่อปี 1858 แต่ได้รับบูรณะเป็นอย่างดี เพลิดเพลินกับการชื่นชมธรรมชาติตลอดการเดินทางจนถึงเขาริกิ เป็นจุดที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ จะมองเห็นทิวทัศน์รอบด้าน เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดของเทือกเขาแอลป์ และยังสามารถมองเห็นทะเลสาบจากยอดเขาริกิอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองซุก (Zug) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) เมืองเล็กๆ ที่มีอดีตมายาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 พาท่านชม ย่านเมืองเก่า ที่น่าสนใจมาก ทั้งแนวอาคารบ้านเก่าแก่ที่สร้างกันตั้งแต่ยุคกลาง จัตุรัสกลางเมือง และน้ำพุที่ตกแต่งด้วยรูปปั้นสวยๆ ตามสไตล์ยุโรปก็มีให้ชมมากมายในเมืองซุกแห่งนี้ ไม่พลาดชมไฮไลท์ของเมืองคือ หอนาฬิกาสูง 25 เมตร ที่สร้างในสมัยศตวรรษที่ 13 แต่ยังคงทำหน้าที่บอกทั้งเวลา วันที่ และข้างขึ้นข้างแรมได้อย่างถูกต้องไม่ผิดเพี้ยน ในย่านเมืองเก่านี้ยังมีโบสถ์สไตล์โกธิค และปราสาทเก่าแก่ให้ได้ชมกันด้วย

เพื่อให้ท่านได้เพลิดเพลินในการเดินเล่นอย่างเต็มอิ่มจุใจ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก  โรงแรมมาตรฐาน 3-4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่เก้า ซูริค – โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ – โบสถ์กรอสมุนสเตอร์ – ทะเลสาบซูริค – อิสระช้อปปิ้งถนนโฮฟซตราเซอร์ – สนามบินซูริค (B/-/-)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่ เมืองซูริค (Zurich) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ผ่านชม ศาลาว่าการเมืองซูริค ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี และได้ถูกใช้เป็นที่ทำการรัฐบาลสาธารณรัฐซูริคจนถึงปี 1798 เป็นหนึ่งในอาคารเก่าแก่ของซูริค โบสถ์โกรสส์มุนสเตอร์ (Grossmünster) โบสถ์หอคอยคู่สูงระฟ้า และ โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumünster) ที่มีหน้าต่างกระจกสีอันสวยงามโดดเด่น ถ่ายภาพริมทะเลสาบซูริค (Lake Zurich) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองซูริคเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่รวมถึง 1,829 ตารางกิโลเมตร แถมด้วยวิวของตัวเมืองซูริคริมทะเลสาบที่สวยไม่เป็นรองที่ไหนที่ชวนให้อยากอยู่ชมวิวนี้ไปนานๆ เมืองชั้นนำของโลก เป็นหนึ่งในเมืองที่มีศูนย์กลางทางการเงินขนาดใหญ่ที่สุด และเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในสหภาพยุโรป
อิสระย่าน ถนนบานโฮฟสตราเซอร์ (Bahnhofstrasse) ถนนช้อปปิ้งที่มีสินค้าราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร มีให้เลือกตั้งแต่เสื้อผ้าเครื่องประดับ สินค้าแบรนด์เนมอย่าง Louis Vuitton, Prada, Chanel ฯลฯ รวมถึงร้านของที่ระลึกต่างๆ

อิสระอาหารกลางวันและ เย็นตามอัธยาศัยเพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้งและชมเมืองได้อย่างเต็มอิ่ม
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินซูริค
21.35 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน โดยสายการบิน โอมานแอร์ (WY) เที่ยวบินที่ WY154 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชม. 30 นาที)

วันที่สิบ สนามบินมัสกัต – สนามบินสุวรรณภูมิ
06.50 น. เดินทางถึง สนามบินมัสกัต ประเทศโอมาน นำท่านแวะพักเปลี่ยนเครื่อง เพื่อเดินทางสู่ ประเทศไทย (รอแวะเปลี่ยนเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง)
08.55 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบิน โอมานแอร์ (WY) เที่ยวบินที่ WY815 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง 40 นาที)
18.00 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
ทัวร์ยุโรป