ทัวร์ยุโรป
DAY 1 สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินนานาชาติดูไบ – สนามบินนานาชาติบูดาเปสต์

23.30 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 บริเวณเคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตต์ EMIRATE AIRLINE (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางบริษัทฯ คอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ออกบัตรที่นั่งและโหลดสัมภาระในการเดินทาง

DAY 2 กรุงบูดาเปสต์ – เนินเขาเกลเลิร์ท – สะพานเชน – ป้อมชาวประมง – โบสถ์แมตเธียส์ – จัตุรัสวีรบุรุษแห่งฮังการี เย็น
02.50 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK377
(บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)
06.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบินประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาที
(เวลาท้องถิ่นที่ดูไบช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง)
10.30 น. ออกเดินทางสู่ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี โดยเที่ยวบินที่ EK111
(บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)
14.25 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี (เวลาท้องถิ่นของยุโรปช้ากว่าประเทศไทย 5 ชม. ในฤดูร้อน และ 6 ชม. ในฤดูหนาว) หลังนำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว นำท่านชมความงดงามของ กรุงบูดาเปสต์ (BUDAPEST) ที่มี แม่น้ำดานูบ (DANUBE RIVER) ไหลผ่านกลางเมืองแบ่งตัวเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งบูดาและฝั่งเปสต์ นำชมทัศนียภาพที่สวยงามน่าประทับใจของกรุงบูดาเปสต์บน เนินเขาเกลเลิร์ท (GELLERT HILL) นั่งรถข้ามสะพานที่เชื่อมสองฝั่งแม่น้ำเข้าไว้ด้วยกัน โดยมี สะพานเชน (CHAIN BRIDGE) เป็นสะพานที่สวยที่สุดของกรุงบูดาเปสต์ทำให้ทัศนียภาพของแม่น้ำดานูบเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดผู้มาเยือน นำท่านชม ป้อมชาวประมง (FISHERMAN’S BASTION) อนุสรณ์สถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1905 ถือเป็นจุดชมวิวของตัวเมืองที่ดีอีกแห่งหนึ่ง นำท่านชมภายนอก โบสถ์แมตเธียส์ (MATTHIAS CHURCH) ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีราชาภิเษกกษัตริย์ฮังการีมาหลายทศวรรษ ปัจจุบันเป็นสถานที่ทำพิธีสวดมนต์ต่างๆ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรกผสมผสานกับกอธิก หลังคาปูด้วยกระเบื้องสีอันโดดเด่น จากนั้นนำ ชมจัตุรัสวีรบุรุษแห่งฮังการี (HERO SQUARE) อนุสรณ์สถานสูงเสียดฟ้าที่ระลึกครบรอบ 1,000 ปีประวัติศาสตร์ของชนชาติฮังการี
นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำดานูบ (DANUBE RIVER CRUiSE) ด้วยเรือเช่าเหมาลำ ให้ท่านได้สัมผัสกับความงดงามของอาคารสถาปัตยกรรมสองฟากฝั่งริมน้ำซึ่งเต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์มากมาย โดยเรือจะแล่นผ่าน อาคารรัฐสภาแห่งชาติฮังกาเรียน (PARLIAMENT HOUSE) ที่มีความโดดเด่น ก่อสร้างด้วยรูปแบบนีโอโกธิค ลักษณะของอาคารรัฐสภาซึ่งมีความละม้ายคล้ายคลึงกับรัฐสภาของประเทศอังกฤษเนื่องจากมีโดมขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางและตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศ

ค่ำ  บริการอาหารค่ำณ ภัตตาคาร (มื้อ1)
 นำท่านเข้าสู่ที่พัก ระดับ 4 ดาว ฮังการี
DAY 3 เมืองบราติสลาวา ประเทศสโลวัค – ปราสาทบราติสลาวา – ชมเมืงเก่าบราติสลาวา – พาร์นดอฟเอาท์เลท  เช้า,กลางวัน

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ2)
นำท่านเดินทางสู่พรมแดนสู่ ประเทศสโลวัค (SLOVAK) (ระยะทาง 200 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) นำท่านชม เมืองบราติสลาวา (BRATISLAVA) คือเมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด เป็นเมืองเก่าที่มีความน่ารักซ่อนอยู่ในความคลาสสิค มีอาณาเขตติดกับประเทศออสเตรียและประเทศฮังการี เป็นเมืองหลวงแห่งเดียวในโลกที่มีอาณาเขตติดต่อกับ 2 ประเทศ บราติสลาวาเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของสโลวาเกีย โดยมีแม่น้ำดานูบไหลผ่านกลาง บราติสลาวาเป็นเมืองที่อบอุ่นที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ อากาศโดยทั่วไปไม่หนาวจัดและมีฤดูร้อนที่อบอุ่น มีหิมะบ้างเป็นครั้งคราวในฤดูหนาว นำท่านชมภายนอกของ ปราสาทแห่งบราติสลาวา (BRATISLAVA CASTLE) เป็นปราสาทหลักของเมือง อาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่อันงดงามแห่งนี้ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำดานูบ เป็นอาคารที่มีหอคอยอยู่สี่มุม ตั้งอยู่บนเนินเขาหิน Little Carpathians ริมแม่น้ำดานูบกลางบราติสลาวา ด้วยขนาดและที่ตั้งทำให้เป็นจุดเด่นของเมืองมานานหลายศตวรรษ รูปแบบการปลูกสร้างผสมผสานสถาปัตยกรรมมแบบโกธิค เรอเนสซองส์ และบาโรกได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกถึงความหรูหรางดงามที่แฝงไว้ด้วยเข้มแข็ง
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ3)
จากนั้นนำท่านชมเขตเมืองเก่าของ บราติสลาวา ชม โบสถ์เซนต์มาร์ติน เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่เก่าแก่ และ ใหญ่ที่สุดในบราติสลาวา ที่อุทิศให้กับนักบุญอุปถัมภ์เซนต์มาร์ติน และยังเป็นสถานที่สำหรับพิธีราชาภิเษก ราชอาณาจักรฮังการี ระหว่างปี ค.ศ.1563-1830 อีกด้วย จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านนอก พระราชวังพริเมท (PRIMATE’S PALACE) พระราชวังสไตล์นีโอคลาสสิก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 และใช้เป็นที่พำนักของอัครสังฆราชแห่งเอสเตอร์กอม พระราชวังแห่งนี้โดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบภายในที่สวยงามหรูหรา
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ McArthurGlen Designer Outlet in Parndorf (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) สวรรค์ของนักชอปปิ้งที่รวมสินค้าแบรนด์เนม ราคาถูกมากกว่าร้อยแบรนด์ เป็นเอาท์เล็ทขนาดใหญ่ยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วโลก มีสินค้าแฟชั่นมากมายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าตามแฟชั่น เช่น Gucci, Burberry, Prada, Long champ, Mulberry, Stella McCartney, DVF, Coach, Saint Laurent, Dior ฯลฯ อีกทั้งยังมีร้านอาหารและร้านเครื่องดื่ม คาเฟ่ ต่างๆมากมายให้ท่านได้นั่งพักหรือเลือกรับประทานอาหารอีกด้วย อิสระให้ท่านได้ชอปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ  อิสระรับประทานอาหารค่ำ ณ พาร์นดอฟเอาท์เลท
นำท่านเดินทางสู่ กรุงเวียนนา (VIENNA) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย เมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่เรื่องราวทางประวัติศาตร์ สถาปัตยกรรม รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย นอกจากนั้นกรุงเวียนนายังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง
 นำท่านเข้าสู่ที่พัก ระดับ 4 ดาว ออสเตรีย
DAY 4 กรุงเวียนนา – มหาวิหารเซนต์สตีเฟน – ถนนวงแหวน – ถนนคาร์ทเนอร์ – ฮัลล์สตัทท์ – จุดชมวิวมหาชน  เช้า,กลางวัน,เย็น
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ4)
นำท่านเดินทางสู่ มหาวิหารเซนต์สตีเฟน”โบสถ์เก่าแก่บ้านคู่เมืองสไตล์โรมาเนสและโกธิก สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 13 สิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่สำคัญที่สุดของออสเตรีย แวะถ่ายรูปด้านนอกวิหาร จากนั้นนำท่านผ่าน ถนนวงแหวน ซึ่งรายล้อมไปด้วยสถานที่ต่างๆมากมาย อาทิเช่น โรงอุปรากร (โอเปราเฮาส์), พระราชวังฮอฟบวร์ก, อาคารรัฐสภา, ศาลาว่าการ, มหาวิทยาลัยเวียนนา, โบสถ์ประจําเมือง, ศาลสูง ฯลฯ จากนั้นนำทุกท่านเดินทางเข้าสู่ ถนนคาร์ทเนอร์ ซึ่งเป็นถนนคนเดินและถนนชอปปิ้งสายสำคัญ เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ เรียงรายตลอดสองข้างถนน มีสินค้าต่างๆให้ท่านได้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแบรนด์เนมยอดนิยม เสื้อผ้า รองเท้าหลากหลายยี่ห้อ นาฬิกา ฯลฯ
เที่ยง  อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย ณ ถนนคาร์ทเนอร์
จากนั้นนำท่านเดินทาง เข้าสู่ หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ (HALLSTATT) (ระยะทาง 285 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เมืองในฝันริมทะเลสาบที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก นำท่านชมเมืองฮัลสตัทท์ เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่มีประชากรอาศัยไม่ถึงพันคนแต่กลับมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยความน่ารักของตัวเมืองที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงชันบวกกับทิวทัศน์บ้านเรือนสูงต่ำลดหลั่นกันตามระดับความสูง จนทำให้เมืองนี้ได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลก และยังเป็นเมืองที่ถูกถ่ายทำละคร ภาพยนตร์ ตลอดจนถูกถ่ายรูปทำลงโปสต์การ์ดมากที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรป อิสระให้ท่านเดินเล่นเก็บภาพความประทับใจ และเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกจากร้านค้าของเมือง
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ5)
 นำท่านเข้าสู่ที่พัก ระดับ 4 ดาว ออสเตรีย
DAY 5 ฮัลล์สตัทท์ – ซาลส์บวร์ก– มหาวิหารซาลบวร์ก – สวนมิราเบลล์ – บ้านเกิดโมซาร์ท – ป้อมปรากาโฮเฮนซาลซ์บรุค – เมืองเชสกี้ครุมลอฟ  เช้า,กลางวัน,เย็น
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ6)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลส์บวร์ก (ZALZBURG) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศออสเตรีย เมืองมรดกโลก ถิ่นกำเนิดของคีตกวีเอกของโลก โมซาร์ท (MOZART) เมืองซาลส์บวร์ก เป็นเมืองที่มากด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และทิวทัศน์ที่งดงามของเทือกเขาแอลป์ จึงทำให้เป็นเมืองท่องเที่ยวในฝันสำหรับใครหลายๆคน นำท่านถ่ายรูป มหาวิหารซาลบวร์ก (SALZBURG CATHEDRAL) มหาวิหารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 774 ถือเป็นโบสถ์บาโรกยุคแรก ถูกสร้างขึ้นใหม่แทนโบลถ์หลังเดิมที่ถูกไฟไหม้จนเกินซ่อมแซม มหาวิหารแห่งนี้ถูกบูรณะใหม่อีกครั้งหลังจากถูกระเบิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นำท่านชม สวนมิราเบลล์ (MIRABELL GARDEN) สวนสาธารณะสไตล์บาโรกที่สวยที่สุดในเมือง เดิมเป็นสวนของพระราชวังมิราเบลล์ (MIRABELL PALACE) ซึ่งพระราชวังแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่โมซาร์ทเคยมาจัดการแสดง และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง The Sound of Music อีกด้วย นำท่านแวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ณ บ้านเกิดโมซาร์ท (MOZART’S BIRTHPLACE) อาคารสีเหลืองหมายเลข 9 ซึ่งเป็นสถานที่เกิดและเติบโตของคีตกวีเอกของโลกร่วม 20 ปี จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ ป้อมปราการโฮเฮนซาลซ์บรุค (HOHENSALZBURG) เป็นปราสาทแห่งยุคกลางอายุกว่า 500 ปีที่ใหญ่และสภาพสมบูรณ์ที่สุดในยุโรป
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ7)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสกี้ครุมลอฟ (CESKY KRUMLOV) สาธารณรัฐเชค (CZECH) (ระยะทาง 217 กม. ใช้วลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมีย เมืองเล็กโรแมนติกดั่งเทพนิยาย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวัลตาวา แม่น้ำสายหลัก และเป็นแม่น้ำที่มีความยาวที่สุดของประเทศ ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นยุคกลางไว้ได้ดีที่สุด จึงได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็น เมืองมรดกโลก ในปีค.ศ.1992 มีความโดดเด่นคือเป็นเมืองที่มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 หลัง ได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง และถ่ายภาพตามอัธยาศัย ถ่ายรูปคู่ ปราสาทครุมลอฟ (CESKYKRUMLOV CASTLE) ซึ่งถือเป็นปราสาทอันดับสองของประเทศมีอายุกว่า 700 ปี สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ปราสาทนี้เคยเป็นที่พำนักของตระกูลชนชั้นสูงทั้ง ROSENBERG, HABSBERG และ SCHWARZENBERG ซึ่งมีหอคอยสีชมพูตั้งเด่นเป็นสง่าเปรียบเป็นสัญลักษณ์ของเมือง มองจากจุดไหนในเมืองก็เห็นตัวปราสาทตั้งอยู่บนเขา นำท่านชมหอคอยปราสาท ตั้งอยู่บนที่สูงเหนือแม่น้ำ VLTAVA และเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาทครุมลอฟซึ่งมีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 13
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อ8)
 นำท่านเข้าสู่ที่พัก ระดับ 4 ดาว สาธารณรัฐเชค

Day 6 เมืองเชสกี้ครุมลอฟ – เมืองคาร์โลวี วารี – กรุงปราก  เช้า,กลางวัน
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ9)
นำท่านเดินทางสู่เมืองคาร์โลวี วารี (KARLOVY VARY) (ระยะทาง 250 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำแร่ และเป็นเมืองแห่งสปาชั้นดี ที่ในอดีตราชวงศ์ต่างๆ ในยุโรปและรัสเซีย รวมถึงชนชั้นสูงทั้งหลายจะต้องมาที่เมืองนี้ แม้แต่ Beethoven และ Mozart ก็เคยมาเยือนเมืองนี้ด้วย ทำให้เมืองคาร์โลวี วารี เป็นเมืองสปาที่ใหญ่ระดับโลกและมีชื่อเสียงมากที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก และด้วยความสวยงามของอาคารสถานที่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ทำให้ภาพยนต์หลายเรื่องมาถ่ายทำที่นี่
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อ10)
จากนั้นนำท่านชมเขตเมืองเก่าคาร์โลวี วารี แวะถ่ายรูปกับ พิพิธภัณฑ์ประจำเมือง นั่นก็คืออาคารมิลโคโลนเนด (Mill Colonnade) อันนี้คือพลาดไม่ได้เลย เพราะเป็นสิ่งก่อสร้างที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะเสาสไตล์คอรินเธียน (Corinthian) ที่เรียงยาวทำให้การดื่มน้ำมีเสน่ห์ขึ้นไปอีก โดยที่นี่มีแหล่งน้ำพุ 5 แห่งด้วยกัน (ร้อนกว่าน้ำพุงูจนทำให้ขวดพลาสติกละลายได้) ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1880ช่วงแรกก็ยังไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่จนถึงปัจจุบันที่กลายเป็นจุดสำคัญของเมืองและดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย แวะถ่ายรูปที่สวนโคโลนเนด (Park Colonnade)และอิสระช้อปปิ้งที่ตลาดโคโลนเนด (Market Colonnade) เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกมากมาย
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก(ระยะทาง 128 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กโกสโลวาเกีย ซึ่งได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท และโรมแห่งอุดรทิศ อิสระช้อปปิ้ง ณ ถนนคาร์โลวา (Karlova Street) แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมประจำเมืองปราก ที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงแรม ฯลฯ ที่ทอดยาวตลอดเส้นถนนของย่าน นับเป็นย่านการค้าที่มีทัศนียภาพสวยงาม เพราะไม่เพียงอาคารต่างๆ ในย่านที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นเท่านั้นแต่ยังตั้งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และประติมากรรมรูปปั้นพระบรมรูปทรงม้าของกษัตริย์เวนเชสลาส อดีตผู้นำคนสำคัญของสาธารณรัฐเช็ก
ค่ำ  อิสระรับประทานอาหารค่ำ ณ ถนนคาร์โลวา
 นำท่านเข้าสู่ที่พัก ระดับ 4 ดาว สาธารณรัฐเช็ก
Day 7 กรุงปราก – เขตเมืองเก่า – สะพานชาลส์ – หอนาฬิกาดาราศาสตร์ – ปราสาทแห่งกรุงปราก – โบสถ์เซนต์ไวตัส – สนามบินวาคราฟ ฮาเวล – สนามบินดูไบ เช้า
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อ11)
นำท่านชมกรุงปราก ดินแดนอันเป็นที่เลื่องลือและมีผู้คนเดินทางไปชมเมืองที่มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปราว 2,000 ปี จึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบ โรมันเนสก์ กอทิก เรอเนซองส์ บาโรก รวมทั้งศิลปะรูปแบบต่างๆทำให้กรุงปรากเป็นเมืองที่แสดงให้เห็นถึงประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมัน และองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้กรุงปรากเป็นเมืองมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ชมจัตุรัสและตัวเมืองเก่า (Old Town Square) ที่คลาสสิกโดยเฉพาะอาคารศาลาเทศบาลกรุงปราก บนสะพานประดับด้วยรูปปั้นของนักบุญถึง 28 องค์ ชาวคริสต์เชื่อว่า หากเดินผ่านสะพานแห่งนี้ ต้องขอพรจากนักบุญจอห์นเพื่อความเป็นสิริมงคล อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย ชมสะพานชาลส์ (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่สัญลักษณ์ของเมือง สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองปรากสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ชื่อเดิมเรียกว่า “สะพานปราก” ต่อมาในปี 1870 ได้เปลี่ยนชื่อ ตามพระนามของพระเจ้าชาลส์ ถ่ายรูป หอนาฬิกาดาราศาสตร์(Prague Astronomical Clock) ที่นักท่องเที่ยวจะมาเฝ้ารอการตีบอกเวลาทุกๆ 1 ชั่วโมงจะมีรูปปั้นสิบสองนักบุญเดินเวียนออกมาบริเวณเวทีเล็กๆ เหนือนาฬิกา ซึ่งนักบุญแต่ละองค์ก็จะมีอิริยาบถแตกต่างกันตามความหมาย
จากนั้นนำท่านเข้าชมปราสาทแห่งกรุงปราก (Prague Castle) ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็กสร้างขึ้นในปี ค.ศ.885 โดยเจ้าชายบริโวจ ปราสาทอัศวินโบราณที่สร้างขึ้นในแบบศิลปะกอทิกที่สง่างามซึ่งในปัจจุบันใช้เป็นที่พำนักของประธานาธิบดีเช็ก นำท่านชมความใหญ่โตโอ่อ่าของตัวปราสาท ชมโบสถ์เซนต์ไวตัส (Saint Vitus Cathedral) ที่เด่นเป็นสง่า เขตโกลเด้นเลน ซึ่งเคยใช้เป็นที่พำนักของช่างฝีมือในยุคสมัยก่อน โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1344 ในศิลปะแบบกอทิก มีการก่อสร้างเรื่อยมาเป็นเวลาหลายร้อยปี จนมาเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1929 มีหน้าต่างกระจกสีที่งดงามเป็นรูปภาพของนักบุญและเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา แล้วยังเป็นที่เก็บมงกุฎเพชรที่ทำขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 กษัตริย์ผู้สร้างความเจริญสูงสุดจนทำให้กรุงปรากกลายเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโบฮีเมียและจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
เที่ยง  อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ณ ย่านเมืองเก่า
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานวาคราฟ ฮาเวล ปราก หัวหน้าทัวร์คอยอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร ออกบัตรที่นั่งและโหลดสัมภาระในการเดินทาง พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการขอคืนภาษี
15.45 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย สายการบินเอมิเรตต์ EMIRATE AIRLINE (EK)เที่ยวบินที่ EK140 (บริการอาหารเครื่องดื่มบนเครื่อง)
23.30 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน

DAY8 สนามบินดูไบ-สนามบินสุวรรณภูมิ-กรุงเทพฯ

02.50 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินที่ EK384
12.30 น. เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจไม่รู้ลืม

ทัวร์ยุโรป