UIEU021 Saver Swiss

ทัวร์ยุโรป SAVER SWITZERLAND 8 DAYS (EK)

ราคาเริ่มต้น 89,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: Image

จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่สู่ กรุงเบิร์น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองโบราณเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน นำท่านเที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆในกรุงเบิร์น กรุงเบิร์นได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1863

วันที่เดินทาง

25 ก.ค. 67 – 1 ส.ค. 67

ทัวร์ยุโรป 

23.00 น.  คณะเดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
02.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK377 ( บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
06.00 น. เดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
08.30 น.  ออกเดินทางสู่ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK089 ( บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
13.15 น.  เดินทางถึง เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองศุลกากรและรับกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้ว นำท่านชม เมืองเจนีวา เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บริเวณที่ทะเลสาบเจนีวาไหลเข้ารวมกับแม่น้ำโรห์น (Rhone river) โดยทะเลสาบเจนีวานั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง รองจากทะเลสาบบาลาต้นในประเทศฮังการี สำหรับกรุงเจนีวา ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองนานาชาติ (Global City) เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กร เช่น สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติประจำทวีปยุโรป, องค์การอนามัยโลก (WHO), องค์การการค้าโลก (WTO) เป็นต้น นำท่านชม น้ำพุเจดโด กลางทะเลสาบเลคเลมังค์ น้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าสูงและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเจนีวา โดยสามารถมองเห็นได้จากทุกจุดในเมือง น้ำพุเจดโดเป็นน้ำพุที่ ได้รับการยอมรับว่าเป็น “สัญลักษณ์ของกรุงเจนีวา” โดยน้ำพุสามารถพุ่งได้สูงสุดประมาณ 140 เมตร (459 ฟุต) น้ำพุถูกติดตั้ง ในปี 1886 นักท่องเที่ยวที่มาเยือนและมีโอกาสล่องเรือมาในทะเลสาบ เจนีวามักไม่พลาดที่จะมาชมน้ำพุด้วยเช่นกัน นำท่านแวะชมและถ่ายภาพกับ นาฬิกาดอกไม้ ที่สวนอังกฤษ (Jardin Anglais) ริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งบ่งบอกถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกา
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 B&B Hotel Geneva Airport หรือเทียบเท่า

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง เมืองโลซานน์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นอีกเมืองที่ตั้งอยู่บนของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เนื่องจากเมืองโลซานน์ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเลคเลมังค์ จึงมีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงามและอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า นำท่านถ่ายภาพ อาคารสำนักงานโอลิมปิกสากล ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบเลคเลมังค์ จากนั้นนำท่านถ่ายภาพและเยี่ยมชม ศาลาไทย ที่รัฐบาลไทยได้ร่วมกันก่อสร้างให้เมืองโลซานน์ ในวโรกาสเฉลิมฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 ปีและเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-สวิสฯ ครบ 75 ปี
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เมืองที่ตั้งอยู่ในรัฐโวของสวิสฯ ตัวเมืองตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา ชมเมืองเวเว่ย์ เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส” ชมรูปปั้นชาลี แชปปลิ้น ศิลปินตลกแห่งฮอลลีวู้ด ซึ่งในอดีตเคยใช้ชีวิตบั้นปลายที่เมืองนี้ ชมย่านเมืองเก่า (OLD TOWN) ที่เต็มไปด้วยอาคารเก่า ร้านกาแฟกลางแจ้ง ร้านค้ามากมาย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ นำท่านถ่ายรูปด้านหน้า ปราสาทชิลยอง (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวา ตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองเจนีวา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 B&B Hotel Geneva Airport หรือเทียบเท่า

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแทสช์ (Tasch) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง ตั้งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศขนาดเล็กที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล และตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตะวันตก ซึ่งมีเทือกเขาแอลป์ซึ่งเป็นเทือกเขาที่ใหญ่สุดของทวีปยุโรป เลาะเลียบตามหุบเขา ชมทิวทัศน์สวยอันงดงามตลอดเส้นทาง จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถไฟสู่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที (อิสระอาหารกลางวันภายในเมืองเซอร์แมท) เซอร์แมทเป็นเมืองที่ไม่อนุญาตให้รถยนต์วิ่งและเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องว่า ปลอดมลพิษที่ดีของโลกตั้งอยู่บนความสูงกว่า 1,620 เมตร ซึ่ง เป็นที่ตั้งของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองเซอร์แมทเป็นเมืองเล็กๆ หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านก็ได้ เพราะว่ามีประชากรในเมืองไม่ถึง 10,000 คน ทางตอนใต้ของสวิตติดกับชายแดนอิตาลี โดยมี Pennine Alps ซึ่งเป็นส่วนนึงของเทือกเขา Alps เป็นเส้นกั้นระหว่าง 2 ประเทศหากพูดถึง Zermatt ก็ต้องนึกถึงยอดเขาแหลมที่มีลักษณะคล้ายปีรามิด ชื่อว่า Matterhorn ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใกล้ๆ เมือง มีความสูงถึง 4,478 เมตร สามารถมองเห็นได้จากแทบทุกมุมของเมือง ซึ่ง Matterhorn นี้ถือเป็นสัญลักษณที่สำคัญของ Zermatt อิสระให้ท่านได้เดินเล่นถ่ายรูปตามอัธยาศัยภายในเมืองแห่งนี้

ถึงเวลาอันสมวรนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองแทสช์ (Tasch) อีกครั้งโดยรถไฟ
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 Typically Swiss Hotel Tascherhof หรือเทียบเท่า
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สถานนีกระเช้าเพื่อเตรียมตัวเดินทางขึ้นสู่ยอดเขา กลาเซียร์ 3000 (Glacier 3000) เป็นยอดเขาในสวิสเซอร์แลนด์ ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3000 เมตร จากสถานี Col di Pillon ขึ้นสู่ยอดเขากลาเซียร์ ซึ่งบนยอดเขาสามารถมองเห็นวิวยอดเขาสำคัญๆ ของสวิสเซอร์แลนด์ ได้แก่ จุงเฟรา แมทเทอร์ฮอร์น และ มองบลองก์ ได้อย่างชัดเจน จากนั้นให้ท่านได้สนุกสนานกับกิจกรรมบนลานหิมะของกลาเซียร์ 3000 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภูเขากูดสตาร์ด (Gstaad Mountain) ที่มีเส้นทางสกียาว 250 กิโลเมตร และ เทือกเขาแอลป์มีเส้นทางสกียาว 225 กิโลเมตร
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ถึงเวลาอันสมควรนำท่านเดินทางลงจากยอดเขา จากนั้นนำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่สู่ กรุงเบิร์น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองโบราณเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน นำท่านเที่ยวชมสถานที่สำคัญต่างๆในกรุงเบิร์น กรุงเบิร์นได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1863

นอกจากนี้เบิร์น ยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ. 2010 นำท่านชม บ่อหมีสีน้ำตาล สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านชม มาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชม นาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มีโชว์ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง หอนาฬิกานี้ ในช่วงปี ค.ศ. 1191-1256 ใช้เป็นประตูเมืองแห่งแรก ภายหลังได้ดัดแปลงไซ้ท์คล็อคเค่นทรัมให้กลายมาเป็นหอนาฬิกาพร้อมติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์เข้าไป จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง เมืองซูริค ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านเข้าสู่ที่พัก
 Ibis Zurich Messe-Airport หรือเทียบเท่า
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเตอร์ลาเก้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Tune lake) และ ทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz lake) อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อนาฬิกายี่ห้อดังหลากหลายที่ผลิตในสวิส ไม่ว่าจะเป็น ROLEX, OMEGA, CHOPARD, TAG HEUER, PATEK PHILIPPE, LONGINES และอื่นๆ อีกมากมาย และให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง อดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม จากนั้นนำท่านชมและแวะถ่ายรูปกับ สะพานไม้ชาเปล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด จากนั้นนำท่านเที่ยวชม รูปแกะสลักสิงโตบนหน้าผาหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 (อิสระอาหารกลางเย็นภายในเมืองลูเซิร์น) จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง เมืองซูริค ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง นำท่านเข้าสู่ที่พัก  Ibis Zurich Messe-Airport หรือเทียบเท่า
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเที่ยวชม จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) จัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ที่สำคัญของเมืองซูริค ปัจจุบันจัตุรัสนี้ได้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster Abbey) จากบนสะพานมุนสเตอร์บรูค เป็นโบสถ์ที่มีชื่อเสียงของเมืองซูริค สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ นำท่านสู่ ถนนบาห์นโฮฟซตราสเซอ (Bahnhofstrasse) เป็นถนนอันลือชื่อที่มีความยาวประมาณ 1.4 กิโลเมตร เป็นถนนที่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ว่าเป็นถนนช้อปปิ้งที่มีสินค้าราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตลอดสองข้างทางล้วนแล้วแต่เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า ร้านค้าอัญมณี ร้านเครื่องประดับ ร้านนาฬิกาและโรงแรมระดับหรู อิสระให้ท่านเดินเล่นและเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย

เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซูก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เคยเป็นเขตปกครองที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยที่สุดแต่ปัจจุบันคือเมืองที่รวยที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีเขตเมืองเก่าที่ก่ตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่13 อาคารบ้านเรือนยังคงสภาพดั้งเดิมไว้อย่างสวยงามอีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีวิวทะเลสาปที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชัฟเฮาเซิน (Schaffhausen) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อเที่ยวชมความงดงามของ น้ำตกไรน์ (Rhine Fall) แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์และยังเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่สนามบิน

22.15 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK086 ( บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
06.25 น. เดินทางถึง เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
08.50 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 370 ( บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
18.20 น.  เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

ทัวร์ยุโรป