วันแรกของการเดินทาง(1) สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินซิดนีย์ – ไครสต์เชิร์ช(เกาะใต้)
15.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เชคอิน G (แถว G) ประตูทางเข้าที่ 3 อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เชคอินสายการบินแควนตัส แอร์ไลน์ (QF) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
18.10 น. ออกเดินทางสู่เมืองไครสต์เชิร์ส ประเทศนิวซีแลนด์ โดยเที่ยวบินที่ QF024 (ใช้เวลาบินประมาณ 7.30 ชั่วโมง)
แวะต่อเครื่องที่ กรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
วันที่สองของการเดินทาง(2) ไครสต์เชิร์ช – ชมเมือง – สวนพฤกษศาสตร์
12.55 เดินทางถึงสนามบินเมืองไครสต์เชิร์ช (CHC) เกาะใต้ประเทศนิวซีแลนด์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง (กฎหมายนิวซีแลนด์ไม่อนุญาตให้นำเข้า อาหารสด และพืชผัก) (เวลานิวซีแลนด์เร็วกว่าเวลาประเทศไทย 5 ชม.)นำท่านชมความงามของเมืองไครสท์เชิร์ช เมืองที่เป็นอังกฤษมากที่สุดที่อยู่นอกเกาะอังกฤษ ชมสวนสาธารณะที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในนิวซีแลนด์ นำท่านชมบริเวณจตุรัสคาธีดรัล เป็นจุดนัดพบใจกลางเมืองของผู้คนที่มีสถานที่สำคัญตั้งอยู่ ทั้งอนุสาวรีย์ผู้บุกเบิกแคว้น หมากรุกยักษ์ วิหารคาธีดรัล สถาปัตยกรรมในรูปแบบโกธิคอันเก่าแก่สวยงาม(ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการซ่อมแซมเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว) สถาปัตยกรรมรูปกรวยกลับหัว (Chalice The Sculpture) สร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปี 2000 ยุคมิลเลเนี่ยม ตึกเก่าแก่ชื่อว่า “ The Old Chief Post Office” เป็นที่ตั้งของแหล่งรวบรวมข้อมูลนักท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวการจองทัวร์และโรงแรมต่างๆ
นำท่านเก็บภาพโบสถ์กระดาษแข็ง ไครสต์เชิร์ช (Cardboard Cathedral) เป็นโบสถ์ที่มีความแปลกตา เพราะตัวอาคารสร้างจากกระดาษแข็งทั้งหมด แทนวิหารหลังเดิม ที่เคยพังถล่มไปเมื่อครั้งที่เกิดแผ่นดินไหว จนไม่สามารถบูรณะใหม่ได้ จึงสร้างใหม่ขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูเมืองใหม่อีกครั้ง และยังใช้เป็นสถานที่พักผ่อน สงบจิตใจของชาวเมือง รวมถึงยังใช้จัดแสดงนิทรรศการศิลปะและคอนเสิร์ต นำท่านสวนพฤกษศาสตร์ไครสต์เชิร์ช (Christchurch Botanic Gardens) เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1863 และยังเคยเป็นสถานที่ทำพิธีสมรสของเจ้าชายอัลเบิร์ตแห่งสหราชอาณาจักร (ครองราชย์ 1901-1910) และเจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก ตัวสวนเองเข้าฟรี ไม่ต้องมีค่าเข้า คนท้องถิ่นมักมาเที่ยวสวนนี้เพื่อพักผ่อนกับครอบครัว มีสวนพืชพรรณและไม้ดอกแบ่งเป็นโซนต่างๆ เช่น สวนดอกกุหลาบแบบต่างๆ สวนดอกไม้น้ำ สวนสมุนไพร และสวนดอกไม้ท้องถิ่น รวมถึงยังมีผลงานศิลปะกลางแจ้งด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรมที่พัก
พักที่: Double Tree by Hilton Hotel, Christchurch / หรือเทียบเท่า
วันที่สามของการเดินทาง(3) ไครสต์เชิร์ช – อาเธอร์ พาสส – ชมน้ำตกเดวิลส์
ธารน้ำแข็งฟ๊อก กลาเซียร์ – ฟรานซ์ โจเซฟ
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางสู่เมืองฟรานซ์ โจเซฟ (FRANZ JOSEF) มุ่งหน้าสู่เส้นทางที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุด คือเรา จะมุ่งหน้าไปอาเธอร์ พาส(Arthur’s Pass)โดยใช้เส้นทางสาย 73 เป็นเสน้ทางชมวิวลอดอุโมงค์ฮูเมอร์(HOMER TUNNEL) มีความยาว 1.2 กิโลเมตร ที่ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 17 ปี เส้นทางนี้ผ่านเมือง Darfield – Sheffield -Springfield บนเส้นอาร์เธอร์พาส น จุดแรกจะแวะชมน้ำตก Devils Punchbowl Creek ที่ท่านต้องเดินทางตามธรรมชาติ ป่าเมืองหนาวที่น่าตื่นตาตื่นใจปกคลุมไปด้วยมอสส์และเฟิร์น, ไลเคน เป็นระยะทาง 2 กม. ไป-กลับใช้เวลา เวลา 1 ชม. นำท่านไปเดิน เทรลธรรมชาติที่มีชื่อเรียกว่า Minnehaha Walk เสน้ทางจะผ่านป่าดิบชื้นเขียวขจีลัดเลาะไปตามแม่น้ำฟ๊อก จนถึง จุดชมวิวริมทะเลสาบที่มองเห็น Fox Glacier รวมชมธรรมชาติของพุ่มไม้นิวซีแลนด์ที่ปลายสุดของแทร็กเป็น Devils Punchbowl Falls ที่มีน้ำไหลท่วมอย่างต่อเนื่องห่างจากขอบหน้าผาสูงกว่า 131 เมตรซึ่งสามารถมองเห็นได้จาก ถนนสายหลักผ่าน Arthur’s Pass
เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ธารน้ำแข็งฟ๊อก กลาเซียร์(Fox Glacier) ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของธารน้ำแข็งมีความยาว ประมาณ 13 กิโลเมตร ธารน้ำแข็งทั้งสองแห่งนี้ไหลมาจากบริเวณที่มีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดเวลาหรืออาจ กล่าวได้ว่าไม่มีที่ใดในโลกที่จะสามารถเข้าถึงธารน้ำแข็งได้ง่ายดายเช่นนี้ชมธารน้ำแข็งอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใน อุทยานแห่งเวสต์แลนด์ ที่มีความสวยงามอยู่ในเขตป่าฝนอีกแห่งหนึ่งชมความมหัศจรรย์ของธารน้ำแข็งที่เคลื่อนลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทศวรรษและยังเคลื่อนตัว อย่างไม่หยุด ธารน้ำแข็งสีขาวระยิบระยับ สลับ กับสีเขียวมรกตอันงดงาม อิสระท่านชื่นชม ธาร
น้ำแข็งฟ๊อกซ์ กลาเซียร์ นำท่านเดินทางสู่เมืองฟรานซ์ โจเซฟ (FRANZ JOSEF) เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีชื่อมากในเรื่องธารน้ำแข็ง จึง ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของฝั่งตะวันตกแห่งนี้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรมที่พัก
พักที่: Scenic Franz Josef Glacier / หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ของการเดินทาง(4) ฟรานซ์ โจเซฟ – ทะเลสาบวานาก้า – ควีนสทาวน์
นั่งกระเช้าสู่ยอดเขาบ็อบพีค – ภัตตาคาร Skyline(ชมวิว)
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองควีนสทาวน์ โดยใช้เส้นทางผ่านสะพานเลนเดียวยาวข้ามแม่น้ำแอสท์(Haast River) เพลิดเพลินไปกับวิวน้ำตกและทิวทัศน์ของแม่น้ำ ถนนที่ลัดเลาะชายฝั่งและหุบเขาที่ขนานกับแม่น้ำ Haast ไปจนถึงแอสท์ พาส เข้าสู่ถนนสายคดเคี้ยวของอุทยานแห่งชาติแอสไพริ่ง (Aspiring Naational Park) gfbomk’57’เมืองริมทะเลสาบวานาก้ามอบการผสมผสานที่น่าดึงดูดใจระหว่างความเป็นอยู่ที่ดี ความสนุกสนานในครอบครัว และการผจญภัย มีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านค้าที่น่าสนใจมากมายนำท่านแวะชมวิวที่สวยงามของทะเลสาบวานากา(Wanaka Lake) และทะเลสาบฮาเว (Lake Hawea) ทะเลสาบฝาแฝดที่สวยงาม สีเขียวเทอเควย์ของทะเลสาบ จะช่วยสร้างความประทับใจให้ท่านอย่างเต็มเปียม ตัวทะเลสาบตั้งอยู่ในเขตโอทาโก ที่ระดับความสูง 300 เมตร จากน้ำทะเล ครอบคลุมพื้นที่กว่า 192 ตารางกิโลเมตร เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศนิวซีแลนด์ มีความลึกประมาณ 300 เมตร
เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม เมืองควีนส์ทาวน์ (Queenstown) เมืองที่เป็นที่นิยมมากที่สุดของนักท่องเที่ยวที่มานิวซีแลนด์และได้ชื่อว่า “Adventure Capital of the World” และเป็น “Second most attractive tourist destination in the world” จากทัศนียภาพที่สวยงามจึงใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างๆ เช่น Lord of the Rings เมืองควีนส์ทาวน์นี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ปลอดภัย ชาวเมืองมีอัธยาศัยดี เป็นมิตร มีคดีความน้อยมาก แทบไม่มีคนว่างงาน ควีนส์ทาวน์ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาขนาดใหญ่ที่ชื่อ The Remarkables ซึ่งอุดมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามบนชายฝั่งของ ทะเลสาบวาคาติปู (Wakatipu) จึงทำให้วิวทิวทัศน์ของที่นี่งดงามราวกับภาพในฝัน
พิเศษ…นำท่านขึ้นกระเช้ากอนโดล่า สู่ ยอดเขาบ็อบส์พีค ท่านจะได้สัมผัสความสวยงามของเมืองควีนส์ทาวน์ทั้งเมืองในมุมสูง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำท้องถิ่นมื้อพิเศษบนยอดเขาบ็อบส์พีค ณ ภัตตาคารสกาย์ไลน์(Skyline)
พักที่: Copthorne Lakefront Hotel / Holiday Inn Express, Queentownหรือเทียบเท่า
วันที่ห้าของการเดินทาง(5) ควีนสทาวน์ – ล่องเรือ TSS Earnslaw – วอล เตอร์ พีค
ฟาร์มแกะ – เมืองเตอาเนา
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่าน ล่องเรือกลไฟโบราณ ทีเอสเอส เอิร์นสลอว์ (Tss Earnslaw Cruise) ท่านจะได้ชมความงดงามของทิวทัศน์โดยรอบของ ทะเลสาบวาคาติปู ทะเลสาบใหญ่ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นปอปล่าร์ที่สูงเพียวและต้นหลิว และแนวเทือกเขารีมาร์คเคเบิ้ล เป็นเบื้องหลังฉากของเมืองควีนทาวน์อยู่ไกลๆ สัมผัสกับอีกหนึ่งมุมมองของควีนทาวน์ที่ได้ชื่อ ว่าเป็นเมืองตากอากาศที่สวยและดีที่สุดของนิวซีแลนด์จนเป็นที่ใฝ่ฝันของ นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เรือลำนี้เปิดดำเนินการมากกว่า 90 ปี คือตั้งแต่ปี ค.ศ.1912 ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับเรือไททานิค น้ำวอลเตอร์ พีค ฟาร์มเชิญเยี่ยมคอกปศุสัตว์วอล เตอร์ พีค ฟาร์มแกะบนยอดเขา ในบรรยากาศริมทะเลสาบวาคาทีปู ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของประเทศ นิวซีแลนด์ชมโชว์สุนัขต้อนแกะจากฟาร์มพื้นเมือง ดูการทำงานของสุนัขเลี้ยงแกะ และชมการสาธิตการตัด ขนแกะ ซึ่งขนแกะนี้ถือเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกที่มีชื่อเสียงของนิวซีแลนด์ รวมทั้งสัตว์น่ารักๆ พรอ้มใหอ้าหาร สัตว์ต่างๆ
เที่ยง อาหารกลางวัน แบบบาร์บีคิวริมทะเลสาบ

ท่านได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันสวยงามของทะเลสาบวาคาติปู และกลับสู่เมืองควีนส์ทาวน์ นำท่านชมเมืองแอร์โรว์ทาวน์ (Arrowtown) เมืองนี้เคยเป็นแหล่งขุดทองในยุคเก่า ช่วงศตวรรษที่ 19 มีนักแสวงโชคจากทั่วโลกมาที่เมืองนี้เพื่อขุดทองโดยเฉพาะ แม้ในปัจจุบันจะไม่มีการขุดทองอีกแล้ว แต่บรรยากาศทั่วไปของเมืองยังถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันสิ่งที่น่าสนใจในเมืองแอร์โรว์ทาวน์ สำหรับนักท่องเที่ยว คือการเดินเล่น และซื้อของ บนถนน Buckingham เป็นศูนย์รวมร้านค้าขายของฝากและของที่ระลึก ร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ในบรรยากาศเมืองเล็กๆที่น่ารักแห่งนี้ อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและช้อปปิ้งของฝากและของที่ระลึก นำท่านแวะถ่ายรูปที่สะพานประวัติศาสตร์ สะพานคาวารัว ซึ่งสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่เล่นบันจี้ จั๊ม Bungy Jump เกมส์กีฬาที่ท้าทายความหวาดเสียว ซึ่งมีต้นกำเนิดที่นิวซีแลนด์ และท่านสามารถพิสูจน์ความกล้าของท่านโดยการนั่งเรือช๊อทโอเวอร์ เจ็ตโบ๊ต(Shotver Jet Boat) ล่องไปบนผิวน้ำของแม่น้ำช๊อทโอเวอร์ (ค่าใช้จ่ายในการนั่งเรือและกระโดดบันจี้นี้ไม่ได้รวมอยู่ในค่าบริการทัวร์)
จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองเตอาเนา (TE ANUA) เมืองที่เป็นจุดแวะพักระหว่างทางของบรรดา นักท่องเที่ยว มีทะเลสาบวาคาตีปูที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศ เพื่อไปชมความมหัศจรรย์ของ ธรรมชาติ ในเขตอุทยานแห่งชาติฟยอร์ดแลนด์ มีลักษณะภูมิประเทศที่สูงชันและซับซ้อน มีชายฝั่งที่ขรุขระ ป่าทึบ และสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ตลอดเวลา จึงทำให้บริเวณนี้ไม่มีการพัฒนาเป็นถนน และเมืองมากนัก พื้นที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะและได้รับ การคุ้มครองเป็นพิเศษ และก็ได้รับการประกาศ ให้เป็นมรดกโลก จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณภัตตาคาร หลังพระอาทิตย์ตกดิน ขึ้นอยู่กับโอกาสเพื่อชมแสงออโรร่า ออสตราลิส ของเมืองเตอาเนาเป็นสถานที่หนึ่งที่โอกาสอาจเห็นแสงใต้
พักที่: Distinction Luxmore Hotel, Te Anau / หรือเทียบเท่า
*** ท่านสามารถเดินเล่นชมความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ การเกิดแสงใต้เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดให้เห็นในเวลากลางคืนของช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนเดือน มิ.ย. – ส.ค. ของทุกปี ***

วันที่หกของการเดินทาง(6) เต อาเนา – ล่องเรือชมมิลฟอร์ดซาวน์ – อินเวอร์คาร์กิลล์
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางสู่เขตดินแดนมิลฟอร์ดซาวน์ โดยผ่านชมวิวทะเลสาบเต อานาว ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นทุ่งกว้าง เข้าสู่อุทยานแห่งชาติมิลฟอร์ดซาวด์ (Milford Sound) ในดินแดนส่วนที่เป็นฟยอร์ดแลนด์ (Fjord Land) ซึ่งถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ของขั้วโลกใต้ซึ่งมีในลักษณะนี้เพียง 2 แห่งในโลก กล่าวคือภูมิประเทศแบบทะเลที่เคยเป็นธารน้ำแข็งในยุคโบราณ กัดเซาะหินทำให้น้ำท่วมแทนที่กลายเป็นอ่าวลึกระหว่างทางท่านจะได้ชมความงามที่สร้างโดยธรรมชาติ ของทะเลสาบเต อาเนา Te Anau Lake ทะเลสาบที่ใสราวกระจก เป็นทะเลสาบที่ท่านจะสามารถมองสะท้อนภาพภูเขา ซึ่งเป็นวิวอยู่เบื้องล่างและให้ท่านดื่มน้ำแร่บริสุทธิ์จากธรรมชาติที่ Monkey Creek และแวะชมน้ำตกและโตรกหินอันยิ่งใหญ่ของ(The Chasm)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันในเรือ
นำท่านล่องเรือสำราญ (Milford Monarch Cruise) ชมความงามของธรรมชาติโดยรอบ ตื่นตาตื่นใจกับภาพของสายน้ำตกอันสูงตระหง่านของ นํ้าตกโบเวน ที่มีความหมาย ในภาษาเมารีว่า “นํ้าตกนารีแห่งลำธาร” มีความสูงถึง 160 เมตร นํ้าตกแห่งนี้ตั้งชื่อตามภรรยาท่านผู้ว่าการนิวซีแลนด์ ชมยอดเขา Mitre Peak เชื่อกันว่าน่า เป็นภูเขาที่มีฐานอยู่ในทะเลที่สูงที่สุดในโลก ชมแมวน้ำนอนอาบแดดบนโขดหินอย่างสบายใจ ได้เวลาสมควรล่องเรือกลับสู่ท่าเรือ เพื่อเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่เมืองอินเวอร์คาร์กิลล์(Invercargill) ซึ่งอยู่ทางใต้สุดของนิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมแสงออโรร่า ออสตราลิส (แสงใต้)อันงดงาม Invercargill ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องสัมผัสการชมแสงเหนือของนิวซีแลนด์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: The Langlands Hotel, Invercargill / หรือเทียบเท่าระดับใกล้เคียง
*** ท่านสามารถเดินเล่นชมความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ การเกิดแสงใต้เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดให้เห็นในเวลากลางคืนของช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนเดือน มิ.ย. – ส.ค. ของทุกปี ***
วันที่เจ็ดของการเดินทาง(7) ชมเมืองอินเวอร์คาร์กิลล์ – ชมเมืองดะนิดิน – ช้อปปิ้ง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินชมเมืองอินเวอร์คาร์กิลล์เป็นเมืองหลวงของภูมิภาคและศูนย์กลางการค้าของเซาท์แลนด์ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของนิวซีแลนด์ซึ่งก่อตั้งขึ้นในช่วงทศวรรษปี 1850 เป็นหนึ่งในเมืองที่อยู่ทางใต้สุดของโลก มีอาคารเก่าแก่มากมายทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์ ในเวลาเดียวกัน นำท่านผ่านชมสวนควีนสพาร์ค (Queens Park) อันงดงาม เป็นสวนที่ได้รับการดูแลอย่างดีโดยชาวเมือง นำท่านชมเมืองเริ่มจากบริเวณมหาวิหารประจำเมือง(Invercargill Cathedral) ซึ่งตั้งอยู่การค้าใจกลางเมืองเป็นย่านธุรกิจ การเงินของเมือง นำท่านสู่ท่าเรือประจำเมืองท่าเรือสู่เกาะสจ๊วต (Stewart Island) อินเวอร์คาร์กิลล์ยังเป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันงดงาม จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองดะนิดิน(Dunedin) นำท่านชมเมืองดะนิดิน แห่งนี้ได้ชื่้อว่าเป็น “Edinburgh” แห่งแดนใต้ เป็นเมืองที่มีความเป็นสก๊อตแลนด์มากชื่อ ดะนิดิน เองก็เป็นชื่อโบราณในภาษาเซลติค ของเอดินเบอระด้วย เนื่องจากในยุคตื่นทองราวๆ ปี ค.ศ.1860 มีผู้อพยพชาวสก็อตมาแสวงโชคและตั้ง รกรากกันที่เมืองนี้กันอย่างคับคั่ง ส่งผลให้ดะนิดิน เป็นศูนย์กลางของธุรกิจเจริญเติบโตรุ่งเรืองเมืองมั่งคั่งและตึกรามบ้านช่องของที่นี่เป็นสไตล์วิคตอเรียน ที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน
เที่ยง รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
นำท่านถ่ายรูปด้านหน้าสถานีรถไฟแห่งดะนีดิน (DUNEDIN RAILWAYS STATION) ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งก่อสร้างสำคัญที่สุดของเมือง ตั้งอยู่ในจัตุรัสแอนแซค (Anzac Square) ออกแบบก่อสร้างโดย GEORGE TROUP มีศิลปะก่อสร้างแบบ FLEMISH ลักษณะเด่นคือ หินที่ใชใน้การก่อสร้างเป็นหินบะซอลต์สีดำที่เกิด จากการระเบิดของภูขาไฟที่นำมาจากดินแดนใกล้เมือง ทางด้านใต้ของสถานีมีหอนาฬิกาสูง 37 เมตร มีรูปแบบการก่อสร้างเหมือนกับอาคารในสกอตแลนด์ที่ต้องมีหอนาฬิกาอยู่ตรงกลางหรือด้านใด ด้านหนึ่งของอาคาร จากนั้นนำท่านเดินเข้าสู่ถนนโบลด์วิน (Boldwin Street) เป็นถนนสายสั้นๆ ระยะทาง 3.5 กิเมตร แต่ว่าเป็นถนนที่ชันที่สุดในโลกโดยได้ถูกบันทึกไว้ใน Guinness World Record ว่ามีความชันถึง 20 องศา จากนั้นนำท่านแวะเก็บภาพมหาวิทยาลัยโอทาโก(Otago University) รวมถึง Frist Church of Otago วิหารคริสต์แห่งแรกที่ถูกก่อสร้างขึ้นในดึนแดนโอทาโก / จากนั้นอิสระทุกท่านเดินเล่นหรือเลือซื้อสินค้าต่างๆต่ามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Scenic Hotel Southern Cross, Dunedin / หรือเทียบเท่าระดับใกล้เคียง
*** ท่านสามารถเดินเล่นชมความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ การเกิดแสงใต้เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดให้เห็นในเวลากลางคืนของช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนเดือน มิ.ย. – ส.ค. ของทุกปี ***
วันที่แปดของการเดินทาง(8) ดะนิดิน – โออามารุ – ชมมะเสสาบเทคาโป – ไครสต์เชิร์ช
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกออกเดินทางสู่หาดเมือง Moeraki ตามเส้นทางหมายเลข1 เพื่อชมหินทรงกลมลึกลับกระจายไปทั่ว ชายหาด ก้อนหินแต่ละก้อนมีน้ำหนักหลายตันและสูงไม่เกินสองเมตร หินตะกอนแคลไซต์เหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 65 ล้านปีก่อน ก้อนหินมหัศจรรย์รูปร่างเหมือนไข่ไดโนเสาร์ ซึ่งชาวเมารีเรียกว่า โขดหินโมรากิ Moeraki Boulders หินกลมประหลาดที่เกินขึ้นตามธรรมชาติอันน่าฉงน ทอดตัวตามแนว ชายหาดอย่างสวยงาม เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจาก หินดินดานที่ถูกคลื่นลมกัดกร่อนจนก่อเกิดเป็นหินรูปทรงกลมขนาดใหญ่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.5 -1 เมตร(ประมาณ 1 ใน 3 ของทั้งหมด) และส่วนที่เหลืออีก 2 ใน 3 มีขนาดประมาณ 1.5 -2.2 เมตร จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่หมู่บ้านทไวเซิล(Twizel) ผ่านชมความงดงามของภูมิประเทศที่แปลกตา ทุ่งหญ้า ฟาร์มปศุสัตว์ โดยเฉพาะแกะที่เป็นสัตว์เศษฐกิจที่สำคัญของชาวนิวซีแลนด์ ท่านจาเห็นทะเลสาบและเทือเขาเซาท์เทิร์นแอลป์ในระหว่างเส้นทาง / เดินทางถึงหมู่บ้านทไวเซิล
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชมทะเลสาบเทคาโป(Tekapo Lake) ที่มีสีเขียวอมฟ้า ที่เรียกว่าทะเลสาบสีเทอควอสย์ เก็บภาพโบสถ์กู๊ด เชฟเฟิร์ด(Church of the Good Shepherd) ท่านสามารถเขาชมโบสถ์บนเนินเขา ตัวโบสถ์เล็กๆ น่ารัก ซึ่งในปัจจุบันยังใช้ในการประกอบพิธีการต่างๆ ในบริเวณใกล้กันจะมี อนุสาวรีย์สุนัขต้อนแกะสร้างด้วยทองสำริด สร้างไว้เพื่อเป็นการยกย่องคุณความดีของสุนัขแสนรู้ที่ร่วมสร้างเศษฐกิจของประเทศนิวซีแลนด์ / นำท่านออกเดินทางสู่เมืองไครสต์เชิร์ช
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่: Rendezvouse Christchurch Hotel / หรือเทียบเท่าระดับใกล้เคียง
วันที่เก้าของการเดินทาง(9) ไครสต์เชิร์ส – เมืองโรโตรัว – ชมเมือง – ศูนย์วัฒนธรรมเมารี
เช้า รับประทานอาหารเช้า(กล่อง) นำท่านออกเดินทางสู่สนามบินไครสต์เชิร์ส
09.15 น. ออกเดินทางสู่สนามบินโรโตรัว โดยสายการบิน…..เที่ยวบินที่…..
11.00 น. เดินทางถึงสนามบิน เมืองโรโตรัว (ROT) เมืองท่องเที่ยวแสนสวยของเกาะเหนือประเทศนิวซีแลนด์ นำท่านเดินทางสู่เมืองโรโตรัว (Rotorua) โรโตรัวเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพลังความร้อนใต้พิภพในอดีต มีชาวเมารีอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเพราะเป็นเมืองที่มีความร้อนจากใต้ดินที่สามารถปรุงอาหารได้โดยการนำเนื้อสัตว์ไปฝังในดินที่มีความร้อนสูงจนกว่าจะสุก อาหารนี้ชาวเมารีเรียกว่าฮังงิ (Hangi) นอกจากนี้เมืองโรโตรัวยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของเกาะเหนือที่นักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุด
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ ศูนย์วัฒนธรรมชาวเมารี (Te Puia) อีกทั้งยังเป็นศูนย์ฝึกหัดงานด้านการฝีมือของชาวเมารี อาทิ เช่น หอประชุมของ ชาวเมารี การแกะสลักไม้ และการทอเครื่องนุ่งห่ม นำท่านเดินชมธรรมชาติที่แปลกตา เนื่องจากในบริเวณนี้จะมีพลังงานความร้อนใต้พื้นดินที่ชื่อว่า (Whakarewarewa Geothermal valley) นำท่านชมบ่อน้ำพุร้อน(Geyser) บ่อโคลนเดือด สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจากพลังความร้อนใต้พิภพที่พวยพุ่งจากพื้นดิน และแร่ธาตุต่างๆตามธรรมชาติที่เกิดจากพลังความร้อนใต้พื้นดินในบริเวณนี้ จากนั้นนำท่านเข้าสู่ตัวเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบโรโตรัวที่สวยงามโดยมีเอกลักษณ์คือหงส์ดำ ที่ว่ายวนอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร มื้อพิเศษพร้อมชมโชว์พื้นเมืองชาวเมารี
พักที่: NOVOTEL ROTORUA LAKESIDE / หรือเทียบเท่า
วันที่สิบของการเดินทาง(10) โรโตรัว – เข้าชมอะโกรโดม – หมู่บ้านวัฒนธรรมชาวเมารี
อ๊อคแลนด์ – ขึ้นชมสกาย์ ทาวน์เวอร์ – ดินเนอร์พร้อมชมวิว(Orbit Restaurant)
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ อะโกรโดม (Agrodome) (ระยะทาง 60 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) เป็นฟาร์มขนาดใหญ่ 350 เอเคอร์ ใจกลางเมืองโรโตรัว ตั้งมายาวนานกว่า 40 ปี มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาที่นี่ เพื่อดูการแสดงที่มีชื่อเสียงระดับโลกของอะโกรโดม ซึ่งนำแสดงโดยนักแสดงที่มีพรสวรรค์ อะโกรโดมเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของนิวซีแลนด์เปิดให้บริการ 365 วันต่อปี และเข้าชมการแสดงของแกะพันธุ์ต่างๆ ที่ให้ท่านได้ สัมผัสถึงความน่ารักและประทับใจกับการชมการสาธิตการตัดขนแกะการต้อนแกะโดยสุนัขแสนรู้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าชม หมู่บ้านฮอบบิท (Hobbit Village) หนึ่งดินแดนเทพนิยายมิดเดิลเอิร์ธซึ่งถูกสรรค์สร้างเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลิวูดชื่อดังเรื่อง เดอะ ฮอบบิท (The Hobbit) และ เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ (The Lord of the Rings) นำท่านเดินสำรวจดินแดนเทพนิยายแห่งนี้ เริ่มต้นจากบริเวณหมู่บ้านที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้และความชุ่มชื้น อีกทั้งยังมีหลุมฮอบบิท, เดอะ กรีน ดราก้อน อินน์, โรงสี, สะพานโค้งคู่ และโครงสร้างอย่างที่เราเห็นในภาพยนตร์เลยทีเดียว สัมผัสบรรยากาศสวยงามของสภาพแวดล้อมที่ชุ่มชื่น
ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองอ๊อคแลนด์ (Auckland) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ ในภาษาเมารี โอ๊คแลนด์มีชื่อว่า Tamaki-Makau-Rau แปลว่า หญิงสาวที่มีผู้มาขอความรักถึง 100 คน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หอคอยสกาย์ ทาวน์เวอร์(Sky Tower) หอคอยที่สูงที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ มีความสูงถึง 328 เมตร ด้านบนสุดจะมี ร้านขายของที่ระลึก ภัตตาคาร ร้านกาแฟและจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของตัวเมืองได้อย่างชัดเจน มีเวลาให้ท่านเก็บภาพความประทับใจอย่างเต็มที่
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ในภัตตาคาร Orbit Restaurant บนหอคอยสกาย์ ทาวน์เวอร์ พร้อมชมวิวที่สวยงามของเมืองอ๊อคแลนด์
พักที่: NOVOTEL ROTORUA LAKESIDE / หรือเทียบเท่าระดับใกล้เคียง

วันที่สิบเอ็ดของการเดินทาง(11) อ๊อคแลนด์ – จุดชมวิวยอดเขาอีเดน – ชมเมือง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมเมืองอ๊อคแลนด์ได้สมญานามนี้มาจากการที่เป็นภูมิภาคที่ชนเผ่าต่างๆ ต้องการครอบครอง บรรยากาศที่ผสมผสานกันของอ่าว หมู่เกาะ วัฒนธรรมโพลีนีเชี่ยน และความเป็นเมืองที่ทันสมัยก็ทำให้อ๊อคแลนด์ติดอันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำท่านเดินทางขึ้นสู่จุดชมวิวบนยอดปากปล่องภูเขาไฟอีเดน (Mount Eden) ซึ่งมีความสูงประมาณ 200 เมตร เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดสำหรับชมวิวเมืองโอ๊คแลนด์ ชมปากปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว และบนยอดเขา นำท่านเดินทางสู่เมืองแฮมิลตัน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำทุกท่านเยี่ยมชมทัศนียภาพเมืองอ๊อคแลนด์ ที่ได้รับสมญานามว่าเมืองแห่งการเล่นเรือใบ “City of Sailing” เพราะเมืองนี้โดยเฉลี่ยแล้วเป็นเมืองที่มีประชากรเล่นเรือใบมากที่สุดในโลกเนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ระหว่างสองอ่าวและมีธรรมชาติที่งดงามมีแหล่งบันเทิงมากมายทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งใหลมาเยือนไม่ขาดสายนำท่านชมรอบๆ เมืองซึ่งมีสถานที่น่าสนใจมากมาย ชมความสวยงามของสะพานฮาร์เบอร์บริดจ์(Harbour Bridge) สะพานเดียวของเมืองที่ทอดเชื่อมระหว่างฝั่งตัวเมืองกับท่าเดวอนพอร์ท ผ่านชมท่าจอดเรือยอร์ชที่สวยงาม ผ่านชมอาคารที่สวยงาม หอศิลปะแห่งชาติ(National Art Gallery), หอสมุดแห่งชาติ(National Library), โรงละครแห่งชาติ(National Opera), อนุสรณ์สถานสงคราม(National War Memorial) เก็บภาพกับหอคอยอ็อคแลนด์ที่สูงที่สุดในประเทศนิวซิแลนด์ / อิสระทุกท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน มื้อพิเศษให้ท่านได้ชิมเป๋าฮื้อทะเลใต้ พร้อมเมนูกุ้งมังกร
พักที่: NOVOTEL AUCKLAND / หรือเทียบเท่า
วันที่สิบสองของการเดินทาง(12) สนามบินอ๊อคแลนด์ – กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า(กล่อง) นำท่านออกเดินทางสู่สนามบินอ๊อคแลนด์
07.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินซิดนีย์ โดยสายการบินแควนตัส เที่ยวบินที่ QF004
08.35 เดินทางถึงสนามบินซิดนีย์, ประเทศออสเตรเลีย (นำท่านเปลี่ยนเครื่องบิน)
09.50 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) โดยสายการบินแควนตัส เที่ยวบินที่ QF295(ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชม.)
16.40 น. เดินทางถึงสนามบินสวสุวรรณภูมิ, กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ