ทัวร์จีน

วันแรก เชียงใหม่ – คุนหมิง(MU9620 : 16.25-19.30)
13.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเคาน์เตอร์ China Eastern Airlines (MU) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกตรวจเช็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน
16.25 น. ออกเดินทางสู่ คุนหมิง ประเทศจีน โดยเที่ยวบินที่ MU9620
* น้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม/ท่าน * มีอาหารว่างบริการบนเครื่อง
(แต่ถ้าไฟท์ถึงเร็วกว่ากำหนดทางสายการบินจะบริการอาหารไม่ทัน จะให้บริการแค่เครื่องดื่มเท่านั้น)
19.30 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติคุนหมิงฉางสุ่ย เมืองเอกและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนานมีประชากร 33 ล้านคน โดยเป็นชนกลุ่มน้อยถึง 24 เผ่าครอบคลุมพื้นที่ถึง 15,561 ตารางกิโลเมตร อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร คุนหมิงได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิเพราะมีภูมิอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปแล้ว สิ่งที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือธรรมชาติที่สวยงาม ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฉู่ฉง เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ระหว่างคุนหมิงจะไปต้าหลี่ ห่างจากคุนหมิงประมาณ 2 ชม เป็นเขตปกครองตนเองชนเ่ผ่าอี๋ (Yi Ren) เป็นหนึ่งใน 56 ชนเผ่าของจีน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1 )
ที่พัก JIN JIANG HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่สอง คุนหมิง(นั่งรถไฟความเร็วสูง)-แชงกรีลา-วัดลามะซงจ้านหลิน-
เมืองโบราณแชงกรีลา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2)
นำคณะเดินทางสู่สถานนีรถไฟ เพื่อนำท่านเดินทางสู่ เมืองจงเตี้ยน “แชงกรีล่า” (ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนานซึ่งมีพรมแดนติดกับอาณาเขตน่าซีของเมืองลี่เจียงและอาณาจักรหยีของเมืองหนิงหลาง ซึ่งอยู่ห่างจากนครคุนหมิงถึง 700 กิโลเมตร และอุดมไปด้วยธรรมชาติที่งดงามของป่าไม้ทุ่งหญ้าภูเขาทะเลสาบและสัตว์นานาชนิด ด้วยภูมิประเทศรวมกับทัศนียภาพที่งดงาม สถานที่แห่งนี้จึงได้ชื่อว่า“ดินแดนแห่งความฝัน”
หมายเหตุ
– รถไฟอาจจะมีการเปลี่ยนขบวนเวลา ขอสงวนสิทธิ์จัดขบวนและเวลาตามความเหมาะสม
– การขึ้นรถไฟลูกค้าต้องลากกระเป๋าด้วยตัวเอง เพื่อความรวดเร็วในการขึ้นหรือลงรถไฟ สำภาระและกระเป๋าเดินทางของท่าน ควรจัดให้เรียบร้อยและไม่ควรใช้กระเป๋าที่มีขนาดใหญ่จนเกินไป (รถไฟจะจอด 2-6 นาที ต่อสถานี)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 3)
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม วัดลามะซงจ้านหลิน ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาฝอปิงห่างจากเมืองจงเตี้ยนไปทางเหนือ 4 กิโลเมตรสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1679 เป็นวัดลามะที่มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปีมีพระลามะจำพรรษาอยู่กว่า 700 รูปสร้างขึ้นในสมัยการปกครองของดะไลลามะองค์ที่ 5 ซึ่งใกล้เคียงกับสมัยอยุธยาตอนต้นในช่วงศตวรรษที่ 17 สมัยจักรพรรดิคังซีแห่งราชวงศ์ชิงได้มีการซ่อมแซมต่อเติมอีกหลายครั้งโครงสร้างของวัดแห่งนี้สร้างตามแบบพระราชวังโปตาลาในเมืองลาซา(ทิเบต) ที่มีหอประชุมหลัก 2 ห้องและโอบล้อมไปด้วยห้องพักสำหรับพระกว่า 100 ห้องนอกจากนี้ยังมีโบราณวัตถุอีกมากมายรวมทั้งรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเดินทางต่อสู่เมืองลี่เจียงเป็นเมืองซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีทัศนียภาพงดงามเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวน่าซีถือเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีความน่าสนใจทั้งทางขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมเช่นการมีโครงสร้างทางสังคมแบบสตรีเป็นใหญ่นอกจากนั้นยังมีภาษาภาพที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย

นำชม เมืองโบราณแชงกรีล่า เป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมชาวทิเบตลักษณะคล้ายชุมชนเมืองโบราณทิเบตซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าของคนพื้นเมืองและร้านขายสินค้าที่ระลึกมากมาย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 4)
ที่พัก SILK CIRRUS HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่สาม ทุ่งหญ้าน่าพ่าไห่-ย่าติง-ผ่านชมทุ่งหญ้า– หมู่บ้านทิเบต – วิวภูเขาหิมะ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 5)
นำท่านชม ทุ่งหญ้าน่าพาไห่ ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองชนเผ่าจั้งตี๋ชิง ตั้งอยู่บนระดับความสูง 3,266 เมตรจากระดับน้ำทะเล ล้อมด้วยเขาสามถึงด้าน มีลำธารไหลมารวมกันถึง 2 สาย และในฤดูฝนจะมีน้ำเต็ม แต่ในช่วงฤดูร้อนพื้นที่ส่วนใหญ่จะกลายเป็นทุ่งหญ้ากว้างสำหรับเลี้ยงจามรีของชาวทิเบต และเป็นถิ่นอาศัยของหวงยา(Huang Ya) หรือนกเป็ดน้ำสีเหลือง และนกกระเรียนคอดำ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 6)
นำท่านนั่งรถเพื่อเดินทางสู่เมือง ย่าติง เดินทางผ่านไปยังเมืองต่างๆของมณฑลยูนนาน เพิ่มระดับความสูงของพื้นที่ขึ้นไปทีละนิดเพื่อให้ท่านได้ปรับสภาพร่างกายให้คุ้นชินกับพื้นที่สูง เนื่องจากภาวะออกซิเจนจะเริ่มเบาบางลงกว่าพื้นที่ราบ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอาการไม่สบายตัวในบางท่าน และถือเป็นการทดสอบสภาพร่างกายเบื้องต้น หากไม่มีอาการใดๆ ถือว่าท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง ระหว่างทางผ่านชมทุ่งหญ้า วิวภูเขาหิมะ รวมถึงหมู่บ้านทิเบต วิถีชีวิตของชาวบ้าน ไปตลอดทาง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 7)
ที่พัก RAMADA ENCORE HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่สี่ ย่าติง(รวมรถอุทยาน)– ยอดเขาเซี่ยโยโตเจีย – ยอดเขายางม่ายหยง-
ทุ่งหญ้าลั่วหรง – ทะเลสาบน้ำนม-ทะเลสาบ5สี
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 8)
ท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติย่าติง (Yading Nature Reserve) อุทยานแห่งชาติย่าติงเปรียบดั่งสวรรค์บนดิน แชงกรีล่าแห่งสุดท้ายของชาวทิเบต หรือที่เรียกกันว่า “The Last Shangri-La” สายรักธรรมชาติต้องมาพิชิตให้ได้ อุทยานแห่งชาติย่าติงขึ้นชือเรื่องความสวยงามทางธรรมชาติ ตั้งอยู่บนความสูง 4,000 เมตรเหนือระดับน้าทะเล ในเขตเมืองเต้าเฉิง มณฑลเสฉวนทางตะวันตกของประเทศจีน ปัจจุบันถูกจัดตั้งเป็นพื้นที่อนุรักษ์ เต็มไปด้วยวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ภูเขาหิมะ ทะเลสาบ ลำธาร หรือ ป่าสน (ราคาทัวร์รวมค่ารถอุทยานแล้ว )
จากนั้นนำท่านชม ภูเขาเซี่ยโยโตเจีย ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 6,000 เมตร มีก่อตัวเป็นรูปร่างใกล้เคียงกับปิรามิดมากที่สุด ในบรรดาภูเขาหิมะทั้ง 3 แห่ง มีเส้นชัดเจนเหมือนตัดด้วยมือ เมื่อมองจากระยะไกล เปรียบเสมือนชายหนุ่มผู้ทรงพลังที่ปกป้องชาวบ้าน และเอาชนะคนชั่วร้ายด้วยความกล้าหาญ
ภูเขาหยางเหมยหย่ง เป็นหนึ่งในสามของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ด้านในสุดของเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Yading ชาวทิเบตในท้องถิ่นเรียกภูเขานี้ว่า Jambeyang ซึ่งชื่อในภาษาทิเบตนี้ องค์ดาไลลามะที่ 5 เป็นผู้ตั้งให้ ภูเขานี้มีความสูง 5,958 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยมีลักษณะเหมือนเด็กผู้หญิงที่สง่าผ่าเผย ยืนอยู่บนยอดเขา กำลังก้มมองลงมา โอบกอดผืนป่า ทุ่งหญ้า และลำธาร ด้วยแขนทั้งสองข้างอย่างทรงพลัง ด้วยเหตุนี้เอง ภูเขาหยางเหมยหย่ง จึงได้ชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งปัญญา

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน แบบ SET BOX (มื้อที่ 9)
บ่าย จากนั้นนำท่านชม ทุ่งหญ้าลั่วหรง (Luorong Pasture) ทุ่งหญ้าเปลี่ยนสีขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยภูเขา ซึ่งจะมีความสวยงามแตกต่างกันไปตามฤดูกาลต่างๆ เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมภูเขา
ศักด์ิสิทธ์ิทั้งสาม โดยเราจะเห็นฝูงแกะและวัวอยู่ในทุ่งหญ้าสีเขียว ใกล้กับน้า ใสๆ ที่ไหลลงมาจากยอดเขาหิมะและแสงแดดอุ่นๆ
นำท่านชม ทะเลสาบน้ำนม (Milk Lake) จัดว่าเป็ น 1 ใน 3 ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของย่าติง มีผืนน้าเป็นสีฟ้าน้ำนม สีสว่างสดใส ริมทะเลสาบเป็นทุ่งหญ้าอัลไพน์ ส่วนด้านนอกรายล้อมไปด้วยภูเขาขนาดใหญ่ และธารน้าแข็งที่ปกคลุมด้วยหิมะ ไม่รวมค่าขี่ม้าขึ้นทะเลสาบ

จากนั้นเดินทางสู่ ทะเลสาบห้าสี (Five-color Lake) ห่างจากทะเลสาบน้านมเพียง 300 เมตร ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของภูเขาศักดิ์สิทธิ์เป็นทะเลสาบที่สีของน้ำจะเปลี่ยนไปตามมุมมองและการตกกระทบของแสงแดด อันเป็นที่มาของชื่อ“ทะเลสาบห้าสี” รอบทะเลสาบจะมีกองหินที่ประดับไปด้วยยธงมน หลากสีของชาวทิเบต จุดเด่นของทะเลสาบทั้งสองแห่งคือ สีของน้ำ ถ้าอากาศสดใสทะเลสาบน้านมจะเห็นเป็นสีฟ้านวลกระจ่าง ส่วนทะเลสาบห้า สีก็จะเห็นเป็นห้าเฉดสมชื่อ แต่ถ้าเจอฟ้าปิดก็อาจจะเห็นเป็นทะเลสาบสีมรกตตัดกับเทือกเขาสีเทาไล่เฉด สวยงามไปอีกแบบ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 10) เมนู อาหารทิเบต
ที่พัก RAMADA ENCORE HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่ห้า ย่าติง-ปาลาเก๋อจง – วัดธิเบต – ระเบียงกระจก – เขาหิมะเจดีย์พันปี
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 11)
นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองจงเตี้ยน “แชงกรีล่า”
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 12)
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุทยานปาลาเก๋อจง ถือว่าเป็นดินแดนมหัศจรรย์และงดงามเหมือนสวรรค์บนโลกที่มีพื้นที่รวม 176 ตารางกิโลเมตร เขตอุทยานปาลาเก๋อจงเป็นภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะสูงตระหง่านงดงามสูงชัน เป็นแหล่งรวมแห่งภูเขาหิมะ แกรนด์แคนย่อน ธารน้ำแข็ง แม่น้ำ ทะเลสาบบนที่ราบสูง ป่าธรรมชาติ จุดรวมแห่งประเพณีและวัฒนธรรมของชนชาติทิเบตอันงดงาม เขตอุทยานปาลาเก๋อจง มีอากาศบริสุทธิ์มีความสวยงามสวยงามที่หนึ่งของโลก

จากนั้นนำท่านนมัสการ วัดธิเบต เพือความเป็นสิริมงคล วัดเก่าแก่ท่ามกลางหุบเขาด้านหน้าของวัดมีเจดีย์ธิเบต 8 องค์ตั้งอยู่ด้านหน้าวัด ภายในประกอบด้วยองค์พระโพธิสัตว์ 24 องค์ และด้านหน้าวัดยังเป็นจุดชมวิวทีสวยงาม มองออกไปนอกประตูท่านจะได้เห็นวิวของปาลาเก๋อจงในมุมทีงดงาม

นำท่านเดินชม ระเบียงกระจก จุดไฮไลท์ของอุทยานปาลาเก๋อจง จุดชมวิวทีสวยงามของอุทยานท่านจะได้ชม วิวมุมสูงของทิวเขา ป่าสน และ ลําธารด้านล่าง พร้อมความตืนเต้นเดินบนระเบียงกระจก ให้ท่านดื่มดํากับธรรมชาติเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย

เขาหิมะเจดีย์พันปี หนึ่งในยอดเขาทรงเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่ท่ามกลางความสวยงามของอุทยาน โดยที่ชาวธิเบตจะต้องหาโอกาสมาสักการะสักครังหนึงในชีวิต

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 13)
ที่พัก SHIU JIN MU YUN HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว
วันที่หก แชงกรีล่า-คุนหมิง(นั่งรถไฟความเร็วสูง)-ช้อปปิ้งย่านจินปี้ลู่(ซุ้มประตูม้าทองไก่มรกต)– เชียงใหม่ (MU9639 20.05-20.25)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 14)
นำคณะเดินทางสู่สถานนีรถไฟ เพื่อนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองคุนหมิง (ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง) เมืองเอกและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนานมีประชากร 33 ล้านคน โดยเป็นชนกลุ่มน้อยถึง 24 เผ่าครอบคลุมพื้นที่ถึง 15,561 ตารางกิโลเมตร อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตรคุนหมิงได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิเพราะมีภูมิอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปแล้ว สิ่งที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือธรรมชาติที่สวยงาม
หมายเหตุ
– รถไฟอาจจะมีการเปลี่ยนขบวนเวลา ขอสงวนสิทธิ์จัดขบวนและเวลาตามความเหมาะสม
– การขึ้นรถไฟลูกค้าต้องลากกระเป๋าด้วยตัวเอง เพื่อความรวดเร็วในการขึ้นหรือลงรถไฟ สำภาระและกระเป๋าเดินทางของท่าน ควรจัดให้เรียบร้อยและไม่ควรใช้กระเป๋าที่มีขนาดใหญ่จนเกินไป (รถไฟจะจอด 2-6 นาที ต่อสถานี)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 15) เมนูสุกี้เห็ด

จากนั้นนำท่านอิสระช้อปปิ้ง ย่านจิ้นปี่ลู่ (ซุ้มประตูม้าทองไก่มรกต) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองคุนหมิง เป็นย่านการค้าที่มีเอกลักษณ์ของจีน ที่นำเอาสถาปัตยกรรมเก่าแก่และความทันสมัยมาผสมผสานกันกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและช้อปปิ้ง มีสินค้ามากมายหลากยี่ห้อมาให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งอย่างจุใจ และย่านนี้ยังมี ของเล่นกล่องสุ่มของชอบนักสะสม Art Toy ต้องรู้จัก “POP MART” ร้านขายของเล่นจากประเทศจีน อย่าลืมไปตามหา “น้อง Labubu”กันนะ

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินคุณหมิง
20.05 น. อำลา นครคุนหมิง เดินทางกลับ เชียงใหม่ โดยเที่ยวบินที่ MU9639
* น้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม/ท่าน * มีอาหารว่างบริการบนเครื่อง*
(แต่ถ้าไฟท์ถึงเร็วกว่ากำหนดทางสายการบินจะบริการอาหารไม่ทัน จะให้บริการแค่เครื่องดื่มเท่านั้น)
20.25 น. เดินทางกลับถึงสนามบินเชียงใหม่ โดยสวัสดิ์ภาพ พร้อมความประทับใจในการเดินทาง

ทัวร์จีน