AUTUMN FUKUOKA 2024

ทัวร์ญี่ปุ่น AUTUMN HOAKKAIDO HAKODATE (TG)

ราคาเริ่มต้น 63,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: tg

“ย่านเมืองเก่าโมโตมาชิ” หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “ท่าเรือเมืองฮาโกดาเตะ” ตั้งอยู่ที่เมืองฮาโกดาเตะ ย่านนี้นับเป็นย่านที่มีประวัติยาวนานเป็นร้อยปี สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ก็ยังคงมีการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม โดยท่าเรือแห่งนี้นับเป็นท่าเรือแรกที่เปิดให้มีการค้าระหว่างประเทศในปี ค.ศ. 1854 ในช่วงสิ้นสุดยุคญี่ปุ่นแบ่งแยก ดังนั้นทำให้มีผู้ค้าจำนวนมากจากรัสเซีย จีน และประเทศตะวันตกได้ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะบริเวณฐานภูเขาฮาโกดาเตะ และเรียกว่าย่านเมืองเก่าโมโตมาชิตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และยังกลายเป็นอีกย่านยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชอบมาเที่ยว

วันที่เดินทาง

23-28ต.ค.67

วันที่หนึ่ง    สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ – สนามบินนิวชิโตเสะ (TG670 23.45-08.30)                        

1900           พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิชั้น 4 ผู้โดยสารขาออก เพื่อพบไกด์และรับเอกสาร
จะมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

                   หมายเหตุ : เคาน์เตอร์เช็คอินปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออก 60 นาที และไม่มีประกาศเตือนผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ดังนั้นผู้โดยสารจำเป็นต้องพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 45 นาที

2345         ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Thai Airways เที่ยวบิน TG670
(มีอาหารและเครื่องดื่มบริการบนเครื่อง)

 

วันที่สอง     โนโบริเบทสึ – จิโกกุดานิ – ฮาโกดาเตะ – ย่านเมืองเก่าโมโตมาชิ – นั่งกระเช้าลอยฟ้าชมวิวบนภูเขาฮาโกดาเตะ                                                                                           (L / D)

0830           ถึง สนามบินนิวชิโตเสะ ประเทศญี่ปุ่น ดินแดนอาทิตย์อุทัย

               ผ่านพิธีศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง พร้อมตรวจเช็คสัมภาระ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)

นำท่านเดินทางสู่ “โนโบริเบทสึ” เมืองที่มีชื่อเสียงด้านบ่อน้ำพุร้อนประจำภูมิภาคฮอกไกโดเพื่อนำท่านชมความแปลกของธรรมชาติที่ “จิโกกุดานิ” หรือ “หุบเขานรก” เป็นหุบเขาที่งดงาม ตั้งอยู่เหนือย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึเป็นบ่อโคลนเดือดที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นอุดมไปด้วยแร่กำมะถัน ซึ่งเกิดจากความร้อนใต้พิภพเผาผลาญกำมะถันแล้วพวยพุ่งขึ้นมารวมตัวกันจนเกิดเป็นแอ่ง อิสระให้ท่านได้เดินชม และบันทึกภาพตามอัธยาศัย

 

กลางวัน     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)

หลังอาหารกลางวันพาท่านเดินทางสู่เมือง “ฮาโกดาเตะ” (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งมีที่ท่องเที่ยวและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ยุคก่อนการบุกเบิกเกาะฮอกไกโดหลายแห่ง อาคารบ้านเมืองยังคงหลงเหลือสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปอันงดงาม

จากนั้นพาท่านเดินทางสู่ “ย่านเมืองเก่าโมโตมาชิ” หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “ท่าเรือเมืองฮาโกดาเตะ” ตั้งอยู่ที่เมืองฮาโกดาเตะ ย่านนี้นับเป็นย่านที่มีประวัติยาวนานเป็นร้อยปี สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ก็ยังคงมีการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม โดยท่าเรือแห่งนี้นับเป็นท่าเรือแรกที่เปิดให้มีการค้าระหว่างประเทศในปี ค.ศ. 1854 ในช่วงสิ้นสุดยุคญี่ปุ่นแบ่งแยก ดังนั้นทำให้มีผู้ค้าจำนวนมากจากรัสเซีย จีน และประเทศตะวันตกได้ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ในเมืองฮาโกดาเตะบริเวณฐานภูเขาฮาโกดาเตะ และเรียกว่าย่านเมืองเก่าโมโตมาชิตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และยังกลายเป็นอีกย่านยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชอบมาเที่ยว

เย็น          รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (2)

หลังอาหารเย็นนำท่านขึ้นกระเช้าสู่ “จุดชมวิวบนภูเขาฮาโกดาเตะ” 1 ใน 3 ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยที่สุดด้วยความสูง 334 เมตร ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของเมืองฮาโกดาเตะในยามค่ำคืน ที่มีแสงไฟเรียงรายเปล่งแสงระยิบระยับดั่งแสงของเพชรซึ่งนับว่าเป็นไฮไลท์ของฮาโกดาเตะ

 

ที่พัก : HAKODATE KOKUSAI HOTEL หรือเทียบเท่า

หลังอาหารไม่ควรพลาดประสบการณ์ “การอาบน้ำแร่ธรรมชาติ” เพื่อสุขภาพ / “ออนเซ็น(Onsen) น้ำแร่สไตล์ญี่ปุ่นให้ท่านได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าน้ำแร่ธรรมชาตินี้มีส่วนช่วยเรื่อง โรคภัยไข้เจ็บและผิวพรรณเปล่งปลั่ง

 

วันที่สาม     ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ – เนินชมวิวฮาจิมันซากะ – โมโตมาชิ – อาคารโกดังอิฐแดง –
ทะเลสาบโทยะ – นั่งกระเช้าชมวิวภูเขาไฟอุสึซัน –
Mt. Usu Terrace                         (B / L / D)

เช้า           รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)

นำท่านเดินทางชม “ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ” ณ หัวมุมถนนใกล้กับสถานีฮาโกดาเตะ เป็นตลาดเช้าอันแสนพลุกพล่านให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเลือกซื้อของสดๆ ชั้นดีจากฮาโกดาเตะ โดยตลาดเช้าเริ่มเปิดขายแต่เช้าตรู่ตั้งแต่เวลาตีห้า

(หกโมงเช้าหากเป็นฤดูหนาว) และปิดเวลาเที่ยง ซึ่งจะมีอาหารทะเล ผักผลไม้ และขนมหวาน ฯลฯ ให้ท่านได้เพลิดเพลินไปกับการซื้อของที่ตลาดและอย่าลืมแวะไปดูปูและหอยเป็นๆ ในตู้ขนาดยักษ์

 

 

 
จากนั้นพาท่านเดินทางไปยังถนนที่เป็นทางลาดชื่อว่า

“เนินชมวิวฮาจิมันซากะ” ซึ่งเป็นจุดมุมสูงสามารถมองเห็นวิวทะเลรวมไปถึงท่าเรือรอบอ่าวได้อย่างชัดเจน ตลอดข้างทางสามารถหาซื้อขนมหรือนั่งคาเฟ่ได้ด้วย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “โมโตมาชิ” เมืองแรกๆ ที่เปิดท่าเรือติดต่อทำการค้ากับต่างชาติ จึงได้รับอิทธิพลตะวันตกค่อนข้างมาก จึงได้มีชาวต่างชาติย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในฮาโกดาเตะ ปัจจุบันยังคงสามารถชมอาคารที่ทำการเก่าของรัฐบาลฮอกไกโด หอประชุมเมืองฮอกไกโด บ้านเก่าของตระกลูต่างๆ และโบสถ์ ในสไตล์ยุโรป

จากนั้นพาท่านเดินทางสู่ “โกดังอิฐแดงคาเนโมริ” ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวตามแบบฉบับฮาโกดาเตะ โดยสร้างตามแบบตะวันตกด้วยอิฐแดงในปี ค.ศ. 1909 ซึ่งได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมด ทุกวันนี้ย่านโกดังอิฐแดงกลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและเป็นย่านช้อปปิ้ง ตึกต่างๆได้ถูกปรับปรุงใหม่มีร้านค้ามากมาย ทั้งร้านอาหารและร้านของที่ระลึกต่างๆ ตั้งอยู่ประมาณ 50 ร้าน

กลางวัน     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (4)

หลังอาหารกลางวันนำท่านเดินทางสู่ “ทะเลสาบโทยะ” (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นทะเลสาบที่อยู่ตรงกลางระหว่างซัปโปโรและฮาโกดาเตะ เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ ทำให้มีลักษณะทะเลสาบเป็นรูปวงกลม มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบชิโคะทสึ บริเวณโดยรอบทะเลสาบมีจุดท่องเที่ยวมากมาย สามารถพักผ่อนได้เต็มอิ่ม พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด ให้ท่านชมทัศนียภาพของทะเลสาบอันสวยงาม

จากนั้นนำท่านเปลี่ยนบรรยากาศโดยการ “นั่งกระเช้าไฟฟ้า” สู่ “ภูเขาไฟอุสุ”

(ในกรณีที่อากาศเอื้ออำนวย)
(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) ภูเขาไฟอุสุนั้นมีความสูง 733 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภูเขาไฟที่ระเบิดบ่อยที่สุดในญี่ปุ่นในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา โดยเกิดการปะทุขึ้น 4 ครั้ง ซึ่งทำให้เถ้าถ่านจำนวนมากพุ่งออกมาเป็นระยะทางไกลทำลายอาคารต่างๆ ในพื้นที่บางส่วนของเมืองโทยะโกะออนเซน และเนื่องจากมีการเฝ้าระวังติดตามและใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยทำให้คาดการณ์การปะทุของภูเขาไฟได้ล่วงหน้า เพื่อให้ผู้คนอพยพออกจากเมืองได้ทันจึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ปัจจุบันภูเขาลูกนี้หยุดเติบโตแล้ว แต่ยังมีควันขาวปะทุออกมาตามรอยแยกแตกของพื้นหินบนยอดเขาซึ่งมีความร้อนสูงมาก อิสระให้ท่านได้ ชื่นชมกับความสวยงามของ ธรรมชาติและวิวทิวทัศน์ในอีกรูปแบบหนึ่ง

และบนยอดเขาไฟอุสุยังมี “Mt. USU Terrace” คาเฟ่เปิดใหม่บนยอดเขากับจุดชมวิวแบบ 360 องศา สามารถจิบเครื่องดื่มอย่างสมูทตี้ออแกนิคพร้อมชมวิวทะเลสาบโทยะได้อย่างเพลิดเพลิน ให้ท่านได้ผ่อนคลายที่ดาดฟ้าและชมธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์

เย็น          รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)

ที่พัก : TOYA MANSEIKAKU HOTEL หรือเทียบเท่า

หลังอาหารไม่ควรพลาดประสบการณ์ “การอาบน้ำแร่ธรรมชาติ” เพื่อสุขภาพ / “ออนเซ็น(Onsen) น้ำแร่สไตล์ญี่ปุ่นให้ท่านได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าน้ำแร่ธรรมชาตินี้มีส่วนช่วยเรื่อง โรคภัยไข้เจ็บและผิวพรรณเปล่งปลั่ง

 

วันที่สี่        ทะเลสาบโทยะ – โจซังเค – เขื่อนโฮเฮเคียว – สะพานแขวนฟุตามิสึริบาชิ – โอตารุ – คลองโอตารุ – ถนนซาไกมาชิ – โรงงานช็อคโกแลตอิชิยะ – ซัปโปโร                                  (B / L / D)

เช้า           รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)

พาท่านเดินทางสู่ “โจซังเค” (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) เป็นเมืองออนเซ็นธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเกาะฮอกไกโด ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติชิโกะซุโทยะ เป็นเมืองที่ได้รับความนิยมในการเดินทางมาเที่ยวตลอดทั้งปีเพราะอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองซัปโปโร ภายในเมืองแห่งนี้มีแหล่งน้ำพุร้อนกว่า 56 แห่ง และยังมีที่พักออนเซ็นมากกว่า 20 แห่ง ได้รับความนิยมตลอดทั้งปี จากทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เพราะจะได้ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สร้างสีสันสดใสท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “เขื่อนโฮเฮเคียว” เป็นสถานที่ที่ได้รับการยอมรับให้เป็น 1 ใน 100 เขื่อนที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1972 ความสูง 102.5 เมตร ถูกสร้างขึ้นโดยใช้แม่น้ำโทโยฮิระเพื่อการชลประทาน ผลิตกระแสไฟฟ้า และเพื่อควบคุมน้ำท่วม อ่างเก็บน้ำที่อยู่จากสร้างเขื่อนเรียกว่าทะเลสาบโจซัง ซึ่งล้อมรอบด้วยป่าไม้และภูเขาสูง จากปากทางเข้าเขื่อนถึงตัวเขื่อนระยะทางประมาณ 2 กม. เป็นเขตอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจึงห้ามนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยานเข้ามาตลอดทั้งปี ดังนั้น ต้องเดินด้วยเท้าหรือใช้บริการรถเมล์ไฟฟ้า บริเวณโดยรอบเขื่อนแวดล้อมไปด้วยทิวทัศน์ที่งดงามของสันเขาหินสูงชัน รวมกับโชว์การปล่อยนํ้าออกจากเขื่อนอันทรงพลัง  ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้รอบเขื่อนก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดงตัดกับสีเทาของตัวเขื่อนและสีฟ้าจากท้องฟ้าและน้ำในเขื่อนเกิดเป็นภาพทิวทัศน์ที่สวยงามน่าประทับใจ

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “สะพานแขวนฟุตามิสึริบาชิ” เป็นสะพานสีแดง มีความยาว 23 เมตร แล้วยังแทรกตัวอยู่ท่ามกลางแมกไม้ พาดผ่านลำธารใส จึงมีความโดดเด่นมากๆ ท่ามกลางธรรมชาติโดยรอบในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ใบไม้มีสีสันจัดจ้าน พอไปยืนอยู่บนสะพานแห่งนี้ก็จะได้ภาพที่กลมกลืนกันแต่แฝงไปด้วยความสดใส ดังนั้น ใครๆ ก็อยากจะมาถ่ายรูป ณ จุดนี้ ซึ่งความสวยงามจะแตกต่างกันออกไปในช่วงฤดูกาลต่างๆ

กลางวัน     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7)

หลังอาหารกลางวันนำท่านเดินทางสู่ “เมืองโอตารุ”

(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ศูนย์กลางการค้าทางน้ำที่โดดเด่นที่สุดในเกาะฮอกไกโด ระหว่างทางท่านจะได้เพลินตากับทัศนียภาพอันงามตาของธรรมชาติและภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายของญี่ปุ่น

 

ถึงเมือง “โอตารุ” เมืองที่ท่านจะได้ซึมซับกับภาพบรรยากาศและกลิ่นอายประหนึ่งว่าเดินอยู่ในเมืองเวนิส

นำท่านแวะชม คลองโอตารุ” ที่มีความยาว 1,140 เมตร และเชื่อมต่อกับอ่าวโอตารุ ซึ่งในสมัยก่อนประมาณ ค.ศ.1920 ที่ยุคอุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือเฟื่องฟู คลองแห่งนี้ถูกใช้เป็นเส้นทางในการขนส่งสินค้าจากคลังสินค้าในตัวเมืองโอตารุออกไปยังท่าเรือบริเวณปากอ่าวให้ท่านเดินเล่น พร้อมถ่ายรูปกับอาคารเก่าแก่ริมคลองและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “ถนนซาไกมาจิ” เป็นถนนที่ตั้งอยู่กลางเมืองโอตารุ ไม่ไกลจากคลองโอตารุ นับเป็นถนนที่มีเสน่ห์และเต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์มากๆ เนื่องจากตัวถนนเองได้รับการอนุรักษ์อย่างดีเยี่ยมจนกลายมาเป็นถนนแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของเมืองโอตารุ

โดยอาคารต่างๆ เป็นแบบสไตล์ตะวันตก ปัจจุบันได้รับการดัดแปลง เป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ มากมาย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง “ซัปโปโร” เมืองหลวงของเกาะฮอกไกโด ศูนย์กลางความเจริญอันดับ 5 ของญี่ปุ่น ผังเมืองซัปโปโรมีลักษณะคล้ายตารางหมากรุก ซึ่งแตกต่างจากบรรดาหมู่บ้านและเมืองทั่วไปในญี่ปุ่น ซึ่งได้รับคำแนะนำและพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกัน ดังนั้นผังเมืองจึงถูกออกแบบเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าตามพื้นฐานการวางผังเมืองของอเมริกา

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “โรงงานช็อกโกแล็ต” เป็นโรงงานในเมืองซัปโปโรที่ผลิตช็อกโกแลตเลื่องชื่ออย่าง Shiroi Koibito คุกกี้สอดไส้ไวท์ช็อกโกแลตที่ทำจากนมโคจากฮอกไกโดที่ว่ากันว่าอร่อยที่สุดในญี่ปุ่น มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม และเป็นของฝากยอดนิยมสูงสุดของฮอกไกโด นอกจากนี้ภายในบริเวณของโรงงานผลิตช็อกโกแลตยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์      สวนสำหรับนั่งเล่น และร้านอาหารอร่อยๆ ท่านสามารถเลือกชมเลือกซื้อสินค้าได้อย่างจุใจ

เย็น          รับประทานอาหารเย็นมื้อพิเศษ !!! (8) ร้าน “NANDA” ด้วยบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง อาทิเช่น สุดยอดอาหารทะเลของฮอกไกโด ปู 3 อย่าง ประกอบด้วย ปูสุไว ปูขน และปูทาราบะ หอยเชลล์ กุ้งทะเล ให้ท่านได้ลิ้มลองรสชาติสดใหม่จากทะเล นอกจากนี้ยังมีเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ ไส้กรอก ผักสดมากมาย เช่น ฟักทอง ข้าวโพด พริกหวาน เห็ดหอม เพื่อให้ท่านนำไปย่างพร้อมทั้งอาหารอื่นๆ อาทิ ไก่ทอด ข้าวหน้าแกงกระหรี่ สปาเก็ตตี้ สลัดผัก ซูชิหน้าต่างๆ เช่น หน้าไข่กุ้ง หน้ากุ้ง ปลาหมึก ฯลฯ ตบท้ายความอร่อยด้วยขนมหวาน และผลไม้ตามฤดูกาล พร้อมเครื่องดื่มซอฟดริ้งค์ไม่อั้น

 

 

ที่พัก : MERCURE SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า

 

วันที่ห้า      ตลาดโจไก – วัดบุทสึกันจิ – เนินพระพุทธเจ้า – ช้อปปิ้ง มิตซุย เอาท์เล็ท – ช้อปปิ้งทานุกิโคจิ
                                                                                                                 (B / L / D)

เช้า           รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (9)

พาท่านเดินทางสู่ “ตลาดโจไก” ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองซัปโปโร เพราะมีร้านค้ามากกว่า 80 ร้าน เรียงรายตลอดบล็อกขึ้นไป ถือเป็นศูนย์กลางตลาดขายปลีกและขายส่งที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองก็ว่าได้ เพราะที่นี่ได้รวบรวมของกินเด็ดๆ และอาหารทะเลสดๆ มาจากทั่วทุกแห่งในจังหวัดฮอกไกโดมาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อเลือกชิมกันอย่างมากมาย ภายในตลาดโจไกเต็มไปด้วยร้านขายอาหารทะเลสด เช่น ปู หอยเม่นทะเล ไข่ปลาแซลมอน ปลาหมึก หอยเชลล์ และผลผลิต อื่นๆ ในท้องถิ่น เช่น ข้าวโพด แตงโม และมันฝรั่งตามฤดูกาล ราคาก็เหมาะสม ไม่แพงมากนัก โดยไฮไลท์ของตลาดโจไกที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงนั่นก็คือการเลือกซื้อปูสดๆ ปูทั้งหลายจะถูกนำมาจัดเรียงวางขายอยู่ตามหน้าร้าน ราคาของปูส่วนใหญ่ก็จะไม่แพงมาก ขึ้นอยู่กับขนาดและน้ำหนัก นอกจากนี้ยังสามารถเลือกสั่งอาหารทะเลจากหน้าร้านมารับประทานกันสดๆ ได้อีกด้วย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “วัดบุทสึคันจิ” ในเขตมินามิ เมืองซับโปโร เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา พื้นที่ภายในแบ่งเป็นพื้นที่สักการะพระบรมสารีริกธาตุ และ

พระนอนขนาดใหญ่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญในการขอพร

กลางวัน     รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (10)

หลังจากอาหารกลางวันนำท่านเดินทางสู่ “เนินแห่งพระพุทธเจ้า” เป็นผลงานการสร้างชิ้นเอกอีกชิ้นหนึ่งของทาดาโอะอันโดะสถาปนิกชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัลพริตซ์เกอร์ที่ถือว่าที่สุดรางวัลของสถาปนิกลักษณะเป็นเนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูปมีความสูงมากถึง 13.5 เมตร และมีน้ำหนัก 1,500 ตัน พื้นที่ที่ล้อมรอบจะค่อยๆ ลาดลง อีกทั้งรายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม เป็นสถานที่ที่มีความมหัศจรรย์และคุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับการมาเยือน

จากนั้นนำท่านเดินทางช้อปปิ้งที่ “มิตซุยเอาท์เล็ท ท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังหลากหลายทั้งแบรนด์ต่างประเทศและแบรนด์ดังของญี่ปุ่น และสินค้าดีราคาพิเศษที่มีให้เลือกกว่า 130 ร้านค้า มีทั้งสินค้าสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี เด็ก อุปกรณ์กีฬา นาฬิกา รองเท้า ฯลฯ อิสระให้ท่านเลือกชมและซื้อของที่ถูกใจตามอัธยาศัย

จากนั้นพาท่านเดินทางสู่ “ย่านทานุกิโคจิ” ถือว่าเป็นย่านช้อปปิ้งชื่อดังของเมืองซัปโปโร และเป็นแหล่งช้อปปิ้งเก่าแก่ที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกตั้งแต่ปี ค.ศ.1873เหมาะสำหรับจับจ่ายซื้อหาของฝากจากฮอกไกโดไปฝากคนทางบ้านโดยสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 200 ร้านทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตร เชื่อมต่อกันด้วยหลังคาโครงสร้างที่รองรับทุกสภาพอากาศตั้งแต่เขตนิชิ 1 โจเมะจนถึงนิชิ 7 โจเมะ จึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลถึงฝนหรือหิมะแสงแดด ภายในย่านมีขายของ

ที่ระลึก ขนม ของเล่น เครื่องสำอาง ช็อคโกแลต เสื้อผ้า เครื่องใช้ต่างๆ และร้านอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย

เย็น          รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร (11)

ที่พัก : MERCURE SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่า

 

วันที่หก      สนามบินนิวชิโตเสะ – สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ (TG671 10.00-15.00)                  (B)                        

เช้า           รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (12)

(กรุณาตรวจสอบสัมภาระให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมเดินทางไปสนามบิน)

 

               สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินนิวชิโตเสะ

1000         เดินทางจากสนามบินนิวชิโตเสะ โดยสายการบิน Thai Airways เที่ยวบิน TG671

1500           ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม