ทัวร์ญี่ปุ่น15-7-1

ทัวร์ญี่ปุ่น FALLING IN SHIMANE HIROSHIMA YAMAGUCHI 7วัน 5คืน (TG)

ราคาเริ่มต้น 64,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: tg

ช้อปปิ้งอิออน ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งของฝาก ของใช้ ผลไม้ ขนม และสินค้านานาชนิดหรือเพลิดเพลินกับสินค้าราคาถูก ณ ร้าน 100 เยน

วันที่เดินทาง

26 พ.ย.-2 ธ.ค. 67

ทัวร์ญี่ปุ่น

วันที่หนึ่ง :   กรุงเทพฯ

22.00 น.     นัดหมายพบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตู 3 เคาเตอร์ B สายการบินไทย

จุดนัดพบ ป้ายบริษัททัวร์ เจ้าหน้าที่บริการช่วยโหลดสัมภาระและกระเป๋าเดินทาง

 

วันที่สอง:    สนามบินฟุกุโอกะ – ยามากุจิ – สะพานคัมมง – ตลาดปลาคาราโตะ – สะพานสึโนะชิมะ

                ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ อินาริ – แช่น้ำแร่

01.00 น.      ออกเดินทางสู่สนามบินฟุกุโอกะ เที่ยวบิน TG 648 สายการบินไทย

เที่ยวบินขาไป                 TG 648      BKK-FUK   01.00-08.10

เที่ยวบินขากลับ     TG 649      FUK-BKK   11.40-15.40

** การจัดที่นั่งของกรุ๊ปเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบิน ทางทัวร์ไม่สามารถจัดที่นั่งได้ **

 

08.10 น.     ถึง สนามบินฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อย

สะพานคัมมง สะพานแขวนที่เป็นสัญลักษณ์ของช่องแคบคัมมงซึ่งเชื่อมเขตโมจิ อ.คิตะคิวชูและอ.ชิโมะโนะเซกิ จังหวัดยามากุจิเอาไว้ ความยาวทั้งหมด 1.068 เมตร ในตอนที่เปิดเส้นทางเมื่อปี  1973 นั้นเป็นที่น่าภาคภูมิใจว่ามีความยาวเป็นอันดับหนึ่งของซีกโลกตะวันออก การให้สีเทาเขียวที่คำนึงถึงเรื่องทิวทัศน์ดูเข้ากันได้อย่างงดงามกับทะเลสีน้ำเงินโดยรอบและสีเขียวของแมกไม้ เมื่อมองเสาค้ำสะพานในระยะใกล้ลงมาจาก “ทางเดินคันโจยูโฮโด” ที่เมะคาริฝั่งโมจิ หรือชมทัศนียภาพแบบพาโนรามาจาก “ภูเขาฮิโนะยามะ” ฝั่งชิโมะโนะเซกิ ก็จะมองเห็นสภาพหลากหลายขึ้นอยู่กับมุมที่มอง ยามกลางคืนจะถูกแต่งแต้มสีสันด้วยไฟประดับจึงเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่แสนโรแมนติกได้

ตลาดคาราโตะ (Karato Market) เป็นตลาดปลาญี่ปุ่นชื่อดังขนาดใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำ และมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ตลาดแห่งนี้จึงเป็นที่นิยมของคนท้องถิ่นที่จะมาซื้ออาหารทะเลและทานซูชิสดใหม่ในราคาที่ย่อมเยา ไฮไลต์ที่คนนิยมมาทานกันคือ ปลาปักเป้า เมนูอาหารสุดพิเศษของท้องถิ่น  เสิร์ฟโดยนำเนื้อปลามาสไลด์บาง ๆ ด้วยรสชาติที่ต้องไปลองสักครั้งแล้วจะติดใจ สมกับฉายาเมืองแห่งปลาปักเป้า

กลางวัน       รับประทาน อาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารญี่ปุ่น

สะพานทสึโนะชิมะโอฮาชิ สะพานทอดข้ามทะเลสีฟ้าครามสู่รีสอร์ทริมทะเลอากาศแจ่มใส โดยภาพของสะพานแห่งนี้และทิวทิศน์อันงดงามโดยรอบถูกนำไปใช้ประกอบในสื่อโฆษณาทีวีจำนวนมาก

ศาลเจ้าโมโตโนะสุมิอินาริ  มีชื่อเสียงในเรื่องเสาโทริอิสีแดง และยังเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีกล่องรับเงินบริจาคสุดท้าทายให้คุณโยนเหรียญทำบุญอีกด้วย จุดที่โดดเด่นน่าประทับใจที่สุดของศาลเจ้าแห่งนี้เห็นจะเป็นเสาโทริอิ 123 ต้นที่ตั้งเรียงรายเป็นระยะทางกว่า 100 เมตร (328 ฟุต) นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมเดินใต้เสาโทริอิที่ทอดยาวคล้ายอุโมงค์พลางอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เช่น ขอให้ประกอบธุรกิจสำเร็จ ขอให้เดินทางปลอดภัย เป็นต้น ว่ากันว่าเทพเจ้าสามารถช่วยให้คำขอต่างๆ เป็นจริงได้ซึ่งรวมไปถึงการขอให้พบเนื้อคู่ และการมีบุตร อีกสิ่งที่น่าประหลาดใจคือ จุดที่ตั้งกล่องรับเงินบริจาค ซึ่งปกติจะวางไว้ที่พื้น แต่ที่ศาลเจ้านี้กลับนำไปติดไว้ตรงส่วนบนของเสาโทริอิซึ่งตั้งอยู่หน้าทางเข้าศาลเจ้า ว่ากันว่าหากคุณสามารถโยนเหรียญลงกล่องทำบุญได้คำอธิษฐานของคุณจะเป็นจริง

ค่ำ             รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เข้าพัก ณ โรงแรม Hagi Kanko Hotel หรือเทียบเท่า

หลังจากรับประทานอาหารให้ท่านได้ผ่อนคลาย ความเมื่อยล้ากับการแช่ออนเซนตามอัธยาศัย

** ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง **

**กรณีพักออนเซนรบกวนลูกค้าแจ้งล่วงหน้าหากไม่สามารถนอนพื้นทาตามิได้ หรือต้องการรีเควสเตียง**

 

วันที่สาม:      ย่านเมืองเก่าทสึวะโนะ – ถนนโทะโนะมะจิ – ชิมะเนะไวน์เนอรี – ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ –

                 ประภาคารอิซุโมะ ฮิโนะมิซะกิ-แช่น้ำแร่

เช้า            รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ตามรอยย่านเมืองเก่าของญี่ปุ่นที่  เมืองทสึวะโนะ (Tsuwano) จังหวัดชิมะเนะถูกขนานนามว่าเป็น ลิตเติ้ลเกียวโตใต้ร่มเงาแห่งขุนเขา เป็นเมืองที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่เรียงรายอยู่ทั่วเมืองจึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมาย และพลาดไม่ได้ ย่านโทะโนะมะจิโดริ (Tonomachi Odori) ย่านนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองทสึวะโนะ ยังคงมีบ้านเรือนของซามูไรสมัยก่อนเรียงรายอยู่  ข้างๆ รั้วดินเลียบถนน มีคูน้ำที่มีปลาคาร์พตัวโตหลากหลายพันธุ์สวยงามว่ายไปมาอยู่มากมาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมือง

ชิมาเนะไวเนอรี สัญลักษณ์ของที่นี่คือหลังคาอิฐสีแดง อาคารผนังสีขาวในสไตล์ยุโรปตอนใต้โดดเด่นสะดุดสายตา นนำท่านเที่ยวชมโรงงานผลิตใน “บัคคาส” อาคารทดลองชิมและจำหน่ายมีไวน์ชิมาเนะให้ทดลองดื่ม สำหรับท่านที่ไม่ถนัดดื่มแอลกอฮอล์เราขอแนะนำเป็นน้ำองุ่น ระบบของที่นี่ช่วยให้ทดลองดื่มเปรียบเทียบได้ก่อนซื้อ นอกจากไวน์แล้วยังมีผลิตภัณฑ์พิเศษจากในจังหวัดที่เข้ากับไวน์ได้ดีจำหน่ายอีกด้วย

กลางวัน       รับประทาน อาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารญี่ปุ่น

ศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ เชื่อกันว่าจะมีเทพเจ้ามารวมตัวกันในเดือนตุลาคมของทุกปี และยังมีชื่อเสียงว่าเป็นสถานที่ที่ช่วยเสริมดวงชะตาด้านความรัก ส่วนเครื่องรางก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและว่ากันว่าให้โชคด้านความรักได้จริง นอกจากนี้มักจะถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับพิธีแต่งงานอีกด้วย ศาลเจ้าแห่งนี้วิหารหลักเป็นสมบัติของชาติ มีเชือกชิเมะนาวะขนาดใหญ่น้ำหนัก 5.2 ตัน แขวนอยู่หน้าวิหารคากุระ ยังมีโทริอิ และศาลเจ้าฮาราเอะ โนะ ยาชิโระ ที่คอยสกัดกั้นชำระล้างสิ่งอัปมงคลให้อีกด้วย

ฮิโนะมิซะกิใน อิซุโมะ  ซึ่งเป็นประภาคารที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออก เป็นหนึ่งในสถานที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาชิมาเนะ ประภาคารและสิ่งที่อยู่โดยรอบทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่ยอดเยี่ยม สามารถซื้อขนมขบเคี้ยวจากร้านคาเฟ่ที่อยู่ใกล้ๆ กันและชมทิวทัศน์จากสวนธรรมชาติได้ ด้านในประภาคารจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ท่านได้เข้าชมประวัติความเป็นมา และยังสามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้

ค่ำ             รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เข้าพัก ณ โรงแรม MATSUNOYU ONSEN HOTELหรือเทียบเท่า

หลังจากรับประทานอาหารให้ท่านได้ผ่อนคลาย ความเมื่อยล้ากับการแช่ออนเซนตามอัธยาศัย

** ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง **

**กรณีพักออนเซนรบกวนลูกค้าแจ้งล่วงหน้าหากไม่สามารถนอนพื้นทาตามิได้ หรือต้องการรีเควสเตียง**

 

วันที่สี่:        เมืองมัตสึเอะ – ปราสาทมัตสึเอะ – สวนยูชิเอ็น – ปราสาทขนมหวานโคโตบุกิโจ –

                เมืองโอกายามะ – สวนโคระคุเอ็น – อิออน 

เช้า            รับประทาน อาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ปราสาทมัตสึเอะ (ด้านนอก) ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1607ตัวปราสาทมีจุดเด่นที่หลังคาทรงอิริยะโมฮาฟุ ซึ่งมีรูปทรงเหมือนนกจิโดริที่กำลังกางปีกออก จึงถูกเรียกว่า “ปราสาทนกจิโดริ”หรืออีกชื่อว่า “ปราสาทดำ” ถ้ามองจากหอคอยด้านบน จะได้ชมทิวทัศน์ของเมืองมัตสึเอะแบบ 360 องศา และที่นี่ยังถูกจดทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ ในเดือนกรกฎาคม ปี 2015 อีกด้วย

สวนยูชิเอ็น สวนญี่ปุ่นขนาดกว้างกว่า 1 หมื่นทสึโบะแต่งแต้มด้วยสีสันแห่งพืชพันธุ์และดอกไม้ที่หมุนเวียนตลอดสี่ฤดูทั้งดอกโบตั๋นดอกฮานะโชบุใบไม้แดงและดอกโบตั๋นฤดูหนาวพื้นที่ในสวนถูกใช้สอยอย่างคุ้มค่าเพราะมีทั้ง Botan no Kan อาคารสวนในร่มที่จัดแสดงดอกโบตั๋นตลอดปีหรือสวนหินลาวาที่แสดงถึงต้นกำเนิดของเกาะในสวน

กลางวัน       รับประทาน อาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารญี่ปุ่น

ปราสาทขนมหวานโคโตบุกิโจ หรือ Sweet Castle Kotobuki-jho เป็นร้านขายของฝากซึ่งเป็นอาคารที่มีลักษณะเหมือนปราสาทญี่ปุ่นของจริงบนเชิงเขาไดเซน นอกจากจะมีขนมสุดพิเศษที่หาซื้อได้เฉพาะที่ร้านแห่งนี้แล้ว ที่นี่ยังมีของฝากของจังหวัดทตโตริอยู่มากมายจนอาจทำให้คุณเลือกซื้อ หนึ่งในขนมอร่อยๆที่ทางร้านจำหน่ายคือขนมแบบตะวันตกยี่ห้อ KAnoZa เช่น “มัทฉะฟองดูว์” ที่ได้รับรางวัล Grand Gold Award จากสถาบัน Monde Selection

สวนโคระคุเอ็น สวนญี่ปุ่นอายุราว 300 ปี ที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของประเทศถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ 1687 โดยท่านเจ้าเมือง อิเคดะ ทสึนะมะสะ ไฮไลท์ของสวนโคระคุเอ็นมี ทั้งเนินเขา สวนบ๊วย ไร่ชา บ่อน้ำ เวทีละครโน และสนามที่กว้างใหญ่ มาเที่ยวที่นี่ได้ตลอดทั้งปีเลย โดยเฉพาะ ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี สวนจะเต็มไปด้วยใบไม้สีแดงส้มจากต้นเมเปิ้ลเป็นร้อยต้น สวยงามมาก

ช้อปปิ้งอิออน ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งของฝาก ของใช้ ผลไม้ ขนม และสินค้านานาชนิดหรือเพลิดเพลินกับสินค้าราคาถูก ณ ร้าน 100 เยน

ค่ำ               อิสระรับประทาน อาหารค่ำ ตามอัธยาศัย

เข้าพัก ณ โรงแรม OKAYAMA CITY HOTEL หรทือเทียบเท่า

 

วันที่ห้า :     โอกายาม่า – ถ่ายรูปสะพานเซโตะโอฮาชิ – เขตอนุรักษ์คุราชิกิ –

                นั่งเรือเฟอร์รี่สู่เกาะมิยาจิมะ – ศาลเจ้าอิทซึกุชิม่า

เช้า            รับประทาน อาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ถ่ายรูปสะพานเซโตะโอฮาชิ สะพานเซโตะโอฮาชิคือสถาปัตยกรรมเหล็กสีขาวอันยิ่งใหญ่สุดมหัศจรรย์ ที่ลอยอยู่บนฟ้า และทอดยาวไปไกลสุดสายตา สะพานแห่งนี้มีสองชั้น และยังเป็นสถานที่สำคัญริมทะเลที่เชื่อมต่อเกาะหลักของญี่ปุ่นอย่างเกาะฮอนชูไปยังชิโกะคุ  โดยมีทะเลเซโตะในเป็นฉากหลัง

 

เขตอนุรักษ์คุราชิกิ เรียกได้ว่าเป็นตัวแทนสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเลยทีเดียว ด้วยเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร อาทิ กำแพงดินสีขาวของโกดังและบ้านโบราณที่เรียงรายไปตลอดเส้นข้างทาง คลองสายเล็กๆ ที่สามารถล่องเรือชมวิวได้ สิ่งปลูกสร้างโบราณหลายแห่งภายในเมืองคุราชิกินั้นสร้างในสมัยเอโดะจนถึงสมัยเมจิ  ปัจจุบัน บ้านและโกดังโบราณและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ได้มีการดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ โรงแรม ลานเบียร์ และถนนยีนส์ที่คนรักยีนส์ไม่ควรพลาด ทำให้เมืองนี้มีการผสมผสานของสถาปัตยกรรมโบราณได้อย่างลงตัว

กลางวัน      รับประทาน อาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารญี่ปุ่น

นั่งเรือเฟอร์รี่เพื่อข้ามสู่เกาะมิยาจิม่า สถานที่ที่ได้รับยกย่องว่ามีทิวทัศน์สวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น และประตูสีแดงกลางน้ำ “โอโทริอิ” อันเลื่องชื่อ ศาลเจ้าอิทซึกุชิม่า ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างคร่อมทั้งบนบกและในทะเล สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1136 เพื่อบูชาเทวีแห่งท้องทะเลซึ่งเป็นธิดาสามองค์ของอะมะเทระสุเทวี ในขณะที่น้ำขึ้นเต็มที่นั้นศาลเจ้าจะเหมือนเรือขนาดยักษ์ที่ลอยน้ำอยู่ ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2539 และรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกฐานะให้เป็นสมบัติประจำชาติ

ค่ำ     รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารญี่ปุ่น

เข้าพัก ณ โรงแรม Smile Hotel Hiroshima หรือเทียบเท่า

 

วันที่หก:      เมืองฮิโรชิม่า – อะตอมมิคบอมบ์โดม – สวนสันติภาพและพิพิธภัณฑ์สงคราม –

                ยะมะงุชิ – สะพานคินไทเคียว (สะพานแว่นตา) – ฟุกุโอกะ – ท่าเรือโมจิ – ย่านเทนจิน  

เช้า            รับประทาน อาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เมืองฮิโรชิม่า เมืองที่ถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เที่ยวชม อะตอมมิคบอมบ์โดม สวนสันติภาพ และ พิพิธภัณฑ์สงคราม ซึ่งเป็นสถานที่แสดงซากคอนกรีตที่เหลือจากการถูกระเบิด โจมตีทางอากาศ เป็นสถานที่เป็นจุดศูนย์กลางระเบิด ที่โดนถล่ม ณ วันที่ 6 สิงหาคม 1945 ซึ่งสถานที่แห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การ UNESCO ให้เป็นมรดกโลก และเมืองนี้ยังมีเรื่องราวของเด็กหญิงซาดาโกะและนกกระเรียนกระดาษพันตัวอนุสาวรีย์ของเธอตั้งอยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน

เมืองยามางุจิ ชม สะพานคินไตเคียว (Kintaikyo) สะพานไม้ที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นมีลักษณะเป็นสะพานไม้ 5 โค้ง กว้าง 5 เมตร ความยาว 193.3 เมตร และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วยสะพานนี้มีความสวยงามอยู่ในตัวของมันเอง และเมื่อยิ่งได้ชมไปพร้อมๆกับทัศนียภาพโดยรอบที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลทั้ง 4 ฤดูแล้ว ก็ยิ่งมีความสวยสดงดงามอย่างมากเลยทีเดียว

พอข้ามสะพานไปจะเจอเข้ากับร้านที่ชื่อว่า “มุซาชิ”ซึ่งไม่ควรพลาดเด็ดขาด เพราะว่าที่ร้าน “มุซาชิ” นี้มีซอฟท์ครีมให้ลิ้มลองมากกว่า 100 รสชาติ

กลางวัน      รับประทาน อาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารญี่ปุ่น

ท่าเรือโมจิ เมืองท่าที่พาออกเดินทางไปสัมผัสอดีตแสนโรแมนติกของคิวชู โดยที่เมืองนี้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเกาะคิวชูและเกาะฮอนชูผ่านทางช่องแคบคันมง ซึ่งบริเวณใกล้กันนั้นเป็นที่ตั้งของเมืองท่า (Moji Port) ที่เคยรุ่งเรืองมากๆตั้งแต่สมัยเมจิตอนต้น โดยปัจจุบันมีการพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่แต่ยังคงอนุรักษ์ตึกเก่าสไตล์ยุโรปให้มีความน่าสนใจและดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกภายใต้ชื่อ Mojiko Retro นั่นเอง

ซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย ณ เท็นจิน เพลิดเพลินกับการจับจ่ายซื้อของที่ระลึกอย่างจุใจกับแบรนด์เนมมากมาย และเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องเล่นเกมส์ หรือสินค้าที่จะเอาใจคุณผู้หญิงด้วย กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้าแบรนด์เนม เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่น เครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น KOSE, KANEBO, SK II, SHISEDO และอื่นๆอีกมากมาย

ค่ำ               อิสระรับประทานอาหารเย็น ตามอัธยาศัย

เข้าพัก ณ โรงแรม Hotel WBF Grande Hakata หรือเทียบเท่า

 

วันที่เจ็ด:      สนามบินฟุกุโอกะ – กรุงเทพฯ 

เช้า            รับประทาน อาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินฟุกุโอกะ เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

11.40 น.     ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ด้วยเที่ยวบิน TG 649

15.40 น.     เดินทางถึงท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ

ทัวร์ญี่ปุ่น