ทัวร์ปากีสถาน

DAY 1 กรุงเทพฯ – อิสลามาบัด – มัณเซห์รา (มีอาหารและเครื่องดื่มบริการบนเครื่องบิน)
16.00 คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกตลอดขั้นตอนการเช็คอิน และ หัวหน้าทัวร์ให้คำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง
19.00 ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน โดยสายการบิน THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG 349 ** มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน ใช้เวลาบินโดยประมาณ 5 ชั่วโมง **
22.10 เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน หลังผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทาง และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้วนำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
ชื่อ เมืองอิสาลามาบัด ISLAMABAD มาจากคําสองคํา คือ อิสลาม และ อาบัด ซึ่งหมายถึง “เมืองแห่งอิสลาม” โดยเมืองอิสลามาบัดเป็นเมืองหลวงของประเทศปากีสถาน ตั้งอยู่ในอิสลามาบัดแคปพิทัล เทอร์ริเทอรี่ มีพื้นที่906 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 1 ล้านคน กรุงอิสลามาบัด สร้างขึ้นเพื่อเป็นเมืองหลวงของประเทศแทนนครกาจี
นำท่านเดินทางสู่เมือง มัณเซห์รา MANSEHRA เป็นเมืองที่ท่านจะได้สัมผัสกับความตื่นเต้น ด้วยเส้นทางที่มีความคดเคี้ยวท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งระหว่างการเดินทาง ท่านอาจจะได้พบกับรถประจำทางที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ซึ่งแต่ละคันก็มีความสวยงามไม่ซ้ำกัน ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย สีสัน การตกแต่งสิ่งต่าง ๆ
ที่เข้ากับตัวรถได้อย่างสวยงาม

พักที่ KARAKURAM HOTEL , MANSEHRA ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

DAY 2 มัณเซห์รา – คาราโครัม ไฮเวย์ – กิลกิต (B/L/D)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านออกเดินทางโดยรถไปยัง เมืองกิลกิต GILGIT บนเส้นทาง คาราโครัม ไฮเวย์ KARAKORAM HIGHWAY เส้นทางในฝันของนักเดินทางมืออาชีพเป็นที่รู้จักกันในชื่อที่เรียกสั้นๆว่า KKH เป็นถนนที่เชื่อมโลกสองโลกเข้าด้วยกันคือโลกตะวันตกและโลกตะวันออกโดยผ่านเอเชียกลางดินแดนที่เป็นที่ชุมนุมของเทือกเขาสำคัญของโลกถึงสามเทือกเขาด้วยกันคือ เทือกเขาหิมาลัย คาราโครัมและฮินดูกูซ KKH เริ่มสร้างตั้งแต่ปีค.ศ.1960-1980 เพื่อเชื่อมสองประเทศเข้าด้วยกันคือปากีสถานและจีน รวมทั้งยังสามารถเปิดเส้นทางสู่ประเทศอื่นๆในแถบเอเชียกลางเช่น ทาจิคสถาน อัฟกานิสถาน เป็นต้น เป็นระยะทาง 413 กิโลเมตรบางส่วนควบเข้ากับเส้นทางสายไหมโบราณ (ANCIENT SILK ROAD)

เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร เมนูอาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านออกเดินทางต่อสู่ เมืองกิลกิต GILGIT หัวเมืองหลักของ ภูมิภาค GILGIT – BALTISTAN เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของปากีสถาน เป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งบนเส้นทางสายไหมในอดีตที่พุทธศาสนาเผยแผ่มาจากเอเชียใต้
เดินทางถึงเมืองกิลกิต เคยเป็นจุดแวะสำคัญในเส้นทางสายไหม นอกเหนือจากการค้าผ้าไหม เครื่องเทศ และสินค้าอื่นๆ แล้ว เส้นทางเครือข่ายนี้มีบทบาทสำคัญในการเป็นทางผ่านถ่ายทอดวัฒนธรรม ศาสนา และอารยธรรมมานานหลายศตวรรษ และยังเป็นหนึ่งในเส้นทางการเผยแพร่พระพุทธศาสนาจากอินเดียไปสู่เอเชียอีกด้วย

ค่ำ บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักที่ KALLISTO HOTEL / HEAVEN LODGE , GILGIT ระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า

DAY 3 กิลกิต – กากูช – ยาซินวัลเล่ย์ – ทะเลสาบ คัลติ – กูปิส (B/L/D)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นมุ่งหน้าสู่ เมืองกากูช GAHKUCH เป็นเมืองหลวงของเขตหุบเขากีซ่า GHIZAR VALLEY ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาฮินดูกูช HINDU KUSH เส้นทางจะขนานไปกับแม่น้ำกีซ่าที่คดเคี้ยวไปมาแต่ละโค้งของแม่น้ำ สวยงามไปด้วยวิวของยอดเขาสีเทามีสีขาวของหิมะอยู่บนยอด ขนาบไปด้วยแม่น้ำเขียวอมฟ้าสวยงามหุบเขากีซ่าเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยโตรกผาลำธาร มีแม่น้ำสีเขียวใสแจ๋วไหลผ่าน บางช่วงแม่น้ำก็ขยายกว้างเป็นทะเลสาบซึ่งมีอยู่หลายแห่ง มากจนได้รับสมญานามว่า THE LAND OF LAKES เป็นทะเลสาบสีเขียวเทอร์คอยซ์ ในหุบเขาเต็มไปด้วยพืชเมืองหนาวเช่น แอปเปิล เชอรี่ แอปริคอท วอลนัท ที่กำลังเปลี่ยนสีสวยงาม

เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร เมนูอาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านชม ยาซินวัลเล่ย์ YASIN VALLEY ถือว่าเป็นไฮไลท์ ที่สวยงามของทิวทัศน์แถบนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่บนเทือกเขาฮินดูกูชมีบ้านเรือนปลูกอยู่บนไหล่เขาริมทาง มองลงไปจะเห็นพื้นที่ราบลุ่มระหว่างหุบเขาที่เต็มไปด้วยแอปริคอทที่เปลี่ยนสีสวยงาม YASIN เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่บนเทือกเขา HINDU KUSH มีบ้านเรือนปลูกอยู่บนไหล่เขาริมทาง มองลงไปจะเห็นพื้นที่ราบลุ่มระหว่างหุบเขาที่เต็มไปด้วยต้นป๊อปลาร์ที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสวยงาม

จากนั้นชม ทะเลสาบคัลติ KHALTI LAKE เป็นทะเลสาบสีฟ้าเทอร์คอยซ์งดงามน้ำจะนิ่งใสเหมือนกระจก ทะเลสาบนี้เกิดจากหินถล่มลงมากกลายเป็นเขื่อนธรรมชาติปิดกั้นแม่น้ำกลายเป็นทะเลสาบ นอกจากนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตปลาเทร้าที่โด่งดัง

ค่ำ บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักที่ GHIZER BLOSSOM INN , GUPIS ระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า

DAY 4 กูปิส – กิลกิต – เส้นทางสายไหมโบราณ – จุดชมวิวยอดเขาราคาโปชิ – ฮุนซ่า – ดุยการ์ (B/L/D)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับ เมืองกิลกิต GILGIT ชื่นชมกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดทางของถนนที่ขนาบไปกับแม่น้ำกีซ่า
หลังจากนั้นมุ่งหน้าสู่หุบเขาฮุนซ่า นำท่านชม เส้นทาง สายไหมโบราณ OLD SILK ROAD..เครือข่ายการค้าโบราณที่เชื่อมต่อ เมืองต่างๆ เข้าด้วยกัน ผ่านกองคาราวานพ่อค้าที่เดินทางจากบ้านเกิดเมืองนอนไปค้าขายยังต่างแดน เส้นทางสายไหมมีระยะทางยาวกว่า 4 พันไมล์ เริ่มต้นจาก เมืองฉางอัน CHANGAN ทางตอนกลางของประเทศจีน ข้ามผ่านทะเลทรายในเอเชียกลางไปสิ้นสุดที่เมืองแอนติออค ANTIOCH ในประเทศตุรกี เส้นทางสายไหมเริ่มต้นเมื่อ 130 ปีก่อนคริสตกาล ในรัชสมัยพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ EMPEROR WU OF HAN จักรพรรดิจีนราชวงศ์ฮั่น HAN DYNASTY พระองค์เห็นว่าแผ่นดินจีนมีของดีมากมาย โดยเฉพาะผ้าไหมที่ไม่มีดินแดนใดในโลกล่วงรู้กรรมวิธีการผลิตในครั้งนั้น ฮั่นอู่ตี้จึงส่งราชทูตนามว่า จางเชียน ZHANG QIAN ไปเจริญสัมพันธไมตรีกับชนเผ่าเร่ร่อนที่อาศัยในทะเลทรายมณฑลกานซู่ GANSU PROVINCE เมื่อชนเผ่าต่าง ๆ ได้รู้จักผ้าไหมเป็นครั้งแรก ชื่อเสียงของผืนผ้าเรียบลื่นเนื้อละเอียดก็ร่ำลือระบือไกล ทำให้ความต้องการผ้าไหมในดินแดนตะวันตกเพิ่มมากขึ้น เส้นทางการค้าผ้าไหมจึงเริ่มต้นขึ้นที่ฉางอัน เมืองหลวงราชวงศ์ฮั่นในครั้งนั้น ก่อนเชื่อมต่อกับเส้นทางการค้าต่าง ๆ จนกลายเป็นเครือข่ายเส้นทางสายไหมทางบกในเวลาต่อมา ตลอดระยะเวลากว่าพันปี การค้าขายบนเส้นทางสายไหมได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์โลกหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก ใน ค.ศ. 476 การรุกรานของชนเผ่ามองโกลในสมัยราชวงศ์จิน JIN DYNASTY รวมถึงนโยบายจักรวรรดิออตโตมันที่ห้ามการค้าขายกับต่างแดนในค.ศ. 1453 เหตุการณ์เหล่านี้นาไปสู่การหยุดชะงักของการค้าบนเส้นทางสายไหม เมืองต่าง ๆ ที่มีรายได้หลักจากการค้ากับต่างแดนจึงพากันล่มสลายไปตามๆ กัน อย่างไรก็ตาม เส้นทางสายไหมถูกลดบทบาทอย่างแท้จริงเมื่อครั้งที่ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักสำรวจชาวอิตาเลียน ค้นพบทวีปอเมริกาใน ค.ศ. 1492 นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวตะวันตกต่างหันมาแสวงหาความมั่งคั่งจากทวีปโลกใหม่ เกิดเป็นเส้นทางการค้ามหาสมุทรแอตแลนติกที่เชื่อมต่อยุโรป แอฟริกา และอเมริกาเข้าด้วยกัน เส้นทางสายไหมที่มีมาแต่โบราณจึงหมดความสำคัญลงในที่สุด

เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร เมนูอาหารท้องถิ่น
แวะถ่ายรูป จุดชมวิวยอดเขาราคาโปชิ RAKAPOSHI ซึ่งมีระดับความสูง 7,788 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นภูเขาที่สูงอันดับ 27 ของโลก คาว่า “ราคาโปชิ” มีความหมายว่า “หิมะปกคลุม”

จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเมือง ฮุนซ่า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,438 เมตร และมีพื้นที่ประมาณ7,900 ตารางกิโลเมตร มีเมืองหลักคือเมืองบัลติท BALTIT หรือที่รู้จักกันในชื่อเมืองคาริมาบัด KARIM ABAD ในอดีตฮุนซ่าเป็นรัฐอิสระที่มีอำนาจปกครองตนเองเป็นเวลากว่า 900 ปี ชาวฮุนซ่า ส่วนใหญ่ นับถือมุสลิมนิกายอิสไมลี่ ชีอะ ISMAILI SHIA ใช้ภาษาดั้งเดิมคือภาษา BRUSHUSKI แต่ก็สามารถเข้าใจภาษาอูรดู URDUและภาษาอังกฤษ สำหรับภาษา BRUSHUSKI เป็นภาษาท้องถิ่นเฉพาะ พูดกันเฉพาะในเขตพื้นที่ฮุนซ่า ชมทัศนียภาพของเส้นทางหลวงคาราโครัม KARAKORAM HIGHWAY ผ่านหุบเขาผลไม้อันอุดมสมบูรณ์ของฮุนซ่าและนาการ์ อันเป็นเมืองโบราณที่ช่อนตัวอยุ่ในหุบเขาห่างจากมลพิษทั้งปวงไม่น่าแปลกเลยที่คนในฮุนซ่ามีอายุเฉลี่ยยาวนานมากเป็น อันดับต้นของโลกถึง 85 ปีคนแก่หลายๆคนมีอายุถึง 120 ปี เพราะเมืองจะถูกโอบล้อมโดยยอดเขาสูงมากมาย ที่มีความสูงมากกว่า 7,000 เมตรเที่ยวชมเมืองที่มีสีสันสวยหวานด้วยดอกไม้เมืองหนาว สายน้ำฮุนซ่าสีฟ้าทอดตัวโค้งยาวงดงามราวภาพวาดขึ้น ชมวิถีชีวิตของคนพื้นเมืองที่อยู่อย่างพอเพียง

จากนั้นนำท่านเข้าพักบนยอดเขา ดรุยเกอร์ (DUIKER)
ค่ำ บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักที่ EAGLE NEST HOTEL /HARD ROCK HOTEL , DUIKAR ระดับ4 ดาวหรือเทียบเท่า

DAY 5 LADY FINGER – พาสสุ – สะพานแขวนฮุสไซนิ – วิวเมืองพาสสุ – พาสสุ กราเซียร์ – ภูเขาฟันเลื่อย – ล่องเรือทะเลสาบฮุนซ่า – ตลาดคาริมาบัด (B/L/D)
เช้าตรู่ นำท่าน ดื่มดำกับบรรยากาศอันสดชื่นบนยอดเขาดรุยเกอร์ ซึ่งจัดว่าเป็นหลังคาของฮุนซ่า ชมแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้นเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศแสงพระอาทิตย์กระทบยอดเขาหิมะ ชมทัศนียภาพของหมู่บ้านฮุนซ่าที่อยู่เบื้องล่างมีแม่น้ำฮุนซ่าขนาบรายล้อมด้วยยอดเขาสูงเสียดฟ้าตระหง่านโดยรอบ ณ จุดนี้ท่านจะได้เห็นยอดเขาที่มีรูปร่างโดดเด่นแปลกตาที่เรียกว่า LADY FINGER (6,000M) รวมทั้งได้เห็นยอดเขาที่สูงระดับโลกถึงห้าเขาด้วยกัน ทั้ง RAKAPOSHI (7,788M), DIRAN (7,265M), GOLDEN PEAK(7,028M) ,ULTER SAR PEAK (7,388M) และ DISTEGHIL SAR (7,885M)

เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังจากนั้นนำพาท่านนั่งรถต่อไปเมือง พาสสุ PASSU เป็นเมืองที่มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี เละเป็นเมืองที่สวยงามที่สุดในเส้นทางสายคาราโครัมไฮเวย์ อยู่บนเส้นทางสายไหมตั้งแต่โบราณ ซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 2,400 เมตร
**เปลี่ยนการเดินทางเป็นรถตู้**

นำท่านชม ทะเลสาบบอริท BORIT LAKE ซึ่งมีสะพานแขวนฮุสไซนิ PASSU SUSPENSION BRIDGE ที่สร้างเพื่อข้ามแม่น้ำ HUNZA หลังจากนั้นพาไปเดินเที่ยวในหมู่บ้าน GULMIT ชมวิถีชาวบ้านเก่าแก่ ชมพิพิธภัณฑ์หมู่บ้าน ชมการทอพรมจากฝีมือชาวบ้าน
เดินทางต่อชม ธารน้ำแข็งพาสสุ PASSU GLACIER ธารน้ำแข็งสีขาวที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากบนคาราโครัมไฮเวย์ เพลินเพลินกับความมหัศจรรย์ของธารน้าแข็งโดยฉากหลังเป็นภูเขาน้าแข็งสีขาวตัดกับท้องฟ้าสีน้าเงินที่สวยงาม

นำท่าน ชมวิวภูเขาฟันเลื่อย ซึ่งล้อมรอบด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี เหลือง ส้ม แดง PASSU เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของปากีสถาน มีอายุเก่าแก่มากกว่า 700 ปี อยู่บนเส้นทางสายไหมตั้งแต่โบราณ อยู่ห่างจากเมืองกิลกิตมาทางเหนือประมาณ 150 กม. และอยู่ห่างหมู่บ้านกุลมิทประมาณ 15 กม. ไฮไลท์ของหมู่บ้าน PASSU ก็คือธารน้ำแข็ง PASSU และยอดเขาฟันเลื่อยหรือยอดเขารูปกรวย PASSU CATHEDRAL PEAK สูง 6500 เมตร

เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร เมนูอาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านนำท่าน ล่องเรือชม ทะเลสาบอัตตาบัด ATTABAD LAKE ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ที่ตั้งชื่อตามชื่อหมู่บ้าน เนื่องจากเกิดแผ่นดินถล่มเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2553 และทำให้เกิดเขื่อนและทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อว่าทะเลสาบอัตตาบัดทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตทันที 20 คน และจำนวนที่เหลือกว่าหกพันคนที่อยู่ต้นแม่น้ำต้องอพยพหนีน้ำในทะเสสาบที่สูงขึ้นเรื่อยๆและถูกตัดขาดจากแผ่นดิน ปัจจุบันนี้มีการสร้างอุโมงค์สามารถเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้อีกครั้ง

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับ เมืองฮุนซ่า จากนั้นให้ท่านได้อิสระให้ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ ตลาดคาริมาบัด KARIMABAD ตามอัธยาศัย สินค้าน่าซื้อ เช่น ผลไม้แห้ง แยม หินสี เสื้อผ้าพื้นเมือง

ค่ำ บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักที่ HILL TOP HOTEL/OFFTO RESORT , HUNZA ระดับ4ดาว หรือเทียบเท่า
DAY 6 ป้อมอัลติท – ฮอปเปอร์วัลเล่ย์ – ฮอปเปอร์กราเซียร์ – นาการ์วัลเล่ย์– กิลกิตบาซ่าร์ (B/L/D)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านชมป้อมเมืองโบราณ ป้อมอัลติท ALTIT FORT เป็นโบราณสถานที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในเขตกิลกิตบัลติสถาน มีอายุถึงราว1,100 ปีเดิมเคยเป็นที่ประทับของผู้ครองแคว้นฮุนซ่า

หลักจากนั้นมุ่งหน้าสู่ หุบเขานาการ์ NAGAR VALLEY หุบเขาที่อยู่บนระดับความสูงเฉลี่ยเกิน 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล หุบเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งยอดเขาสูงอันดับต้นๆของโลกหลายยอด ไม่ว่าจะเป็น ราคาโปชิ (RAKAPOSHI), ดิราน (DIRAN PEAK), โกลเดนพีค (GOLDEN PEAK) รวมถึง รัชพีค (RUSH PEAK) นาการ์ในอดีตเคยเป็นนครรัฐและมีกษัตริย์หลายพระองค์ปกครองมากว่า 1,200 ปี จนกระทั่งล่มสลายลงในค.ศ.1974
ระหว่างทางที่รถไต่เขาเลียบริมหน้าผาขึ้นไป บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มหัศจรรย์มากๆ เห็นทั้งวิวภูเขา ต้นไม้ หมู่บ้านเล็กๆที่ทานาขั้นบันได เลี้ยงสัตว์ เช่น วัว แพะ แกะ…เดินทางจนถึง หมู่บ้านฮอปเปอร์

เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร เมนูอาหารท้องถิ่น
นำท่านชม ฮอปเปอร์ กราเซีย HOPPER GLACIER ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ในเขตหมู่บ้านฮอปเปอร์ ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,878 เมตร การชมธารน้าแข็งต้องเดินมาหน่อย แต่รับรองว่าวิวความอลังการของธารน้ำแข็งปังแน่นอนความโดดเด่นของฮอปเปอร์กราเซียร์ คือมีสีดำเกิดจากการทับถมของหิมะอย่างยาวนาน

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับ เมืองกิลกิต
นำท่านไป ย่านการค้ากิลกิต GILGIT BAZAAR ตลาดขนาดใหญ่ในตัวเมืองกิลกิต อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่น และของฝากไปเป็นของที่ระลึก อาทิ แอปริคอตตากแห้ง ภาขนะเครื่องเคลือบ และพรม นอกจากนี้ยังมีสตรีทฟู้ดให้เลือกซื้อทานกันอย่างจุใจ เมื่อได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ที่พัก

ค่ำ บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักที่ KALLISTO HOTEL / HEAVEN LODGE , GILGIT ระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า

DAY 7 กิลกิต-จุดบรรจบ 3 เทือกเขาสำคัญของโลก – SHATIAL – มัณเซห์รา (B/L/D)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมัณเซห์รา MANSEHRA แวะชม จุดเชื่อมต่อระหว่างเทือกเขาสำคัญของโลก 3 เทือกเขา JUNCTION POINT OF THREE MAIN MOUNTAIN RANGES ประกอบด้วยเทือกเขาหิมาลัย เทือกเขาคาราโครัม เทือกเขา ฮินดุกุช ล้วนเป็นเทือกเขาที่สุงสุดของโลก เช่น ยอดเขาเอเวอเรสต์ ที่สูงเป็นอันดับหนึ่งของโลกก็อยู่ในเทืองเขาหิมาลัย ยอดเขา K2สูงอันดับสองของโลกอยู่ในปากีสถานก็อยู่ในเทือกเขาคาราโครัม แวะชม SHATIAL ภาพวาดบนหินเกี่ยวกับพุทธศาสนาริมแม่น้ำสินธุ

เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร เมนูอาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองมัณเซห์รา MANSEHRA
นำท่านเดินทางสู่เมือง มัณเซห์รา MANSEHRA เป็นเมืองที่ท่านจะได้สัมผัสกับความตื่นเต้น ด้วยเส้นทางที่มีความคดเคี้ยวท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งระหว่างการเดินทาง ท่านอาจจะได้พบกับรถประจำทางที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ซึ่งแต่ละคันก็มีความสวยงามไม่ซ้ำกัน ไม่ว่าจะเป็นลวดลาย สีสัน การตกแต่งสิ่งต่าง ๆ
ที่เข้ากับตัวรถได้อย่างสวยงาม

ค่ำ บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักที่ KARAKURAM HOTEL , MANSEHRA ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า
DAY 8 มัณเซห์รา – ตักศิลา – มหาวิทยาลัยจูเลียน – พิพิธภัณฑสถานเมืองตักศิลา – อิสลามาบัด – มัสยิดไฟชอล – อิสระช้อปปิ้ง (B/L/-)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองตักศิลา TAXILA ซึ่งอยู่ห่าง 35 กิโลเมตรก่อนถึงเมือง อิสลามาบัด ยูเนสโกได้ให้ความสำคัญกับเมืองตักศิลา และได้รับการประกาศว่าเป็นเมืองมรดกโลกทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองโบราณที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัย อเล็กซานเดอร์ มหาราช หลังจากพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ สวรรคต พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงวางรากฐานพุทธศาสนาในเมืองตักศิลาต่อในพุทธศตวรรษที่ 10-11 พวกฮั่นขาวได้ทำลายวัดพุทธศาสนาในเมืองตักศิลาเป็นเมืองโบราณที่อุดมไปด้วยสถาปัตยกรรมและประติมากรรมเก่าแก่
นำท่านชม อารามพุทธจูเลียน JULIAN MONASTERY โบราณสถานที่สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนาในพื้นที่บริเวณนี้ ซึ่งเป็นวัดหรืออารามโบราณบนเนินเขาความสูง 300 ฟุต บนลานกว้างรายล้อมด้วยกำแพงห้องขนาดเล็ก คงเหลือแต่ฐานพระสถูปให้เห็นและจินตนาการถึงความรุ่งเรืองเมื่อครั้งอดีต นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ตักศิลา TAXILA MUSEUM เก็บรวบรวมหลักฐานความเป็นอยู่และภูมิปัญญาของชาวตักศิลายุคต่าง ๆ รวมถึงซากสถูปเจดีย์ วัดวาอาราม เหรียญกรีกในยุคสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช และพระพุทธรูปสมัยคันธาระจานวนมาก

เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร เมนูอาหารท้องถิ่น
จากนั้นมุ่งหน้าเข้าสู่ เมืองหลวง อิสลามาบัด ISLAMABAD นำท่านชมเมืองหลวง
จากนั้นนำท่านชม มัสยิดไฟชอล FAISAL MOSQUE เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในอิสลามาบัด สร้างเสร็จในปี 1986 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี ลักษณะคล้ายเต็นท์กลางทะเลทราย

นำท่านอิสระช๊อปปิ้ง ณ ห้าง CENTORUS MALL
ค่ำ อิสระอาหารเย็นเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน
23.20 ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสายการบินไทย THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG 350 ** มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน ใช้เวลาบินโดยประมาณ 5 ชั่วโมง **

DAY 9 กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) (มีอาหารและเครื่องดื่มบริการบนเครื่องบิน)
06.25 เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
ทัวร์ปากีสถาน