แบนเนอร์

ทัวร์อินเดีย บุญพา ศรัทธา ยาตราสู่แดนพุทธภูมิ 5 วัน 4 คืน โดยสายการบิน (TG)

ราคาเริ่มต้น 31,800 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: tg

เดินทางถึงประตูเมืองราชคฤห์ ผ่านชมรอยทางเกวียนเก่าสันนิษฐานว่าเป็นรอยเดียวกับครั้งเมื่อสมัยพุทธกาล นั่งรถต่อไปยังเขาคิชฌกูฎ เพื่อกราบสักการะพระคันธกุฏิของพระพุทธเจ้า เป็นการเดินขึ้นที่สูงโดยมีขั้นบันไดที่ลาดชันไม่มากนัก ก้าวเดินสบาย ระยะทางโดยรวมประมาณ 800 เมตรใช้เวลาเดินขึ้นเขาประมาณ 30 นาที หากท่านไม่สะดวกเดินเท้าหรือปัญหาด้านหัวเข่าแนะนำบริการ เสลี่ยงหามโดยชาวพื้นเมือง (กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์และชำระค่าใช้จ่ายท่านละ 1,400 รูปีรวมขาไปและขากลับ) ในสมัยพุทธกาลพระเจ้าพิมพิสารกษัตริย์แห่งกรุงราชคฤห์ เมืองหลวงแห่งแคว้นมคธได้ใช้ทางเดินสายนี้เสด็จฯ ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธเจ้าเช่นกัน ระหว่างทางขึ้นยอดเขาคิชกูฎ แวะกราบสักการะถ้ำสุกรขาตา สถานที่ซึ่งพระสารีบุตรบรรลุเป็นพระอรหันต์ ชมกุฏิพระอานนท์ ถ้ำพระโมคคัลลานะ และสถานที่ซึ่งพระเทวทัตกลิ้งหินหล่นใส่พระพุทธเจ้าจนพระบาทห้อพระโลหิต

วันที่เดินทาง

กุมภาพันธ์ 68 – มีนาคม 68

ทัวร์อินเดีย

วันที่หนึ่ง
ศูนย์รวมศรัทธาพุทธศาสนิกชนทั่วโลก พุทธสังเวชนียสถานที่ 1
สนามบินสุวรรณภูมิ (TG327 10.55 -12.40) – สนามบินเมืองคยา – ต้นพระศรีมหาโพธิ์-องค์พระพุทธเมตตา (พุทธสังเวชนียสถานที่ 1)
08.00 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินไทย (Thai Airways) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับ อำนวยความสะดวกตลอดขั้นตอนการเช็คอิน และหัวหน้าทัวร์ให้คำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง
10.55 น. ออกเดินทางสู่เมืองคยา สาธารณรัฐอินเดีย โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 327
(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.20 ชั่วโมง) บนเครื่องบินมีอาหารกลางวันบริการ
12.40* น. (เวลาท้องถิ่น)ถึงท่าอากาศยานนานาชาติเมืองคยา ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร *เวลาอินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชม. หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว รับกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นนำท่านออกเดินทางโดยรถปรับอากาศไปยัง เข้าที่พัก
ที่พัก เข้าที่พัก โรงแรม DHAMMA HOTEL / ANAND HOTEL / MAHABODHI HOTEL หรือระดับเทียบเท่าหรือเทียบเท่า
ออกจากที่พัก สู่บริเวณพระมหาเจดีย์และต้นพระศรีมหาโพธิ์ พุทธสังเวชนียสถานที่ 1
หมายเหตุ การแต่งกาย : ชุดสุภาพ รองเท้าแบบสวมถอดได้ง่าย เนื่องจากต้องถอดรองเท้าขณะเข้าไปในพุทธสถานโดยสามารถสวมถุงเท้าได้ (ไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารและอิเล็กทรอนิกทุกชนิดเข้าภายในบริเวณต้นพระศรีมหาโพธิ์ ท่านสามารถเก็บไว้ในกระเป๋าใบใหญ่ที่โรงแรม)
ค่าธรรมเนียมกล้องถ่ายรูปบริเวณองค์เจดีย์พุทธคยา (ชำระที่ด้านหน้า)
กล้องถ่ายรูปธรรมดา 100 รูปี กล้องวีดีโอ 300 รูปี
เดินทางถึงบริเวณองค์พระมหาเจดีย์พุทธคยา ผ่านด่านตรวจรักษาความปลอดภัยเรียบร้อยแล้วนำคณะกราบนมัสการพระพุทธเมตตาซึ่งประดิษฐานภายในพระมหาเจดีย์ และกราบสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ จากนั้นนำชมสัตตมหาสถาน ธรรมสถานแห่งพระพุทธเจ้าเสวยวิมุติสุขหลังจากตรัสรู้ 49 วันทั้ง 7 แห่ง อันประกอบไปด้วย
1.“พระแท่นวัชรอาสน์” ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ทรงประทับเสวยวิมุตติสุขตลอด 7 วัน
ในสัปดาห์ที่ 1
2. “อนิมิสเจดีย์” ทรงยืนจ้องพระเนตรที่ต้นศรีมหาโพธิ์ โดยมิได้กระพริบพระเนตรตลอด 7 วัน ในสัปดาห์ที่ 2
3. “รัตนจงกรมเจดีย์” ทรงนิมิตฐานจงกรมขึ้น แล้วทอดพระบาทจงกรม เป็นเวลา 7 วัน ในสัปดาห์ที่ 3
4. “รัตนฆรเจดีย์” โดยเสด็จไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของต้นศรีมหาโพธิ์ และประทับนั่งขัดสมาธิในเรือนแก้วเหล่าเทวดานิรมิตถวาย ทรงพิจารณาพระอภิธรรมนั่น 7 วัน ในสัปดาห์ที่ 4
และชมสถานที่จำลอง ที่สร้างขึ้นโดยรอบพระเจดีย์พุทธคยา พร้อมฟังการบรรยายถึงความสำคัญของสถานที่ต่าง ๆ และพุทธสถานที่สำคัญโดยรอบ อันได้แก่
5. เสด็จไปประทับนั่งขัดสมาธิใต้ “ต้นไทร”เป็นเวลา 7วัน ใต้ต้นอชปาลนิโครที่พักของคนเลี้ยงแกะ ในสัปดาห์ที่ 5
6.เสด็จไปประทับนั่งขัดสมาธิใต้ “ต้นจิกมุจลินทร์” ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของต้นศรีมหาโพธิ์ ในสัปดาห์ที่ 6
7.เสด็จไปประทับใต้ “ต้นเกดหรือต้นราชายตนะ” ประทับนั่งเสวยวิมุติสุขตลอด 7 วัน ในสัปดาห์ที่ 7 เป็นอันครบ 49 วันแห่งการพิจาณาธรรมด้วยองค์เอง
เรียบร้อยแล้ว นำคณะจาริกบุญสวดมนต์ทำวัตรเย็น บูชาพระรัตนตรัย และสวดมนต์บูชาสังเวชนียสถาน จากนั้นเชิญท่านทัศนาธรรม นั่งสมาธิปฏิบัติบูชาตามอัธยาศัย
ได้เวลาอันสมควรนำท่านกลับโรงแรมที่พัก

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 1)
ที่พัก เข้าที่พัก โรงแรม DHAMMA HOTEL / ANAND HOTEL / MAHABODHI HOTEL หรือในระดับเทียบเท่า
วันที่สอง ปฐมบทแห่งพุทธศาสนา
เมืองพุทธคยา – เขาคิชกูฎ – วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ – หลวงพ่อองค์ดำ มหาวิทยาลัยสงฆ์ นาลันทา – เมืองพุทธคยา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2)
ออกเดินทางสู่เมืองราชคฤห์
เดินทางถึงประตูเมืองราชคฤห์ ผ่านชมรอยทางเกวียนเก่าสันนิษฐานว่าเป็นรอยเดียวกับครั้งเมื่อสมัยพุทธกาล นั่งรถต่อไปยังเขาคิชฌกูฎ เพื่อกราบสักการะพระคันธกุฏิของพระพุทธเจ้า เป็นการเดินขึ้นที่สูงโดยมีขั้นบันไดที่ลาดชันไม่มากนัก ก้าวเดินสบาย ระยะทางโดยรวมประมาณ 800 เมตรใช้เวลาเดินขึ้นเขาประมาณ 30 นาที หากท่านไม่สะดวกเดินเท้าหรือปัญหาด้านหัวเข่าแนะนำบริการ เสลี่ยงหามโดยชาวพื้นเมือง (กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์และชำระค่าใช้จ่ายท่านละ 1,400 รูปีรวมขาไปและขากลับ) ในสมัยพุทธกาลพระเจ้าพิมพิสารกษัตริย์แห่งกรุงราชคฤห์ เมืองหลวงแห่งแคว้นมคธได้ใช้ทางเดินสายนี้เสด็จฯ ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธเจ้าเช่นกัน ระหว่างทางขึ้นยอดเขาคิชกูฎ แวะกราบสักการะถ้ำสุกรขาตา สถานที่ซึ่งพระสารีบุตรบรรลุเป็นพระอรหันต์ ชมกุฏิพระอานนท์ ถ้ำพระโมคคัลลานะ และสถานที่ซึ่งพระเทวทัตกลิ้งหินหล่นใส่พระพุทธเจ้าจนพระบาทห้อพระโลหิต
เมื่อถึงยอดเขาคิชกูฏ อันถึงที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์ศาสดา นมัสการมูลคันธกุฏี สถานที่ประทับของพระพุทธเจ้า อิสระท่านสวดมนต์ นั่งสมาธิ ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางลงมาขึ้นรถ ระหว่างทางผ่านชมวัดชีวกกัมพวัน โรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรก, ผ่านชม ตะโปทาราม สถานที่อาบน้ำชะล้างบาป 4 วรรณะของชาวอินเดีย เป็นน้ำแร่จากธรรมชาติจากเขาสัตตบรรณคูหา

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ที่ห้องอาหาร ในโรงแรมเมืองราชคฤห์ (มื้อที่ 3)

ขึ้นรถนำท่านเข้าชม “วัดเวฬุวัน” ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนาที่
พระเจ้าพิมพิสารพระราชทานพระราชอุทยานสวนป่าไผ่ และทรงสร้าง
วัดเวฬุวัน ถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้าและเป็นสถานที่ที่
พระอริยสงฆ์สาวกจำนวน 1,250 รูป ซึ่งล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทาคือ
พระพุทธเจ้า ทรงให้การอุปสมบทด้วยื พระองค์เอง ได้มาประชุมพร้อม
กันโดยมิได้นัดหมายทำให้เกิด “วันมาฆะบูชา” ขึ้น

ออกเดินทางต่อไปยังเมืองนาลันทา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที)
เดินทางถึงเมืองนาลันทา นำท่านเข้ากราบนมัสการพระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินแกรนิต “หลวงพ่อดำ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่รอดพ้นจากการถูกเผาทำลายของพวกอิสลามในพุทธศตวรรษที่ 18 เมื่อครั้งที่การกวาดล้างทำลายพระพุทธศาสนาการฆ่าพระสงฆ์ และเผาทำลายมหาวิทยาลัยนาลันทา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์
แห่งแรกของโลกเล่ากันว่ามีคนพยายามจะเคลื่อนย้ายหลวงพ่อดำไปประดิษฐานที่อื่นให้ดูเหมาะสมสง่างาม แต่ก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จนละความพยายามในที่สุด
จากนั้น ทัศนาต่อไปยัง “นาลันทาคาม” บ้านเกิดของพระสารีบุตร อัครสาวกฝ่ายขวา ซึ่งต่อมาได้เป็นสถานที่สร้างมหาวิทยาลัยนาลันทาที่รุ่งเรืองในอดีต พระถังซำจั๋ง (หลวงจีนหยวนฉาง) ได้เคยจาริกมาในช่วงพุทธศตวรรษที่ 11 และศึกษาพระธรรม ตลอดจนเคยเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ในทางพุทธศาสนาเคยเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลก เมื่อประมาณ1,500ปีที่แล้วและเคยมีพระภิกษุจำพรรษากว่า 10,000 รูป ศึกษาธรรม ณ สถานที่แห่งนี้ ปัจจุบันเหลือเพียง อาคารแผนผังอิฐร้าง แผนผังของมหาวิทลัยเท่านั้น
หมายเหตุ : ค่าธรรมเนียมกล้อง
กล้องถ่ายรูปธรรมดา ไม่เสีย
กล้องวีดีโอ 50 รูปี
นำท่านเดินทางกลับเมืองพุทธคยา
ระหว่างทางกลับ นำท่านกราบ พร้อมทำบุญสมทบสร้าง”สมเด็จพระพุทธนวมินทร์ ๒๖ พุทธชยันตีศรีนวมินทรธัมมิกราช” ณ วัดนวมินทรธัมมิกราช เมืองนาวาด้า รัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย ขนาดสูงจากฐานล่างสุดถึงเศียรพระ ๓๙ เมตร ( เฉพาะองค์พระสูง ๓๓ เมตร ) ขนาดหน้าตักความกว้าง ๒๙ เมตร ใช้ก้อนหินแกะสลักเป็นองค์พระจำนวน ๔,๘๐๐ ก้อน ถือเป็นพระพุทธรูปใหญ่ที่สุดในอินเดีย

ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ที่ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 4)
ที่พัก เข้าที่พัก โรงแรม DHAMMA HOTEL / ANAND HOTEL / MAHABODHI HOTEL หรือระดับเทียบเท่า
วันที่สาม คงคานที สายน้ำศักดิ์สิทธิ์
เมืองพุทธคยา – วัดศรีลังกา ธรรมกาลิก – ล่องเรือแม่น้ำคงคาชมพิธีอารตีบูชาไฟ – เมืองพาราณสี
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 5)
เดินทางสู่ เมืองพาราณสี (ใช้เวลานั่งรถประมาณ 5-6 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอินเดียและยังจัดเป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลกอีกด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 6)
บ่าย นำท่านวัดพุทธศรีลังกา ธรรมอนาคาริกธรรมปาละ ถือว่าเป็นวัดที่สำคัญ ของบุคคลผู้ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ในอินเดียให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง และพิเศษสำหรับผู้เดินทางชาวไทย พระภิกษุที่ดูแล ท่านจะยกพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในพระสถูปทองเหลืองวางบนศีรษะของเราแต่ละคนที่เดินเรียงกันเข้าไปสักการะ เชิญท่านทำการอธิษฐานเป็นการส่วนตัว และทำบุญบำรุงพระพุทธศาสนา ถือเป็นการร่วมสร้างบารมีกับท่าน อนาคาลิก

พร้อมชมวัดพุทธของไทย ที่วัดสารนาท สักการะพระพุทธยืนองค์ใหญ่ อันศักดิ์สิทธิ์ “พระพุทธรูปยืนปางประ ทานพร” ตั้งประดิษฐานด้านหน้า กลางลานกว้างเป็นที่ตั้งที่สง่างามมาก เหมาะสำหรับผู้สัญจรไปมาจะเคารพกราบไหว้
นำท่านไปยังริมฝั่งแม่น้ำคงคา คณะลงล่องเรือ (ใช้เวลาล่องเรือราวๆ40นาที) เพื่อชมพิธีบูชาอารตีไฟ ของชาวฮินดูแท้ ที่มีความเชื่อว่าเป็น แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์เพราะไหลมาจากภูเขาไกรลาศ (Mt. Kailash) บนสรวงสวรรค์ (ตามสภาพภูมิศาสตร์แม่น้ำนี้ไหลมาจากเทือกเขาหิมาลัย ที่ราบสูงทิเบต) โค้งแม่น้ำคงคานี้ มีความเชื่อทั้งทางฮินดูและพุทธ ท่านสามารถชมพิธีการบูชาของพารหมณ์ฮินดู บูชาพระศิวะเทพ เป็นพิธีศักดิ์ และมีการบูชานี้ในทุกวันริมฝั่งแม่น้ำคงคา ฟรี กระทงบูชา ต่อพระแม่คงคา และยังสามารถปลดทุกข์ ปล่อยโศก ปลงสังขารในโค้งน้ำศักดิ์นี้ ท่านจะได้ล่องเรือชมพิธีการปลงสังขารสุดท้ายชองชีวิตแบบฮินดู ที่ท่าเผาศพที่สืบต่อเนื่องซึ่งมีมานานกว่า 4,000 ปีโดยกองไฟที่เผาศพไม่เคยดับมอด (บริเวณท่าเผาศพนี้ห้ามถ่ายรูป)

ค่ำ กลับขึ้นฝั่ง รับประทานอาหารค่ำที่ห้องอาหาร (มื้อที่ 8)
ที่พัก นำเข้าที่พัก THE FERN HOTEL / DOLPHIN INTERATIONAL HOTEL / AMAYA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า
วันที่สี่ กงล้อธรรมหมุนครบองค์สาม ณ ธรรมเมกขสถูป
พารานสี – ธรรมเมกขสถูป ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน (พุทธสังเชนียสถานที่ 2) เมืองสารนาท – ช้อปปิ้ง เมืองพุทธคยา
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร (มื้อที่ 9)
นำชมเจาคันธี สถูปสถานที่พระพุทธองค์ทรงพบพราหมณ์ปัญจวัคคีย์ก่อนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ค่าธรรมเนียม กล้องถ่ายรูปธรรมดา ไม่เสีย
กล้องวีดีโอ 25 รูปี
กราบสักการะธรรมเมกขสถูป สถานที่แสดงปฐมเทศนา พุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญ อีกหนึ่งแห่ง สถานที่ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงโปรดแสดงพระธรรมเทศนา บทสำคัญ มีชื่อว่า “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ผลแห่งการแสดงพระธรรมเทศนาครั้งแรกทำให้ท่านพระโกญฑัญญะผู้เป็นหัวหน้าของปัญจวัคคีย์ได้ดวงตาเห็นธรรมคือ บรรลุธรรม และขออุปสมบทเป็นพระสงฆ์องค์แรกในพระพุทธศาสนา ทำให้พระรัตนตรัยครบบริบูรณ์ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และต่อมาอีกประมาณ 300 ปีเมื่อพระเจ้าอโศกมหาราชได้หันมานับถือพระพุทธศาสนา ได้เสด็จมานมัสการสถานที่นี้ พระองค์ได้ทรงสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ไว้มากมายเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระพุทธเจ้า ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ตำบลสารนาถ นำท่านชมพระมูลคันธกุฏิของพระพุทธเจ้า เสาศิลาจารึกษรพราหมณีของพระเจ้าอโศก กลุ่มอิฐกุฏิ กว่า 100 หลัง ที่ขุดค้นและบูรณะโดยรอบป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
นำคณะผู้จาริกบุญ สวดมนต์บทธัมมะจักกัปปะวัตตะนะสูตร

นำท่านชมพิพิธภัณฑ์สารนาถ สร้างขึ้นโดยรัฐบาลอินเดีย เพื่อเป็นที่รวบรวม พระพุทธรูป วัตถุโบราณที่ขุดได้บริเวณสารนาถทั้งหมดเมื่อ ค.ศ. 1904 โบราณวัตถุที่ขุดได้ จะเป็นศิลปะหลายๆยุค เริ่มจากยุคเมารยัน กุสาณะ คุปตะ และ อื่นๆอีกมากในพิพิธภัณฑ์สารนาถ มีดังนี้คือ ยอดเสาอโศก
ไฮไลท์ ของพิพิธภัณ์นี้คือ พระพุทธรูปปางปฐมเทศนา ที่งดงามที่สุด และได้การันตีจากการประกวดชนะพระพุทธรูปทั่วโลก เชิญท่านทัศนา อธิษฐานตามอัธยาศัย
กลางวัน กลับโรงแรมที่พัก รับประทานอาหาร เที่ยง
เช็คเอ้าท์สัมภาระ เพื่อเดินทางกลับไปยังเมืองพุทธคยา นั่งรถประมาณ 4-5 ชม.
ถึงเมืองพุทธคยา หากมีเวลานำท่านช้อปปิ้งสินค้า ราคาย่อมเยาตลาดพื้นเมือง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 10) และพักผ่อนตามอัธยาศัย
ที่พัก ถึงเมืองพุทธคยานำเข้าที่พัก โรงแรม DHAMMA HOTEL / ANAND HOTEL / MAHABODHI HOTEL หรือระดับเทียบเท่า
วันที่ห้า กราบลาแผ่นดินองค์พระสัมมาฯ
บ้านนางสุชาดา – แม่น้ำเนรัญชรา เมืองพุทธคยา – กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ
เช้า รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร (มื้อที่ 11)
เก็บกระเป๋าสัมภาระเตรียมพร้อมเพื่อเชคเอ้าท์
นำท่านออกชมบริเวณที่สันนิษฐานว่าเคยเป็นบ้านนางสุชาดา อุบาสิกาอุปถัมภกคนสำคัญของพระศาสนา บุตรสาวของคฤหบดีเศรษฐีแห่งตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ผู้ถวายข้าวมธุปายาสอันประณีต แด่พระบรมศาสดาก่อน การตรัสรู้ ถือเป็นภัตตาหารอันประณีตและยังความหมายต่อชาวพุทธถึงปัจจุบัน
ชมริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ที่พระบรมศาสดาทรงอธิษฐานลอยถาดทองคำที่นางสุชาดาถวายพร้อมข้าวมธุปายาส ที่ท่าสุปปติฏฐะ จากท่าน้ำนี้ท่านสามารถเห็นเจดีย์มหาโพธิ์
จากนั้นเดินทางไปยังบริเวณ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และองค์พระมหาเจดีย์พุทธคยาอันเป็นอิสระให้ท่านผู้จาริกบุญอธิษฐานจิต นั่งสมาธิ และกราบลา เป็นการส่วนตัว
เรียบร้อยแล้วนัดหมายเวลา ออกเดินทางไปสนามบิน
11.00 น. ถึงสนามบินพุทธคยา เช็คสัมภาระเคาเตอร์สายการบินไทย
13.40 น. ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย TG 328 บริการอาหารกลางวัน
18.15 น.** ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยความอิ่มเอมในบุญ
**เวลาท้องถิ่นประเทศไทย

ทัวร์อินเดีย