17265372241

ทัวร์อินเดีย ปล่อยใจล่องลอย ดื่มด่ำสีสันมนต์เสน่ห์อินเดีย เดลี อัครา ชัยปุระ จอดห์ปูร์ บิคาเนอร์ 6 วัน 4 คืน (TG)

ราคาเริ่มต้น 33,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: tg

เยือนสถานที่ประกาศอานุภาพรัก TAJ MAHAL สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ป้อมปราการเมืองอัครา AGRA FORT ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา
ท่องนครสีชมพูแห่งราชสถาน PINK CITY ขึ้น “ AMBER FORT ” ในเมืองชัยปุระ
ชม HAWAMAHAL ห้องแห่งมเหสีงามของเหล่ากษัตริย์ใน CITY PALACE
ชมวิวเมืองสีน้ำเงิน BLUE CITY จากป้อมปราการที่สวยที่สุดในรัฐราชสถาน
ขี่อูฐชมแสงสีทองกลางทะเลทรายธาร์ เมืองบิคาเนอร์ GOLDEN CITY

วันที่เดินทาง

พฤศจิกายน 67 – ธันวาคม 67

ทัวร์อินเดีย 

วันแรก
กรุงเทพมหานคร – กรุงนิวเดลลี – วิหารอักชาร์ดัม (Akshardham) – เมืองอัครา
05:00 น. คณะเดินทางพบกัน ณ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ชั้นผู้โดยสารขาออก เพื่อทำการเช็คอินและรับบัตรโดยสาร โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัท…ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
07.00 น. คณะเดินทางออกจากกรุงเทพมหานคร สู่กรุงนิวเดลลี โดยสายการบิน THAI AIRWAYS (TG) เที่ยวบินที่ TG 323
09.55 น. คณะถึงสนามบินนานาชาติ INDHIRA GANDHI INTERNATIONAL AIRPORT กรุงนิวเดลลี… หลังจากเสร็จพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และตรวจสัมภาระของท่านจนครบถ้วนแล้ว… นำท่านเดินทางออกจากสนามบินเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองกรุงนิวเดลลี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหาร ในเดลี
บ่าย นำท่านสู่วิหารอักชาร์ดัม (Akshardham) หรือที่รู้จักกันในชื่อ สวามีนารายันอักชาร์ดัม (Swaminarayan Akshardham) ในภาษาไทยบ้างก็เรียกว่า อักษราธรรม ได้ชื่อว่าเป็นวัดในศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลก รับรองโดยกินเนสส์บุ๊คเมื่อปี ค.ศ. 2007 แม้จะเป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ แต่ก็สร้างขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการตามรูปแบบโบราณของอินเดีย โดยใช้เทคโนโลยีแบบดั้งเดิมที่ใช้หินทรายในการก่อสร้าง ไม่ใช้โครงสร้างโลหะแต่อย่างใดเมื่อปีคริสต์ศักราช 2007 หมู่เทวสถานอัคชาร์ธรรมได้รับการบันทึกใน GUINNESS WORLD RECORD ว่าเป็นวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุด หรือ “THE WORLD’S LARGEST COMPREHENSIVE HINDU TEMPLE”
(การเข้าชมวัดนั้นค่อนข้างจะเข้มงวด เพราะสิ่งของจำพวก กล้องถ่ายรูป อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กระดาษ ปากกา และอื่นๆ ถูกห้ามนำเข้าไปในบริเวณวัด) แนะนำ พกเพียงเงินสดเข้าไป
จากนั้น นำคณะเดินทางสู่ เมืองอัครา (AGRA) นั่งรถประมาณ 4-5 ชั่วโมง เมืองอัคราสร้างในศตวรรษที่ 16 เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศอินเดียรุ่งเรืองในสมัยราชมุฆัลหรือโมกุล ตั้งอยู่ริมฝั่งของแม่น้ำยมุนานับเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่สุดเป็นอันดับสามของรัฐอุตรประเทศ เมืองแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังจากสถาปัตยกรรมที่เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ “ทัชมาฮาล” ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ค่ำ นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักเมืองอัครา ณ โรงแรม Golden Tulip Hotel หรือเทียบเท่า
จากนั้นเชิญท่าน รับประทานอาหารค่ำห้องอาหารในโรงแรม
วันที่สอง เมืองอัครา ทัชมาฮาล – อัคราฟอร์ท – เตฟาปูสิกีร์ – บ่อน้ำขั้นบันได –
ชัยปุระ PINK CITY
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรมที่พัก
หลังอาหาร นำท่านเดินทางชมความงดงามของสถาปัตยกรรม 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ทัชมาฮาล (Taj Mahal) อนุสรณ์สถานแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่และนิจนิรันดร์ของกษัตริย์ซาจาร์ฮาลมีต่อพระมเหสี มุมตัส มาฮาล ซึ่งสวรรคตเนื่องจากการให้กำเนิดบุตรคนที่ 14 สถานที่แห่งนี้ใช้สำหรับเป็นที่ฝังพระศพของพระนางมุมตัสและกษัตริย์ซาจาร์ฮาล ตั้งอยู่บริเวณริมน้ำยมุนา สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวและหินทรายสี ทัชมาฮาล ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อปีพุทธศักราชที่ 2526 หรือปีคริสต์ศักราช 1983
จากนั้น นำท่านเที่ยวชม ป้อมอัครา (Agra Fort) เป็นป้อมปราการที่สร้างด้วยหินทรายสีแดง ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา พระเจ้าอัคบาร์สร้างขึ้นในปี คริสต์ศักราช 1565 และสร้างต่อเติมกันเรื่อยมาจนถึงรุ่นหลานคือ พระเจ้าซาจาร์ฮาล กษัตริย์ลำดับที่ 5 แห่งราชวงศ์โมกุล ซี่งปรับเปลี่ยนจากป้อมปราการทางทหาร มาเป็นพระราชวัง มีกำแพงสูงกว่า 20 เมตร และมีความยาว 2.5 กิโลเมตร สถานที่ที่กษัตริย์ซาจาร์ฮาลถูกขังโดยพระโอรสของพระองค์เอง ผู้มีพระนามว่า “ออรังเซบ” และใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต มองผ่านแม่น้ำยมุนาไปยังทัชมาฮาลที่ซึ่งมเหสีสุดที่รักของพระองค์ประทับอยู่อย่างนิรันดร์
กลางวัน กลับรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม จากนั้นเชคเอ้าท์ สัมภาระ
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เมืองชัยปุระ หรือจัยปูร์ (JAIPUR) นครสีชมพู ใช้เวลานั่งรถ 5 ชั่วโมง
ระหว่างทางนำท่านแวะชม เตฟาปูสิกีร์ (Fatehpur Sikri) อดีตราชวังอันรุ่งเรือง ตอนนี้เป็นเมืองร้าง ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1569 โดยจักรพรรดิอัคบาร์ (Emperor Akbar) เพื่อใช้เป็นเมืองหลวงใหม่แทนเมืองอัครา(Agra) ด้วยคำแนะนำของนักบุญที่พระองค์นับถือชื่อ “ซาลิม คิชติ” (Salim Chishti) ใช้เวลาออกแบบและสร้างนาน 15 ปี แต่ก็ถูกทิ้งร้างในปี ค.ศ. 1585 หลังสร้างเสร็จเพียงไม่นาน เนื่องจากขาดแคลนแหล่งน้ำ และที่ตั้งของเมืองอยู่ใกล้กับเขตของอาณาจักรราชปุตนะทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งได้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบบ่อยครั้ง จักรพรรดิอักบาร์ จึงมีพระราชดำริให้ย้ายเมืองหลวงไปยังลาฮอร์แทน
จากนั้น นำท่านชมบ่อน้ำขั้นบันได ชาน เบารี (Chand Baori, Rajasthan) ตั้งอยู่ที่เมืองเล็กๆชื่อ อาบาเนรี่ “Abhaneri” เป็นหนึ่งใน stepwell โบราณในอินเดียมัน ถูกสร้างขึ้นโดย King Chand ในศตวรรษที่ 8-9 ที่ตั้งอยู่ 94 กิโลเมตรจากเมืองชัยปุระ ที่นี่มีมีความลึกประมาณตึก10ชั้นหรือ33เมตร บันไดถึง 3,500 ขั้น ถือเป็นบ่อน้ำขั้นบันไดที่ลึกที่สุดในอินเดีย
เดินทางต่อไปยังเมืองชัยปุระ เมืองสีชมพูสีแห่งความรัก เมืองหลวงแห่งแคว้นราชาสถาน แคว้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศอินเดีย เมืองแห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี คริสต์ศักราช 1727 โดยมหาราชาไสวจัย ซิงห์ ที่ 2 ผู้สืบเชื้อสายแห่งราชวงศ์โมกุล โดยมีวัตถุประสงค์ของการสร้างเมืองชัยปุระเพื่อเป็นการแทนที่ พระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท (AMBER FORT) อันมีสาเหตุมาจากจำนวนประชากรที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น และเกิดสภาวะขาดแคลนแหล่งน้ำ
เมื่อถึง เมืองชัยปุระ นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรม Seven Apple Hotel หรือเทียบเท่า
บริการอาหารมื้อค่ำที่ห้องอาหารของโรงแรม

วันที่สาม เมืองชัยปุระ – พระราชวังสายลม (ฮาวามาฮาล) – ซิตี้พาเลช –
แอมเบอร์ ฟอร์ท – จ๊อดปูร์ BLUE CITY
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรมที่พัก
หลังอาหาร นำท่านเที่ยวชม พระราชวังสีอำพัน (Amber Fort) ซึ่งอดีตเคยเป็นราชธานีแห่งเมืองชัยปุระ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาสูงเหนือทะเลสาบเมาตา (MAOTA LAKE) และรายล้อมไปด้วยชุมชนของเขตเมืองเก่า เดิมทีสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของป้อมปราการเก่า ในยุคศตวรรษที่ 11 โดยพระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี คริสต์ศักราช 1592 โดย มหาราชาแมน ซิงห์ แล้วเสร็จในรัชกาลของมหาราชาใจ ซิงห์ ป้อมปราการแห่งนี้ยังถือได้ว่าเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมราชปุต (RAJPUT)
ทัวร์บริการ นั่งรถจี๊ปตอนขึ้น-ลงเขา สู่พระราชวังสีอำพัน AMBER FORT หากลูกค้าท่านใดต้องการขี่ช้าง (ไม่รวมในค่าทัวร์) โปรดแจ้งหัวหน้าทัวร์ และชำระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เพื่อทำการจองล่วงหน้า
จากนั้น นำท่านผ่านชม พระราชวังชาลมาฮาล (JAL MAHAL) หรือพระราชวังลอยน้ำ ซึ่งถูกสร้างโดยพระราชดำริของมหาราชา โดยพระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทะเลสาบมานซาโลวาร์ (MAAN SAROVAR LAKE) เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ที่มีฉากหลังเป็นแนวเขาอราวัลลี่ (ARAVALLI HILL) เป็นแนวป้องกันทางธรรมชาติที่มีศาสนฮินดูสถานและป้อมปราการเรียงรายอยู่ตามแนวเขา
จากนั้น นำท่านเที่ยวชม ฮาวามาฮาล (HAWA MAHAL) หรือ พระราชวังสายลม สร้างในปีคริสต์ศักราชที่ 1799 จุดเด่นของสถาปัตยกรรมแห่งนี้คือบริเวณด้านหน้าอาคารมีหน้าบันสูง 5 ชั้น และมีลักษณะคล้ายรังผึ้ง อันประกอบไปด้วยหน้าต่างขนาดเล็ก ที่ตกแต่งด้วยลวดลายฉลุเป็นช่องลมจำนวน 953 บาน ซึ่งได้มีการถอดแบบมาจากรูปทรงของมงกุฎพระนารายณ์และหน้าต่างแต่ละบานนั้นมีไว้สำหรับให้บรรดาเหล่าสตรีนางในที่มาชมบรรยากาศภายนอกวัง หรือชมขบวนพิธีต่างๆ รวมไปถึงการเฝ้าส่งกษัตริย์ยามมีสงครามและต้องจัดทัพออกศึก
หลังจากนั้น นำท่านเที่ยวชม พระราชวังซิตี้พาเลซ (CITY PALACE) ถูกสร้างขึ้นในรัชกาลของมหาราชาจัย ซิงห์ และถูกต่อเติมเรื่อยมา เป็นสถาปัตยกรรมแบบราชาสถาน ที่มีกลิ่นอายศิลปะแบบโมกุล พระราชวังแห่งนี้ถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ของเมืองชัยปุระ ที่แสดงเครื่องใช้ส่วนพระองค์ของมหาราชาแห่งเมืองชัยปุระ ในปัจจุบัน ถึงแม้จะไม่มีมหาราชาแล้ว แต่พระราชวังแห่งนี้ยังถือว่าเป็นสมบัติส่วนพระองค์ และชาวเมืองชัยปุระบางส่วนก็ยังเคารพนับถือพระองค์ แม้พระองค์จะไม่มีอำนาจหลงเหลือแล้วก็ตาม

กลางวัน กลับโรงแรมที่พักรับประทานอาหารกลางวัน จากนั้น เช็คเอ้าท์ สัมภาระ
หลังอาหาร นำท่านเที่ยวชม หอคอยแห่งชัยชนะอิซาร์ลัต (ISAR LAT) หรือ หอคอยสวาร์กาซูรี (SWARGASULI) เป็นหอคอยที่สร้างโดยดำริของไสว อิชวารี ซิงห์ เมื่อปีคริสต์ศักราชที่ 1749 เพื่อเป็นการระลึกถึงชัยชนะที่มีต่อกองทัพพันธมิตรของมาโธ ซิงห์ ศัตรูของเขาที่ได้รับความช่วยเหลือจากอาณาจักรเมวา และอาณาจักรมาราธา
หอคอยแห่งชัยชนะอิซาร์ลัตได้รับอิทธิพลและแนวคิดมาจากหอคอยแห่งชัยชนะกุตุบมินาร์ ใน กรุงนิวเดลลี (หอคอยที่ประกาศถึงชัยชนะของมุสลิมที่สามารถยึดครองเดลลีได้) ซึ่งหอคอยแห่งชัยชนะอิซาร์ลัตนั้นมีความสูง 7 ชั้น
บ่าย ออกเดินทางสู่เมือง จอดห์ปูร์ ใช้เวลานั่งรถ 6 ช.ม.
เย็น เดินทางเข้าที่พักโรงแรม Zone The Park หรือเทียบเท่า
บริการอาหารมื้อค่ำที่ห้องอาหารของโรงแรม

วันที่สี่ จอดห์ปูร์ อนุสรณ์สถานจาสวันธาดา – ป้อมเมห์รานการห์ – นั่งรถตุ๊กตุ๊กอินเดียชมเมือง – บิคาเนอร์ GOLDEN CITY
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรมที่พัก
เมืองจ๊อดปูร์ หรือ โยธะปุระ (JODHPUR) เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในแคว้นราชาสถาน ถูกขนานนามว่า มหานครสีฟ้า และนครแห่งนักรบ ซึ่งการที่บ้านเรือนมีสีฟ้าอันมีสาเหตุเนื่องมาจากมีความเชื่อว่า สีฟ้าจะช่วยกันแมลงและทำให้บ้านเย็น
หลังอาหาร นำท่านเที่ยวชม ป้อมปราการเมห์รัน กราห์ (MEHRANGARH FORT) ถือได้ว่าเป็น 1 ใน 4 ของพระราชวังแบบป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย ที่กินเนื้อที่อาณาบริเวณภูเขา 125 ลูก ภายในมีพระราชวังที่สวยงามและเป็นจุดชมวิวมหานครสีฟ้าที่งดงาม มหาปราการหินแห่งนี้ถูกสร้างบนเนินเขาสูง 122 เมตร ในปีค.ศ.1459 เมื่อฤาษีตนหนึ่งบอกแก่มหาราชาโยธะ (MAHARAJA JODHA) ควรสร้างเมืองขึ้น โยธะปุระจึงเป็นศูนย์กลางอาณาจักรตั้งแต่สมัยนั้นมา ป้อมปราการถูกเสริมเติมแต่งจนมีขนาดใหญ่มหึมา ภายในป้อมปราการแห่งนี้ ถูกตกแต่งประดับประดาด้วยแก้วหลากสี และแบ่งเป็นท้องพระโรงขนาดใหญ่หลายแห่ง อาทิเช่น พระตำหนักโมติมาฮาล (MOTI MAHAL) พระตำหนักไข่มุก และพระตำหนักพูลมาฮาล (PHOOL MAHAL) พระตำหนักแห่งมวลดอกไม้ พร้อมนำท่านชม เทวาลัยพระแม่จามุนด้า (CHAMUNDA MATA TEMPLE) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของป้อมปราการเมห์รันกราห์ โดยพระแม่จามุนด้า นั้นถือได้ว่าเป็นอวตารของพระแม่อธิศักติ ซึ่งเป็นพระชายาของพระศิวะ โดยความสำคัญของพระแม่จามุนด้านั้น ถูกยกย่องให้เป็นเทวีประจำราชตระกูลแห่งโยธะปุระ
จากนั้น นำท่านขึ้นรถตุ๊กตุ๊กอินเดียชมบรรยากาศ ตลาดซาร์ดาร์ อิสระให้ท่านเที่ยวชมและเลือกซื้นสินค้าพื้นเมือง ซึ่งเป็นย่านการค้าเก่าแก่ของเมือง
เที่ยง กลับโรงแรมที่พัก รับประทานอาหารเที่ยง จากนั้นเชคเอ้าท์สัมภาระ
นัดหมายเวลาขึ้นรถนั่งรถต่อไปเมืองบิคาเนอร์ ใช้เวลานั่งรถประมาณ 4 ชั่วโมง
ที่พัก เข้าพักโรงแรม Vesta Bikaner หรือเทียบเท่า เชิญท่านรับประทานอาหารมื้อค่ำ

วันที่ห้า
บิคาเนอร์ ป้อมจูนนาการ์, ขี่อูฐทะเลทรายธาร์ – เดลี
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรมที่พัก
เมืองบิคาเนอร์ (BIKANER) เมืองแห่งป้อมปราการหินทราย ซึ่งชื่อเมือง บิคาเนอร์นี้ถูกตั้งขึ้นตามผู้ก่อตั้ง คือ เลา บิคา ในปีคริสต์ศักราชที่1488 (พ.ศ.2031) ซึ่งเดิมดินแดนแห่งนี้ถูกเรียกว่าเป็นดินแดนแห่งความตาย เนื่องจากไม่มีผู้คนอาศัยอยู่และถูกใช้เป็นแหล่งซ่องสุมโจรที่มาดักปล้นคาราวานพ่อค้าตามเส้นทางการค้าระหว่างแอฟริกาและเอเชียตะวันตก จุดเด่นของเมืองบิคาเนอร์นั้น คือ ระลอกทรายสีทองอันสวยงามและแสงแดดอันสลับสอดแสง เมืองตั้งอยู่บนเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยกำแพงยาว 7 กิโลเมตรที่มีประตูทางเข้าถึง 5 เส้นทาง
ช่วงเช้า นำท่านเดินทางไปทะเลทรายธาร์ (Thar Desert) ไปขี่อูฐกัน!! (รวมในค่าทัวร์) สำหรับท่านที่ไม่ต้องการขี่อูฐ สามารถนั่งพักรอในคาเฟ่สไตล์อินเดียได้ (คืนเงินให้ 800 รูปี) เมืองนี้ให้ความสำคัญกับอูฐมาก ในช่วงวันที่ 13-15 มกราคมของทุกปี จะมีเทศกาล Bikaner Camel Festival ในรัฐราชสถานจัดขึ้นเพื่ออุทิศให้กับสัตว์ที่ฟื้นคืนสภาพได้ซึ่งอยู่รอดได้ในสภาพทะเลทรายที่รุนแรง ในสมัยก่อนเมื่อไม่มีรถยนต์ ผู้คนในราชสถานใช้อูฐเป็นแหล่งคมนาคมและทำมาหากิน พิฆเนร์ เป็นพื้นที่เพาะพันธุ์อูฐเพียงแห่งเดียวของอินเดียในยุคก่อน ซึ่งเป็นทะเลทรายใหญ่ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย ทะเลทรายที่บิคาเนอร์ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ
กลางวัน กลับโรงแรมรับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นเช็คเอ้าท์ สัมภาระ
หลังอาหาร นำท่านชม ป้อมจุนนากราห์ (JUNAGARH FORT) ป้อมสีแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง
บิคาเนอร์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1589 โดย มหาราชา ไร สิงห์ และแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1594 ภายในป้อมประกอบไปด้วย พระราชวัง วิหาร และศาลาที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรดงาม ผสานกลมกลืนด้วยสถาปัตยกรรมผสมแบบราชปุตแห่งราชาสถานยุคแรกจนถึงยุคสุดท้าย หล่อรวมกับสถาปัตยกรรมแบบโมกุล และอีกบางส่วนที่ได้รับอิทธิพลภายใต้ยุคอาณานิคมของอังกฤษ
สถานที่สำคัญภายใน ป้อมปราการ JUNAGARH เช่น
รอยฝ่ามือจารึกใกล้ประตูสุริยา (SUN GATE) บ่งบอกถึงผู้หญิงผู้สมัครใจทำพิธี “สตี” (SATI) ปลิดชีพตัวเองตายตามสามีผู้จากไปในสงครามป้องกันเมือง
บังลังค์ไม้จันทน์อายุเกือบหนึ่งพันปี เป็นเฟอร์นิเจอร์เก่าแก่ที่สุดของอินเดีย
ตำหนักเมฆา (BADAL MAHAI) ภายในตกแต่งด้วยภาพวาดเมฆและท้องฟ้า
ตำหนักดอกไม้ (LALMAHAI) ภายในถูกประดับด้วยภาพวาดดอกไม้นานาพันธุ์
ตำหนักจันทรา (CHANDRA MAHAI)
ตำหนักวายุ (HAWA MAHAI)
ท้องพระโรง ดิวันอิอัม (DIWAN-I-AAM) HALL OF PUBLIC AUDIENCE สถานที่ออกขุนนางชั้นนอก
บ่าย ออกเดินทางกลับนครเดลี ระหว่างทางนำท่านเข้าชม ป้อมปราการแห่งมันฑวา (MANDAWA FORT) เป็นป้อมปราการที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราชที่ 2298 (ค.ศ.1755) โดยฐากูรนาวัลซิงห (THAKUR NAWAL SINGH BAHADUR) บุตรแห่งฐากูรชาร์ดูร์ ซิงห์ (SON OF SHARDUL SINGH) และเป็นผู้ปกครองอาณาจักรนาวัลกราห์และอาณาจักรมันฑวา ป้อมปราการแห่งมันฑวา มีเอกลักษณ์เฉพาะที่เป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากป้อมปราการอื่นๆในรัฐราชสถาน คือ งานจิตรกรรมตามส่วนต่างของอาคารสิ่งปลูกสร้างยังคงความวิจิตรตระการตา ไม่ว่าจะเป็นส่วนโค้งประตู และจิตรกรรมเรื่องราวของพระกฤษณะตามอาคารต่างๆ รวมไปถึงการตกแต่งห้องต่างๆในพระราชวัง แบ่งเป็นห้องเหล่าขุนนาง (HAVELIS OF MANDAWA) โดยตำหนักที่สำคัญประกอบไปด้วย ตำหนักแห่งหนุมานปราสาทโกเอ็นก้า (HANUMAN PRASAD GOENKA HAVELI) ตำหนักจุนจูนวาลา (JHUNJHUNWALA HAVELI) ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงสถาปัตยกรรมแบบราชปุต ที่อวดประชันกันในแต่ละตำหนัก โดยจุดเด่นจะอยู่ที่งานจิตรกรรม
ปัจจุบัน ป้อมปราการแห่งมันดาว่า ถูกดัดแปลงเป็น LUXURY HERITAGE HOTEL & PALACE โดยใช้ชื่อว่า CASTLE MANDAWA แทน โดยถือว่าเป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุดในเมือง
มื้อค่ำ เดินทางต่อไปยังเมืองเดลี นำท่านรับประทานอาหารเย็น
เดินทางไปสนามบิน เมืองเดลี เชคอินสัมภาระเคาเตอร์สายการบินไทย
วันที่หก
สนามบินเมืองเดลี – สนามบินสุรรณภูมิ ประเทศไทย
00.20 น. คณะเดินทางออกจากสนามบินนานาชาติกรุงนิวเดลลี สู่กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน THAI AIRWAYS (TG) เที่ยวบินที่ TG 316
05.45 น. คณะเดินทางกลับถึงกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ
ทัวร์อินเดีย