S__26591370

ทัวร์อินเดีย COLORFUL RAJASTHAN 7 DAYS (FD)

ราคาเริ่มต้น 49,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: AirAsia

ออกเดินทางสู่ เมืองบิคาเนอร์ (Bikaner) เดินทางประมาณ 5-6 ช.ม หนึ่งในเส้นทางสายไหม สมัยอดีตยังไม่มีเมืองบิคาเนอร์ บริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Mawar Land of the Dead พ่อค้าตามเส้นทางสายไหม ยังต้องใช้ผ่านไปมา จึงมีโจรหลายก๊ก ยึดครองพื้นที่หย่อมเล็กหย่อม และยังไม่มีใครครอบครองดินแดนแห่งนี้ เจ้าชาย Rao Bika แห่งแคว้นโยธปุระ (จ๊อดปูร์) เกิดความน้อยใจในคำพูดพระบิดา จึงตัดสินใจมุ่งหน้าเดินทางก่อนลงหลักปักฐานต่อสู้กับพวกโจร นำความร่มเย็นเข้ามาสู่ดินแดนแห่งความตาย จนชาวบ้านท้องถิ่นเข้าร่วมในการต่อสู้กับพวกโจร จนในที่สุดเมืองบิคาเนอร์จึงได้ถูกจัดตั้งเป็นบิคาเนอร์มาจนปัจจุบัน

วันที่เดินทาง

13 ต.ค. 67 – 19 ต.ค. 67, 17 พ.ย. 67 – 23 พ.ย. 67

ทัวร์อินเดีย 

วันที่ 1 / กรุงเทพฯ – ชัยปุระ – – –
16.00 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง เคาน์เตอร์สายการบินแอร์เอเชีย โดยเจ้าหน้าที่ บริษัทฯคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้กับทุกท่าน
19.20 น. ✈เหินฟ้าสู่ เมืองชัยปุระ (Jaipur) ประเทศอินเดีย โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD130
(เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง)
22.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานเมืองชัยปุระตามเวลาท้องถิ่น ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองหลังจาก รับสัมภาระส่วนตัวของท่าน นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พักตัวเมืองชัยปุระเมืองหลวงแห่งรัฐราชาสถาน
เข้าพักโรงแรม RAMADA PLAZA ระดับ 4 ดาว ณ เมืองชัยปุระ หรือเทียบเท่า

วันที่ 2 / ชัยปุระ เมืองหลวงแห่งรัฐราชาสถาน B L D
เช้า ä รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านชม เมืองชัยปุระ หรือ เมืองหลวงแห่งรัฐราชาสถาน หรือเรียกว่าเมืองสีชมพู (Pink City) เมืองชัยปุระในชื่อ “นครสีชมพู” นั่นเพราะใน ค.ศ.1876 เมื่ออินเดียยังอยู่ภายใต้การปกครองของ
อังกฤษ มหาราชาราม ซิงห์ ผู้ปกครองเมืองได้สั่งให้ทาสีตึกรามบ้านช่องในเมืองให้เป็นสีชมพูทั้งหมด เพื่อรับเสด็จเจ้าชายแห่งเวลส์ที่จะมาเยือนและต่อมารัฐบาลอินเดียก็ได้ออกกฎหมายควบคุมสิ่งก่อสร้าง
ภายในเขตกำแพงเมืองเก่าให้คงสภาพเดิม รวมถึงรักษาสีชมพูแบบเดิมไว้ จนชัยปุระได้กลายเป็น
“Pink City” สีชมพูอมส้มน่าหลงใหลที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่าง ก็อยากเดินทางมาเยือน
ถ่ายรูป (ด้านนอก) พระราชวังแห่งสายลม (Hawa Mahal) หรือ Palace of the wind หนึ่งในหลายพระราชวังที่อยู่ในกำแพงเมืองของนครสีชมพูแห่งนี้ พระราชวังสายลมเคยเป็นฮาเร็ม ของมหาราชา มีลักษณะเป็นอาคาร 5 ชั้น สร้างด้วยหินทรายออกแดง รูปแบบของสถาปัตยกรรม สไตล์เปอร์เซียกับโมกุล ลวดลายฉลุหินตามหน้าต่าง เป็นช่องแสงและช่องลมมีช่องหน้าต่าง 152 ช่อง
นำท่านชม พระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท (Amber fort) นั่งรถจี๊บขึ้นไปชม “พระราชวังแอมเบอร์” พระราชวังในป้อมปราการบนเนินเขา อีกรากฐานทางประวัติศาสตร์ของเมืองชัยปุระ ที่โดดเด่นอยู่บน เนินเขาเหนือทะเลสาบเมาตา (Maota) ความอลังการของพระราชวังแห่งนี้ เริ่มตั้งแต่กำแพงเมือง ที่ล้อมรอบถึง 4 ชั้น ราวกับกำแพงเมืองจีน ทั้งใหญ่และแน่นหนา มีความยาวกว่า 13 กิโลเมตร เป็นสถาปัตยกรรมต้นแบบที่ผสมผสานศิลปะฮินดูและศิลปะราชปุตอย่างลงตัว สร้างโดยมหาราชา มาน สิงห์ที่ 1 ซึ่งใช้เป็นที่ประทับของราชปุตมหาราชาและพระราชวงศ์ ภายในพระราชวัง เต็มไปด้วย ความงดงามของสถาปัตยกรรมมองวิวเมืองชัยปุระ

นำชม บ่อน้ำขั้นบันไดบริเวณพระราชวัง (Stepwell) บ่อน้ำขั้นบันไดแห่งราชาสถาน
บ่อน้ำ Panna Meena Ka Kund บ่อน้ำขั้นบันไดที่มีความงาม สร้างขึ้นราวคริสต์ศตวรรษที่ 16 ในสมัยของมหาราชาใจสิงห์ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำที่หล่อเลี้ยงพระราชวังแอมเบอร์ในอดีต
แวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ณ จาลมาฮาล (Jal Mahal) หรือพระราชวังน้ำ (Water Palace) ซึ่งตั้งเด่นสง่าอยู่กลางทะเลสาบมันสกา (Man Sagar) โดยพระราชวังแห่งนี้ถูกต่อเติมและปรับปรุง โดยมหาราชาสะหวายจัยสิงห์ที่ตัวพระราชวังนั้นสร้างได้อย่างสวยงามตามสถาปัตยกรรมราชปุตและ
โมกุลซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปในสิ่งก่อสร้างในรัฐราชสถาน
กลางวัน ä รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย นำท่านชม พระราชวังหลวงหรือพระราชวังซิตี้พาเลซ (City Palace) “มหานครสีชมพู” หรือ City Palace พระราชวังฤดูหนาว หรือเรียกอีกอย่างว่า พระราชวังหลวง สร้างด้วยหินแกรนิต และหินอ่อน สร้างขึ้นในสมัยมหาราชาไสวจัยซิงห์ที่ 2 และก็ได้รับการดูแลต่อเติมโดยมหาราชาของชัยปุระรุ่นต่อๆมา โดยสถาปัตยกรรมได้รับการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบราชปุตกับโมกุลในปีค.ศ.1797 มีชื่อเสียงเรื่องงานจิตรกรรมฝาผนัง มีสวนและพระตำหนักมากมาย ภายในพระราชวังซิตี้ พาเลซ ประกอบไปด้วย 4 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนพระราชวัง, พิพิธภัณฑ์ สวัย มาน ซิงห์ ที่รวบรวมสมบัติของพระราชวงศ์, ส่วนแสดงชุดศึกสงคราม, งานศิลปะ ภาพวาด และรูปถ่าย
พิเศษ!! เข้าชม Private Zone เป็นห้องสีฟ้าที่ชื่อว่า “บลูพาเลซ”และ “โชภานิวาส” (หอแห่งความงาม) ศิลปะทองคำบนชั้น 4 ของจันทรามาฮาล อยู่ด้านบนสุดของพระราชวังและมองเห็นวิวเมืองชัยปุระแบบ 360 องศา
ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำพร้อมชมวิว
 เข้าพักโรงแรม RAMADA PLAZA ระดับ 4 ดาว ณ เมืองชัยปุระ หรือเทียบเท่า

วันที่ 3 / ชัยปุระ – บิคาเนอร์ B L D
06.30 น. ä รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม – เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม
07.30 น. ออกเดินทางสู่ เมืองบิคาเนอร์ (Bikaner) เดินทางประมาณ 5-6 ช.ม หนึ่งในเส้นทางสายไหม สมัยอดีตยังไม่มีเมืองบิคาเนอร์ บริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Mawar Land of the Dead พ่อค้าตามเส้นทางสายไหม ยังต้องใช้ผ่านไปมา จึงมีโจรหลายก๊ก ยึดครองพื้นที่หย่อมเล็กหย่อม และยังไม่มีใครครอบครองดินแดนแห่งนี้ เจ้าชาย Rao Bika แห่งแคว้นโยธปุระ (จ๊อดปูร์) เกิดความน้อยใจในคำพูดพระบิดา จึงตัดสินใจมุ่งหน้าเดินทางก่อนลงหลักปักฐานต่อสู้กับพวกโจร นำความร่มเย็นเข้ามาสู่ดินแดนแห่งความตาย จนชาวบ้านท้องถิ่นเข้าร่วมในการต่อสู้กับพวกโจร จนในที่สุดเมืองบิคาเนอร์จึงได้ถูกจัดตั้งเป็นบิคาเนอร์มาจนปัจจุบัน
กลางวัน ä รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย นำท่านชม ป้อมสีแดงแห่งเมืองบิคาเนอร์ (Junagarh Fort) หรือ จูนนาการ์ วังมหาราชาที่อยู่ในสภาพดีสุดแห่งหนึ่งในราชาสถาน สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1588 ถูกสร้างขึ้นโดยราชปุต Rao Bika ด้วยการต่อสู้กับชนพื้นเมือง จนสามารถตั้งถิ่นฐานแม้ผ่านการรุกรานจากมหาโมกุลหลายครั้งแต่ทะเลทรายที่อยู่รอบด้านรวมทั้งความกล้าหาญของนักรบ ช่วยให้เมืองอยู่รอดเสมอมา ภายในป้อมใหญ่แบ่งเป็นหลายส่วน เช่น Chandra Mahal, Phool Mahal, Karan Mahal และ Anoop Mahal
ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมพระราชวังเยี่ยงมหารานี
เข้าพักโรงแรมวัง The Laxmi Niwas Palace ระดับ 4 ดาว ณ เมืองบิคาเนอร์ หรือเทียบเท่า

วันที่ 4/ จัยแซลเมียร์ B L D
07.00 น. ä รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม – เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม
08.00 น. เดินทางสู่ เมืองจัยแซลเมียร์ (Jaisalmer) เดินทางประมาณ 5-6 ช.ม เมืองที่ได้รับสมญานามว่า “นครสีทอง” ตั้งอยู่บนที่ราบสูง อยู่ทางตะวันตกสุดของแคว้นราชาสถานในอดีตเคยเป็นเส้นทางการค้า ที่สำคัญระหว่างอินเดียกับตะวันออกกลางนครแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นจากหินทรายสีเหลืองเป็นส่วนใหญ่เมื่อ
ยามต้องแสงอาทิตย์อัสดงที่ไล้ลงบนพื้นผิวของหินเหล่านี้ก็จะปรากฏให้เห็นเป็นสีทองอร่ามตา
นำท่านชม ป้อมจัยแซลเมียร์ (Jaisalmer Fort) ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางทะเลสาบ สร้างโดย Bhatti Rajput rule Rawal Jaisal ค.ศ. 1156 โดยป้อมนี้ถือว่าเป็นป้อมที่สร้างลำดับที่ 2 ของรัฐราชาสถานป้อมจัยแซลเมียร์เป็นป้อมเดียวในอินเดียที่มีผู้คนอาศัยอยู่ด้านบนบนเขาทิตรีกูฏ
ชมความสวยงามของ“ปราสาททราย”ที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางทะเลทรายภายในป้อมมีบ้านพัก
ของชาวบ้านที่ พำนักอยู่อาศัยมานานนับร้อยปี ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพของเมืองจัยแซลเมียร์
จากนั้น ชมความงามของคฤหาสน์ ชม คฤหาสน์เสนาบดี หรือ ฮาเวลี (Haveli) บ้านเศรษฐี หลังนี้ถูกสร้างโดย Lalu และ Hathi 2 พี่น้องศิลปินและสถาปนิกเอกที่สร้างอย่างวิจิตรบรรจง

กลางวัน ä รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ทะเลทรายธาร์ (Sam Sand Dunes) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดัง
ในจัยแซลเมียร์ เนินทรายแห่งนี้เป็นที่ซึ่งโค้งขอบฟ้าจรดกับผืนแผ่นทรายได้อย่างงดงามเกินคำบรรยาย
โดยเฉพาะการนั่งอูฐชมพระอาทิตย์ตก มันฟินมาก“ทะเลทรายธาร์” หรือเรียกอีกชื่อว่า ทะเลทรายเกรทอินเดียน(Great Indian Desert) เป็นทะเลทรายขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางตะวันตก เฉียงเหนือของประเทศอินเดียและปากีสถาน มีพื้นที่มากกว่า 200,000 ตร.กม.
พิเศษ ขี่อูฐในทะเลทรายธาร์ ชมสันทราย Sam Sand Dunes อิสระเก็บภาพกับเนินทรายยามสนธยาสุดฟิน
ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำพร้อมชมการแสดงการเต้นระบำแบบพื้นเมืองชาวราชาสถาน
 เข้าพักโรงแรม RANG MAHAL ณ เมืองจัยแซลเมียร์ หรือเทียบเท่า

วันที่ 5/ จัยแซลเมียร์ – จ๊อดปูร์ B L D
06.30 น. ä รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม – เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม
07.30 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองจ๊อดปูร์ (Jodhpur) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของแคว้นราชาสถาน รองจากเมืองชัยปุระ ศูนย์กลางของเมือง คือ Mehrangarh Fort ป้อมปราการใหญ่บนเนินเขา ที่มองเห็นได้ไกลจากรอบเมือง สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1459 (พ.ศ. 2002) โดย มหาราชา ราโอ จอดา (Maharaja Rao Jodha) ซึ่งเป็นยุคเดียวกับกรุงศรีอยุธยาตอนต้น “โยธาปุระเมืองสีฟ้า” เมืองที่ได้ฉายาว่าเมืองแห่งความตายเพราะอยู่กลางทะเลทรายธาร์ในอดีต เมืองสีน้ำเงินจ๊อดปูร์ Jodhpur หรือ เมืองโยธะปุระ ในปัจจุบันเป็นเมืองโรแมนติกหรือเมือง โยธะปุระ นครนักรบ ทั่วทั้งเมือป็นสีฟ้าน้ำทะเลใหญ่เป็นอันดับสองในแคว้นราชาสถาน บ้านเรือนเลยทาสีน้ำเงินทั้งเมือง เพราะความที่อยู่กลางทะเลทรายธาร์ที่ร้อนแล้งการทาบ้านเรือนสีฟ้าหรือสีน้ำเงินจะทำให้ดูสบายตา
กลางวัน ä รับประทานอาหารกลางวัน

บ่าย นำท่านชม ป้อมเมห์รานการห์ (Mehrangarh Fort) ป้อมนี้เป็นป้อมโบราณที่มีความยิ่งใหญ่ และ เป็นหนึ่งในสี่ของพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ใน ค.ศ. 1459 เมื่อฤาษีท่านหนึ่งบอกว่ามหาราชา จ๊อดธะ พระองค์ควรสร้างเมืองขึ้นที่นี่ จ๊อดปูร์เป็นศูนย์กลางอาณาจักรใหญ่แต่ครั้งโบราณ ป้อมจึงถูกเสริมเติมแต่งให้มีขนาดใหญ่มหึมา ป้อมโบราณที่ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ภายในยัง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม สถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็นฉาก ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Batman The dark knight rises (2012) นำท่านชมสถานที่ต่างๆภายในป้อม
นำท่านชม อนุสรณ์สถานจาสวานต์ธาดา (Jaswant Thada) สิ่งปลูกสร้างสีขาวสะอาดตาที่ สร้างด้วยหินอ่อนหลังคาทรงปรางค์ปราสาทประดับโดยหินอ่อนตั้งอยู่ห่างจากป้อมเมหุ์รานการห์ไป
ประมาณ 1 กิโลเมตร อนุสรณ์นี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1899 จากนั้นอิสระเลือกซื้อของที่ระลึก
ค่ำ ä รับประทานอาหารค่ำพร้อมชมวิวป้อมเมืองจ็อดปูร์
 เข้าพักโรงแรม FAIRFIELD BY MARRIOTT (เมืองจ๊อดปูร์) หรือเทียบเท่า
วันที่ 6 / จอดปูร์ – ชัยปุระ-กรุงเทพฯ B L –
06.30 น. ä รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม – เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม
07.30 น. นำท่านเดินทางกลับไป ชัยปุระ (ระยะทาง 250 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง)
กลางวัน ä รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย ถึงเมืองชัยปุระนำท่านถ่ายรูป ประตูปาตริกา (Patrika Gate) นี้ตั้งอยู่บริเวณ วงเวียนจาวาฮาร์ (Jawahar Circle) ด้วยความที่เป็นประตูเมืองลำดับที่ 9 ซึ่งเป็นเลขศักดิ์สิทธิ์ของฮินดู การสร้างประตูนี้ จึงมีการระดมความคิดในการสร้างให้ตรงตามประเพณีโบราณของเมือง แต่ละซุ้มมีภาพวาดสีสันสวยงาม บอกเล่าประวัติศาสตร์ของแคว้นราชาสถานสำหรับนักท่องเที่ยว
จากนั้น ก่อนเดินทางไปสนามบินอิสระช้อปปิ้งเลือกซื้อของตามอัธยาศัย
นำท่านช้อปปิ้งในชัยปุระเลือกซื้อของฝาก ที่ ตลาดบาปูบาซาร์ (Bapu Bazaar) ในชัยปุระเต็มไปด้วยเครื่องประดับเทียมที่มีทั้งเครื่องประดับที่คอประจำชาติ ต่างหู กำไลข้อเท้า กำไลที่ทำด้วยครั่ง (เครื่องเขิน) รวมทั้งกำไลที่ทำจากไหมหลากสีสัน ซื้อผ้าพันเทจแบบดั้งเดิมหรือผ้ามัดย้อมและสีย้อมกลายเป็นสิ่งจำเป็น รูปแบบของ Bandhej แตกต่างกันไปตั้งแต่ lehariya ไปจนถึง sanganeri ไปจนถึงพิมพ์ผ้าบาติก นอกจากงานปักที่วิจิตรบรรจงและวิจิตรบรรจงบนดูปัตตาและส่าหรีแล้ว พวกเขายังมีงานกระจกที่สวยงามและงานโกตาปัตติอีกด้วย ซื้อสินค้าต่าง ๆ จากร้านค้ามากมาย พร้อมทั้งเลือกซื้อ งานฝีมือหรือเครื่องประดับอันแสนปราณีต กลับไปเป็นของฝากแก่คนที่คุณรัก ….จนถึงเวลานัดหมาย
22.35 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD131
วันที่ 7 กรุงเทพฯ – – –
04.15 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ…โดยสวัสดิภาพ
ทัวร์อินเดีย