Picture1

ทัวร์อินเดีย Grand Leh Ladakh 8D6N (AI)

ราคาเริ่มต้น 41,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

“ลาดักห์” ซึ่งแปลได้ว่า “ดินแดนแห่งเส้นทางสูงชัน” ตั้งอยู่ในรัฐจามมูและแคชเมียร์ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ประกอบไปด้วยเขตคาร์กิล (Kargil) และเขตเลห์ (Leh) ซึ่งเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นทิเบตน้อยแห่งอินเดีย เป็นดินแดนที่ซ่อนอยู่ระหว่างเทือกเขาหิมาลัยและที่ราบสูงคาราโครัม เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสอากาศหนาว ธรรมชาติที่แปลกตา ถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขา, ทะเลสาบ, ทะเลทราย พร้อมไปสำรวจเส้นทางสำคัญแห่งหิมาลัยรวมถึงสัมผัสวิถีชีวิตผู้คน วัฒนธรรมและภาษาของผู้คนที่นั่น

วันที่เดินทาง

17 ก.ค. 67 – 24 ก.ค. 67, 8 ส.ค. 67 – 15 ส.ค. 67

14.55 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน Air India โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยให้การต้อนรับ
17.55 น. ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานอินทิราคานธี ประเทศอินเดีย โดยเที่ยวบินที่ AI 335
20.50 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานอินทิราคานธี ประเทศอินเดีย เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง

04.55 น. ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยาน Kushok Bakula Rimpochee Airport เมืองเลห์ ประเทศอินเดีย โดยเที่ยวบินที่ AI 477
06.20 น. เดินทางถึงท่าอากาศยาน Kushok Bakula Rimpochee Airport เมืองเลห์ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจสัมภาระเรียบร้อยแล้ว พาท่านเดินทางไปยังโรงแรมในตัวเมืองเลห์ เมื่อถึงโรงแรมมีการต้อนรับด้วย welcome drink และเข้าพักยังห้องพักเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัยเพื่อการปรับร่างกายให้เข้ากับระดับความสูงของพื้นที่
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
ช่วงเย็น นำท่านไปยัง ตลาดท้องถิ่นของเมืองเลห์ (Leh Market) อิสระให้ทุกท่านได้ช้อปปิ้งเลือกซื้อของฝากพื้นเมืองมากมาย เมื่อได้เวลาอันสมควรกลับเข้าพัก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก Hotel Shanti nest / Hotel Ladakh Himalayan Retreat หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำคณะออกเดินทางไปเยี่ยมชมภาพวาดอายุ100ปีของ วัดอัลชิ (Alchi Monastery) ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเลห์ 70 กม. ระหว่างทางแวะถ่ายรูปที่ แมกเนติก ฮิลล์ (Magnetic Hill) หรืออีกชื่อคือ Gravity Hill ความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง ที่นี่หากจอดรถดับเครื่องยนต์และปลดเกียร์ว่างไว้ จะเห็นว่ารถจะค่อยๆไหลขึ้นภูเขาได้เอง จากนั้นชมความสวยงามของจุดตัดแม่น้ำสินธุและแม่น้ำซันสการ์ (Confluence of the Zanskar and Indus River) ซึ่งเป็นแม่น้ำสองสายที่สำคัญไหลมาบรรจบกัน
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
ช่วงบ่ายเดินทางไปยังพระราชวังเลห์ (Leh Palace) อดีตพระราชวังแห่งเมืองเลห์ ที่มีอายุมากกว่า 500 ปี และนำท่านชม เจดีย์สันติภาพ (Shanti stupa) ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเนินเขาของเมืองเลห์ จากนั้นกลับเข้าที่พัก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก Hotel Shanti nest / Hotel Ladakh Himalayan Retreat หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
ออกเดินทางไปยังนูบร้า วัลเลย์ ระยะทาง 125 กม. โดยผ่านคาร์ดุง ลา พาส (Khardung La Pass) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นถนนที่สูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ความสูง 18,379 ฟุต หรือ 5,602 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ตลอดเส้นทางท่านจะได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามของภูเขาที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ

กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
ช่วงบ่ายเดินทางไปไหว้สักการะพระพุทธศรีอริยเมตไตรยองค์ใหญ่ที่สุดที่วัด Diskit วัดเก่าแก่ในเมืองนูบร้า และเนินทรายสีขาว (Hundar Sand Dunes) ซึ่งท่านอาจมีโอกาสได้ท่องซาฟารี บนหลังอูฐสองหนอกซึ่งจะพบได้ในนูบร้าเท่านั้น (ไม่รวมค่ากิจกรรมขี่อูฐ) จนได้เวลาอันสมควร เดินทางไปยังที่พักเพื่อพักค้างคืน

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก Summer Castle Camp / Hotel Lhasthang Nubra หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
เช้าตรู่ขับรถไปไปยังทะเลสาบแปงกอง (Pangong Lake) ระยะทางประมาณ 180 กม. เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่สูงที่สุดในโลกที่ความสูง 4,225 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล โดยข้ามหมู่บ้าน Khalsar ไปถึงที่ Agyam Village ข้ามแม่น้ำ Shayok คุณสามารถมองเห็น ล่อป่า ม้า จามรี ฝูงนกที่นานาชนิดของลาดักห์ หลังจากนั้นขับรถผ่านหมู่บ้าน Durbuk และ Tangtse ในภูมิภาค Changthang ทะเลสาบแปงกองแห่งนี้ มีความยาว 130 กิโลเมตร กว้าง 6-7 กิโลเมตร พื้นที่ 30 เปอร์เซ็นต์ของทะเลสาบอยู่ในเขตลาดักห์ และอีก 70 เปอร์เซ็นต์ต่อเนื่องสู่ที่ราบสูงทิเบต-ชิงไห่ ประเทศจีน
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
ช่วงบ่าย เดินทางถึงทะเลสาบแปงกอง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในเอเชียซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงสี 4 – 5 ครั้ง ต่อวัน โดยจะเปลี่ยนสีเรื่อยตามมุมของดวงอาทิตย์ที่ส่องกระทบผืนน้ำ เพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นแสนโรแมนติกริมทะเลสาบ ทุกท่านสามารถถ่ายภาพริมทะเลสาบเก็บภาพความประทับใจได้อย่างจุใจ หลังจากนั้นนำทุกท่านเข้าที่พักเพื่อพักค้างคืน

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก Pangong Woods Resort / Royal Foster Cottage Pangong หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
หลังจากนั้น ทุกท่านสามารถไปเก็บบรรยากาศความงดงามของทะเลสาบแปงกองในช่วงเช้า เดินทางต่อไปยังทะเลสาบโมริริ ซึ่งอยู่ห่างจากทะเลสาบแปงกอง 220 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาน 5 ชั่วโมง ระหว่างทางเราจะผ่านธรรมชาติและหมู่บ้านที่มีความสวยงามตลอดสองข้างทาง ข้าม Tsaga La Pass ซึ่งมีความสูง 15,290 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
ทะเลสาบโมริริ (Tso Moriri Lake) ทะเลสาบสีเทอร์คอยส์ ที่มีขนาดใหญ่และตั้งอยู่ในที่สูงที่สุดในประเทศอินเดีย (4,595 เมตร) เหนือระดับน้ำทะเล ในช่วงฤดูหนาว ทะเลสาบแห่งนี้จะกลายเป็นน้ำแข็ง ทุกคนสามารถลงไปเดินถ่ายรูปได้ รวมถึงที่นี่ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด เช่น ห่านหัวลาย เป็ดป่า นกกระเรียนคอดำ เป็นต้น
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก The Grand Dolphin หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
เช้านี้ นำท่านออกเดินทางกลับไปยังเมืองเลห์ ระยะทาง 235 กม. โดยเราจะแวะ แหล่งน้ำพุจากความร้อนใต้พิภพ (Puga Geo-Thermal Gas) และกระโจมของชาว Nomads ที่มีชีวิตชอบเร่ร่อนเลี้ยงสัตว์ จากนั้นนำท่านมุ่งหน้าสู่ทะเลสาบคาร์ (Tso Kar Lake) ทะเลสาบเกลือสีครามเข้ม ตั้งอยู่บนที่ราบสูง Rupshu ชายหาดรอบข้างเป็นสีขาวอันเกิดจากเกลือ ในฤดูหนาวทะเลสาบแห่งนี้อาจหนาวเย็นได้ถึง -40 องศา
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
ขับรถต่อผ่านทางหลวง Manali ข้าม Taglang La Pass ซึ่งมีความสูง 5,530 เมตร นำท่านชม วัดทิคเซย์ (Thiksey Monastery) วัดของนิกายหมวกเหลืองอายุราวๆ 700 ปี ภายในอารามเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปของพระศรีอริยเมตไตรย ที่สวยที่สุดในลาดักห์ พระพุทธรูปอนาคตตาความเชื่อของพุทธทิเบต จากนั้นเดินทางกลับเมืองเลห์ เช็คอินเข้าที่พักเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก Hotel Shanti nest / Hotel Ladakh Himalayan Retreat หรือเทียบเท่า

เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้นเดินทางไปยังสนามบิน Kushok Bakula Rimpochee Airport เมืองเลห์
06.55 น. ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานอินทิราคานธี (เมืองเดลี) เที่ยวบินที่ AI478
08.20 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานอินทิราคานธี (เมืองเดลี) ประเทศอินเดีย เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
11.00 น. ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบินที่ AI332
16.55 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ พร้อมรอยยิ้มและความประทับใจ