ทัวร์ญี่ปุ่น

วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ

20.00 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย THAI AIRWAYS (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
23.50 น. ออกเดินทางสู่ โตเกียว ประญี่ปุ่น โดย เที่ยวบินที่ TG642 (มีบริการอาหารร้อน+น้ำดื่มบนเครื่อง)

วันที่ 2 สนามบินนาริตะ – วัดอาซะกุสะ – ตลาดปลาซึกิจิ – ช้อปปิ้งย่านชินจูกุ
8.30 เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ประเทศญี่ปุ่น (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง)
(เวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาของท่านให้ตรงกัน เพื่อสะดวกในการนัดหมายเวลา)
***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ
จากนั้นนำท่านสู่ วัดเซนโซจิ หรือ วัดอาซากุสะ วัดที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโตเกียว นำท่านเข้านมัสการเจ้าแม่กวนอิม ณ วัดอาซากุสะ เป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์และได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว และเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคคันโตภายในประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำมีผู้คนนิยมมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดทั้งปี และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ ประตูฟ้าคำรณ ซึ่งเป็นโคมไฟสีแดง ขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 4.5 เมตร เป็นโคมไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก เลือกชมและเช่าเครื่องรางของขลังอันศักดิ์สิทธิ์ของวัดแห่งนี้
อิสระเดินเล่น ถนนนากามิเซะ (Nakamisedori) ถนนเส้นนี้ยาวไปจนถึงวัดเซ็นโซจิจะเป็น ถนนช้อปปิ้ง ขายขนม ของฝาก ของที่ระลึก ขนมที่ซื้อกลับบ้านจะใส่กล่อง ห่อสวยงาม สามารถซื้อเป็นของฝากได้อย่างสวยงาม ส่วนขนมแบบที่กินเลย เช่น Soft ice cream, มันอัดแท่ง, ซาลาเปาทอด, ข้าวพองคล้ายขนมนางเล็ด ทางร้านจะให้เรายืนกินที่หน้าร้านเท่านั้นไม่ให้เดินไปกินไป ถือว่าเป็นกฎเหล็กของร้านค้าย่านถนนนากามิเซะเพื่อไม่ให้ขนมหกเลอะเทอะบนถนน
นำท่านสู่ ย่านสึกิจิ (Tsukiji) ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market) ตัวตลาดแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ตลาดในสำหรับค้าส่งพวกอาหารทะเล ผักและผลไม้ ซึ่งจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมหลัง 9:00 น. รวมถึงการประมูลปลาทูน่า ที่จะเปิดให้เข้าชมเป็น 2 รอบ คือ 5.25 น. และ 5.50 น. ส่วนตลาดนอกเป็นตลาดสำหรับร้านค้าปลีกนานาชนิดและร้านอาหาร โดยร้านค้าต่างๆ จะเปิดตั้งแต่ประมาณ 9:00 – 14:00 น. หากต้องการทานอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ แนะนำให้แวะมาที่ตลาดนอก โดยมีอาหารขึ้นชื่อ คือซูชิ ซาชิมิ และไข่หวานย่าง
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร
นำท่านอิสระ ช้อปปิ้งย่านชินจูกุ เพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ามากมายและ เครื่องใช้ ไฟฟ้า กล้องถ่ายรูปดิจิตอล นาฬิกา เครื่องเล่นเกมส์ หรือสินค้าที่จะเอาใจคุณผู้หญิงด้วย กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า แบรนด์เนม เสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่น เครื่องสำอางยี่ห้อดังของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น KOSE, KANEBO, SK II, SHISEDO และอื่นๆ อีกมากมาย

++ อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้ง ++
ที่พัก Daiichi Hotel Ryogoku หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 ภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 – ชมพิธีชงชา – หมู่บ้านน้ำใสโอชิโนะฮักไก – ดินเนอร์บุฟเฟต์ขาปู + แช่ออนเซ็น
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ภูเขาไฟอันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ภูเขาไฟฟูจิ ชมความงามของ ภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นภูเขาไฟศักดิ์สิทธิ์และสวยงามที่สุดในโลก จนได้รับการยกย่องว่าเป็นภูเขาไฟที่สวยขนาดไม่มีลูกใดมาเทียบเคียงได้ และมีความสูงประมาณ 3,776 เมตร (12,388 ฟุต) จากระดับน้ำทะเล
ใบไม้เปลี่ยนสีมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
จากนั้นนำท่านชม พิธีชงชา หรือที่เรียกว่า ที่เรียกว่า ซะโด (Sadou) หรือ ชะโด (Chadou) คือ วิถีแห่งชาของชาวญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นพิธีกรรมที่ทรงคุณค่า หยั่งรากลึกลงในศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พิธีชงชาเป็นพิธีที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยปรัชญาในการดำเนินชีวิต หัวใจสำคัญของพิธีชงชาจึงไม่ใช่แค่การชงหรือดื่มชาเท่านั้น แต่อยู่ที่สุนทรียภาพในการลิ้มรสทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และจิตใจลองมาทำความรู้จักกับพิธีชงชาให้ มากขึ้นรับรองได้เลยว่าหากท่านได้มีโอกาสได้เข้าร่วมพิธีชงชา ก็จะต้องหลงใหลกับวัฒนธรรมอันเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าดึงดูดใจผู้คนทั่วโลกอย่างแน่นอน
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค (Oshino Hakkai) เป็นแหล่งน้ำตามธรรมชาติตั้งอยู่ในหมู่บ้านโอชิโนะ ให้ท่านสัมผัสได้ถึงอากาศบริสุทธิ์ และไอเย็นจากแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยในบ่อน้ำใสแจ๋วมีปลาหลากหลายพันธุ์แหวกว่ายสบายอารมณ์ อุณหภูมิในน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 10-12 องศา นอกจากนี้แล้วก็ยังมีน้ำผุดจากธรรมชาติให้ตักดื่มตามอัธยาศัย และที่สำคัญ หมู่บ้านโอชิโนะยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้า OTOP ชั้นเยี่ยมอีกด้วยที่หมู่บ้านนี้มีของขึ้นชื่ออย่าง โมจิชาเขียว ไส้ถั่วแดงย่าง ขนมฮิตที่หมู่บ้านน้ำศักดิ์สิทธิ์โอชิโนะฮักไก
ใบไม้เปลี่ยนสี จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯ
จากนั้นนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8) บุฟเฟต์ขาปู
ที่พัก Sun Plaza Yamanakako หรือเทียบเท่า อิสระแช่ออนเซ็นตามอัธยาศัย
หมายเหตุ : ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทฯ จะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 3-5 วันก่อนการเดินทาง
วันที่ 4 ชมเส้นทางธรรมชาติคามิโคจิ – แม่น้ำอาซุสะ – สะพานคัปปะ – เมืองเก่าทะคายะม่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชมความงดงานราวกับภาพวาด ณ คามิโคจิ เส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติยอดนิยมเป็นจุดชมวิวภูเขาที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมปีละ 1.2 ล้านคน ได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทิวทัศน์ภูเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น คามิโคจิ ตั้งอยู่ใกล้กับเทือกเขา Japan Alps ภายในเขตจังหวัด นากาโน่ ด้วยระยะทางยาวกว่า 15 กิโลเมตร และ อยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล กว่า 1,500 เมตร ล้อมรอบด้วยยอดเขาที่มีชื่อเสียงมากมาย ทั้งทิวทัศน์อันงดงามของเทือกเขาโฮทากะตัดกับสายน้ำใสสะอาดของ แม่น้ำอะซุสะ นอกจากนี้ชมความงาม บึงทะชิโระ บึงเล็กๆแห่งนี้จะเป็นราวกับสรวงสวรรค์น้อย สะพานคัปปะ ซึ่งเป็นจุดแลนด์มาร์คสำคัญในคามิโคจิคงหนีไม่พ้น “สะพานคัปปะ” จากจุดนี้สามารถชมวิวอันตระการตาของเทือกเขาโฮทากะ (Hotaka) ได้อย่างเต็มตา และเมื่อหันหลังไปก็จะเห็นภูเขาไฟยาเกะที่เราเดินจากมาจากบึงไทโช อีกทั้งยังปกคลุมไปด้วยดอกไม้และต้นไม้เขียวขจี พร้อมทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ จึงทำให้เป็นที่นิยมของเหล่านักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
สิ่งที่ควรทำเมื่อมาเที่ยวคามิโคจิ :
• นำขยะกลับออกไปทิ้งนอกอุทยาน
• จ่ายค่าบำรุงรักษาเมื่อใช้ห้องน้ำสาธารณะ (100 เยน ไม่มีเงินทอน)
สิ่งที่ห้ามทำเมื่อมาเที่ยวคามิโคจิ :
• ห้ามเข้าใกล้และให้อาหารสัตว์ป่า
• ห้ามเดินออกนอกทางเดินที่อุทยานจัดไว้ให้
• ห้ามใช้โดรน
• ทิ้งเศษอาหารที่รับประทานเหลือ เพราะจะทำให้สัตว์ป่าออกมาบ่อยขึ้น
ใบไม้เปลี่ยนสี จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯ
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อมายัง ย่านเมืองเก่าทาคายาม่า (Takayama Old town) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของจังหวัดกิฟุ (Gifu) เป็นย่านค้าขายที่เคยเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในอดีตซึ่งยังคงได้รับการอนุรักษ์เอาไว้โดยรัฐบาลญี่ปุ่น ยังมีบ้านและอาคารต่างๆหลายหลักที่มีอายุหลายร้อยปีให้ชม ให้บรรยากาศบ้านเมืองสมัยเอโดะอย่างแท้จริง ซึ่งหลายๆแห่งยังเปิดเป็นพิพิธภัณท์ให้เข้าไปชมได้บรรยากาศและข้าวของต่างๆภายในบ้านได้ด้วย ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณถนน Sanmachi ทางฝั่งตะวันตกของสถานีรถไฟ Takayama

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร
ที่พัก Route Inn Grantia Hida Takayama หรือเทียบเท่า อิสระแช่ออนเซ็นตามอัธยาศัย
หมายเหตุ : ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทฯ จะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 3-5 วันก่อนการเดินทาง

วันที่ 5 หมู่บ้านชิราคาวาโกะ – วัดสุคันนอน + ช้อปปิ้งย่านโอสึ + ย่านซาคาเอะ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawago) ตั้งอยู่บนภูเขาในเขตจังหวัดกิฟุและโทยามะ ทางตอนกลางของเกาะฮอนชู ประกอบไปด้วยบ้านเรือนที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200-300 ปี กระจายไปในแนวเหนือ-ใต้ ตามที่ราบแคบๆ ที่ขนานไปกับแม่น้ำโชกาวะ (Shokawa River) ประกอบกันถึง 16 หมู่บ้าน แต่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันมากๆ และเราเห็นรูปสวยๆ กันบ่อยๆ ก็คือ หมู่บ้านโอกิมาจิ (Ogimachi) ซึ่งเป็นหมู่บ้านหลักและมีขนาดใหญ่ที่สุดในชิราคาวาโกะนั่นเอง นอกจากนี้ ที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1995 อีกด้วย
ไฮไลท์ในการมาเที่ยวที่ชิราคาวาโกะก็คือ การได้มาเดินชมบ้านแบบ กัสโชสึคุริ (Gassho-zukuri) ซึ่งเป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปีนั่นเอง บ้านในแบบกัสโชสึคุริ มีลักษณะพิเศษคือ เป็นบ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ชื่อนี้ได้มาจากคำว่า “กัสโช” ซึ่งแปลว่า พนมมือ ตามรูปแบบของบ้านที่หลังคาชันถึง 60 องศา มีลักษณะคล้ายสองมือที่พนมเข้าหากันนั่นเอง นอกจากชิราคาวาโกะจะมีบ้านเก่าแก่สวยๆ ดั้งเดิมของญี่ปุ่นให้เราได้เดินชม เที่ยวเล่น ถ่ายรูปสวยๆ กันแล้ว ยังมีบ้านหลายๆ หลังที่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ศาลเจ้า และที่พักโฮมสเตย์อีกด้วย

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองนาโกย่า (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) จากนั้นชม วัดโอสุคันนอน (Osu Kannon Temple) ตั้งอยู่ภายในเมืองนาโกย่า (Nagoya) จังหวัดไอจิ(Aichi) นับว่าเป็นวัดในพระพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงมากๆในแถบตอนกลางของนาโงย่า สิ่งที่ทำให้วัดนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมากๆ ก็คงเพราะวัดแห่งนี้นั้นเป็นที่ประดิษฐานของเทพคันนอน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความเมตตา พระพุทธรูปนี้ไม่ธรรมดานะคะ เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปไม้ที่แกะสลักอย่างประณีตโดยพระสงฆ์นามว่า “Kobo Daishi” แถมภายใต้ห้องโถงใหญ่ คือห้องสมุดชินปูคุจิ (Shinpukuji Library) ที่จัดเก็บหนังสือภาษาญี่ปุ่นและภาษาจีน กว่า 15,000 เล่ม หนังสือเหล่านี้เป็นสมบัติของชาติ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรม รวมถึงสำเนาที่เก่าแก่ที่สุดของพงศาวดารโคจิคิ ที่รวบรวมประวัติศาสตร์ต้นกำเนิดของญี่ปุ่น
อิสระเดินเล่น ย่านช้อปปิ้งโอสึ เป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่และเป็นที่นิยมที่มีกว่า 1,200 ร้านค้าและร้านอาหาร ทุกชนิดของร้านค้ารวมทั้งร้านค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า, ร้านขายเสื้อผ้ามือสองร้านอาหารและคาเฟ่ที่เปิดอยู่ ห้างสรรพสินค้าจะแออัดเสมอกับผู้คนและเต็มไปด้วยพลังงาน หลายเหตุการณ์ที่จะมีขึ้นตลอดทั้งปีรวมทั้งเทศกาลฤดูร้อน Osu ในเดือนสิงหาคม Osu Daido-chonin เทศกาลในเดือนตุลาคมและ Osu Setsubun Takarabune Gyoretsu (สมบัติขบวนแห่เรือ)
จากนั้นนำท่านเดินเล่น ย่านซาคาเอะ (SAKAE) เป็นบริเวณที่มอบความเพลิดเพลินให้คุณในการจับจ่าย การทานอาหาร และการเที่ยวไปตามบาร์ และความบันเทิงต่างๆ เดินไปตามสวนสาธารณะใกล้กับมิไรทาวเวอร์ของบริษัทผลิตไฟฟ้าชูบุ และเพลิดเพลินไปกับร้านค้าและห้างสรรพสินค้า และลิ้มลองอาหารสุดพิเศษของนาโกย่าและอาหารแบบนานาชาติมากมาย ในพื้นที่นี้มีห้างสรรพสินค้าใหญ่ อยู่ 4 แห่ง คือมิซึโคะชิ,ลาชิค,มัทสึซะกะยะ,พาร์โก และ ห้างโอเอซิส 21 สุดทันสมัย
++ อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้ง ++
ที่พัก APA Nagoya Sakae หรือเทียบเท่า

วันที่ 6 เกียวโต – ศาลเจ้าฟูชิมิอินะริ – วัดทองคินคะคุจิ – โอซาก้า – ช้อปปิ้งย่านชินไซบะชิ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเกียวโต (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) นำท่านชม ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ศาลเจ้าแดง หรือ ศาลเจ้าจิ้งจอก เป็นศาลเจ้าของศาสนาชินโต (Shinto) ที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต (Kyoto) มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ที่ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย (บ้างก็ว่าท่านชอบแปลงร่างเป็นจิ้งจอก) จึงสามารถพบเห็นรูปปั้นจิ้งจอกมากมายด้วยเช่นกัน ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่มากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสร้างเมืองเกียวโตซะอีก คาดกันว่าจะเป็นช่วงประมาณปีค.ศ. 794 หรือพันกว่าปีมาแล้ว
พลาดไม่ได้เมื่อมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้
• เดินลอดอุโมงค์เสาประตูโทริอินับพันไปยังศาลเจ้า
• ลองทานคุกกี้เสี่ยงทายที่อาจจะเป็นต้นกำเนิดของคุกกี้เสี่ยงทายทุกวันนี้ บนถนนที่ขึ้นไปศาลเจ้ามีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกระหว่างทางเดินไปยังศาลเจ้า ซึ่งคุณจะได้พบกับร้านขนมที่ขายสึจิอูระเซมเบ้ ซึ่งเป็นคุกกี้เสี่ยงทายชนิดหนึ่งที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ว่ากันว่าขนมเหล่านี้เป็นต้นกำเนิดคุกกี้เสี่ยงทายของร้านอาหารจีนในสหรัฐอเมริกา
• ทานอินาริซูชิ (อาบูระอาเกะยัดไส้ด้วยข้าว) และคิตสึเนะอุด้ง (อูด้งแป้งข้าวสาลีในน้ำซุปโปะหน้าด้วยอาบูระอาเกะ) เมนูโปรดของเทพจิ้งจอก

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) ที่คนไทยทั่วไปรู้กันในชื่อว่า วัดทอง นั่นเอง สาเหตุที่คนส่วนมากเรียกวัดนี้ว่าวัดทอง นั่นก็เพราะว่าอาคารหลักของวัดนี้มีสีทองเหลืองอร่ามตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางน้ำ เวลามองภาพสะท้อนก็กลายเป็นภาพที่งดงามไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าดังขนาดกลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเกียวโตเลยทีเดียว จริงๆแล้วมีอีกชื่อนึงที่เป็นที่รู้จักของคนท้องถิ่นนั่นก็คือ “วัดโระคุงอนจิ (Rokuon-ji Temple)” ที่แปลว่า วัดสวนกวาง และด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามล้ำค่านี่เองจึงทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรกดโลก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โอซาก้า (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) นำท่านสู่ ชินไซบาชิ ย่านช้อปปิ้งแห่งโอซาก้า อยู่ใกล้กับทั้งนัมบะ (namba) และ โดทงโบริ (Dotonbori) อันเป็นย่านยอดฮิตของโอซาก้าเช่นเดียวกัน ย่านชินไซบาชินั้นมีอาณาเขตตั้งแต่จากสถานี Shinsaibashi ยาวมาจนถึงบริเวณสะพานเอบิสึ ตรงกลางของย่านโดทงโบริ เป็นที่ตั้งของย่านร้านค้า และ shop มากมาย เป็นระยะทางรวม 2 ก.ม. สิ้นสุดทางของ Shinsaibashi นั้นคือ สะพานเอบิสึบาชิ ที่ตั้งของ ป้ายหนุ่มกลูลิโกะ แห่ง โดทงโบริ อย่าลืมแวะถ่ายรูปกัน ห้างใหญ่ ร้าน Duty Free นอกจากร้านรวงต่างๆ แล้วที่นี้ก็มีห้างใหญ่อย่าง Daimaru ที่มีร้านค้าปลอดภาษี Laox ให้ช้อปจนจุใจ มีร้านอาคาร คาเฟ่ ซุปเปอร์มาเก็ต หรือ จะห้าง Parcoที่อยู่ไม่ไกล
++ อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้ง ++
ที่พัก Sarasa Shinsaibashi หรือเทียบเท่า

วันที่ 7 ปราสาทโอซาก้า (ชมด้านนอก) – ริงกุ พรีเมี่ยมเอ้าท์เล็ท – สนามบินคันไซ – สนามบินสุวรรณภูมิ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านชม ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ถูกสร้างขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่พำนักของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้รวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวในสมัยนั้น ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงเสร็จสมบูรณ์ยาวนานกว่า 16 ปี เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น แต่ทว่า ปราสาทโอซาก้าที่ก่อสร้างขึ้นในยุคสมัยนั้นถูกเผาทำลายไปพร้อมกับการล่มสลายของตระกูลโทโยโทมิ กำแพงหินและยากุระ (หอสังเกตุการณ์) ที่เห็นนี้ จึงได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ในสมัยเอโดะ ส่วนตัวปราสาทก็ถูกสร้างขึ้นใหม่หลังจากนั้น แม้กระนั้นในปัจจุบันปราสาทโอซาก้าก็ยังคงได้รับการดูแลให้อยู่ในสภาพที่น่าเกรงขามและยิ่งใหญ่
(ชมด้านหน้าปราสาท ไม่รวมค่าเข้าด้านใน)

นำท่านช้อปปิ้ง ริงกุ พรีเมี่ยม เอ้าท์เลท (Rinku Premium Outlets) อีกหนึ่งแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของโอซาก้า ตั้งอยู่ที่เมืองริงกุ ตรงข้ามกับท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โดยออกแบบให้มีลักษณะเหมือนกับเมืองท่าของสหรัฐอเมริกา และมีบรรยากาศแบบรีสอร์ท ซึ่งภายในแม้จะไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และร้านค้าแบรนด์เนมหลากหลาย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินคันไซ เมืองโอซาก้า เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ
17.35 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG673 (มีบริการอาหารร้อน+เครื่องดื่มบนเครื่อง)
21.25 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

ทัวร์ญี่ปุ่น