TG Wonderful Kashmir Autumn

ทัวร์อินเดีย WONDERFUL แคชเมียร์ + ทัชมาฮาล + ชัยปุระ 8 วัน (TG)

ราคาเริ่มต้น 54,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: tg

“วิมานบนดินแห่งแคชเมียร์” ความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยว เกิดขึ้นในยุค “ควีนส์วิคตอเรีย” ซึ่งอังกฤษได้เข้ามาล่าอาณานิคม แต่มหาราชาโมกุล ได้ตั้งกฎเข้มว่า …แม้อังกฤษจะมีอำนาจเหนืออย่างไรก็ไม่อาจให้ใช้สิทธิถือครองที่ดินผืนนี้ได้…!!! นักล่าอาณานิคม จึงเลี่ยงโดยนำไม้สนซีดาร์ สร้างเป็นเรือ มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมตามแบบของอังกฤษ แกะสลักลวดลายสวยงาม พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ หลังอินเดียถูกปลดปล่อยให้เป็นเอกราช บ้านเรือเหล่านี้จึงตกเป็นของรัฐ ถูกปล่อยให้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ต่อมาได้ตกเป็นของเอกชน จึงปรับเป็นที่พักรองรับนักท่องเที่ยว กลายเป็นสถานที่ได้รับความนิยมจนมาถึงปัจจุบัน

วันที่เดินทาง

กันยายน 67 – ธันวาคม 67

ทัวร์อินเดีย

วันที่ 1
กรุงเทพฯ – เดลลี – – –
15.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย เจ้าหน้าที่บริษัทต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน
17.50 น. ออกเดินทางจากสู่ เดลลี โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 315
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

 เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง 30 นาที 
20.55 น. เดินทางถึง สนามบินอินทิราคานธี เดลลี ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าสัมภาระ

เมืองเดลี (Delhi) หรือชื่ออย่างเป็นทางการ ดินแดนเมืองหลวงแห่งชาติเดลี (National Capital Territory of Delhi) ย่อว่า เอ็นซีที (NCT) เป็นนครและดินแดนสหภาพของประเทศอินเดีย ประกอบด้วย นิวเดลี เมืองหลวงของประเทศอินเดีย นำท่านเดินทางสู่โรงแรม
ที่พัก: COUNTRY INN SUITES หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

วันที่ 2
เดลลี – ศรีนาคา – โซนามาร์ค B L D
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรมแบบกล่อง ….นำท่านเดินทางสู่สนามบิน
10.40 น. ออกเดินทางสู่ ศรีนาคา โดยสายการบิน SPICEJET เที่ยวบินที่ AI8963
12.05 น. เดินทางถึง สนามบินศรีนาคา รับกระเป๋าสัมภาระ

ท่าอากาศยานนานาชาติศรีนาคา หรือที่รู้จักในชื่อท่าอากาศยานนานาชาติชีคอุล-อาลัมและฐานทัพอากาศบัดแกม เป็นท่าอากาศยานนานาชาติใน เมืองหลวงฤดูร้อนของจัมมูและแคชเมียร์ ซึ่งเป็นของกองทัพอากาศอินเดียและการท่าอากาศยานแห่งอินเดียดำเนินการวงล้อมพลเรือนที่สนามบิน ถูกกำหนดให้เป็นสนามบินนานาชาติของ เมืองหลวงของรัฐแคชเมียร์

ศรีนาคา เมืองหลวงรัฐจัมมูและแคชเมียร์ สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปีเนื่องจากมีอากาศเย็นสบาย แม้กระทั่งในช่วงฤดูร้อนก็จะมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียสเท่านั้น ด้วยอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปีบวกกับธรรมชาติที่สวยงามในทุกฤดูทำให้ใครหลายคนทั้งชาวอินเดียและนักท่องเที่ยวต่างก็อยากหลบร้อนมารับลมเย็นๆที่นี่ จนศรีนาคาได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองสำหรับการพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนของประเทศอินเดีย
จากนั้น นำท่านออกเดินทางสู่ โซนามาร์ค (Sonamarg) ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ระหว่างสองข้างชมวิวความสวยงามตลอดทาง “โซนามาร์ค” ทุ่งทองคำแห่งแคชเมียร์ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นประตูโบราณเส้นทางสายไหมเชื่อมต่อจัมมูและแคชเมียร์กับทิเบต เป็นจุดเริ่มต้นที่จะมุ่งหน้าไปยังลาดักห์ หรือเป็นรู้จักกันดีในชื่อว่า“ประตูสู่ลาดักห์” เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยงามตลอดสองข้างทาง
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ท่านสามารถขี่ม้าสู่ทาจิวาสกราเซีย (Thajiwas Glacier) **ราคาไม่รวมในค่าทัวร์** ธารน้ำแข็งที่เกิดจากการทับถมของหิมะมายาวนาน การเดินป่า หรือเดินไป ธารน้ำแข็ง Thajiwas เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลน์ สำคัญของการเดินทางเที่ยวโซนามาร์ค ผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจีและป่าที่สวยงาม และสิ้นสุดที่จุดชมวิวซึ่งคุณจะได้เห็นทิวทัศน์ของธารน้ำแข็งได้อย่างชัดเจน อากาศเย็นสบาย ชมวิวภูเขาที่ยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะ..ตัดสลับกับป่าสนต้นใหญ่เขียวชอุ่มเต็มภูเขา ถึงที่จุดชมวิวจะมีแผงขายน้ำชาอยู่สองสามร้านซึ่งคุณสามารถหาอะไรกินก่อนเดินทางกลับ เส้นทางที่นี่คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับอากาศบนภูเขาที่สดชื่นและเสียงลำธารไหลริน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พัก: BADAR RESORT SONAMARG หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

วันที่ 3
โซนามาร์ค – กุลมาร์ค – ศรีนาคา B L D
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้น นำท่านเดินทางไป กุลมาร์ค (Gulmarg) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง
“กุลมาร์ค” (GULMARG) หรือ “แดนทุ่งหญ้าของดอกไม้”เป็นเทือกเขาอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,730 เมตร แต่เดิมมีชื่อเรียกว่า เการิมาร์ค ที่นนี่ยังเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟที่มีหลุมถึง 18 หลุมที่ยังสูงที่สุดในโลก “เทือกกุลมาร์ค” ได้รับการยอมรับจากผู้คนมากมายว่าเป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพที่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ที่สวยงามถือว่าเป็นความงดงามที่มาจากธรรมชาติอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะช่วงไหนๆ ก็สามารถเที่ยวชมได้อย่างไม่มีเบื่อพร้อมสัมผัสความสวยงามที่แตกต่างกับสี่ฤดูกาล เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งที่ต้องมาเยือนสักครั้งในชีวิต
กลาวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ไฮไลท์ ของกิจกรรมและการท่องเที่ยวที่กุลมาร์ค นำท่านขึ้นเคเบิลคาร์เฟส 1 (กระเช้าลอยฟ้าหรือกอนโดลา) ขึ้นกระเช้ากอนโดล่าเป็นเคเบิลคาร์ไปเฟส1 ระหว่างทางท่านจะได้เห็นวิวของภูเขาหิมะที่สวยงาม พบเห็นหมู่บ้านยิปซี และหมู่บ้านของคนท้องถิ่น เห็นวิวทิวเขาของเทือกเขาหิมาลัย และป่าสน อิสระให้ท่าน ถ่ายภาพความสวยงามรอบทิศทาง …
…. ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับศรีนาคา…
นำท่านชมสวนโมกุล (MUGHAL GARDEN) ชมสวนชาลิมาร์ (Shalimar) ซึ่งมีความสวยงาม จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “อัญมณีแห่งศรีนาคา”เป็นสวนโมกุลในศรีนคร เชื่อมต่อกับทะเลสาบดาล สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิชะฮันคีร์แห่งจักรวรรดิโมกุล ให้กับพระมเหสี นูร์ ชะฮันในปี 1619 สวนนี้ถือเป็นจุดสูงสุดของวิทยาพืชสวนของโมกุล ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะและถือเป็น “มงกุฏแห่งโมกุล”
ชมสวน Nishat สร้างขึ้นโดยพี่ชายของจักรพรรดินีนูร์ จาฮาน ชื่ออาซิฟ ข่าน ซึ่งเป็นผู้ออกแบบแผนผังของสวนด้วย และเปิดในปี ค.ศ. 1633 และ ครอบคลุมพื้นที่ขนาดมหึมาบน
พื้นที่ 46 เอเคอร์ ซึ่งตกแต่งอย่างเป็นธรรมชาติด้วยดอกไม้สีสดใส และเป็นสวนที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากสวนชาลิมาร์ ความเป็นเลิศทางสถาปัตยกรรมของสวน Nishat สวนแห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกโดยมระเบียง 12 แห่งซึ่งเป็นตัวแทนของราศี 12 ราศี ระเบียงสวนล้อมรอบด้วยต้นไซเปรสและต้นไชนาร์ สวนเริ่มต้นจากริมฝั่งทะเลสาบ Dal และขยายไปจนถึงปลายเนินเขาด้วยช่องหินขัด ระเบียงด้านบนของสวน Nishat เป็นที่ตั้งของสวน Zenana และระเบียงด้านล่างเชื่อมต่ออย่างดีกับทะเลสาบ Dal และถนนทางเข้า มาถึงแคชเมียร์ ต้อง!! เปิดประสบการณ์พักในบ้านเรือ หรือ House Boat หนึ่งในหลายร้อยลำที่อยู่ในทะเลสาบดาล ที่ทำด้วยไม้แกะสลักอย่างประณีตเป็นความรู้สึกที่สงบและมีความสุขในอีกรูปแบบหนึ่ง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกพากันมาเยือนที่นี่ชมทัศนียภาพรอบ ๆ ทะเลสาบได้ทั้ง 360 องศา และในเรือแต่ละลำจะมี…ผู้ดูแลที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกสบายให้แก่แขกที่มาพักเหมือนกับได้อยู่ที่บ้าน ทำให้สามารถจินตนาการไปถึงความสะดวกสบายสมัยที่ชาวอังกฤษอาศัยอยู่ในบ้านเรือเมื่อในอดีตได้เป็นอย่างดี

“วิมานบนดินแห่งแคชเมียร์” ความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยว เกิดขึ้นในยุค “ควีนส์วิคตอเรีย” ซึ่งอังกฤษได้เข้ามาล่าอาณานิคม แต่มหาราชาโมกุล ได้ตั้งกฎเข้มว่า …แม้อังกฤษจะมีอำนาจเหนืออย่างไรก็ไม่อาจให้ใช้สิทธิถือครองที่ดินผืนนี้ได้…!!! นักล่าอาณานิคม จึงเลี่ยงโดยนำไม้สนซีดาร์ สร้างเป็นเรือ มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมตามแบบของอังกฤษ แกะสลักลวดลายสวยงาม พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ หลังอินเดียถูกปลดปล่อยให้เป็นเอกราช บ้านเรือเหล่านี้จึงตกเป็นของรัฐ ถูกปล่อยให้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ต่อมาได้ตกเป็นของเอกชน จึงปรับเป็นที่พักรองรับนักท่องเที่ยว กลายเป็นสถานที่ได้รับความนิยมจนมาถึงปัจจุบัน

ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ บ้านเรือ
ที่พัก: MEENA DELUXE HOUSEBOATS หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3)
วันที่ 4
ศรีนาคา – เบตับห์ – พาฮาลแกม – ศรีนาคา B L D
เช้า บริการอาหารเช้า ณ บ้านเรือ
จากนั้น นำท่าน ล่องเรือชิคารา (เรือพายแบบแคชเมียร์) พาหนะสำหรับทำมาหากินของชาวแคชเมียร์ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมน้ำที่สำคัญใบพายเป็นรูปหัวใจให้ท่านชมความงดงามทะเลสาบ ทะเลสาบได้รับการขนานนามว่า “เพชรยอดมงกุฏของแคชเมียร์” หรือ “อัญมณีแห่งศรีนาคา” ทะเลสาบที่มีความสวยงาม เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาของ ชาวแคชเมียร์..ท่านจะเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองของชาวแคชเมียร์ที่นำของมาขายกันถึงกลางทะเลสาบ! เช่น ผ้าพัชมิน่า, เปเปอร์มาเช่, เครื่องประดับและเครื่องเงินต่างๆมากมาย
จากนั้น นําท่าน เข้าชม หุบเขาเบตับห์ BEHTAB VALLEY ที่มีชื่อเสียงขึ้นมาหลังจากที่ภาพยนตร์นำแสดงโดย Sunny Deol และ Amrita Singh เรื่อง Betaab ถูกถ่ายทำที่นี่ในปี 1983 และที่นี่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ยังเป็นสถานที่ตั้งแคมป์ของนักเดินทาง เนื่องจากยังทำหน้าที่เป็นค่ายฐานอีกด้วย

กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (เมืองพาฮาลแกม)
เดินทางสู่ พาฮาลแกม (Pahalgam) ใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง ระหว่างทางแวะจอดรถถ่ายรูปกับวิวทิวทัศน์ที่งดงาม จนหยุดกดชัตเตอร์ไม่ได้เลยทีเดียว นั่งเพลินๆแป๊ปเดียวก็ถึง ให้ท่านชมความสวยงามของพาฮาลแกม “หุบเขาแกะแห่งแคชเมียร์” สถานที่ถ่ายทำหนังสุดฮิตของอินเดีย! พาฮาลแกมมีแม่น้ำสายย่อยๆจะบรรจบรวมกันเป็น “แม่น้ำลิดดาร์” (Liddar) เป็นแม่น้ำสายสำคัญ และยังเป็นแหล่งปลูกหญ้าฝรั่น (Saffron) ที่ใหญ่ที่สุด

ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ โรงแรม
ที่พัก: DOWNTOWN SRINAGAR หรือเทียบเท่า (คืนที่ 4)

วันที่ 5
ศรีนาคา – เดลลี – ชัยปุระ B L D
เช้า บริการอาหารเช้าแบบกล่อง
08.35 น. ออกเดินทางสู่ เดลลี โดยสายการบิน SPICEJET เที่ยวบินที่ SG8471
10.15 น. เดินทางถึง สนามบินศรีนาคา รับกระเป๋าสัมภาระ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน (เดืองเดลลี)
ออกเดินทางสู่ เมืองชัยปุระ เมืองหลวงของรัฐราชสถาน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง…ก่อตั้งเมื่อ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1727 โดยมหาราชาสวาอี ชัยสิงห์ที่ 2 เจ้าครองนครอาเมร์ (Amer) ในปัจจุบันชัยปุระยังเป็นที่รู้จักกันดีในอินเดียว่า “นครสีชมพู” สาเหตุเนื่องมาจาก ในปี ค.ศ. 1876 ในรัชสมัยของมหาราชาสวาอี ราม สิงห์ (Sawai Ram Singh) ได้มีพระบัญชาให้ทาสีอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ในเมืองเป็นสีชมพูเพื่อเป็นการต้อนรับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ในคราที่เสด็จเยือนชัยปุระอย่างเป็นทางการ ซึ่งสีชมพูนั้นก็ยังคงไว้จนถึงปัจจุบันและได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของชัยปุระจนทุกวันนี้…นำท่านเช็คอิน สัญลักษณ์เมืองชัยปุระพระราชวังแห่งสายลม (Hawa Mahal) ถ่ายรูปด้านนอกเท่านั้น หนึ่งในหลายพระราชวังที่อยู่ในกำแพงเมืองของนครสีชมพูแห่งนี้ พระราชวังสายลมเคยเป็นฮาเร็มของมหาราชา มีลักษณะเป็นอาคาร 5 ชั้น สร้างด้วยหินทรายออกแดง รูปแบบของสถาปัตยกรรม สไตล์เปอร์เซียกับโมกุล ที่สวยเด่นคือลวดลายฉลุหินตามหน้าต่าง ช่องระบายอากาศที่บรรดา นางสนมในวังใช้เป็นที่แอบดูชีวิต ความเป็นอยู่ของสามัญชนทั่วไปด้านนอก และประโยชน์อีกอย่างคือเป็นช่องแสงและช่องลมมีช่องหน้าต่าง จำนวนมากถึง 152 ช่อง เลยทีเดียว….อุ่นเครื่องทักษะต่อรองราคาที่ ตลาดฮาวามาฮาล (Hawa Mahal Bazaar) มีทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือเครื่องประดับหลากหลากหลายแบบ ได้ตามอัธยาศัย หรือจะไปคาเฟ่เก๋ๆ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ชมวิวฮาวามาฮาลแบบสุดปังก็ยังได้
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก: RAMADA JAIPUR หรือเทียบเท่า (คืนที่ 5)

วันที่ 6
ชัยปุระ – อัครา B L D
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้น นำท่านไป แอมเบอร์ฟอร์ท (Amber fort) โดยการนั่งช้างขึ้นพระราชวัง เดิมเคยเป็นราชธานีของเมืองชัยปุระ สร้างที่เคยเป็นป้อมปราการเก่าในศตวรรษที่ 11 สร้างขึ้นโดยมหาราชาแมนสิงห์ ใน ปี ค.ศ. 1592 และเสร็จสิ้นในสมัยของมหาราชาใจสิงห์ ป้อมแห่งนี้เป็นต้นแบบที่ดีของสถาปัตยกรรมแบบราชปุต (Rajput) นอกจากนี้ในสมัยก่อนด้านล่างของป้อมยังเป็นทะเลสาบ จึงเป็นปราการสำคัญเพื่อป้องกันข้าศึกได้อีกชั้น ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของราชวงศ์กาญจวาหาอยู่หลายร้อยปี ก่อนมหาราชาสะหวายจัย ซิงห์ที่ 2 จะตัดสินใจย้ายลงไปสร้างเมืองใหม่ยังชัยปุระ….ภายในพระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท ประกอบด้วยพระตำหนักต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างในสมัยของมหาราชามาน ซิงห์ (Maharaja Man Singh) ในปี ค.ศ. 1592 และได้มีการขยายต่อเติมโดยมหาราชาองค์ต่อๆมา ช่วงนั้นจักรวรรดิโมกุลเข้ามามีอิทธิพลในดินแดนนี้จึงทำให้รูปแบบสถาปัตยกรรมภายในเป็นการผสมผสานระหว่างราชปุตกับโมกุล…ได้เวลาอันสมควรนำท่านนั่งรถจี๊บกลับ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม (บุฟเฟ่ต์)
นำท่านชม พระราชวังหลวงหรือพระราชวังซิตี้พาเลซ (City Palace) พระราชวังอันเป็นที่ประทับของมหาราชาแห่งชัยปุระ สร้างขึ้นในสมัยมหาราชาไสวจัยซิงห์ที่ 2 จากนั้นก็ได้รับการดูแลต่อเติมโดยมหาราชาของชัยปุระรุ่นต่อๆมา โดยสถาปัตยกรรมได้รับการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบ ราชปุตกับโมกุล โดยซิตี้พาเลซได้เปิดให้เข้าชมในนามของพิพิธภัณฑ์ไสวมานซิงห์ ภายในเขตพระราชฐานมีศาลาว่าราชการที่มหาราชาใช้ปรึกษางานกับข้าราชบริพาร ตั้งอยู่กลางผังพระราชวังและเหยือกเงิน (Silver Urms) แท้ๆ 2 ใบของมหาราชามัดโฮซิงห์ที่ 2 (Maharaja Madho Singh II) ซึ่งเหยือกสีเงินนี้จะวางอยู่ของประตูทางเข้า เหยือกนี้มีความสูงถึง 1.6 เมตร บรรจุน้ำได้ 900 ลิตร ในอดีตเคยถูกใช้บรรจุน้ำจากแม่น้ำคงคาเพื่อนำไปใช้ในพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7

นำท่านชม หอดูดาวจันทรามันตรา (Jantar Mantar observatory) อนุสรณ์สถานทางด้านดาราศาสตร์ที่สร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่ใกสร้างโดยมหาราชา ไสว สิงห์ที่ 2 (ค.ศ.1699 – 1743) ผู้มีความสามารถทางด้านดาราศาสตร์แห่งราชวงศ์โมกุล หอดูดาวจันทรามันตราเป็นหอดูดาวแห่งแรกและเป็น 1 ใน 5 หอดูดาวที่ทรงสร้างขึ้น มีสภาพสมบูรณ์และมีขนาดใหญ่ที่สุด หอดูดาวอีก 4 แห่งถูกสร้างขึ้นใน เมืองต่างๆ ดังนี้ กรุงนิวเดลี (Delhi) เมืองอุชเชน (Ujjain) เมืองพาราณสี (Varanasi) และ เมืองมธุรา (Matura) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
จากนั้น นำท่านเดินทางไป อัครา (Agra) ระยะทาง 238 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง แล้วแต่สภาพการจราจร อัครา อดีตเมืองหลวงอินเดียในสมัยที่ยังเรียกว่า “ฮินดูสถาน” เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในรัฐอุตตรประเทศ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา (Yomuna) มีโบราณสถานระดับมรดกโลกถึง 3 แห่ง ทัชมาฮาล(Taj Mahal) ป้อมอัครา (Akra Fort) ซึ่งโบราณสถานโมกุลทั้งสามแห่งนี้ได้ถูกยกขึ้นเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ UNESCO
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก: GRAND MECURE AGRA หรือเทียบเท่า (คืนที่ 6)

วันที่ 7
อัครา – เดลลี B L D
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านชม ทัชมาฮาล (TajMahal) ทัชมาฮาลคืออนุสรณ์สถานแห่งความรัก เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ มีขนาดใหญ่ถึง ประมาณ 107 ไร่ ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 22 ปี ทัชมาฮาลถูกสร้างขึ้นโดยความรักของสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮันที่มีต่อพระนางมุมตัซ มาฮาล พระมเหสีของพระองค์ เพื่อใช้เป็นอนุสาวรีย์ฝังศพของพระมเหสีนั่นเอง พระมเหสีมุมตัซสิ้นพระชนม์หลังจากให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้สมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮันโศกเศร้านานกว่าสองทศวรรษ ในทุกๆ วันพระองค์จะไปนั่งอยู่ข้างหลุมศพของพระมเหสี และด้วยความโศกเศร้านี้พระองค์จึงสละราชสมบัติเพื่อสร้างทัชมาฮาลนานกว่า 22 ปีเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของทั้งสองพระองค์
จากนั้น ชมพระราชวังอัคราฟอร์ด (Agra Fort) หรือ Red Fort ป้อมนี้สร้างจากหินทรายแดงเป็นมรดกอีกแห่งหนึ่งของอัคราตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ห่างจากทัชมาฮาลราว 2 กิโลเมตร เริ่มสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ในรัชสมัยของกษัตริย์อัคบาร์ และมีการก่อสร้างมาเรื่อยๆ จนถึงสมัยของพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน ผู้เป็นหลานชาย ภายในแบ่งเป็นพระราชวัง อาคาร ห้องหอ และมัสยิดจำนวนมาก บางหลังสร้างจากหินอ่อนล้วนๆ อีกด้วย ภายในป้องอัครามีโซนต่างๆ ให้เราได้ แวะ ชมมากมาย อาทิ ท้องพระโรงส่วนพระองค์ (Diwan-i-Khas) มัสยิดไข่มุก (Moti Masjid) พระราชวังกระจก (Sheesh Mahal) พระราชวังกัสมาฮาล (Khas Mahal) หอคอยหินอ่อนแปดเหลี่ยมสีขาว (Musamman Burj) ซึ่งเป็นสถานที่คุมขังสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮันหลังจากที่ถูกพระโอรสยึดพระราชบัลลังก์ โดยระเบียงจากห้องนี้เองที่สมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮันได้ใช้เวลาในช่วงสุดท้ายของชีวิตในการทอดพระเนตรไปยังทัชมาฮาลถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคตในปี ค.ศ. 1666
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม (บุฟเฟ่ต์)
นำท่านเดินทางไป เดลลี ระยะทาง 290 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง เดลี เมืองหลวงของประเทศอินเดีย ชื่ออย่างเป็นทางการ ดินแดนเมืองหลวงแห่งชาติเดลี (National Capital Territory of Delhi) ย่อว่า เอ็นซีที (NCT) เป็นนครและดินแดนสหภาพของประเทศอินเดีย ประกอบด้วยนิวเดลี เมืองหลวงของประเทศอินเดีย อาณาเขตของเดลีติดต่อกับรัฐหรยาณาทั้งสามด้าน มีการตั้งถิ่นฐานอาศัยในพื้นที่ของเดลีมาตั้งแต่ 600 ปีก่อนคริสตกาลตลอดระยะเวลาในประวัติศาสตร์ของเดลี เดลีได้เป็นเมืองหลวงของหลายอาณาจักรและจักรวรรดิ ที่โดดเด่นที่สุดคือรัฐสุลต่านเดลี และจักรวรรดิโมกุล

ผ่านชมประตูเมืองอินเดีย (Indian Gate) ใช้เป็นอนุสาวรีย์ของทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง จุดไฟ อมรชีวินบูชาวิญญาณนักรบไม่เคยดับ ตั้งแต่ พ.ศ.2474 (ค.ศ. 1931) จวบจนปัจจุบัน มีชื่อจารึกไว้ที่แผ่นหิน 85,000 ชื่อ นำท่านผ่านชมราชปาติภาวัน (Rashtrapati Bhavan) ทำเนียบรัฐบาล ที่ก่อสร้างด้วยหินทรายรูปร่างผสมแบบอังกฤษและโมกุล นำท่าน ช้อปปิ้งที่ ตลาดจันปาร์ต Janpath Market สินค้าพื้นเมืองของประเทศอินเดียที่มาทั่วสารทิศ…ที่นี่คุณจะได้รับที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดของถนนช้อปปิ้ง
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
ที่พัก RADISSON BLU DWARKA หรือเทียบเท่า (คืนที่ 6)
วันที่ 8
เดลลี – กรุงเทพฯ B – –
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
11.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ ฯ โดยสายการบิน THAI AIRWAYS เที่ยวบินที่ TG324
17.35 น. เดินทางถึง…ท่าอากาศสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
ทัวร์อินเดีย