1718431631

ทัวร์ญี่ปุ่น HOKKAIDO WINTER HAKODATE OTARU 6D 4N (TG)

ราคาเริ่มต้น 61,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: tg

นำท่านนั่ง กระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเขาฮาโกดาเตะ (Mt.Hakodate Ropeway) (รวมค่ากระเช้า) ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองฮาโกดาเตะ (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) ขึ้นไปจุดชมวิวที่จะเห็นทัศนียภาพที่สวยที่สุดของเมือง ที่มีน้ำทะเลขนาบอยู่ทั้ง 2 ด้าน เป็นคอคอดกระ เมื่อยามค่ำคืนบ้านเรือนและถนนหนทางจะเปิดไฟจึงทำให้เห็นแสงระยิบระยับและยังถือเป็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันงดงามของญี่ปุ่น (โดยอีกสองแห่งคือ ภูเขาอินาสะ เมืองนางาซากิ กับ ภูเขาร็อคโกะ เมืองโกเบ)

วันที่เดินทาง

3 ธ.ค. 67 – 8 ธ.ค. 67, 10 ธ.ค. 67 – 15 ธ.ค. 67

ทัวร์ญี่ปุ่น
วันแรก
กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) – ซัปโปโร (สนามบินชิโตเสะ)
(TG670 : 23.55-08.20+1)
22.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตูหมายเลข 10 เคาน์เตอร์ U สายการบินไทย เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ
23.55 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG670
(สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
วันที่สอง ซัปโปโร (สนามบินชิโตเซะ) – โนโบริเบทสึ – หุบเขานรกจิโกกุดานิ –นั่งกระเช้าชมวิว เมืองฮาโกดาเตะ(รวมค่ากระเช้า) – แช่น้ำแร่ธรรมชาติ
08.20 น. เดินทางถึง สนามบินชิโตเซะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว (สำคัญมาก!! ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโนโบริเบทสึ เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเกาะฮอกไกโด ชม หุบเขานรกจิโกกุดานิ (Jigokudani) หรือเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya เมือง Noboribetsu ที่เรียกว่าหุบเขานรกนั้น เพราะที่นี่มีทั้งบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนที่เดือดตามธรรมชาติกระจายไปทั่วบริเวณที่มีควันร้อน ๆ พวยพุ่งขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา และถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซ็นที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด ทางเข้าหุบเขาจะมีสัญลักษณ์เป็นยักษ์สีแดงตัวใหญ่ถือตะบองคอยต้อนรับเป็นยักษ์ที่คอยคุ้มกันภัยให้ผู้มาเยือนดังนั้นทุกบริเวณพื้นที่ของที่นี่ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่ระลึกห้องน้ำจะมีป้ายต่าง ๆ ที่มีสัญลักษณ์รูปยักษ์ให้เห็นโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 1)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ตอนใต้สุดของเกาะฮอกไกโด เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของเกาะ เมื่อครั้งอดีตได้เป็นเมืองท่าที่มีการค้าขายกับชาวต่างชาติฝั่งตะวันตก ซึ่งทำให้วัฒนธรรมตะวันตกได้เข้ามามีบทบาทในเมือง ซึ่งเราจะพบเห็นได้จากโบสถ์คริสต์ ร้านอาหาร อาคารบ้านเรือนเก่าแบบตะวันตกที่ตั้งอยู่ริมเนินเขา อาคารอิฐแดงโกดังเก่าริมท่าเรือ ถนนหนทางที่กว้าง รถรางเก่าและทางเดินเท้าที่ปูด้วยหิน ประกอบกับเพลงที่เปิดทางเสียงตามสายให้ได้ยินทั่วเมือง เสริมบรรยากาศให้ฮาโกดาเตะเป็นเมืองที่สวยที่สุดแสนโรแมนติก

นำท่านนั่ง กระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเขาฮาโกดาเตะ (Mt.Hakodate Ropeway) (รวมค่ากระเช้า) ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองฮาโกดาเตะ (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) ขึ้นไปจุดชมวิวที่จะเห็นทัศนียภาพที่สวยที่สุดของเมือง ที่มีน้ำทะเลขนาบอยู่ทั้ง 2 ด้าน เป็นคอคอดกระ เมื่อยามค่ำคืนบ้านเรือนและถนนหนทางจะเปิดไฟจึงทำให้เห็นแสงระยิบระยับและยังถือเป็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันงดงามของญี่ปุ่น (โดยอีกสองแห่งคือ ภูเขาอินาสะ เมืองนางาซากิ กับ ภูเขาร็อคโกะ เมืองโกเบ)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2)
ที่พัก HOKODATE HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว [♨] ผ่อนคลายกับการแช่ออนเซ็นจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น

วันที่สาม ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ – โกดังอิฐแดง – ภูเขาโชวะชินซัง – กระเช้า Mt.Usu Ropeway(รวมค่ากระเช้า) – โทยะ – ทะเลสาบโทยะ – น้ำแร่ธรรมชาติ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market) ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อเลือกชมอาหารทะเลขึ้นชื่อของเกาะฮอกไกโด ไม่ว่าจะเป็นปูหลายหลายชนิด ปลาแซลมอน ปลาหมึก ไข่หอยเม่น กุ้ง ที่มีทั้งแบบสดและแบบแห้งหรือจะเป็นผลไม้ขึ้นชื่อตามฤดูกาลและผักพื้นเมืองหลากหลายชนิด

นำชม โกดังอิฐแดง หรือ โกดังคานะโมริ (Kanamori Soko) สัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของฮาโกะดาเตะ โกดังเก็บสินค้าของเมือง แม้อาคารที่เห็นจะเป็นอาคารใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนอาคารหลังเก่า ซึ่งถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่เผาทำลายไปเมื่อปี 1970 แต่ยังคงเอกลักษณ์และความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม

ชมภูเขาไฟโชวะซินซัน (Showa Shinzan) ซึ่งมีอนุสาวรีย์บุรุษไปรษณีย์ผู้ค้นพบความเคลื่อนไหวและการเกิดขึ้นมาใหม่ของภูเขาไฟเกิดใหม่ประมาณปี ค.ศ.1944 -1945 ภูเขาไฟน้องใหม่ที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของผิวโลกในปี 1946 ซึ่งระเบิดปะทุติดต่อกันนานถึง 2 ปีจนกลายมาเป็นภูเขาโชวะชินซัน ดังที่เห็นอยู่ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของรัฐบาลในฐานะเป็น “อนุสรณ์ทางธรรมชาติแห่งพิเศษ”
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 4)

กระเช้าอุสุซัง (Mt.Usu Ropeway) (รวมค่ากระเช้า) ขึ้นสู่ยอดเขาไฟอุสุ บนยอดเขาไฟอุสุมี ‘Mt.USU Terrace’ ที่สามารถจิบเครื่องดื่มพร้อมชมวิวทะเลสาบโทยะ นอกจากนี้ยังมีที่นั่งโซฟาเพื่อให้ท่านได้ผ่อนคลายที่ดาดฟ้าและชมธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์

นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบโทยะ เป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของญี่ปุ่น ภายในทะเลสาบมีเกาะถึง 4 เกาะ มีทัศนียภาพที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัน ทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำจะไม่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว กลางทะเลสาบมีเกาะเล็กๆอยู่ตรงกลาง คือ เกาะนากาจิมะ(Nakajima Island) สามารถลงไปเดินเล่นได้ (ยกเว้นฤดูหนาว) และเมื่อครั้งอดีต ในวันที่ 7-9 ก.ค. 2008 เหล่าผู้นำ G8 ก็ได้เลือกเป็นที่จัดการประชุม โดยพักกันที่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ทะเลสาบแห่งนี้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 5)
ที่พัก TOYA ONSEN HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว [♨] ผ่อนคลายกับการแช่ออนเซ็นจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น
วันที่สี่ เมืองเคียวโกคุ – สัมผัสน้ำแร่ธรรมชาติ ณ สวนฟูกิดาชิ – เมืองโอตารุ – คลองโอตารุ – พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี – ร้าน Duty free – ช้อปปิ้งถนนทานุกิโคจิ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6)
เมืองเคียวโกคุ ตั้งอยู่ทิศตะวันตกของฮอกไกโด ซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กบนทางตะวันออกของภูเขา Yotei ด้วยประชากรประมาณ 3,500 คน มันเป็นสถานที่ๆงดงามเพื่อเพลิดเพลินกับทิวทัศน์และน้ำบริสุทธิ์และมีนักท่องเที่ยว 800,000 คนต่อปี
สัมผัสน้ำแร่ธรรมชาติ ณ สวนฟูกิดาชิ (Fukidashi) เมือง เคียวโกคุเป็นสวนที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชื่นชอบทุกช่วงอายุสำหรับน้ำในบ่อน้ำพุที่อร่อยและได้รับเลือกจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมให้เป็นหนึ่งในร้อยน้ำที่บริสุทธิ์ในญี่ปุ่น บ่อน้ำพุเกิดจากน้ำฝนและหิมะที่ไหลอยู่บนภูเขาYotei ในหลายศตวรรษและเป็นบ่อน้ำพุทางธรรมชาติอย่างแท้จริง อุณหภูมิจะอยู่ที่ 6 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี โดยอุดมไปด้วยแร่ธาตุ
เดินทางสู่ เมืองโอตารุ (Otaru) เมืองโรแมนติคของเกาะฮอกไกโด ที่ควบคู่ไปกับความเก่าแก่และความสำคัญทางประวัติศาสตร์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 7)

คลองโอตารุ (Otaru Canal) ที่มีความยาว 1,140 เมตร และเชื่อมต่อกับอ่าวโอตารุ ซึ่งในสมัยก่อนประมาณ ค.ศ.1920 ที่ยุคอุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือเฟื่องฟู คลองแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นเส้นทางในการขนส่งสินค้าจากคลังสินค้าในตัวเมืองโอตารุ ออกไปยังท่าเรือบริเวณปากอ่าวให้ท่านเดินเล่น พร้อมถ่ายรูปอัธยาศัย กับอาคารเก่าแก่ริมคลองและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี อาคารเก่าแก่สองชั้นที่ภายนอกถูกสร้างขึ้นจากอิฐแดง แต่โครงสร้างภายในทำด้วยไม้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1910 ปัจจุบันนับเป็นมรดกทางสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่และควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้เป็นสมบัติของชาติ
ร้านดิวตี้ฟรี (Duty Free) จำหน่ายของฝากของที่ระลึกปลอดภาษี ที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซัปโปโร ภายในมีสินค้าลดราคามากมาย ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าภายในร้าน เช่นขนม เครื่องสำอาง ของที่ระลึก และสินค้าอื่นๆอีกมากมาย

ช้อปปิ้ง ถนนทานุกิโคจิ (Tanukikoji) เป็นย่านช้อปปิ้งเก่าแก่ ที่เปิดให้บริการยาวนานกว่า 100 ปี จุดเด่นของย่านนี้คือการสร้างหลังคาที่คลุมทั่วตลาด ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก พายุหิมะ เข้าก็สามารถมาเดินช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ยังมีร้านค้ามากถึง 200 ร้าน โดยมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตรส่วนสินค้าก็มีทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าแบรนด์ ดังอย่าง Uniqlo, New Balance, Adidas, Puma เป็นต้น และที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือร้าน Daiso ที่ทุกอย่างราคา 100 เยน รวมไปถึงร้าน Donkiที่มีขายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าไปถึงเครื่องสำอางค์ในราคาที่ถูกจนน่าตกใจหรือถ้าเดินจนหมดแรงที่นี่ก็มีร้านอาหารดังๆหลายร้านคอยให้บริการอยู่ด้วย
เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว
วันที่ห้า ผ่านชมหอนาฬิกาซัปโปโร – ศาลเจ้าฮอกไกโด – โรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะ – MUTSUI OUTLET PARK SAPPORO – เนินเขาแห่งพระพุทธเจ้า – โมอายแห่งเมืองฮอกไกโด – พิเศษบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ขาปูยักษ์ เนื้อวากิว และเครื่องดื่ม Soft Drink
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 8)
ผ่านชม หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower ) ตั้งอยุ่ท่ามกลางกลุ่มตึกสูงสมัยใหม่ เป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่มากและเป็นอีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองซัปโปโรอีกแห่งหนึ่ง สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2421 เดิมทีเป็นโรงฝึกงานของมหาวิทยาลัยฮอกไกโดแต่ได้ปรับเปลี่ยนสร้างเป็นหอนาฬิกาและมีระฆังตีบอกเวลาตั้งแต่ พ.ศ.2424 จนถึงปัจจุบันก็ยังสามารถบอกเวลาได้อยู่ และด้วยความเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองซัปโปโรมานานจึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองซัปโปโร

นำท่านเดินทางสู่ ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido shrine) ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ซัปโปโร เป็นศาลเจ้าศาสนาพุทธนิกายชินโตถือเป็นศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่งในเกาะฮอกไกโด ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1871 ในปัจจุบันก็ยังคงมีความเกี่ยวข้องผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวฮอกไกโดอย่างลึกซึ้ง เริ่มตั้งแต่การมาสักการะในวันปีใหม่ การปัดเป่ารังควาญ วันเซ็ตสึบุน พิธีสมรสและอื่น ๆ เป็นต้น ในเขตศาลเจ้าที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีกระรอกป่ามาเยี่ยมทักทาย
แวะซื้อของฝากที่ โรงงานช็อคโกแลตอิชิยะ (Shiroi Koibito Park) แหล่งผลิตช็อคโกแลตที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ตัวอาคารของโรงงานถูกสร้างขึ้นในสไตล์ยุโรปแวดล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ ซึ่งมีช็อคโกแลตที่ขึ้นชื่อที่สุดของที่นี้ คือ Shiroi Koibito ซึ่งมีความหมายว่า ช็อคโกแลตขาวแด่คนรัก ท่านสามารถเลือกซื้อกลับไปให้คนที่ท่านรักทานหรือว่าซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านได้

นำท่านช้อปปิ้ง MITSUI OUTLET PARK SAPPORO เป็นห้างสรรพสินค้ารูปแบบ Outlet mall ขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ตั้งอยู่ที่เมือง Kita-Hiroshima ชานเมืองทิศตะวันออกซัปโปโร ใกล้เส้นทางที่ไปยัง สนามบินชิโตเซะ เปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายน ปี 2012 ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์ต่าง ๆ กว่า 128 ร้าน รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์อาหารขนาดใหญ่จุ 650 ที่นั่ง และร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าจากฟาร์มท้องถิ่นประจำจังหวัดฮอกไกโด
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

เนินแห่งพระพุทธเจ้า หรือ Hill of the Buddha ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองซัปโปโร ที่ถูกออกแบบโดย Mr.Tadao ando สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น พระพุทธรูปมีความสูงถึง 13.5 เมตร และมีน้ำหนักมากถึง 1500 ตัน ล้อมรอบด้วยธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดู นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆเรียกได้ว่าเป็น Unseen Hokkaido เลยทีเดียว จากนั้นนำท่านชม โมอายแห่งเมืองฮอกไกโด สร้างขึ้นในปี 1982 มีเนื้อที่ทั้งหมด 1,8000,473 ตารางเมตร ด้านในมีรูปปั้นหินโมอายขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 9)
พิเศษบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ขาปูยักษ์ เนื้อวากิวพรีเมี่ยม หอยเชลล์ ชาชิมิ ของหวาน ผลไม้ และเครื่องดื่ม Soft Drink

ที่พัก SAPPORO HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 3 ดาว
วันที่หก ซัปโปโร (สนามบินชิโตเสะ) – กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
(TG671 : 10.00-15.50)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม หรือ SET BOX (มื้อที่ 10)
นำท่านเช็คเอาท์และตรวจสอบสัมภาระก่อนเดินทางไปยัง สนามบินชิโตเสะ
ถึง สนามบินชิโตเสะ ทำการเช็คอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระ
10.00 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG671
(สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
15.50 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ
ทัวร์ญี่ปุ่น