ทัวร์ญี่ปุ่น

วันที่ 1
กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) (–/–/–)
22.00 คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพฯ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ชั้น3 เคาน์เตอร์เช็คอิน เคาน์เตอร์สายการบิน AIR ASIA X โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกตลอดขั้นตอนการเช็คอิน และ หัวหน้าทัวร์ให้คำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง
**กรุณาเผื่อเวลาในการเดินทางมายังสนามบินอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเช็คอิน**
ข้อควรทราบ : ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืน จะมีโทษปรับและจับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ศุลกากร ด่านตรวจคนเข้าเมือง

วันที่ 2
ฮอกไกโด – เมืองโนโบริเบทสึ – หุบเขานรกจิโกคุดานิ (–/L/D)
02.05 ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติชิโตเสะ เมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน สายการบิน AIR ASIA X เที่ยวบินที่ XJ620
10.40 เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติชิโตเสะ เมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น (ตามเวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเมืองไทยประมาณ 2 ชั่วโมง) หลังผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทาง และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโนโบริเบ็ตสึ (NOBORIBETSU) เป็นเมืองในกิ่งจังหวัดอิบุริ ในจังหวัดฮอกไกโด ของประเทศญี่ปุ่น จัดตั้งในฐานะตำบล เมื่อ ค.ศ. 1961 ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครซัปโปโร โดยที่นี่เป็นหนึ่งในรีสอร์ทที่มีชื่อเสียมากในประเทศญี่ปุ่น และถือเป็น “เมืองน้ำพุร้อน” ที่ใหญ่ที่สุดในในฮอกไกโด
เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำทุกท่านสู่ หุบเขานรกจิโงคุดานิ (JIGOKUDANI NOBORIBETSU) หรือมีอีกชื่อหนึ่งที่เป็นฉายาที่ได้รับการขนานนามว่า “HELL VALLEY”ตั้งอยู่เหนือย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ (NOBORIBETSU HOT SPRINGS) เรียกได้ว่าเป็นหุบเขาที่มีความงดงาม อีกทั้ง น้ำร้อนในลำธารของหุบเขาแห่งนี้มีแร่ธาตุกำมะถัน ซึ่งก็เป็นแหล่งต้นน้ำของย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ โดยคนที่ชื่นชอบการผจญภัย จะมีเส้นทางตามหุบเขาสามารถเดินไต่ขึ้นเนินไปเรื่อยๆประมาณ 20-30 นาที สิ่งแรกที่จะเห็นก็จะเป็นบ่อโอยุนุมะ (OYUNUMA) ซึ่งบ่อนี้เป็นบ่อน้ำร้อนกำมะถัน อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส จะมีบ่อน้ำร้อนอยู่ตลอดทาง จะเป็นบ่อเล็กๆ บางบ่อมีอุณหภูมิที่ร้อนกว่า และยังมีบ่อโคลนอีกด้วย น้ำที่ไหลออกจากบ่อโอยุนุมะ เป็นลำธารเรียกว่า “โอยุนุมะกาว่า (OYUNUMAGAWA)” ซึ่งไหลผ่านป่าเป็นแม่น้ำหลายร้อยเมตร สามารถนั่งเพลินพร้อมแช่เท้าท่ามกลางทัศนียภาพกันงดงามตระการตาของธรรมชาติ ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีประมาณกลางเดือนตุลาคมของทุกปี ต้นไม้ที่อยู่รายล้อมก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดงๆส้มๆทั่วทั้งพื้นที่
ค่ำ บริการอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม
ที่พัก TOYA KANKO HOTEL, TOYA หรือเทียบเท่า
จากนั้น อิสระให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำแร่ ออนเซ็นธรรมชาติ ซึ่งชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าหากได้แช่น้ำแร่ออนเซ็น ธรรมชาตินี้แล้ว จะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สวยงาม และช่วยให้ระบบการหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น
วันที่ 3
นั่งกระเช้าไฟฟ้าสู่ภูเขาไฟอุสุซาน – สวนหมีโชวะชินซัง – เมืองโจซังเค – สะพานแขวนฟูตามิ – เมืองซัปโปโร – HOKKAIDO UNIVERSITY (B/L/D)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำทุกท่าน นั่งกระเช้าไฟฟ้าสู่ภูเขาไฟอุสุซาน (USUZAN) เป็นภูเขาไฟที่ทำให้เกิดทะเลสาปโทยะขึ้นมา จากหลักฐานพบว่า ภูเขาไฟลูกนี้มีการปะทุขึ้นมาทุกๆ 20-50 ปี ดังนั้นจึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภุมิทัศน์ของพื้นที่แถบนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการปะทุไปเมื่อปี พ.ศ. 2543 บนยอดเขาจะเห็นปากปล่องภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นมีควันสีขาวลอยขึ้นมาตลอดเวลา (ขอสงวนสิทธิ์ในกรณียกเลิก ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

จากนั้นนำท่านสู่ สวนหมีโชวะชินซัง (SHOWA SHINZAN BEAR PARK) เพื่อชมความน่ารักฉลาดแสนรู้ของหมีสีน้ำตาลนับ 100 ตัว ที่ใกล้สูญพันธุ์และหาดูได้ยาก ในญี่ปุ่นนี้จะพบเฉพาะบนเกาะฮอกไกโดเท่านั้น ชาวไอนุเชื่อกันว่าหมีสีน้ำตาลนี่ถือเป็นสัตว์เทพเจ้าของพวกเขาอีกด้วย อิสระให้ท่านชม จุดชมวิวไซโร ความสวยงามของเมืองฮาโกดาเตะยามค่ำคืน ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกัน เมื่อท่านยืนอยู่บนจุดชมวิวท่านสามารถมองเห็นทะเลสาปโทยาโกะทั้งหมด ทะเลสาบกลางน้ำที่โอบล้อมด้วยภูเขา (ไม่รวมค่าเข้า)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโจซังเค เป็นเมืองที่มีแหล่งออนเซ็นขึ้นชื่อที่สุดในฮอกไกโด เพราะไม่ไกลจากซัปโปโร มีที่พักสวยงามท่ามกลางธรรมชาติ โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ผู้คนจะนิยมไปเดินเขาชมธรรมชาติกันอย่างคับคั่ง นำท่าน ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สะพานแขวนฟูตามิซึ่งเป็นสะพานสีแดงสด ถูกสร้างเป็นทางข้ามแม่น้ำโทโยฮิระ ซึ่งล้อมรอบด้วยธรรมชาติอย่างแท้จริง ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ถือว่า ติด 1 ใน 5 สถานที่ยอดฮิตที่สุดในการดูใบไม้เปลี่ยนของเกาะฮอกไกโด (การเปลี่ยนสีของใบไม้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)

เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำทุกท่านไปยัง เมืองซัปโปโร (SAPPORO) เป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของจังหวัดฮอกไกโด (HOKKAIDO) ซึ่งตั้งอยู่ตอนเหนือสุดของญี่ปุ่น เป็นเมืองใหญ่ของฮอกไกโด ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และอาหารอร่อยหลากหลายในแต่ละฤดูกาล
นำทุกท่านสู่ มหาวิทยาลัยฮอกไกโด (HOKKAIDO UNIVERSITY) เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุด ใหญ่ที่สุด เป็นที่ยอมรับที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีจำนวนสาขาวิชามากที่สุดในมหาวิทยาลัยรัฐบาลในญี่ปุ่น มีหลักสูตรที่ครอบคลุมทั้งด้านมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ นอกจากนั้นยังเป็นผู้นำในด้านการวิจัยทั้งในญี่ปุ่นเอง และระดับโลก ศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยฮอกไกโด มีทั้งผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล ผู้นำทางธุรกิจ นักวิจัย นักแสดง และนักเขียน มีระบบการศึกษาที่หลากหลาย มีเครื่องมือและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการทำวิจัยที่มีคุณภาพระดับโลก
ค่ำ บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร บุฟเฟต์ขาปู 3 ชนิด
– ปูทาราบะ หรือ KING CRAB คือปูขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในทะเลน้ำลึกอากาศหนาวจัด จับได้ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น เนื้อแน่น หวาน ขายาวและมีเนื้อมาก ทำให้ได้ชื่อว่าเป็น ราชาแห่งปู
– ปูซูไวหรือปูหิมะ ได้ชื่อว่าเป็นรสชาติแห่งฤดูหนาวเพราะเป็นช่วงที่ปูซูไวจะรสชาติดีที่สุด
– ปูขนหรือเคะกานิ มีขนหรือหนามเล็กๆ ปกคลุมทั่วตัว เนื้อน้อยกว่าแต่รสชาติหวานชุ่มฉ่ำ
** ประเภทของปูอาจเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงประเภท โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า **
พักที่ HOTEL ABEST SAPPORO, SAPPORO หรือเทียบเท่า

วันที่ 4
DUTY FREE – เนินพระพุทธเจ้า – คลองโอตารุ – พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี– ถนนคนเดินทานุกิ (B/L/–)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ร้านค้าปลอดภาษีดิวตี้ฟรี ช้อปปิ้งสินค้าเครื่องสำอาง อาหารเสริม เครื่องประดับคุณภาพดี
นำทุกท่านไปยัง เนินแห่งพระพุทธเจ้า (HILL OF THE BUDDHA) ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโรทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น เป็นผลงานการสร้างชิ้นเอกอีกชิ้นหนึ่งของทาดาโอะ อันโดะ สถาปนิกชาวญี่ปุ่น โดยมีลักษณะเป็นเนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูปมีความสูงมากถึง 13.5 เมตรและมีน้ำหนัก 1500 ตัน พื้นที่ที่ล้อมรอบจะค่อยๆลาดลง อีกทั้งรายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม อีกจุดหนึ่งที่พลาดไม่ได้นั่นคือการเดินลอดไปตามอุโมงค์ที่มาความยาว 40 เมตร เมื่อเดินไปจนถึงจุดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่อยู่บริเวณปลายทางของอุโมงค์แล้วมองย้อนขึ้นไป จะมองเห็นเหมือนมีแสงสะท้อนอยู่รอบๆองค์พระพุทธรูปเปรียบเสมือนรัศมีแสงแห่งฟ้า ซึ่งไม่สามารถมองได้จากทางด้านนอก นับว่าเป็นอีกหนึ่ง UNSEEN HOKKAIDO เป็นสถานที่ที่มีความมหัศจรรย์และคุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับการมาเยือน

นำทุกท่านต่อไปยัง เมืองโอตารุ โอตารุเป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร และบางส่วนของเมืองตั้งอยู่บนที่ลาดต่ำของภูเขาเท็งงุ ซึ่งเป็นแหล่งสกีและกีฬาฤดูหนาวที่มีชื่อเสียง คลองโอตารุ หรือ โอตารุอุนงะ มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก คลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีกครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตร

เที่ยง บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ซึ่งมีอายุเกือบร้อยปี ท่านสามารถชมกล่องดนตรีในรูปแบบต่างๆ สวยงามมากมายที่ถูกสะสมมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังสามารถเลือกคิดแบบทำกล่องดนตรีในสไตล์ของตัวเองขึ้นมาเป็นที่ระลึกหรือเป็นของฝากให้คนรักได้อีกด้วย

ช้อปปิ้ง ย่านเก่าทานุกิโคจิ (TANUKIKOJI OLD TOWN) เป็นแหล่งช้อปปิ้งอาเขตบนถนนคนเดินที่ มีหลังคามุงบังแดดบังฝนและหิมะ มีความยาว 7 บล็อกถนน มีร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่กว่า 200 ร้านค้าตั้งขวางในแนวตะวันออก-ตะวันตกอยู่ระหว่างสถานี SUBWAY ODORI และ SUSUKIN

ค่ำ อิสระอาหารค่ำเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว
พักที่ HOTEL ABEST SAPPORO, SAPPORO หรือเทียบเท่า

วันที่ 5
อิสระท่องเที่ยวตามอัธยาศัย (B/–/–)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม
สวนสาธารณะโอโดริ(ODORI PARK) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร แบบว่าถ้ามาถึงบริเวณกลางเมืองแล้วเห็นแน่ๆเพราะมันโดดเด่นมากๆเลยล่ะค่ะ ซึ่งแยกเมืองออกเป็นสองฝั่ง คือทางทิศเหนือและทิศใต้ มีที่จอดรถกว้างประมาณกิโลมตรครึ่ง กินพื้นที่ถึง 12 บล็อกของเมืองนี้ทีเดียว
หอนาฬิกาซัปโปโร (SAPPORO CLOCK TOWER) เป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่มากและเป็นอีกสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองซัปโปโรอีกแห่งหนึ่ง สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2421 เดิมทีเป็นโรงฝึกงานของมหาวิทยาลัย ฮอกไกโด แต่ได้ปรับเปลี่ยนสร้างเป็นหอนาฬิกาและมีระฆังตีบอกเวลาตั้งแต่ พ.ศ.2424 จนถึงปัจจุบันก็ยังสามารถบอกเวลาได้อยู่ และด้วยความเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเมืองซัปโปโรมานานจึงได้รับการขึ้นทะเบียน ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
ศาลเจ้าฮอกไกโด เปลี่ยนเพื่อให้สมกับความยิ่งใหญ่ของเกาะฮอกไกโด ศาลเจ้าชินโตนี้คอยปกปักษ์รักษา ให้ชนชาวเกาะฮอกไกโดมีความสงบสุขถึงแม้จะไม่ได้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเก่าแก่นับพันปีดังเช่นภูมิภาคคันโต แต่ที่นี่ก็เป็นที่สำหรับให้คนท้องถิ่นได้กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ ณ ศาลเจ้าแห่งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจสืบไป
ตลาดปลานิโจ (NIJO FISH MARKET) อยู่ในเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด เป็นตลาดสดที่คึกคักไปด้วยผู้คนแทบทุกวัน เพราะมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศไปเยือนเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่านอกจากร้านขายอาหารทะเลสด และร้านขายผักผลไม้ ยังมีร้านขายของฝาก ร้านอาหารต่างๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของตลาดนิโจ ที่สามารถเพลิดเพลินกับหลายสิ่งหลายอย่างได้
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร โรงหมักเบียร์ผลิตเบียร์คุณภาพเยี่ยมมาตั้งแต่ปีค.ศ.1877อีกศตวรรษให้หลังก็มีการเปิดพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโรขึ้นในปีค.ศ. 1987 และเป็นการสนับสนุนการผลิตเบียร์อีกด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นอาคารใหญ่ เดิมสร้างจากอิฐสวยงาม และได้บูรณะทั้งอาคารไปเมื่อปีค.ศ. 2016 ข้างพิพิธภัณฑ์นั้นคือซัปโปโรเบียร์การ์เด้นซึ่งมีบรรยากาศดีไม่แพ้กัน คุณสามารถดื่มเบียร์สดพร้อมทานเนื้อและอาหารสุดประณีตของฮอกไกโดได้ในโรงเบียร์ขนาดใหญ่ มองไปแล้วไม่ต่างกับงานอ็อกโทเบอร์เฟสต์เลยทีเดียว
กลางวัน-ค่ำ อิสระอาหารเพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว
พักที่ HOTEL ABEST SAPPORO, SAPPORO หรือเทียบเท่า

วันที่ 6
ฮอกไกโด – กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) (B/–/–)
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติชิโตเสะ เมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
11.55 ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสายการบิน AIR ASIA X เที่ยวบินที่ XJ621 ** ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงไฟล์ทบินและสายการบิน**
17.50 เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

ทัวร์ญี่ปุ่น