TOP251

ทัวร์ญี่ปุ่น GRAND YAMAGUCHI HIROSHIMA 6D4N (FD)

ราคาเริ่มต้น 38,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: AirAsia

อุทยานแห่งชาติอาคิโยชิดะ(Akiyoshidai) ตั้งอยู่ในเมืองมิเนะ(Mi-Ne) จังหวัดยามากูจิ(Yamaguchi) นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ล้ำค่ามากๆภายในอุทยานนี้มีถ้ำหินปูนกว่า 400 ถ้ำถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่นั่นก็คือ ถ้ำหินปูนอากิโยชิโด(Akiyoshido)  สามารถเข้าได้ 3 ทาง คือ 1.ทางเข้า Akiyoshido 2.ทางเข้า Kurotani 3.ทางลิฟท์ Akiyoshido

วันที่เดินทาง

พฤษภาคม 67 – สิงหาคม 67

ทัวร์ญี่ปุ่น

จุดชมวิวชิโมโนะเซกิ เป็นนครในจังหวัดยามางูจิ ประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางปลายทิศตะวันตกเฉียงใต้สุดของเกาะฮนชูติดกับช่องแคบสึชิมะ และอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับเมืองคิตะกีวชู จังหวัดฟูกูโอกะ โดยมีช่องแคบคัมมงกั้นระหว่างกัน มีขนาดพื้นที่ทั้งสิ้น 716.14 ตารางกิโลเมตร ในปี พ.ศ. 2553 มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 280,386 คน

นำท่านเดินทางสู่ ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ อินาริ (Motonosumi Inari) มีชื่อเสียงในเรื่องเสาโทริอิสีแดง และยังเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีกล่องรับเงินบริจาคสุดท้าทายให้คุณโยนเหรียญทำบุญอีกด้วยศาลเจ้า Motonosumi Inari ในเมือง Nagato จังหวัด Yamaguchi หันหน้าเข้าหาทะเลญี่ปุ่น ศาลแห่งนี้มีวิวอันสวยงาม ทั้งเสาโทริอิสีแดงที่เรียงราย ทะเลใสสีน้ำเงิน และพืชพันธุ์เขียวขจีศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประทับของดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ที่แยกออกจากศาลเจ้า Taikodani Inari ในจังหวัดชิมาเนะ เมื่อประมาณ 60 ปีก่อน เล่ากันว่าเทพเจ้าแปลงกายเป็นสุนัขจิ้งจอกสีขาวไปปรากฏกายในฝันของชาวประมงคนหนึ่งเพื่อบอกให้ตั้งศาลเจ้าในพื้นที่นี้
อุทยานแห่งชาติอาคิโยชิดะ(Akiyoshidai) ตั้งอยู่ในเมืองมิเนะ(Mi-Ne) จังหวัดยามากูจิ(Yamaguchi) นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ล้ำค่ามากๆภายในอุทยานนี้มีถ้ำหินปูนกว่า 400 ถ้ำถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่นั่นก็คือ ถ้ำหินปูนอากิโยชิโด(Akiyoshido) สามารถเข้าได้ 3 ทาง คือ 1.ทางเข้า Akiyoshido 2.ทางเข้า Kurotani 3.ทางลิฟท์ Akiyoshido
นำท่านเดินทางสู่ สะพานคินไตเคียว (KINTAI BRIDGE) หรือสะพาน 5 โค้ง เป็นสะพานไม้ที่สร้างโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ซึ่งจะใช้สลักไม้แทนมีหมุดเหล็กเหมือนตะปู สะพานนี้มีรูปร่างแตกต่างจากสะพานทั่วไป และได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 สะพานที่มีชื่อเสียงสุดในญี่ปุ่น ในสมัยโบราณเป็นเส้นทางข้ามแม่น้ำของเหล่านินจา จากมุมของตัวสะพาน เราสามารถมองเห็นปราสาทอิวาคุนิตั้งอยู่บนยอดเขา กิจกรรมที่พลาดไม่ได้ก็คือ การล่องเรือชมสะพานคินไตเคียว (แต่ถ้าน้ำค่อนข้างแห้งในช่วงนั้นก็จะทำให้ล่องเรือไม่ได้) เมื่อย่างเข้าเดือนเมษายน บริเวณรอบ ๆ สะพานจะเต็มไปด้วยความงดงามสีชมพูของดอกซะกุระ นอกจากนี้ ที่นี่ก็ยังมีงานเทศกาลชมดอกซากุระ และประดับแสงไฟช่วงกลางคืน

เดินทางสู่ ปราสาทอิวาคุนิ (IWAKUNI CASTLE) ปราสาทบนเขา ที่มีผูู้ครองปราสาทรุ่นแรกคือ KIKKAWA HIROIE ที่มีมาตั้งแต่ปี 1608 ปราสาทที่ล้อมรอบไปด้วยสายน้ำธรรมชาติ แม่น้ำนิชิกิ (NISHIKIGAWA) และตั้งอยู่ด้านบนของเขาสูง SHIROYAMA ที่มีระดับความสูงถึง 200 เมตร ถึงอย่างนั้นในปี 1615 ท่านโชกุนในช่วงเวลานั้นก็ให้โค่นตัวปราสาททิ้งหลังการสร้างมาได้แค่ 7 ปี ด้วยความที่ว่า1หัวเมืองต้องมีแค่1ปราสาทเท่านั้น ภายในตัวปราสาทยังมีดาบ บันทึก ฯลฯ ที่ยังคงปรากฏอยู่ด้านใน ส่วนด้านบนชั้นที่ 4 ซึ่งเป็นชั้นสังเกตการณ์ ยังสามารถมองเห็นวิวอันสวยงาม เป็นปราสาทที่สามารถมองเห็นเมืองทั้งเมืองได้ นับได้ว่าเป็นจุดที่ไม่ควรพลาดเลยสำหรับการไปท่องเที่ยวยังเมืองอิวาคุนิ (IWAKUNI)
เดินทางสู่ เมืองฮิโรชิม่า นำท่านเดินทางรำลึกความหลังความโหดร้ายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ สวนสันติภาพฮิโรชิม่า ชม เก็มบะกุโดม หรือ อาคารอะตอมมิค เป็นอาคารที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางการระเบิดมากที่สุด ห่างออกไปเพียง 150 เมตร ตัวอาคารได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพหลังจากถูกระเบิด ปัจจุบันได้กลายเป็นอนุสรณ์เตือนใจ ให้ระลึกถึงพลังทำลายล้างของระเบิดปรมาณู และเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในสันติภาพและการต่อต้านการใช้อาวุธปรมาณู และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งแต่ ค.ศ. 1996 ปัจจุบันผ่านมาแล้ว 70 ปี อนุสรณ์สันติภาพฮิโระชิมะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวอเมริกา และชาวออสเตรเลีย จากนั้นให้ท่านอิสระช้อปปิ้งที่ ย่านฮงโดริ ศูนย์รวมร้านค้าและแหล่งช้อปปิ้งสำคัญใจกลางเมืองฮิโรชิม่า เป็นถนนที่มีร้านค้าต่างๆ เรียงรายอยู่ในตึกสองฟากถนนที่มีหลังคาโค้ง บังแดด บังฝน ทำให้เดินอย่างสบาย เพลิดเพลินกับการซื้อของที่ระลึกแบบญี่ปุ่น หรือสินค้าทันสมัย รูปแบบน่ารักและหลากหลาย อาทิ อาหารการกิน ขนม เสื้อผ้า รองเท้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต เครื่องสำอาง เครื่องประดับแฟชั่นนำสมัยต่างๆ และของที่ระลึกต่างๆ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและห้างชื่อดังเช่น DONQUIJOTE, PARCO, DAISO 100 YEN, UNIQLO และห้าง FUKUYA ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นที่มีแบรนด์ดังทั้ง LV, CHANEL, DIOR, GUCCI, CARTIER และ ROLEX ซึ่งร้านทั้งหมดนี้ ท่านสามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มได้อีกด้วย
เดินทางสู่ เกาะมิยาจิม่า แปลว่า “เกาะที่มีศาลเจ้า” ในสมัยโบราณรู้จักกันดีในอีกชื่อหนึ่งว่าเกาะ “อิซึคุชิมะ” ที่แปลว่า “เกาะต้องห้าม” เมื่อเอาชื่อทั้ง 2 ชื่อมารวมกัน จะได้คำจำกัดความง่ายๆ ของมิยาจิม่าว่าเป็น “เกาะที่มีศาลเจ้าซึ่งห้ามคนเข้า” ในสมัยก่อนนอกจากกวางที่เชื่อกันว่าเป็นผู้ส่งสารของพระเจ้าที่เดินกันขวักไขว่บนเกาะมิยาจิม่าแล้ว แทบจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ย่างกรายเข้าไปในเขตนั้นเลย นับเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นสถานที่ตั้งของศาลเจ้าและวัดชินโตสำคัญๆ หลายแห่ง คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าเขามิเซ็ง ภูเขาที่สูงที่สุดบนเกาะเป็นที่อยู่ของพระเจ้าด้วย นำท่านชม ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ ศาลเจ้าลอยน้ำ และ เสาประตูโทริ ลอยน้ำ เมื่อน้ำขึ้นจะเห็นประตูโทริสีแดงสดลอยอยู่กลางน้ำรวมทั้งตัวศาลเจ้าด้วย ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะเป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโตที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลก ศาลเจ้านั้นถูกสร้างมาตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 16 แต่ได้สืบต่อการออกแบบมาจากการออกแบบในช่วงศตวรรษที่ 12 มีลักษณะคล้ายแพ เมื่อน้ำขึ้นจะทำให้ศาลเจ้ามีลักษณะลอยน้ำได้ ศาลเจ้าอิสึคุชิมะนี้ก็เช่นกันกับศาลเจ้าอื่นๆ ของญี่ปุ่น เมื่อเกิดสงคราม ก็มีการถูกทำลายหลายครั้งด้วยกัน ให้ท่านได้ศักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศญี่ปุ่น และถ่ายภาพความสวยงามของศาลเจ้า
จากนั้นนำท่านสู่ เมืองยานาอิ (YANAI CITY) มีชื่อเสียงโดดเด่นด้านงานศิลปหัตถกรรมโคมกระดาษที่ทำเป็นรูปปลาทอง เรียกว่า “โคมปลาทอง” และในช่วงหน้าร้อนก็จะมีการจัดงาน เทศกาลแห่โคมปลาทอง (Goldfish Lantern Festival)” ขึ้นที่เมืองนี้ค่ะ โดยในช่วงเทศกาลภายในเมืองจะมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมายโดยเน้นที่ถนนหน้าสถานีรถไฟ Yanai Station เป็นหลัก อาทิเช่น ขบวนแห่โคมปลาทองที่วางอยู่บนแท่นจำนวนมากค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปตามย่านต่าง ๆ แต่หากท่านไม่ได้เดินทางช่วงงานเทศกาล เมืองนี้ก็ยังได้ชื่อว่า ถนนกำแพงสีขาว (เขตอนุรักษณ์สิ่งปลูกสร้างทางวัฒนธรรมในย่านฟุรุอิจิ คานายะ เมืองยานาอิ) ของบ้านและร้านค้าในยุคเอโดะ โดยเป็นสถาปัตยกรรมแบบซุยมาริ(ทางเข้าอยู่ฝั่งที่มีหน้าจั่ว) หลังคาปูกระเบื้องและเป็นหลังคาทรงอิริโมะยาซุคุริริของญี่ปุ่น
เดินทางสู่ เมืองชิโมโนะเซกิ เมืองที่มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อยู่ปลายแหลมของเกาะฮอนชูซึ่งจุดเชื่อมต่อกับเกาะคิวชู อีก 1 เกาะใหญ่ของญี่ปุ่น จากนั้นนำท่านสู่ ท่าเรือโมจิ (MOJIKO PORT) ตั้งอยู่ในเมืองคิตะคิวชู (KITAKYUSHU) ของจังหวัดฟูกุโอกะ (FUKUOKA) โดยมีความสำคัญตรงที่เป็นเสมือนจุดเชื่อมต่อระหว่างเกาะคิวชูกับเกาะใหญ่ฮอนชูอีกทั้งในอดีตราวๆปีค.ศ. 1900 นั้นได้เคยเป็นท่าเรือสำคัญที่ใช้ในการติดต่อค้าขายกับนานาชาติ แม้ว่าภายหลังจะมีการโยกย้ายไปที่ท่าเรือบอื่นๆแล้ว หากที่นี่ก็ยังคงมีเสน่ห์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเก่าแก่อย่างครบถ้วนแล้วยิ่งมีการปรับปรุงเปลี่ยนจากท่าเรือปกติๆให้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพราะมีการอนุรักษ์ตึกเกาะสไตล์ยุโรปเอาไว้มากมายตั้งแต่ยุคเมจิเลยทีเดียว
นำท่านสู่ ไคเคียวพลาซ่า เปิดทำการในปี 1999 เป็นComplexเชิงพานิชย์ที่มีคอนเซ็บต์ “ตลาดที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกชั้นหนึ่งเป็นตลาดที่มีสินค้ามากมาย เช่น ของที่ระลึกราคาโรงงาน อาหารทะเลในท้องถิ่น สินค้าทั่วไป และของหวาน ชั้นสองเป็นร้านอาหารทะเลสดใหม่จากช่องแคบKanmon มีวิวที่ยอดเยี่ยม รวมถึงร้านกล่องดนตรี และร้านตุ๊กตาแก้ว

อิสระช้อปปิ้ง ย่านช้อปปิ้งเทนจิน (Tenjin ward) หรือจะเรียกอีกอย่างว่า “Downtown Area ของเมืองฟูกุโอกะ”ไม่ว่าจะเป็นร้าค้าต่างๆที่เรียงรายอยู่เต็มสองข้างฝั่งถนน ถนนคนเดิน ไปจนถึงห้างใหญ่ๆมารวมตัวกันอยู่มากมาย สินค้าให้เลือกซื้อหลากหลายชนิด ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า แบรนเนมด์ หนังสือ เครื่องสำอางต่างๆ รวมไปถึงร้านอาหารอีกมากมาย คาแนลซิตี้ฮากาตะ(Canal City Hakata)นับเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมน้ำภายในตัวเมืองฟูกุโอกะ(Fukuoka city) ที่มีความพีคตรงที่ด้านในนั้นมีการขุดคลองให้ไหลผ่านใจกลางห้างแห่งนี้อีกด้วยนอกจากร้านค้า ร้านอาหารแล้วนั้น ภายในยังแน่นไปด้วยสิ่งบันเทิงไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์ โรงละคร ร้านตู้เกมส์ แม้กระทั่งโรงแรมก็มีโดยจะมีโรงแรมอีก 2 แห่ง ถูกออกแบบมาให้เป็นพื้นที่เปิดโล่งๆกว้างๆ มีรูปทรงและสีสันที่แปลกตาเพื่อให้ได้บรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตรงกลางของคลองจำลองนี้จะมีการแสดงน้ำพุแสงสีเสียง ตั้งแต่เปิดจนปิดห้าง ซึ่งจะมีให้ชมในทุกๆครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว

ทัวร์ญี่ปุ่น