1140205

ทัวร์จอร์เจีย Azerbaijan – Georgia 7 Days 5 Nights by (G9 & J2)

ราคาเริ่มต้น 63,555 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

ท่องเที่ยวดินแดนแห่งเทือกเขาคอเคซัส หนึ่งในเส้นทางสายไหม (On The Silk Road)
ที่น่าศึกษาและเต็มไปด้วยศิลปะวัฒนธรรม อารยธรรม และสถาปัตยกรรมเก่าแก่กว่าพันปี

เที่ยวจบครบทุกไฮไลท์จริง ๆ นะ

อาเซอร์ไบจาน บากู, Baku Boulevard, จุดชมวิว Baku View Point, หอเปลวไฟ
โกบุสถาน, ภูเขาไฟโคลนลาวา, พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง
Palace of Shirvanshakh, Yanar Dag, วิหารแห่งไฟ

จอร์เจีย ทบิลิซี่, โบสถ์ตรีนิตี้, St. Virgin Chuch, โรงอาบน้ำแร่
น้ำตกเลกทากิวี, Meidan Bazaar, วิหารจวารี, ป้อมอนานูรี, กูดาอูรี่, โบสถ์เกอร์เกตี้
Russian-Georgian Friendship Monument, มิทสเคต้า, วิหารสเวทติสโคเวลี
จุดชมวิวเขื่อนจินวารี, The Chronicle of Georgia, โบสถ์ตรีนิตี้, ย่านเมืองเก่า

วันที่เดินทาง

พฤศจิกายน 67 – เมษายน 68

ตารางการเดินทาง
วันแรก กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ – เมืองซาร์จาห์ – เมืองบากู – จุดชมวิว Baku View Point
(สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน)

05.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูที่ 5 เคาน์เตอร์สายการบิน Air Arabia เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
08.10 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินซาร์จาห์ สหรัฐอาหรับอามิเรตส์ โดยสายการบิน Air Arabia เที่ยวบินที่ G9 822
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน) (ใช้เวลาบิน 7 ชม.)
12.10 น. เดินทางถึง สนามบินซาร์จาห์ (Sharjah International Airport) แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน
13.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินเฮย์ดาร์ อาลิเยฟ โดยสายการบิน Air Arabia เที่ยวบินที่ G9 300
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน) (ใช้เวลาบิน 1 ชม.)
16.00 น. เดินทางถึง สนามบินเฮย์ดาร์ อาลิเยฟ (Heydar Aliyev International Airport) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและผ่านด่านศุลกากรแล้ว (เวลาที่อาเซอร์ไบจาน ช้ากว่าไทย 3 ชั่วโมง) นำท่านเข้าสู่เมืองบากู (Baku) นครแห่งไฟ เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศอาเซอร์ไบจาน ตั้งอยู่ชายฝั่งทางใต้ของคาบสมุทรเล็กๆ ที่ยื่นออกไปในทะเลแคสเปียน คือ แหลมอับชิรอน (Abseron Peninsula) ประกอบด้วยพื้นที่ 3 ส่วน คือ ย่านเมืองเก่า ย่านตัวเมืองปัจจุบันและย่านตัวเมืองที่สร้างขึ้นในสมัยโซเวียต และเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคคอเคซัสใต้ ณ ทางแยกระหว่างยุโรปตะวันออกและเอเชียตะวันตก.. นำท่านสู่ จุดชมวิว Baku View Point ริมทะเลแคสเปียนตัดกับเส้นขอบฟ้าของเมือง เหมาะกับการเดินเล่นรับลม ชมทัศนียภาพอันงดงามของตึกระฟ้ากับวิวพาโนราม่าสุดสายตา ในยามค่ำคืนจะมีการเปิดไฟที่ประดับอาคารให้สว่างไสว เช่นเดียวกับ หอเปลวไฟ (Frame Tower) ที่มีแสงไฟคล้ายเปลวไฟที่ลุกโชติช่วง..
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Ganjali Plaza Hotel หรือเทียบเท่า 

วันที่สอง เมืองบากู – เมืองโกบุสถาน – ภูเขาไฟโคลนลาวา – พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง – อาคารที่ทำการรัฐบาล
Baku Boulevard – หอเปลวไฟ – Palace of Shirvanshakh – Maiden Tower – คาราวานซาราย Nizami Street

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโกบุสถาน (Gobustan) (ระยะทาง 66 กม. / 55 นาที) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองบากู ชม ภูเขาไฟโคลนลาวา (Mud Volcanoes) ที่มีรูปร่างเหมือนภูเขาไฟที่มีโคลนสีดำพวยพุ่งขึ้นมาตลอดเวลาตามธรรมชาติ ที่มีความสูงประมาณ 2-3 เมตร ซึ่งเกิดจากการปล่อยก๊าซธรรมชาติที่ดันตะกอนโคลนใต้ดินขึ้นสู่พื้นดินเป็นรูปกรวยหรือโดมที่สวยงาม และถูกบันทึกลงในกินเนสเวิลด์ (Guinness World Record) เมื่อ 5 ก.ย. ค.ศ. 2004 นอกจากนี้ยังมีภาพหินแกะสลักโบราณบนโขดหินของมนุษย์ที่งดงาม (Rock Petroglyphs) ให้ท่านชมความสวยงามของหินภูเขาที่มีการแกะสลักภาพที่เป็นรูปต่างๆ ณ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง (Rock Art Cultural Landscape) ซึ่งเป็นภาพเขียนสมัยโบราณที่เขียนบนหินทราย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2007 เช่น ภาพการล่าสัตว์ รูปคนเต้นรำ เรือที่มีคนพายติดอาวุธ นักรบที่มีหอกอยู่ในมือ คาราวานอูฐ รูปภาพของดวงอาทิตย์และดวงดาว แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนสมัยก่อน เฉลี่ยย้อนหลังไปถึง 5,000-20,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยมีทะเลสาบแคสเปียนเป็นฉากหลัง

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านชม อาคารที่ทำการรัฐบาล เป็นอาคารที่สวยสง่างามขนาดใหญ่และเก่าแก่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบากู ใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 28 ปี โดยก่อสร้างในปี พ.ศ. 2467 และเสร็จในปี พ.ศ. 2495 จากนั้นนำท่านเข้าสู่ย่าน Baku Boulevard ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่สวยงาม มีทางเดินริมทะเลและท่าเรือที่ยื่นไปในทะเล อากาศเย็นสบาย จากจุดนี้เราสามารถมองเห็น หอเปลวไฟ (Frame Tower) สัญลักษณ์แห่งเมืองบากู ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ห่างออกไป และหลังพระอาทิตย์ตกดินจะมีการเปิดไฟที่ประดับประดาอยู่ตามตึก อาคาร ต่าง ๆ อย่างสวยงาม…จากนั้นเข้าสู่ ย่านเมืองเก่าบากู (Icheri Sheher) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นเมืองที่ถูกสร้างขึ้นโดยมีกำแพงป้อมล้อมรอบและรอบกำแพงจะมีการสร้างเป็นป้อมหอคอยซึ่งมีทั้งหมด 25 แห่งและมีประตูทางเข้า-ออกถึง 5 แห่ง ถือเป็นอนุสรณ์สถานทางสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปีค.ศ. 1977…
นำท่านเข้าชม พระราชวังแห่งราชวงศ์เชอร์วาน (Palace of Shirvanshakh) ที่ประทับของกษัตริย์แห่งราชวงศ์ชีวานผู้ซึ่งครองราชย์มาอย่างยาวนานในช่วงศตวรรษที่ 14-17 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ประวัติ ศาสตร์ของบากู อีกทั้งภายในยังมีหลุมฝังศพของ Seyyid Yahya Bakuvi… และแวะถ่ายรูปกับ หอคอยไมเด้น (Maiden Tower) หอคอยซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่เก่าแก่ของเมือง สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 และถูกล้อมรอบด้วยห้องอาบน้ำโบราณในยุคอดีต… แวะชม คาราวานซาราย (Caravansaray) ที่พักแรมของกองคาราวานในยุคค้าขายแห่งเส้นทางสายไหม และเข้าสู่ย่าน ถนนคนเดิน Nizami Street ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ชั้นนำท้องถิ่น ฯลฯ อิสระให้ท่านเดินชม ชิม กิน ช้อป ตามอัธยาศัย…
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Ganjali Plaza Hotel หรือเทียบเท่า 

วันที่สาม เมืองบากู – แหลมแอบเชรอน – Yanar Dag – วิหารแห่งไฟ – เมืองทบิลิซี่ – เมืองกอรี่
(สาธารณรัฐจอร์เจีย)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ แหลมแอบเชรอน (Absharon Peninsular) (ระยะทาง 35 กม. / 40 นาที) ซึ่งเป็นบริเวณแหลมที่ยื่นเข้าไปในทะเลสาบแคสเปี้ยน นำท่านชม เนินแห่งไฟยานาร์แด็ก (Yanar Dag) หรือที่แปลได้ในภาษา ท้องถิ่นว่า “Burning Mountain” เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติไฮโดรคาร์บอนที่พวยพุ่งออกมาจากพื้นพิภพผ่านชั้นหินทรายขึ้นมาตลอดเวลา เป็นแหล่งไฟธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้ประเทศอาเซอร์ไบจานถูกขนานนามว่าเป็น “ดินแดนแห่งอัคคี” (Land of Fire) … นำท่านเข้าชม วิหารแห่งไฟ (Fire Temple of Baku) ที่มีรูปทรงคล้ายปราสาท มีไฟลุกโชนอยู่กลางโดมเสาหิน สถานที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นที่สำหรับบูชาสักการะตามหลักความเชื่อทางศาสนาของคนท้องถิ่น คือ ศาสนาโซโรอัสเตอร์ (ศาสนาโบราณของชาวอิหร่าน) เปลวไฟนิรันดร์ หรือ Eternal Flame ได้มอดลงเมื่อ ค.ศ. 1969 และถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของประเทศตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ สนามบินเฮย์ดาร์ อาลิเยฟ เพื่อเช็คอิน
15.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินทบิลิซี่ โดยสายการบิน Azerbaijan Airlines เที่ยวบินที่ J2 8223 (ใช้เวลาบิน 1.10 ชม.)
16.50 น. เดินทางถึง สนามบินทบิลิซี่ (Tbilisi International Airport) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองกอรี่ (Gori) (ระยะทาง 106 กม. / 1.30 ชม.) เป็นเมืองในจอร์เจียตะวันออกซึ่งเป็นเมืองหลวงของภูมิภาค Shida Kartli เมืองแห่งประวัติศาสตร์ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นบ้านเกิดของ “โจเซฟ สตาลิน” (Joseph Stalin) ชาวจอร์เจียที่ในอดีตเป็นผู้ปกครองสหภาพโซเวียต ในยุคศตวรรษที่ 1920 ถึง 1950 และมีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยมในการปกครองในเมืองกอรี่แห่งนี้…
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Gori Inn Hotel หรือเทียบเท่า 

วันที่สี่ เมืองกอรี่ – บ้านเกิดของสตาลิน – เมืองถ้ำอุพลิสต์ซิเค่ – เมืองมิทสเคต้า – วิหารสเวทติสโคเวลี – เขื่อนจินวารี – เมืองกูดาอูรี่

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม ด้านนอกของ บ้านเกิดสตาลิน (House of Stalin) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ พร้อมทั้งเรื่องราวต่าง ๆ ชมรถไฟที่โจเซฟ สตาลินได้ใช้งานในสมัยสหภาพโซเวียตและยังมีการแสดงถึงประวัติชีวิตตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเสียชีวิต… จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองถ้ำอุพลิสต์ซิเค่ (Uplistsikhe) เป็นบริเวณถ้ำที่ถูกทำขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคการเริ่มต้นราวศตวรรษที่ 8-7 ก่อนคริสตกาล ซึ่งในอดีตเป็นเส้นทางการค้าขายสินค้าจากอินเดียสู่ทางด้านเหนือแถบหมู่บ้ามิทวารีไปยังทะเลดำและต่อไปยังโลกด้านตะวันตก… ชม หมู่บ้านที่ถูกสร้างจากถ้ำ โดยมีเนื้อที่กว้างประมาณ 50 ไร่ ประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมการสร้างตัดหินและเจาะลึกเข้าไปเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งต่อมานักโบราณคดีได้ค้นพบสิ่งต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งเครื่องทองเครื่องเงินและอัญมณีต่าง ๆ และยังมีเครื่องเซรามิคและการแกะสลักที่สวยงาม ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปีค.ศ. 2007 อีกด้วย…
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิทสเคต้า (Mtsketa) ที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือห่างจากเมืองทบิลิซี่ เป็นเมืองที่มีความเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศ มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 คน เนื่องจากมีโบราณสถานทางด้านประวัติศาสตร์ มากมายหลายแห่ง จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1994… นำท่านชม วิหารสเวทติสโคเวลี (Svetitskoveli Cathedral) ตั้งอยู่บริเวณที่มีแม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำมิควารี และ แม่น้ำอรักวี รอบเมืองเป็นบริเวณทุ้งอันกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งในอดีตเคยเป็น อาณาจักรของไอบีเรีย (Kingdom of Iberia) ซึ่งเคยปกครองดินแดนในบริเวณนี้ตั้งแต่ 400 ปี ก่อนคริสตกาล จนถึงราวคริสต์ศตวรรษที่ 5 ชมโบสถ์ที่มีรูปแบบของจอร์เจียออร์โธด็อก ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 11 โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจอร์เจีย สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาวจอร์เจีย ชื่อ Arsukisdze มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่ทําให้ชาวจอร์เจียเปลี่ยนความเชื่อและหันมานับถือศาสนาคริสต์ และให้ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจําชาติของจอร์เจียเมื่อปี ค.ศ. 337 และถือเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย ภายในมีภาพเขียนสีเฟรสโก้อย่างงดงาม… สมควรแก่เวลา เดินทางสู่ เมืองกูดาอูรี่ (Gudauri) เป็นเมืองสําหรับสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขาของเทือกเขาคอเคซัสใหญ่ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,100 เมตร เป็นแหล่งพักผ่อนเล่นสกีของชาวจอร์เจีย ที่จะนิยมมาเล่นในเดือนธันวาคมจนถึงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่สวยงามและมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดเวลา มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี… ระหว่างทางแวะ จุดชมวิวเขื่อนจินวารี (Zhinvali Reservoir) ที่สร้างขึ้นเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานน้ำในแม่น้ำอรักวีในเทือกเขาคอเคซัส เขื่อนเก็บน้ำนี้ทำให้ชาวเมืองทบิลิซีมีน้ำไว้ดื่มไว้ใช้ มีทิวทัศน์ที่สวยงดงาม มีความเงียบสงบ มีน้ำสีฟ้าคราม เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายภาพ สถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในมรดกโลกในปี ค.ศ. 2007…
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Gudauri Inn Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า เมืองกูดาอูรี่ – โบสถ์เกอร์เกตี้ – อนุสรณ์สถานมิตรภาพแห่งรัสเซีย-จอร์เจีย – ป้อมอนานูรี – วิหารจวารี The Chronicle of Georgia – โบสถ์ตรีนิตี้

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเปลี่ยนเป็น นั่งรถจี๊ป 4WD เพื่อขึ้นไปชมความสวยงามของ โบสถ์เกอร์เกตี้ (Gergeti Trinity Church) หรือมีอีกชื่อเรียกกันว่า ทสมินดา ซามีบา (Tsminda Sameba) ซึ่งเป็นชื่อเรียกที่นิยมกันของโบสถ์ศักดิ์แห่งนี้ โบสถ์นี้อยู่ใกล้กับหมู่บ้านเกอร์เกตี้ ในเมืองคาชเบกี้ของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ Chkheri บนระดับความสูง 2,170 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดยตั้งเด่นเป็นสง่าบนยอดเขาสูงชันที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันกว้างใหญ่สุดสวยงาม การเข้าถึงโบสถ์นี้ก่อนหน้านี้จะต้องเดินเขาขึ้นไปซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง กระทั่งในเดือนธันวาคมค.ศ. 2018 มีการทำถนนลาดยางขึ้นไป ให้พาหนะอย่างรถยนต์สามารถเข้าถึงได้ในเวลาไม่กี่นาที….
(การเดินทางขึ้นไปชมโบสถ์ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ซึ่งเส้นทางอาจจะถูกปิดกั้นด้วยหิมะที่หรือสภาพของการจราจร หรือเหตุการณ์ทางธรรมชาติ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคแก่การเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยน แปลงรายการตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและผลประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ)
จากนั้นนำท่านชม อนุสรณ์สถานมิตรภาพแห่งรัสเซีย-จอร์เจีย (Russian-Georgian Friendship Monument) ที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1983 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปีของสนธิสัญญาและมิตรภาพที่ต่อเนื่องระหว่างโซเวียตจอร์เจียและโซเวียตรัสเซีย มีลักษณะเป็นหินทรงกลมขนาดใหญ่และโครงสร้างคอน กรีตเสริมเหล็ก จากตรงนี้สามารถมองเห็นวิว Devil’s Valley ของเทือกเขาคอเคซัสได้อย่างชัดเจนงดงามยิ่งนัก…
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านชม ป้อมอนานูรี (Ananuri Fortress) ป้อมปราสาทที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอรักวี เป็นที่ประทับของ เอริสตาวิส ดยุคแห่งอรักวี ราชวงศ์ศักดินาผู้ปกครองดินแดนลุ่มแม่น้ำอรักวี และบริเวณแถบนี้ยังเป็นสมรภูมิรบแย่งชิงอำนาจระหว่างเจ้าผู้ปกครองแคว้น ภายในประกอบไปด้วยปราสาทและโบสถ์ และเป็นที่ฝังศพของดยุคแห่งอรักวีอีกด้วย… จากนั้นชม วิหารจวารี (Jvari Monastery) โบสถ์แห่งไม้กางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ สร้างขึ้นเมื่อคริสตวรรษที่ 6 บนภูเขาที่มีทิวทัศน์อันงดงามแม่น้ำสองสายมาบรรจบกันคือแม่น้ำมิควารี และ แม่น้ำอรักวี … จากนั้นนำท่านชม พงศวดารแห่งจอร์เจีย หรือ อนุเสารีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย (The Chronicle of Georgia) ตั้งอยู่บนเนินเขาด้านเหนือของทะเลสาบทบิลิซี่ โดยเล่าถึงประวัติศาสตร์ 3,000 ปี ในการปกครองของจอร์เจีย ด้วยรูปสลักเกี่ยวกับกษัตริย์ วีรบุรุษของชาติ และพระเยซูคริสต์ที่หล่อภาพไว้บนเสาเหล็ก ความสูงประมาณ 30-35 เมตร จำนวนถึง 16 เสา และด้วยความอลังการของอนุสรณ์แห่งนี้ทำให้ได้ชื่อว่าเป็น Stonehenge of Georgia… นำชม โบสถ์ตรีนิตี้ (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi) หรือ ซามีบา (Sameba Cathedral) มีความหมายว่า โบสถ์พระตรีเอกานุภาพ ศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองทบิลิซี หรือ อารามซามีบา ชื่อเรียกของคนท้องถิ่น เป็นวิหารหลักของชาวคริสต์นิกายจอร์เจียนออร์โธด็อกซ์ในเมืองทบิลิซี่ ก่อสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1995-2004 ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของ ศาสนสถานในนิกายออร์โธด็อกซ์ตะวันออกทั่วโลก แม้จะมีอายุไม่มากแต่ก็เป็นโบสถ์ตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียนท้องถิ่น ที่มีรูปแบบทางศิลปะจากไบแซนไทน์ โบสถ์เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่โดดเด่น…

ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Iveria Inn Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่หก เมืองทบิลิซี่ – สะพานแห่งสันติภาพ – นั่งกระเช้าขึ้นสู่ป้อมปราการนาริกาลา – St.Virgin Church
โรงอาบน้ำแร่ – น้ำตกเลกทากิวี – เมืองซาร์จาห์ – กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม สะพานแห่งสันติภาพ (Bridge of Peace) งานสถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน Michele De Lucchi โดยมีความยาว 150 เมตร และใช้เป็นตัวเชื่อมระหว่างตัวเมืองเก่าและเมืองใหม่ของทบิลิซี มีแม่น้ำ Kura ที่ไหลมาจากฝั่งประเทศตุรเคีย ผ่านกลางเมืองทบิลิซี่ โครงสร้างหลักของสะพานแห่งนี้ทำจากเหล็กและกระจกใส เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2010 และจัดว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่มีความสวยงามชิ้นหนึ่งของจอร์เจีย… จากนั้นนำท่าน นั่งกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นไปชม ป้อมปราการนาริกาลา (Narikala Fortress) สร้างขึ้นครั้งแรกช่วงคริสต์วรรษที่ 4 ในรูปแบบของ ชูริสทซิเค อันหมายถึง รูปแบบที่ไม่มีความสม่ำเสมอกัน และเมื่อพวกมองโกลได้เข้ามายึดครอง ก็ได้เรียกชื่อป้อมแห่งนี้ว่านาริกาลา (Narikala) ซึ่งมีความหมายถึงป้อมอันเล็ก (Little Fortress) … จากนั้นชม โบสถ์พระแม่มารี (St. Virgin Church) โบสถ์เก่าแก่สไตล์จอร์เจียนที่ตั้งอยู่ริมหน้าผาอันสวยงาม มีหอระฆังและทิวทัศน์มุมกว้าง…

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านแวะถ่ายรูป ภายนอกกับ โรงอาบน้ำแร่ (Sulphur Bath) ในย่านโซโลลากี ซึ่งที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องบ่อน้ำร้อนกำมะถันธรรมชาติ…ผ่านชม น้ำตกเลกทากิวี (Leghvtakhevi Waterfall) ที่ตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองเก่า เป็นน้ำตกที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และมีน้ำไหลตลอดทั้งปี ซึ่งบริเวณน้ำตกจะมีสะพาน Golden Bridge ที่มีกุญแจสีทองคล้องกันจนเต็มสะพานด้วย.. จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินทบิลิซี่
17.20 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินซาร์จาห์ โดยสายการบิน Air Arabia เที่ยวบินที่ G9 294 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน) (ใช้เวลาบิน 3.05 ชม.)
20.25 น. เดินทางถึง สนามบินซาร์จาห์ (Sharjah International Airport) แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน
22.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน Air Arabia เที่ยวบินที่ G9 821 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน) (ใช้เวลาบิน 6.30 ชม.)

วันที่เจ็ด กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ

07.20 น. เดินทางถึง กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ…พร้อมความประทับใจ…