ทัวร์ยุโรป ฟินแลนด์ – ไอซ์แลนด์ แดนธารน้ำแข็ง GOLDEN CIRCLE 10 วัน 8 คืน (AY)
ราคาเริ่มต้น 159,900 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์
นำท่านเดินทางสู่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติดิร์โฮเลย์ Dryholey ถ่ายรูปกับจุดชมวิวของผาหินดิร์โฮเลย์ ที่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปสู่ทะเลและเกิดจากการกัดเซาะของลมทะเลจนเกิดเป็นวงซุ้มขนาดใหญ่ที่เชื่อว่าเรือสามารถแล่นผ่านได้ มีความสูงราว 120 เมตร จากนั้นชมหาดทรายสีดำเรย์นิสฟยารา Reynisfjara Black Sand Beach หายทรายดำที่มีชื่อเสียงระดับโลกทางตอนใต้สุดของไอซ์แลนด์ ที่เกิดจากการสึกกร่อนรของหินภูเขาไฟ พร้อมชมจุดเด่นของชายหาดที่มีแท่งหินบะซอลต์ที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวาอย่างรวดเร็วบนพื้นผิวโลก เกิดเป็นแท่งหินรูปร่างแปลกตาจนในปี ค.ศ.1991 หาดทรายดำแห่งนี้ได้รับการจัดให้เป็นหาดทรายที่สวยที่สุดในโลก
วันที่เดินทาง | 3 เม.ย. 68 – 12 เม.ย. 68, 8 เม.ย. 68 – 17 เม.ย. 68 |
---|
ทัวร์ยุโรป
วันที่หนึ่ง สนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินเฮลซิงกิ (ฟินแลนด์)
04.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน Finnair เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
07.05 น. ออกเดินทางจากสนามบินสุววรณภูมิ โดยสายการบิน Finnair เที่ยวบินที่ AY142
15.25 น. เดินทางถึงสนามบินเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
รถโค้ชนำท่านเดินทางเข้าสู่เขตนครเฮลซิงกิ Helsinki เมืองหลวงใหญ่ของประเทศฟินแลนด์ Finland ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ เฮลซิงกิได้รับฉายาว่าเป็น “ธิดาแห่งทะเลบอลติก” ความงดงามของสถาปัตยกรรมอันได้รับอิทธิพลจากทั้งทางฝั่งยุโรปและรัสเซีย นำท่านชมอนุสาวรีย์ซิเบลิอุส Sibelius Monument ตั้งอยู่ในสวนซิเบลิอุส สร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่ Jean Sibelius นักประพันธ์เพลงคลาสสิก เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่กลางแจ้ง ดูแปลกตาทันสมัย เป็นผลงานของศิลปิน Eila Hiltunen สร้างโดยนำเอาแท่งเหล็ก 600 แท่ง มาเชื่อมเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นรูปร่างของออร์แกนลม กว้าง 10.5 เมตร ลึก 6.5 เมตร หนัก 24 ตัน ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า จากนั้นนำท่านชมจัตุรัสซีเนท (Senate Square) ศูนย์กลางด้านการค้าใจกลางนครเฮลซิงกิ รายล้อมไปด้วยอาคารสำคัญๆ ที่สร้างในยุคที่อยู่ใต้การปกครองของรัสเซียและเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิ อาทิ มหาวิหารเฮลซิงกิ Helsinki Cathedral ส่วนหนึ่งของศูนย์กลางสไตล์เอ็มไพร์ของเฮลซิงกิที่ออกแบบโดยสถาปนิก Carl Ludvig Engel และนักวางผังเมือง Johan Albrecht Ehrenström
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Break Sokos Hotel Flamingo หรือระดับเดียวกัน
วันที่สอง เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์) – เรคยาวิค (ไอซ์แลนด์)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรมหรือแบบกล่อง
ให้ท่านเตรียมตัวเดินทางสู่สนามบินเฮลซิงกิ
07.20 น. นำท่านเดินทางจากสนาบินเฮลซิงกิ โดยสายการบิน Finnair เที่ยวบินที่ AY991
08.00 น. นำท่านเดินทางถึงสนามบินเคฟลาวิค กรุงเรคยาวิค Reykjavik ประเทศไอซ์แลนด์ นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ กรุงเรคยาวิค เมืองหลวงประเทศไอซ์แลนด์ ชมเมืองเรคยาวิค Reykjavik เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งศิลปะ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ อาทิ คอนเสิร์ตฮอลล์และศูนย์การประชุมฮาร์ปา Harpa ของไอซ์แลนด์ จัดเป็นอาคารที่โดดเด่นที่สุดในเมืองหลวงด้วยความสำเร็จของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ กับซุ้มกระจกที่ประกอบเป็นหน้าต่างในรูปทรงที่แตกต่างกันทั้งหมด ที่นี่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับพื้นที่หินบะซอลต์ตามธรรมชาติของไอซ์แลนด์ และโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา Hallgrímskirkja โบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ เป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ของสถาปนิกกุดโยน Guðjón Samúelsson ซึ่งเป็นผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมพราสชั่นนิสท์เริ่มสร้างในปี ค.ศ.1945 จนกระทั่งแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1986 รวมเวลาก่อสร้างกว่า 38 ปี รวมทั้งผู้ที่มีความหลงใหลในทัศนศิลป์ ชมรูปปั้นที่น่าประทับใจมากมาย ทั้งประติมากรรมและศิลปะตามท้องถนนทั่วเมืองเรคยาวิค
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารแบบบุฟเฟต์
บ่าย นำชม บ้านเฮิปดิร์ Höfði House เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ ใช้เป็นที่ประชุมสุดยอดเรคยาวิกสถานที่ที่ประธานาธิบดีเรย์แกน และเลขากอร์บาชอฟ ได้พบกันเพื่อหารือเรื่องการป้องกันขีปนาวุธระหว่างประเทศระหว่างช่วงสงครามเย็น เขตย่านท่าเรือเก่าที่ยังคงกลิ่นอายของวิถีชีวิตของผู้คน และถ่ายรูปกับ ประติมากรรมเหล็กที่โดดเด่นรูปร่างคล้ายเรือไวกิ้ง The Sun Voyager เป็นผลงานของ Jón Gunnar Árnason ศิลปินชาว Icelandic ในปี 1990 โดยตั้งใจจะสื่อถึงความไฝ่ฝันสู่ความสำเร็จและอิสรภาพ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Foss Hotel Reykjavik หรือระดับเดียวกัน
Hilight
Optional อิสระนำท่านล่องเรือเพื่อตามล่าหาแสงเหนือ หรือแสงออโรรา เกิดจากอนุภาคพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์ ชนกับโมเลกุลในชั้นบรรยากาศโลก และแตกตัวออกเป็นไอออน สร้างการเรืองแสงวิ่งไปตามสนามแม่เหล็กโลก สิ้นสุดที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ เกิดเป็นแสงพลิ้วไหวสวยงามราวกับเต้นระบำ (ทั้งนี้แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดล่วงหน้าได้ โอกาสมองเห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ)
วันที่สาม เรคยาวิค – เส้นทางวงกลมทองคำ อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ – น้ำพุร้อนธรรมชาติ – น้ำตกกูลฟอสส์ – ขี่สโนโมบิล – เฮลล่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเที่ยวชมความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของไอซ์แลนด์ ในเส้นทางวงกลมทองคำ หรือ Golden Circle ทัศนียภาพของทุ่งหญ้าตัดกับทุ่งลาวา มีฝูงแกะ วัว และม้าไอซ์แลนด์หากินอยู่ตามธรรมชาติ นำท่านชมความงามของธรรมชาติที่สรรสร้างขึ้นภายใน อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ Thingvellir National Park ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ตั้งอยู่ระหว่างรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Þingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส Reykjanes และภูเขาไฟเฮนกิลล์ Hengill เป็นจุดกำเนิดทางประวัติศาสตร์และทางธรณีวิทยา เพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกเป็นระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร ซิงเควลลิร์ตั้งอยู่ตรงรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Singvellavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส Reykjanes และ ภูเขาไฟเฮนกิลล์ Hengill เป็นจุดกำเนิดทางด้านประวัติศาสตร์และทางธรณีวิทยา เพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร ระหว่างทางแวะชมร่องรอยปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้วมีน้ำท่วมขังจนเป็นทะเลสาบกว้าง
นำท่านชม น้ำพุร้อนธรรมชาติ Geysir น้ำพุร้อนหรือเกย์ซีร์ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กีเซอร์ที่ใช้กันทั่วโลกน้ำพุร้อนที่นี่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7 – 10 นาทีพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลกขับ
เคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อน ช่วยให้อากาศอบอุ่นเย็นสบายและรัฐบาลได้นำประโยชน์จากแหล่งความร้อนทางธรรมชาตินี้มาเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ
นำท่านเดินทางสู่ กูลฟอสส์ Gullfoss (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เพื่อชมความงามของน้ำตกกูลฟอสส์ หรือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศ และยังเป็น 1 ใน3 สถานที่ในเส้นทาง “วงแหวนทองคำ” สถานที่ที่ผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ไม่ควรพลาดชื่อน้ำตก Gullfoss นี้มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่าทองคำและ Foss ที่แปลว่าน้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึงน้ำตกทองคำเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติระดับโลกที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งและลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างในระดับความสูงกว่า 30 เมตร
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารแบบบุฟเฟต์
บ่าย นำท่านสัมผัสประสบการณ์กับอีกหนึ่งกิจกรรมครั้งหนึ่งในชีวิตกับการขับรถสโนโมบิลสู่ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ Langjökull Glacier กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน ให้ท่านได้ขับรถสโนว์โมบิลตะลุยไปบนธารน้ำแข็งที่มีความกว้างใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก บนพื้นที่กว่า 950 ตารางกิโลเมตร และพบกับทัศนียภาพงดงามปกคลุมด้วยหิมะขาวนวล (บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกกิจกรรม กรณีสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ทั้งนี้ จะคำนึงถึงด้านความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมกิจกรรม)
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองเฮลล่า Hella (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ เหมืองแห่งจุดเริ่มต้นของการล่าแสงเหนือ
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hvolsvollur หรือระดับเดียวกัน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม
*** สำหรับยามค่ำคืนเมื่อท่านมองไปที่บนท้องฟ้าของประเทศไอซ์แลนด์ ท่านจะมีโอกาสได้พบเห็นกับแสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) ซึ่งเป็นแสงสีเขียวที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเท่านั้น (การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสําคัญ) ***
วันที่สี่ เฮลล่า – น้ำตกเซลยาแลนส์ – น้ำตกสโกการ์ – หมู่บ้านวิค – ดิร์โฮเลย์ – หายทรายสีดำ – ถ้ำน้ำแข็งคัทลาด้วยรถซุเปอร์จี๊ป – เฮลล่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เส้นทางแสนสวยทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์ South Coast ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการค้นพบพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งเป็นพลังงานที่ถูกนำมาใช้ทดแทนเชื้อเพลิง ทำให้ประเทศแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองที่ไร้มลพิษ นอกจากนี้พลังงานดังกล่าวยังถูกนำมาใช้ในด้านสาธารณูปโภคอีกด้วยทัศนียภาพสองข้างทางเว้นระยะไปด้วย ฟาร์มปศุสัตว์ มีภูเขาไฟเด่นตระหง่านเป็นฉากหลัง และเป็นภูเขาไฟที่ยังมีการปะทุอยู่ตลอดเวลา นำท่านถ่ายรูปกับน้ำตกเซลยาแลนส์ Seljalandsfoss น้ำตกที่มีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์และถูกขนานนามว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ ที่มีความสูงกว่า 60 เมตร และถ่ายภาพน้ำตกอีกแห่งหนึ่งคือ น้ำตกสโกการ์ Skogarfoss มีความสูง 62 เมตร ประทับใจกับความสวยงามของม่านน้ำแผ่กระจายจากหน้าผาสูงเกิดเป็นละอองฟุ้งทั่วบริเวณเบื้องล่างปกคลุมด้วยหญ้าเฟิร์นและหญ้าตระกูลมอส และโอบล้อมไปด้วยทุ่งลาวา, โตรกผา และหุบเหว เกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามจับใจ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านวิค Vik หมู่บ้านเล็กๆทางตอนใต้สุดของไอซ์แลนด์ ที่มีรายชื่อในการจัดอันดับชายหาดที่สวยที่สุดในโลกเมื่อปี ค.ศ.1991
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองหรือแบบบุฟเฟต์
บ่าย นำท่านเดินทางสู่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติดิร์โฮเลย์ Dryholey ถ่ายรูปกับจุดชมวิวของผาหินดิร์โฮเลย์ ที่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปสู่ทะเลและเกิดจากการกัดเซาะของลมทะเลจนเกิดเป็นวงซุ้มขนาดใหญ่ที่เชื่อว่าเรือสามารถแล่นผ่านได้ มีความสูงราว 120 เมตร จากนั้นชมหาดทรายสีดำเรย์นิสฟยารา Reynisfjara Black Sand Beach หายทรายดำที่มีชื่อเสียงระดับโลกทางตอนใต้สุดของไอซ์แลนด์ ที่เกิดจากการสึกกร่อนรของหินภูเขาไฟ พร้อมชมจุดเด่นของชายหาดที่มีแท่งหินบะซอลต์ที่เกิดจากการเย็นตัวของลาวาอย่างรวดเร็วบนพื้นผิวโลก เกิดเป็นแท่งหินรูปร่างแปลกตาจนในปี ค.ศ.1991 หาดทรายดำแห่งนี้ได้รับการจัดให้เป็นหาดทรายที่สวยที่สุดในโลก
นำท่านผจญภัยด้วยการนั่งรถจิ๊ป Super Jeep Ride ชมถ้ำน้ำแข็งธรรมชาติคัทลา Katla Ice Cave ที่ผลึกน้ำแข็งภายในถ้ำเป็นสีฟ้าและสีดำที่เกิดจากภูเขาไฟคัทลา และเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่บนธารน้ำแข็งไมร์ดาลส์โจกุล Myrdalsjokull Glacier หนึ่งในธารน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงที่สุดในไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของธารน้ำแข็งเคิทลูโจกุล เกิดเป็นธารน้ำแข็งตามธรรมชาติที่น่าประทับใจที่สุด (ใช้เวลารวม 3 ชั่วโมงสำหรับกิจกรรมนี้)
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองเฮลล่า
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hvolsvollur หรือระดับเดียวกัน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม
*** สำหรับยามค่ำคืนเมื่อท่านมองไปที่บนท้องฟ้าของประเทศไอซ์แลนด์ ท่านจะมีโอกาสได้พบเห็นกับแสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) ซึ่งเป็นแสงสีเขียวที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเท่านั้น (การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสําคัญ) ***
วันที่ห้า เฮลล่า – โจกุลซาร์ลอน – ไดมอนด์บีช – อุทยานแห่งชาติสเกฟตาเฟลล์ – เฮลล่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ โจกุลซาร์ลอน Jokulsarlon (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) ผ่านชมความงดงามของทัศนียภาพระหว่างการเดินทาง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมืองหรือแบบบุฟเฟต์
บ่าย นำท่านชมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ เกิดจากการละลายธารน้ำแข็ง ปัจจุบันมีพื้นที่กว้างถึง 18 ตารางกิโลเมตร โดยมีความความลึกของน้ำในทะเลสาบถึง 200 เมตร ตื่นตาตื่นใจกับไอซ์เบิร์ก (Iceberg) หรือภูเขาน้ำแข็งก้อนโตเรียงรายโผล่พ้นพื้นน้ำของทะเลสาบยามกระทบแสงแดดก่อให้เกิดสีสันสวยงามที่มีอยู่ไม่กี่แห่งในโลก และให้ทานถ่ายรูปและเพลิดเพลินกับธรรมชาติงดงามของ หาดทรายน้ำแข็งหรือหาดทรายเพชร Diamond Beach เป็นหาดทรายสีดำที่ทอดยาวออกไป และมักถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งและไหลลงสู่ทะเลสาบโจกุลซาร์ลอน มีความสวยงามโปร่งแสงเหมือนเป็นประติมากรรมน้ำแข็งขนาดเล็กที่เปล่งประกายภายใต้แสงอาทติย์มองดูเหมือนเพชรที่ส่องประกายบริเวณหาดนี้
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติสเกฟตาเฟลล์ Skaftafell National Park อุทยานแห่งชาติแห่งที่ 2 ของไอซ์แลนด์ ประกอบไปด้วยภูมิทัศน์อันงดงามหลากหลายไม่ว่าจะเป็นป่าเขียวชอุ่ม ทุ่งหญ้าหลากสีสัน ภูเขาขรุขระและธารน้ำแข็งที่น่าทึ่ง และยังเป็นสวรรค์ของนักปีนเขา ถือเป็นอัญมณีอันล้ำค่าที่ชาวไอซ์แลนด์เองชื่นชอบมากที่สุด ตั้งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดเรียกว่าวาตนาเยอคูตล์ Vatnajökull มีขนาด 8,300 ตารางกิโลเมตร เท่ากับธารน้ำแข็งในทวีปยุโรปรวมกันและขนาดความหนามากที่สุดประมาณ 1,000 เมตร
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองเฮลล่า ระหว่างทางผ่านหมู่บ้าน Kirkjubaejarklaustur ชมมวลลาวาขนาดใหญ่เป็นแนวกว้างที่เกิดการเย็นลงอย่างช้าๆ ทำให้เกิดแนวแตกเป็นเสาเหลี่ยม เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่งเกิดเป็นทัศนียภาพอันงดงาม
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Hvolsvollur หรือระดับเดียวกัน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม
*** สำหรับยามค่ำคืนเมื่อท่านมองไปที่บนท้องฟ้าของประเทศไอซ์แลนด์ ท่านจะมีโอกาสได้พบเห็นกับแสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) ซึ่งเป็นแสงสีเขียวที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเท่านั้น (การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสําคัญ) ***
วันที่หก เฮลล่า – บลูลากูน – เรคยาวิค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองกรินก์วิก Grindavik เมืองประมงทางตอนใต้ของคาบสมุทรเรคยาเนส เป็นที่รู้จักในด้านประวัติศาสตร์การเดินเรืออันยาวนานและอุตสาหกรรมการประมง ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่ขึ้นชื่อเรื่องภูมิประเทศภูเขาไฟที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงทุ่งลาวาและบ่อน้ําพุร้อนที่มีชื่อเสียงระดับโลก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารแบบบุฟเฟต์
บ่าย นำท่านสู่ บลูลากูน Blue Lagoon แหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงโด่งดังของไอซ์แลนด์ เป็นเขตที่มีการเคลื่อนตัวของหินหลอมละลายใต้ดิน มากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง การเคลื่อนตัวนี้ทำให้น้ำในบ่อร้อนขึ้นและมีไอน้ำระเหยขึ้นมา เป็นสถานที่อาบน้ำแร่ขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก เป็นบ่อน้ำร้อนที่มีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์หลายชนิด ซึ่งช่วยรักษาผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง เชิญอิสระตามอัธยาศัยให้ท่านแช่ตัวในสระธรรมชาติ ผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทาง ทดสอบพอกหน้าด้วยโคลนสีขาวของบลูลากูนที่ทำให้ผิวพรรณผ่องใสเรียบลื่นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลากชนิดของบลูลากูนเป็นสินค้ายอดนิยมของผู้ไปเยือน (มีบริการผ้าเช็ดตัวรวมอยู่ในค่าทัวร์และมีชุดว่ายน้ำให้เช่า)
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่กรุงเรคยาวิค เมืองหลวงของไอซ์แลนด์
ค่ำ รับประทานอาหาร ค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Foss Hotel Reykjavik หรือระดับเดียวกัน
Hilight
Optional อิสระนำท่านล่องเรือเพื่อตามล่าหาแสงเหนือ หรือแสงออโรรา เกิดจากอนุภาคพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์ ชนกับโมเลกุลในชั้นบรรยากาศโลก และแตกตัวออกเป็นไอออน สร้างการเรืองแสงวิ่งไปตามสนามแม่เหล็กโลก สิ้นสุดที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ เกิดเป็นแสงพลิ้วไหวสวยงามราวกับเต้นระบำ (ทั้งนี้แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดล่วงหน้าได้ โอกาสมองเห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ)
วันที่เจ็ด เรคยาวิค – ภูเขาไฟเคิร์กจูเฟล – หมู่บ้านอาร์นาสตาปิ – เรคยาวิค
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่คาบสมุทรสไนล์แฟล์ส์เนส ฝั่งตะวันตกสุดของไอซ์แลนด์ที่ทอดยาวสู่มหาสมุทรแอตแลนติกมีเส้นทางกว่า 55 ไมล์ จัดว่าเป็นคาบสมุทรที่มีภูมิทัศน์สวยงาม มีชื่อเสียงในด้านภูเขาไฟที่ปกคลุมด้วยธารน้ําแข็ง ทุ่งลาวา หน้าผาบะซอลต์ และหมู่บ้านชาวประมง เรียกได้ว่าเดินทางมาเที่ยวที่เดียวได้ครบทุกบรรยากาศ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารแบบบุฟเฟต์
บ่าย นำท่านชม ภูเขาเคิร์กจูเฟล Kirkjufell หรือ ภูเขาโบสถ์ Church Mountain ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของไอซ์แลนด์เลยทีเดียว และเป็นหนึ่งในฉากสถานที่ถ่ายทำของซีรี่ส์เรื่องดัง Game of Throne จัดว่าเป็นภูเขาที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดของไอซ์แลนด์ ภูเขามีความสูงกว่า 463 เมตร เป็นชั้นๆ ต่างสีกัน ชั้นล่างสุดจะเป็นฟอสซิล ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดตั้งแต่ยุคน้ำแข็งเป็นล้านปีมาแล้ว ส่วนชั้นบนซึ่งเป็นหินลาวา เกิดในช่วงที่ยุคน้ำแข็งเริ่มอุ่นขึ้นและมีอายุหินน้อยกว่าชั้นล่าง พร้อมให้ท่านชมน้ำตกเคิร์กจูเฟล Kirkjufellsfoss เรียกได้ว่าเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงและได้รับการบันทึกภาพไว้มากที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์
Hilight
Optional อิสระนำท่านสำรวจถ้ำใต้ดินวัทน์สเฮลิร์ Vatnshellir ถ้ำลาวาที่เกิดจากการประทุของปล่องภูเขาไฟมีอายุกว่า 8,000 ปี สูงกว่า 200 เมตรและลึกถึง 35 เมตรใต้ผิวน้ำ จัดเป็นประสบการณ์ที่น่าอัศจรรย์และน่าจดจำอย่างแท้จริง ที่ได้สัมผัสธรรมชาติอันเป็นเอกลัษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับไฟฉาย หมวกกันน็อค รวมถึงจะได้รับการแนะนำให้สวมรองเท้าเดินป่าและเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่กรุงเรคยาวิค ให้ท่านแวะชม หมู่บ้านอาร์นาสตาปิ Arnastapi หมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็ก อันเป็นที่ตั้งของรูปปั้นหินปาร์ดุร์ ที่เป็นครึ่งคนครึ่งโทรลล์ตามตำนานพื้นบ้านของชาวนอร์ดิก และยังมีหน้าผาหินบะซอลล์ที่มีพื้นล่างเป็นมหาสมุทร และชมวิวของ กาทแคลทตุร์
Gatklettur มีลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีหลุมอยู่ตรงกลางทำทัศนียภาพคล้ายอุโมงค์ขนาดใหญ่
ค่ำ รับประทานอาหาร ค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Foss Hotel Reykjavik หรือระดับเดียวกัน
Hilight
Optional อิสระนำท่านล่องเรือเพื่อตามล่าหาแสงเหนือ หรือแสงออโรรา เกิดจากอนุภาคพลังงานสูงจากดวงอาทิตย์ ชนกับโมเลกุลในชั้นบรรยากาศโลก และแตกตัวออกเป็นไอออน สร้างการเรืองแสงวิ่งไปตามสนามแม่เหล็กโลก สิ้นสุดที่ขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ เกิดเป็นแสงพลิ้วไหวสวยงามราวกับเต้นระบำ (ทั้งนี้แสงเหนือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดล่วงหน้าได้ โอกาสมองเห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ)
วันที่แปด เรคยาวิค – สนามบินเคฟลาวิค (ไอซ์แลนด์) – สนามบินเฮลซิงกิ – ช้อปปิ้งมอลล์ (ฟินแลนด์)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรมหรือแบบกล่อง
05.30 น. ให้ท่านเตรียมตัวเดินทางสู่สนามบินเคฟลาวิค
08.45 น. ออกเดินทางจากสนามบินเคฟลาวิค โดยสายการบิน Finnair เที่ยวบินที่ AY992
15.10 น. เดินทางถึงสนามบินเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร รถโค้ชรอรับท่านนำท่านเดินทางเข้าสู่เขตใจกลางเมืองของนครเฮลซิงกิ มีเวลาให้ท่านเลือกซื้อสินค้าจากห้างสรรพสินค้าฟอรั่ม Forum Shopping Center ห้างขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดใจกลางกรุงเฮลซิงกิ ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 120 ร้านค้า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Radisson Blu Seaside หรือระดับเดียวกัน
วันที่เก้า เฮลซิงกิ – สนามบินเฮลซิงกิ (ฟินแลนด์)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
09.30 น. ให้ท่านเตรียมตัวเดินทางสู่สนามบินเฮลซิงกิ
13.45 น. ออกเดินทางจากสนามมบินเฮลซิงกิ โดยสายการบิน Finnair เที่ยวบินที่ AY141
วันที่สิบ สนามบินสุวรรณภูมิ
05.25 น. เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
ทัวร์ยุโรป