banner morocco OCT 24-01-01

ทัวร์โมรอคโค GRAND MOROCCO 11 DAYS 8 NIGHTS (TK)

ราคาเริ่มต้น 111,500 ฿ ดาวน์โหลด PDF จองทัวร์

สายการบิน: packageLogo683_Turkish Airlines Logo

• เดินทางโดยสายการบิน Turkish Airline ไม่ต้องนั่งรถย้อนเส้นทาง
• บินเข้าเมืองคาซาบลังกา Casablanca
• บินออกจากเมืองมาราเกช Marakesh
• เดินทางสัมผัสเมืองศิลปะ วัฒนธรรม โมรอคโค สุดตระการตา
• โปรแกรมเที่ยวครบทุกเมืองไฮไลท์
• ชมบ่อฟอกหนังที่เก่าแก่ที่สุดในที่เมืองเฟส
• เที่ยวที่เมืองเฟสแบบเต็มๆ 2 คืน
• นั่ง 4WD เข้าสู่ใจกลาง SAHARA
• ขี่อูฐ ชมแสงแรกกลางทะเลทราย SAHARA
• ราคานี้รวมทุกอย่างแล้ว

วันที่เดินทาง

10 ต.ค. 67 – 20 ต.ค. 67

ทัวร์โมรอคโค

DAY 1 : 10 ตุลาคม 67
สนามบินสุวรรณภูมิ

19.00 น. พบกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์เช็คอิน M ประตู 7
สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ TK เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางก่อนขึ้นเครื่อง
23.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองอิสตันบูล ( Istanbul ) โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 69 ( ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 10.20 ชั่วโมง )

DAY 2 : 11 ตุลาคม 67
สนามบินเมืองอิสตัลบูล – เมืองคาซาบลังกา

05.10 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตัลบูล เพื่อแวะเปลี่ยนเที่ยวบิน
12.05 น. ออกเดินทางสู่ เมืองคาซาบลังก้า(CASABLANCA) โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 617
15.05 น. เดินทางถึงสนามบิน Mohamed V Airport ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคาซาบลังกา คาซาบลังก้า หมายถึง บ้านสีขาว คําว่า “คาซา” แปลว่า บ้าน และ “บลังกา” แปลว่า สีขาว เป็นเมืองท่าและเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานระหว่างประเทศ ปัจจุบันเป็นเมืองเศรษฐกิจหลักของประเทศโมร็อกโก ที่มีประชากร อาศัยอยู่ประมาณเกือบ 5 ล้าน นำท่านเข้าชม มัสยิดแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 (Hassan II Mosque) สุเหร่าคู่บ้านคู่เมืองโมรอคโค สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปีค.ศ. 1993 ในวาระเฉลิมพระชนม์ครบ 60 พรรษาของกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 เป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่จุคนได้ราว 25,000 คนและมีหอคอยสูงถึง 210 เมตรเป็นศิลปะสไตล์โมร็อกโกออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสมิเชลแปงโซ (หากไม่ตรงกับเวลาละหมาด จะนำทุกท่านเข้าชมภายในมัสยิดแห่งนี้)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ที่พัก BARCELO CASABLANCA หรือเทียบเท่า
**โรงแรมระดับ 4 ดาว มาตรฐานประเทศโมรอคโค**

DAY 3 : 12 ตุลาคม 67
เมืองราบัต- นครสีฟ้าเชฟชาอูน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองราบัต (RABAT) (ระยะทางประมาน 87 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) คือเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศโมร็อกโก ตั้งอยู่ติดมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นแหล่งอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมก่อสร้าง และอุตสาหกรรมผ้า ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2012

จากนั้นนำท่านเดินทางเยี่ยมชมหอคอยฮัสซัน (HASSAN TOWER) ส่วนหนึ่งของมัสยิดฮัสซัน ซึ่งได้วางแผนไว้ให้เป็นสุเหร่าที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก แต่สร้างไม่สำเร็จ และพังลงจนเหลือแต่เพียงเสาไว้ 365 ต้น เพราะสุลต่านผู้ที่สั่งให้สร้างสิ้นพระชนม์เสียก่อน หอคอยนี้มีลักษณะคล้ายกับหอคอยเมืองเซวิลของสเปนและมัสยิดคูตูเบียในเมืองมาราเกช เพราะสร้างในยุคเดียวกันโดยสถาปนิกคนเดียวกัน จากนั้นนำทุกท่านเข้าชมสุสานของสุสานกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่5 (Mausoleum of Mohammed V) เป็นสถานที่ฝังพระศพของพระบรมวงศานุวงศ์สามพระองค์ ได้แก่ กษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 ซึ่งเป็นพระอัยกาของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน กษัตริย์ฮัสซันที่สอง และเจ้าชายมูเล อับดุลลา พระโอรสทั้งสองของกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 เป็นสถาปัตยกรรมแบบโมร็อกโก ซึ่งมีทหารยามคอยยืนเฝ้าอย่างสง่าทุกประตู และเปิดให้คนทุกชาติทุกศาสนาเข้าไปเคารพพระศพที่ฝังอยู่เบื้องล่าง จากนั้นนำท่านไปชมป้อมปราการ อุดายา คาชบาห์ (Oudaya Kasbah) ป้อมขนาดใหญ่ 2 ชั้นที่ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงใหญ่ ด้านในเป็นเมดิน่า บ้านเรือนทาทาบด้วยสีฟ้า ที่สะอาด
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่เมืองแทนเจียร์(Tangier) (ระยะทางประมาณ 252 กิโลมเตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.00 ชม.) ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศโมร็อกโก และอยู่ทางตอนใต้ของ “ช่องแคบยิบรอลตาร์” เป็นช่องแคบที่กั้นระหว่างทวีปยุโรป(ประเทศสเปน)และทวีปแอฟริกาเหนือ (ประเทศโมรอคโค) ให้ทุกท่านเพลิดเพลินชมความสวยงามของ“ช่องแคบยิบรอลตาร์” จากนั้นชม แกรนด์ ซัคโค (Grand Socco) หรือที่รู้จักกันว่า “บิ๊กสแควร์” จัตุรัสที่รายล้อมไปด้วยเขตเมืองเก่า หรือย่านเมดินา เป็นตลาดที่ใหญ่ในเมือง และให้ทุกท่านอิสระซื้อสินค้าพื้นเมือง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ที่พัก FARAH HOTEL 5* TANGIER หรือเทียบเท่า
**โรงแรมระดับ 5 ดาว มาตรฐานประเทศโมรอคโค**
DAY 4 : 13 ตุลาคม 67
เมืองราบัต- นครสีฟ้าเชฟชาอูน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ นครสีฟ้าเชฟชาอูน (ระยะทางประมาน 112 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เมืองที่ได้ชื่อว่ามนต์เสน่ห์แห่งโมร็อกโก เป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่ในหุบเขาริฟ (RIF MOUNTAIN) ที่มีประวัติความเป็นมาของเมืองนั้นยาวนานกว่า 538 ปี เมืองนี้เคยอยู่ใต้การปกครองของสเปน และได้รับอิสรภาพในปี ค.ศ.1956 จนได้รับอิทธิพลวิถีชีวิตและภาษาสเปนในปัจจุบันนี้ เอกลักษณ์เฉพาะตัวของเมืองนี้คือ ความแปลกตาของอาคารบ้านเรือนสีสันสดใสที่ถูกทาเป็นสีฟ้าและน้ำเงินทั้งเมือง ตัดกับภาพภูมิทัศน์ทางธรรมชาติของภูเขาที่ตั้งอยู่เป็นฉากหลังของเมืองอย่างสวดสดงดงาม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
จากนั้นนำคณะท่านเดินทางสู่ เมืองเมคเนส (Meknes) (ระยะทางประมาณ 194 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ) หนึ่งในเมืองมรดกโลกรับรองโดยยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1996 เป็นอดีตเมืองหลวงในสมัยสุลต่าน มูเล อิสมาอิแห่งราชวงศอ์ะลาวทิ (Alawite Dynasty) นำคณะท่านแวะชม ประตูบับมันซู เป็นประตูที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุด ตกแต่งด้วยโมเสดและกระเบื้องสีเขียวสด

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
จากนั้นเข้าชม เมืองโบราณโรมันโวลูบิลิส (Roman City of Volubilis) ที่ปัจจุบันเหลือแต่ซากปรักหักพังที่เกิดจาก แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในปี ค.ศ.1755 แต่ยังคงเห็นได้ถึงร่องรอยความยิ่งใหญ่ของเมืองในจักรวรรดิโรมันในอดีต อดีตเมืองโบราณแห่งจักรวรรดิ โรมันแห่งนี้ มีความสำคัญยิ่งในยุคศตวรรษที่ 3 และล่มสลายถูกปล่อยเป็น เมืองร้างในศตวรรษที่ 11 เมืองโรมันโบราณแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1997 นำท่านเดินทางสู่ เมืองเฟซ (FES) เมืองหลวงเก่าในศตวรรษที่ 8 ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโมร็อกโก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ที่พัก BARCELO FES MEDINA HOTEL 5*, FEZ หรือเทียบเท่า
**โรงแรมระดับ 5 ดาว มาตรฐานประเทศโมรอคโค**

DAY 5 : 14 ตุลาคม 67
เมืองเฟส
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
** ในวันนี้เราจะได้เที่ยวเมืองเฟส กันตลอดทั้งวัน **

นำท่านชม ประตูพระราชวังหลวงแห่งเฟส (The Royal Palace) ประตูทางเข้าพระราชวัง ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยและสง่างาม และเป็นเอกลักษณ์แห่งราชวงศ์โมร็อคโค บริเวณใกล้เคียงพระราชวังเคยเป็นที่อยู่ของชุมชนชาวยิวที่ทำรายได้ให้แก่ราชวงศ์
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
นำท่านเดินทางเยี่ยมชม ชมเขตเมืองเก่า (MEDINA) เป็นมรดกโลกทางประวัติศาสตร์ เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมและอารยธรรมในยุคเก่า โดยเริมจากผ่านชม ประตู BAB BOU JELOUD ที่สร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 1913 ใช้โมเสดสีฟ้าตกแต่ง เดินผ่านเข้าไปในเขตเมดินา เมืองเฟส เป็นเมืองที่ได้รับ ฉายาว่า เมืองพันตรอก เนื่องจากในย่านเมืองเก่าจะมีร้านค้า และมีซอกซอย เยอะมากๆ เราจะใช้เวลาอยู่ในเมืองนี้แทบทั้งวัน ที่เมืองเก่านี้ให้ความรู้สึกเหมือนข้ามกาลเวลาย้อนสู่อดีต เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง

จากนั้นนำท่านเยี่ยม เมเดอร์ซา บูอิมาเนีย (MERDERSA BOU IMANIA) ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนพระคัมภีร์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบมัวร์ที่สวยงามประณีต ในเขตเมืองเก่าได้ มีซอยกว่า 10,000 ซอย มีซอยแคบสุดคือ 50 ซ.ม. ถึงกว้าง 3 เมตร จะแบ่งเป็นย่านต่างๆ เช่น ย่านเครื่องใช้ทองเหลือง ทองแดง จะมีร้านค้าเล็กๆที่หน้าร้านจะมีหม้อ กระทะ อุปกรณ์เครื่องครัว วางแขวนห้อยเต็มไปหมด ย่านขายพรมที่วางเรียงรายอย่างสวยงาม ย่านงานเครื่องจักสาน งานแกะสลักไม้ ที่ตามซอกมุมอาจเห็นภาพชายสูงอายุหนวดเครารุงรังนั่งแกะสลักไม้ชิ้นเล็กๆ อยู่บริเวณตามทางเดินแคบๆ ในเขตเมืองเก่า
จากนั้นระหว่างที่เดินตามทางในเขตเมืองเก่า ท่านจะได้เห็น น้ำพุธรรมชาติ NEJJARINE FOUNTAIN เป็นจุดจ่ายน้ำ ที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกที่ปรานีตสวยงาม กระจายตามจุดต่างๆของเมือง เพื่อให้ชาวมุสลิมได้ใช้ล้างหน้าและล้างมือ จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม สุสานของมูเล ไอดริสที่ 2 (MOULAY IDRISS MAUSOLEM II) ชาวโมร็อกโกถือว่าเป็นสถานที่แสวงบุญที่ศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นนำท่านเยี่ยมชมบ่อฟอกและย้อมสีหนังแบบโบราณ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองเฟส อนุรักษ์ไว้โดยองค์กรยูเนสโก้ ให้ทุกท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่น เมืองเฟสจึงเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดในการมาเยือนอย่างยิ่ง

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ที่พัก BARCELO FES MEDINA HOTEL 5*, FEZ หรือเทียบเท่า
**โรงแรมระดับ 5 ดาว มาตรฐานประเทศโมรอคโค*
*** จัดเตรียมสัมภาระใส่เป๋าใบเล็กสำหรับพัก 1 คืน สำหรับเข้าพักในทะเลทรายซาฮาร่าในวันถัดไป ***
DAY 6 : 15 ตุลาคม 67
เมืองเฟส – เมืองอิเฟรน – เมืองเออร์ฟูด์ – นั่งรถ 4WD ตะลุยทะเลทรายซาฮาร่า เมืองเมอร์ซูก้า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอิเฟรน (IFRANE) (ระยะทางประมาน 64 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง) เมืองที่ความสูงประมาณ 1,650 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ที่พักตากอากาศซึ่งในอดีตฝรั่งเศสได้มาสร้างขึ้นบริเวณนี้ ในช่วง ค.ศ. 1930 บางครั้งเรียกเมืองแห่งนี้ว่า เจนีวาแห่งโมร็อกโก บ้านส่วนใหญ่มีหลังคาสีแดง มีดอกไม้บาน และทะเลสาบสวยงาม เป็นสถานที่พักผ่อนทั้งฤดูหนาวและฤดูร้อน ผ่านชมเส้นทางผาดผ่าน เทือกเขาแอตลาส ภูมิประเทศเขียวชอุ่มไปด้วยป่าไม้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
นำท่านออกเดินทางสู่ เขตทะเลทรายซาฮาร่า(ระยะทางประมาน 268 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) มุ่งหน้าสู่ เมืองเออร์ฟูด์ (ERFOUD) ซึ่งเป็นโอเอซิสศูนย์กลางการค้าขายของคาราวานซึ่งเดินทางมาจากซาอุดิอาระเบีย และซูดาน จากนั้นนำท่านมุ่งหน้าสู่ เมืองเมอร์ซูก้า โดยสัมผัสประสบการณ์ นั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อ 4 WD ตะลุยทะเลทรายซาฮาร่า (SAHARA) เป็นทะเลทรายในทวีปแอฟริกาที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (รองจากทะเลทรายในทวีปแอนตาร์กติกา) และเป็นทะเลทรายร้อนที่ใหญ่ที่สุดของโลก ระหว่างทางจะได้สนุกสนานไปกับการขับรถขึ้นลงบนสันทราย ชื่นชมทะเลทรายที่ไกลสุดลูกหูลูกตาโดยปลายทางคือที่พักกลางทะเลทราย ณ เมืองเมอร์ซูก้า
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ที่พัก KASBAH TOMBOUCTOU หรือเทียบเท่า

DAY 7 : 16 ตุลาคม 67
เมืองเมอร์ซูก้า – เมืองวอซาเซท
05:00 นำเดินทางร่วมกิจกรรม ขี่อูฐรับแสงอรุณ ลัดเลาะสู่เนินทะเลทรายอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาเพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้นทอแสงในยามเช้าเป็นบรรยากาศที่ท่านจะประทับใจมิรู้ลืม
(รวมราคาขี่อูฐไว้แล้ว)
**เวลาในการขี่อูฐ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาของพระอาทิตย์ขึ้น **
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองทินเฮียร์ (TINGHIR) (ระยะทางประมาน 201 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) ชุมชนที่เกาะกลุ่มอยู่รวมกันท่ามกลางความแห้งแล้ง เคยเป็นที่ตั้งของกองทหารที่เดินทางมาจากวอซาเซท จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทอด้าจอร์จ (TODRA GORGE) ชมความงามของช่องเขาที่ซ่อนตัวอยู่ในโอเอซิส ลำน้ำใสไหลผ่านช่องเขากับหน้าผาสูงชันแปลกตาเป็นแหล่งปีนหน้าผาสำหรับนักเสี่ยงภัยทั้งหลาย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองวอซาเซท (OUARZAZATE) (ระยะทางประมาน 173 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เคยเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ในปี ค.ศ. 1928 ฝรั่งเศสได้ตั้งกองกำลังทหารและพัฒนาที่นี่ให้เป็นศูนย์กลางการบริหาร วอซาเซทเป็นเมืองถูกส่งเสริมให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่แวดล้อมไปด้วยสตูดิโอภาพยนตร์ และมีการพัฒนาพื้นที่ในทะเลทรายเพื่อการทำกิจกรรมต่างๆ จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม ป้อมทาอูเริท พระราชวังของผู้ปกครองมาราเกซ ตระกูล กลาวี (GLAOUI PALACE) เป็นป้อมดิน หรือ วังที่สร้างจากดิน ซึ่งภายในประกอบด้วยห้องจํานวนมาก รวมถึงฮาเร็ม และที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยทางเล็กๆอยู่ ภายในห้องต่างๆ นอกจากนี้ยังมีลวดลายผนังอาคารและรูปแบบสถาปัตยกรรมอันหลากหลายของการสร้างอาคารของชาวเบอร์เบอร์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ที่พัก OSCAR OUARZAZATE 4* หรือเทียบเท่า
**โรงแรมระดับ 4 ดาว มาตรฐานประเทศโมรอคโค**

DAY 8 : 17 ตุลาคม 67
เมืองวอซาเซท – เมืองไอท์ เบนฮาดดู – เมืองมาราเกช – พระราชวังบาเฮีย
มัสยิดกูตูเบีย – จัตุรัสกลางเมืองเจมา เอล ฟนา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางเยี่ยมชม เมืองไอท์ เบนฮาดดู (AIT BENHADDOU) (ระยะทางประมาน 30 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองที่ทุกอย่างสร้างขึ้นจากดิน ตั้งแต่บ้านเรือนไปจนถึงอาคารขนาดใหญ่ เมืองนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทําภาพยนตร์กว่า 20 เรื่อง ปัจจุบันอยู่ในความดูแลขององค์การยูเนสโก้
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมาราเกช(Marakech) (ระยะทางประมาน 182 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่ตั้งอยู่เชิงเขาแอตลาส ในอดีตเมืองโอเอซิสแห่งนี้เป็นที่พักของกองคาราวานอูฐที่มาจากทางตอนใต้ ถือเป็นเมืองชุมทางของพ่อค้าต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นอดีตเมืองหลวงในช่วงสมัยราชวงศ์อัลโมราวิดช่วง ศ.ต.ที่ 11 ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด สภาพบ้านเมืองที่เราเห็นได้คือ สองข้างทางแวดล้อมด้วยบ้านเรือนที่ถูกฉาบด้วยปูนสีส้มๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำหนดไว้ แต่คนท้องถิ่นจะเรียกว่า PINK CITY หรือ เมืองสีชมพู
ให้อิสระทุกท่านพักผ่อนที่โรงแรม

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL MARRAKECH HOTEL 4 หรือเทียบเท่า
**โรงแรมระดับ 4 ดาว มาตรฐานประเทศโมรอคโค**

DAY 9 : 18 ตุลาคม 67
มัสยิดคูตูเบีย – สุสานแห่งราชวงศ์ซาเดียน – พระราชวังบาเฮีย
จัตุรัสกลางเมืองเจมา เอล ฟนา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่าน แวะถ่ายรูป มัสยิดคูตูเบีย (KOUTOUBIA MOSQUE) ซึ่งเป็นมัสยิดใหญ่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ไม่ว่าจะเดินไปแห่งใดในตัวเมืองก็จะยังสามารถมองเห็นมัสยิดนี้ได้

จากนั้นนำท่านชม สุสานแห่งราชวงศ์ซาเดียน (Saadian Tombs)
เป็นที่ฝังพระศพของ กษัตริย์และครบครัวของราชวงศ์ในสมัยราชวงศ์ซาเดียน ด้านในเป็นงานศิลปะแบบมัวริช(Moorish) และตกแต่งภายในห้องโถงด้วย เสาหินอ่อนสีสวย ลวดลายงานปูนที่ประดับประดาบนผนังและเพดาน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
นำท่านชม พระราชวังบาเฮีย (Bahia Palace) เป็นพระราชวังของ ผู้สำเร็จราชการในอดีต โดย สถาปัตยกรรมออกเป็นแนวสมัยใหม่ โดยที่ตั้งใจจะให้เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และหรูหราที่สุดในสมัยนั้น มีการตกแต่งโดยการแกะสลักปูนปั้น (Stucco) บนเพดานและบานประตูมีการวาดลายโดยใช้สีธรรมชาติบนไม้สนซีดาร์ และผนังประดับประดาด้วยโมเสกเป็นลวดลายที่สวยงามและสวนกลางพระราชวังสไตล์ริยาด (Riad) ประกอบไปด้วยลานน้ำพุ ตรงกลางและสวนไม้ดอก ด้านรอบๆสี่มุม ตามสไตล์การแต่งบ้านแบบโมรอคโค

จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม จัตุรัสกลางเมืองเจมา เอล ฟนา (DJEMAA FNAA SQUARE) ที่มีขนาดใหญ่ รายล้อมไปด้วยอาคาร ร้านค้า ตลาด ทั้ง 4 ด้าน เดินเล่นถ่ายรูปความมีชีวิตชีวา ที่มีสีสันและกลิ่นอายแบบโมรอคโคขนานแท้ พร้อมให้ท่านได้จับจ่ายหาซื้อของฝาก ของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ ได้ที่ตลาดเก่า ที่อยู่รายรอบจัตุรัส
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL MARRAKECH HOTEL 4 หรือเทียบเท่า
**โรงแรมระดับ 4 ดาว มาตรฐานประเทศโมรอคโค**
DAY 10 : 19 ตุลาคม 67
เมืองมาราเกช – สวนจาร์ดีน มาจอแรล

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทาง เข้าชม สวนจาร์ดีน มาจอแรล (JARDIN MAJORELLE) หรือ สวนอีฟแซงท์ ลอเร้นท์ (YVES SAINT LAURENT GARDENS) ชื่อนี้เป็นที่คุ้นเคยของสาวๆ ที่ชื่นชอบแฟชั่นสุดหรูของ YVES ST. LAURENT นักออกแบบแฟชั่นดีไซน์แห่งปารีส ซึ่งเป็นผู้ออกแบบสวนแห่งนี้ ในช่วงที่โมร็อกโกตกเป็นอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศส

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
จากนั้นนำทุกท่านเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติเมืองมาราเกช
16.25 น. เดินทางสู่ เมืองดูไบ โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (Turkish Airline) เที่ยวบินที่ TK620
23.25 น. เดินทางถึงเมืองอิสตัลบูล ประเทศตุรกี

DAY 11 : 20 ตุลาคม 67
สนามบินสุวรรณภูมิ

01.35 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (Turkish Airline) เที่ยวบินที่ TK68
15.25 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
ทัวร์โมรอคโค