ทัวร์ยุโรป
/
เชสกี้ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) เพชรน้ำงามแห่งดินแดนโบฮีเมีย
เชสกี้ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) เพชรน้ำงามแห่งดินแดนโบฮีเมีย
เชสกี้ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) เพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมีย เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1992 เมืองนี้ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา ความโดดเด่นของเมืองคือ อาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 หลัง ได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก…
เชสกี้ครุมลอฟเป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวาตอนต้น ใกล้กับแหล่งกำเนิดของแม่น้ำ ก่อนที่จะไหลต่อไปเป็นกระแสน้ำสายใหญ่ผ่านกรุงปราก เมืองหลวงของ ประเทศเช็ก ช่วงที่แม่น้ำวัลตาวาไหลผ่านและล้อมรอบเมืองในลักษณะงอโค้งเป็นคุ้งไปตามเนินเขา คดเคี้ยวเหมือนรูปตัว S จนทำให้ ภูมิทัศน์ของตัวเมืองเหมือนกับหยดน้ำที่กำลังจะร่วงหล่นจากขั้ว
สิ่งที่เติมเต็มให้เชสกี้ครุมลอฟ เป็นเพชรน้ำงามก็คงจะหนีไม่พ้นบ้านเรือนเก่าแก่ หลังคาสีส้ม - แดง ที่เรียงรายอยู่นับไม่ถ้วนกว่า 300 หลัง ทำให้เมื่อเรามองจากมุมสูงจะเกิดภาพที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ ราวกับอยู่ในเมืองแห่งนิทาน
นอกจากนี้ภายในเมืองยังมีอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวน่าสนใจให้เราได้แวะไปชมนั่นก็คือ ปราสาทครุมลอฟ (Krumlov Castle) ปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองลงมาจากปราสาทปราก โดยหอคอยสีชมพูของปราสาทที่มีอายุกว่า 700 ปี ผ่านการครอบครองของขุนนางถึง 3 ตระกูล ที่ใช้เป็นคฤหาสน์ส่วนตัว ก่อนจะตกเป็นสมบัติของรัฐบาลในที่สุด นอกจากนี้ที่นี่ยังเปิดให้เข้าชมด้านในของตัวปราสาทในบางส่วน โดยมีกฎว่าห้ามถ่ายภาพภายในโดยเด็ดขาด และการจะเข้าชมด้านในนั้น จะต้องเสียค่าเข้าขมในลักษณะของไกด์พาทัวร์ด้วยค่ะ
ทัวร์แบบที่ 1 ราคาผู้ใหญ่ 240 CZK เด็กและผู้สูงอายุ 140 CZK พร้อม ไกด์ภาษาอังกฤษ ระยะเวลา 1 ชั่วโมง ทัวร์นี้จะพาไปชมไปในห้องต่างๆ สไตล์ เรอเนสซองซ์อันโอ่อ่ามั่งคั่ง รวมถึงโบสถ์ ห้องสวีทสไตล์บารอก ชมภาพ ที่หอศิลป์ และห้องเต้นรำสวมหน้ากาก
ทัวร์แบบที่ 2 ราคาผู้ใหญ่ 180 CZK เด็กและผู้สูงอายุ 100 CZK ระยะ เวลา 1 ชั่วโมง จะเยี่ยมชมหอศิลป์ ชมภาพเหมือนของครอบครัวชวาร์เซนเบิร์ก และอพาร์ทเมนท์ของพวกเขา ซึ่งถูกใช้ในศตวรรษที่ 19
ทัวร์แบบที่ 3 เป็นทัวร์โรงละคร ราคาผู้ใหญ่ 380 CZK เด็กและ ผู้สูงอายุ 220 CZK ระยะเวลา 40 นาที มีเวลา 10.00-16.00 น. วันอังคาร-วันอาทิตย์ (พฤษภาคม–ตุลาคม) จะได้สำรวจโรงละครสไตล์โรโกโก (Rococo) อันโดดเด่นของปราสาทพร้อมด้วยเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในการทำเอฟเฟ็คต์ต่าง ๆ
ทัวร์ยุโรป
/
ทะเลสาบโคโม่ (Como Lake) ดินแดนในฝันบนผืนแผ่นดินอิตาลี
ทะเลสาบโคโม่ (Como Lake) ดินแดนในฝันบนผืนแผ่นดินอิตาลี
ทะเลสาบโคโม่ ทะเลสาบที่สวยที่สุดใน อิตาลี อยู่ในจังหวัดโค่โม่ แคว้นลอมาร์เดีย และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของทะเลสาบทั้งหมดในอิตาลี แหล่งท่องเที่ยวชั้นเยี่ยมที่อัดแน่นด้วยกิจกรรมสนุกมากมาย เหมาะแก่การหนีมาพักร้อน ตากอากาศมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง แถมยังได้ชมวิวทิวทัศน์สวยๆ และสัมผัสกับอากาศเย็นตลอดปี เพราะอยู่ติดเทือกเขาแอลป์…
ทะเลสาบแห่งนี้มีความยาวโดยรอบ 160 กิโลเมตร มีพื้นที่ 146 ตารางกิโลเมตร หนึ่งในจำนวนเมืองมากมายที่รายล้อมทะเลสาบ มีเมืองที่ชื่อว่า โคโม่ ที่มีชื่อเดียวกับทะเลสาบ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง
สิ่งที่ทำให้ทะเลสาบโคโม่มีชื่อเสียงก็คือความงดงามของผืนน้ำ วิวทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์และอากาศที่เย็นตลอดปี ทำให้เราสามารถเลือกมาพักผ่อน ณ ที่แห่งนี้เมื่อไหร่ก็ได้ อีกทั้งที่นี่ยังให้บรรยากาศคล้ายๆ กับหมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ ออสเตรีย แต่มีพื้นที่ที่กว้างขวางกว่า
นอกจากการดื่มด่ำกับบรรยากาศอันงดงามของทะเลสาบแห่งนี้ ที่เมืองโคโม่ยังมีกิจกรรมให้เราทำอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมไฮกิ้ง กิจกรรมไต่เขา เล่นสกี และพายเรือแคนู สายลุย สายธรรมชาติ ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด
เมืองส่วนใหญ่ใน Lake Como มีเอกลักษณ์ที่คล้ายคลึงกันคือเป็นเมืองที่มีอาคารสีสวยสดใสและสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบต่างๆ ที่มีทางเดินเลียบทะเลสาบสวยงาม มีพิพิธภัณฑ์ชื่อดังและวิลลาชื่อดังให้เที่ยวชม ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความครบครัน สามารถเติมเต็มความสุขให้คุณในช่วงพักผ่อนได้ดีเลยที่เดียวค่ะ
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ ทะเลสาบโคโม่ (Como Lake) ดินแดนในฝันบนผืนแผ่นดินอิตาลี เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของทะเลสาบโคโม่ เป็นตัวอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการหลบร้อนไปพักผ่อนเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนมา เที่ยวอิตาลี แต่ไม่รู็ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์ยุโรป
/
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) ที่สุดแห่งมิวเซียม ณ ใจกลางกรุงปารีส
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) ที่สุดแห่งมิวเซียม ณ ใจกลางกรุงปารีส
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “The Grand Louvre” พิพิธภัณฑ์เก่าแก่มีชื่อเสียง และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เปิดให้สาธารณะชนเข้าชมเมื่อปี ค.ศ. 1793 ภายในจัดแสดงและเก็บรักษาผลงานศิลปะล้ำค่ามากกว่า 35,000 ชิ้น…
ในอดีตที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 ต่อมาช่วงประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 14 กษัตริย์ Charles V ได้เปลี่ยนลูฟวร์ให้เป็นที่อยู่ของราชวงศ์ และในปี ค.ศ. 1682 พระราชวงศ์ย้ายไปอยู่ที่ พระราชวังแวร์ซายส์ (Versailles) จึงได้ทำเกิดเป็นพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ก่อนจะเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1793
ภายในพพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานศิลปะล้ำค่ามากกว่า 35,000 ชิ้น ในพื้นที่กว่า 60,600 ตารางเมตร และมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากถึง 9.7 ล้านคนต่อปี ผลงานที่จัดแสดงมีความหลากหลายตั้งแต่สุสานมัมมี่อียิปต์ไปจนถึงประติมากรรมกรีกโบราณ อีกทั้งยังเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานชื่อก้องโลกอย่างภาพเขียนโมนาลิซาทีเป็นผลงานของ เลโอนาร์โด ดาวินชี ภาพเขียนหญิงสาวที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก งานปั้นชื่อดัง Venus de Milo ของศิลปินในยุคกรีกโบราณ Alexan dros of Antioch และภาพเขียนฝาผนังต่างๆ
อีกหนึ่งจุดที่เรียกได้ว่าฮิต! จนคุณไม่ควรพลาดเลยก็คือ พีระมิดแก้ว พีระมิดนี้ถูกออกแบบโดยนักสถาปนิกชาวอเมริกันเชื้อสายจีนชื่อดังนามว่า I.M.Pei ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี ค.ศ. 1988 เพื่อใช้เป็นทางเข้าพิพิธภัณฑ์ และยังมีการสร้างพีระมิดกลับหัว The Inverse Pyramid ที่ชั้นใต้ดิน เหตุผลคือต้องการสื่อถึงความทันสมัยและความเก่าแก่ที่อยู่รวมกันในพิพิธภัณฑ์ ซึ่งสิ่งนี้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์และงานศิลปะชิ้นเอกของลูฟวร์ไปแล้ว
นอกจากนี้แล้วยังมีงานศิลปะอื่นๆ อีกมากมายทั้งภาพวาด งานปั้น งานแกะสลัก รวมไปถึงโบราณวัตถุที่สำคัญ โดยแบ่งออกเป็นโซนๆ และแยกออกเป็นประเภทๆ ซึ่งถ้าอยากเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะแห่งนี้อย่างจุใจ อาจจะต้องเผื่อเวลากันหน่อย เพราะที่นี่มีพื้นที่ถึง 650,000 ตารางฟุต เรียกได้ว่าเดินยาวๆกันไปเลยค่ะ
เวลาทำการ : จันทร์ พฤหัสบดี เสาร์ อาทิตย์ เปิด 09:00 - 18:00 น., พุธ ศุกร์ 09:00 - 21:45 น., (ปิดวันอังคาร, 1 ม.ค., 1
ทัวร์ยุโรป
/
Atlantic Ocean Road ถนนที่สวยที่สุดแห่งประเทศนอร์เวย์
Atlantic Ocean Road ถนนที่สวยที่สุดแห่งประเทศนอร์เวย์
Atlantic Ocean Road ถูกจัดว่าเป็นถนนที่มีความสวยงามที่สุดของประเทศนอร์เวย์ และยังติดอันดับต้นๆ ของโลก เส้นทางแห่งความงดงามที่เราจะได้เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์สุดอลังการระหว่างสองข้างทางทอดยาวออกไปสุดสายตา ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งแก่การออกโรดทริป หรือ จะแวะมาสัมผัสความท้าทายของถนนแห่งนี้ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน…
ถนนแอตแลนติก โอเชียน มีระยะทางทั้งหมด 8.3 กิโลเมตร หรือ 5.2 ไมล์ แต่เดิมถนนสายนี้เคยถูกเสนอให้สร้างเป็นเส้นทางรถไฟ แต่ก็ได้ถูกยกเลิกไป จนทางการสั่งให้มีการก่อสร้างครั้งใหม่ขึ้นเกิดเป็นถนนเส้นนี้
ซึ่งในระหว่างการก่อสร้างนั้นต้องฝ่าฝันอุปสรรคจากพายุถึง 12 ครั้ง ถนนเส้นนี้สร้างขึ้นเพื่ออยากเอาชนะคลื่นลมแรงที่เกิดจากธรรมชาติ มีการสร้างเส้นถนนนี้เชื่อมจากเมืองใหญ่ 2 เมืองคือ Eide กับ Averøy ผ่านเกาะเล็กๆ ถึง 17 เกาะ
ถึงเส้นทางจะดูคดเคี้ยว และอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก แต่ถนนเส้นนี้ก็มีความปลอดภัยสูง เพราะได้ถูกคำนวนและออกแบบอย่างมีมาตรฐาน เรียกได้ว่าหมดกัวงลไปเลย ขับสบาย หายห่วง แต่ก็อย่าเพลินจนเกินความประมาทนะคะ
ระหว่างสองข้างทางนอกจากเราจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ก็ยังมีจุดแวะพักรถให้เราได้แวะลงไปสูดอากาศกันอย่างอิ่มเอม มองเห็นผู้คนมาทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำ ตกปลา กระจัดกระจายอยู่ตามมุมต่างๆ
หากใครได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวยังที่แห่งนี้ รับรองคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะระหว่างทางนั้นเราจะได้เห็นความงามของธรรมชาติทั้งภูเขา มหาสมุทรแอดแวนติก และเกิดความตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากถนนมีความคดเคี้ยว รูปร่างบิดโค้งไป บางครั้งก็อาจจะเจอกับคลื่นที่ซัดผ่านสะพานข้ามเกาะ
เรียกได้ว่าคุณภาพคับแก้วจริงๆ สมกับที่ได้รับรางวัลยกย่องให้เป็น “Norwegian Structure of The country” และเป็นหนึ่งในถนนที่สวยงามที่สุดในโลก และ National Tourist Route มรดกทางวัฒนธรรม นายสุดยอดมากค่า...
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ AtlanticOcean Road ถนนที่สวยที่สุดแห่งประเทศนอร์เวย์ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของถนนแอตแลนติก โอเชียน งดงามและแฝงด้วยความตื่นเต้นจนอยากออกไปสัมผัสเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวนอร์เวย์ แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์ยุโรป
/
ไกแรงเกอร์ฟยอร์ด เพชรเม็ดงามแห่งดินแดนนอร์เวย์
ไกแรงเกอร์ฟยอร์ด (Geirangerfjord) เพชรเม็ดงามแห่งดินแดนนอร์เวย์
ที่สุดของการมา เที่ยวนอร์เวย์ ถ้าใครไม่ได้แวะไปสัมผัสความงดงามของ ซองฟยอร์ด ก็อาจจะเรียกได้ว่าไปไม่สุดจริงๆ เพราะดินแดนแห่งนี้ได้รับขนานนามว่าเป็นขุมทองของซองฟยอร์ดที่มีความงดงามมากที่สุดในโลก และยังถูดจัดอันดับให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย วันนี้ Planetholiday จะพาทุกคนไปสัมผัสกับซองฟยอร์ดที่มีความงดงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศนอร์เวย์ ถ้าพร้อมแล้ว เชิญพบกับ ไกแรงเกอร์ฟยอร์ด เพชรเม็ดงามแห่งดินแดนนอร์เวย์ กันเลยค่ะ…
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าซองฟยอร์ดคืออะไร งั้นเรามาทำความรู้จักเค้ากันก่อนดีกว่าค่ะ ซองฟยอร์ด คือ ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่เกิดจากการกัดเซาะของแผ่นธารน้ำแข็งในยุคน้ำแข็งเมื่อหลายล้านปีก่อน จนเกิดเป็นอ่าวแคบๆ ระหว่างหน้าผาสูงชัน ในโลกนี้มีไม่กี่ประเทศที่มีฟยอร์ด แต่ฟยอร์ดที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกคือฟยอร์ดในประเทศนอร์เวย์…
ไกแรงเกอร์ฟยอร์ดคือ เพชรเม็ดงามแห่งอาณาจักรนอร์เวย์ เนื่องจากได้รับการการันตีจากนักท่องเที่ยวที่เคยได้ไปสัมผัสฟยอร์ดจากหลายๆที่ เค้ายกให้ไกแรงเกอร์เป็นที่สุดของฟยอร์ดที่มีความงดงามมากกว่าฟยอร์ดอื่นๆ ในนอร์เวย์
ไกแรงเกอร์ ตั้งอยู่ในเมืองสตรานดา เมืองในเขตซุนโมเร่อ หนึ่งในส่วนปกครองของเทศมณฑล เมอเร อ็อก ร็อมสดาล1 ใน 19 เขตเทศมณฑลของประเทศนอร์เวย์ เป็นฟยอร์ดที่มีความยาวประมาณ 15 กิโลเมตร และยังเป็นหนึ่งในฟยอร์ดที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ
การได้ล่องเรือในไกแรงเกอร์ถือว่าเป็นอีกสุดยอดกิจกรรมที่คุณจะได้ล่องลอยบนพื้นน้ำที่ 2 ข้างทางประดับประดาด้วยธรรมชาติสุดอลังการ ภูผาเขียวขจี มองเห็นร่องรอยการตั้งรกราก อารยธรรมของชาวไวกิ้งและชาวนายุคโบราณที่ถูกอนุรักษ์ไว้ ราวกับว่าได้ท่องอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน…
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่มีมนต์เสน่ห์และมีชื่อเสียงมากที่สุดของไกแรงเกอร์ฟยอร์ดก็คือ เซเว่น ซิสเตอร์ วอเทอร์ ฟอลล์” (Seven Sisters Waterfall) น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสูงประมาณ 250 เมตร (820 ฟุต) และยังได้รับการยอมรับว่ามีความงดงามไม่แพ้น้ำตกใดในบนโลก
ความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติรังสรรค์นี้ถูกผสมผสานเข้ากันได้อย่างกลมกล่อม ทำให้เกิดเป็นฉากที่สมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ ไกแรงเกอร์ฟยอร์ดเพชรเม็ดงามแห่งดินแดนนอร์เวย์ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของไกแรงเกอร์ฟยอร์ด อลังการสมชื่อเพชรเม็ดงามแห่งนอร์เวย์เลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวนอร์เวย์ แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์เวียดนาม
/
หนีร้อนไปพึ่งเย็น ณ บานาฮิลล์ เมืองสรรค์บนขุนเขาสายหมอก
หนีร้อนไปพึ่งเย็น ณ บานาฮิลล์ เมืองสรรค์บนขุนเขาสายหมอก
เมืองไทยร้อนขนาดนี้!! เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะหาที่พักผ่อนเย็นๆ คลายร้อน แต่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็คิดว่าคงไม่รอด ถ้าเป็นแบบนี้สงสัยเราต้องหนี่ออกต่างประเทศกันสักหน่อยแล้ว ถ้าใครยังคิดไม่ออกว่าจะหนีร้อนไปพึ่งเย็นที่ไหนดี Planetholidays ขอแนะนำที่นี่เลย บานาฮิลล์ เมืองสรรค์บนขุนเขาสายหมอกแห่งดานัง ประเทศเวียดนาม แลนด์มาร์กที่ใช้เวลาในการเดินทางไม่นาน งบประมาณก็ไม่เยอะ แถมอากาศดีตลอดทั้งปีด้วย คงไม่มีอะไรจะเหมาะไปกว่านี้อีกแล้ว เอาหล่ะค่ะ...เรามาดูกันดีกว่าว่าบานาฮิลล์จะเที่ยวขนาดไหน และมีอะไรเด็ดๆ ให้เราทำบ้าง ตามกันมาเล๊ย....
บานาฮิลล์(Ba Na Hills) ดานัง เมืองที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝรั่งเศษ ทำให้สถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือน มีกลิ่นอายของยุโรปตะวันออก เมืองที่จัดว่าสวยที่สุดแห่งนึงในเอเซีย สถานที่ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา สูงจากระดับน้ำทะเลมากถึงประมาณ 1,487 เมตร มีสายหมอกปกคลุมตลอดปี จัดว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์ก ที่เหมาะแก่การมาพักตากอากาศมากที่สุดแห่งนึงของประเทศเวียดนาม
ไฮไลท์ของบานาฮิลล์นั้นเรียกได้ว่าเด็ดดวงทุกย่างก้าวเลยจริง ขนาดแค่เริ่มต้นคุณก็จะได้ฟินกับการ นั่งกระเช้าไฟฟ้าที่ยาวและสูงที่สุดในโลก มีความยาวมากถึง 5,801 เมตร และสูง 1,368 เมตร ทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงามแบบไม่มีหยุดพัก ปล่อยใจล่องลอยออกไป คิดแล้วก็ฟินไม่เบาเลย
พอถึงแล้วก้ไปเดินเกร๋ๆ ถ่ายรูปเท่ๆกันที่ สะพานโกลเด้น สะพานที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร ความยาว 150 เมตร ทางเดินแบ่งออกเป็น 8 ช่วง โค้งไปตามแนวเขา โดยไฮไลท์ของสะพานนี้ คือ อุ้งมือหินขนาดยักษ์ ที่แบกรับสะพานสีเหลืองทองนี้เอาไว้ ซึ่งแตกต่างจากสะพานอื่นทั่วไปที่เราเคยเห็น นอกจากนั้นบนสะพานยังปลูกดอก Lobelia Chrysanthemum สีม่วงสดใส ยาวตลอดทาง เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ สูดโอโซนอันสดชื่น และชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองดานังอันกว้างไกล ให้ความรู้สึกประหนึ่งยืนอยู่บนสวรรค์ ท้องฟ้าและปุยเมฆสีขาวล่องลอย
ถัดมาเรามาชมสถาปัตยกรรมกันบ้าง กับ หมู่บ้านฝรั่งเศส (Frence Village) หมู่บ้านสไตล์ฝรั่งเศสสมัยยุคกลางบนยอดเขา ประกอบด้วยร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก โบสถ์ ร้านขายของที่ระลึก เรียกได้ว่าเป็นฝรั่งเศสย่อม ๆ ครบจบในที่เดียว โดยที่พักที่อยู่ในหมู่บ้านฝรั่งเศสนี้มีชื่อว่า Mercure Banahills French Village ให้บริการห้องพักมากกว่า 160 ห้อง ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรรตามสไตล์ที่ชอบ แต่รับรองว่าสวยทุกห้องแน่นอน
เดินมาเหนื่อยแล้วเรามาพักจิบชากันที่ Tru Vu Tea Shop ร้านชาวิวดีมีคุณภาพจากเวียดนาม ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงในเขตโรงแรม Mercure Banahills French Village ซึ่งสามรถมองเห็นวิวโดยรอบได้อย่างสวยงามอลังการ จิบชาอุ่นๆ นั่งมองท้องฟ้า ปุยเมฆ สายหมอก เรียกได้ว่าเป็นวิวหลักล้านเลยทีเดียว
ใครชอบความตื่นเต้นที่แห่งนี้ก็มีสวนสนุกดีๆ
ทัวร์อเมริกา
/
แอนเทอโลป แคนยอน หุบเขาพิศวงที่รังสรรค์โดยธรรมชาติ
แอนเทอโลป แคนยอน หุบเขาพิศวงที่รังสรรค์โดยธรรมชาติ
แอนเทอโลป แคนยอน หุบเขาหินทรายแห่งรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับสีสันและลวดลายของชั้นหินที่ถูกสร้างสรรค์โดยธรรมชาติ จนเกิดเป็นความมหัศจรรย์แปลกตา คอยเย้ายวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางมาสัมผัสความพิศวง ณ หุบเขาแห่งนี้…
แอนเทอโลปตั้งอยู่ในเขต อินเดียนแดง นาวาโฮ เมืองเพจ ในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา สถานที่แห่งนี้เกิดจากการที่มีน้ำไหลกัดเซาะหิน และเกิดการทับถมกันมาเป็นเวลานานนับล้านๆ ปี จนทำให้ผนังถ้ำเกิดริ้วลายคล้ายเกลียวคลื่นเว้าแหว่งตามซอกถ้ำ ทำให้เกิดช่องหินที่เป็นริ้วสวยงาม แปลกตา
แอนเทอโลปแคนยอนแบ่งเป็นสองส่วนคือ ส่วนอัพเพอร์แอนเทอโลปแคยอน (Upper Antelope Canyon) และโลเวอร์แอนเทอโลปแคนยอน (Lower Antelope Canyon) ซึ่ง 2 ส่วนนี้จะมีความแตกต่างกันตรงที่ ในช่วงทางเดินของ Lower จะแคบกว่า Upper และในส่วนของลวดลายบนชั้นหินทรายของที่ Lower จะเป็นเกลียวคลื่นที่สวยกว่า Upper
การเข้าไปเที่ยวในหุบเขาแห่งนี้นักท่องเที่ยวจะไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้ด้วยตนเอง ต้องมีผู้เชี่ยวชาญในการนำทางเข้าไป เพราด้านในค่อนข้างซับซ้อนและอันตรายมาก เนื่องจากในอดีตเคยมีเหตุน้ำท่วมเฉียบพลัน ทางอุทยานเลยค่อนข้างเข้มงวดเป็นพิเศษ
ความพิเศษของการมาเที่ยว ณ ที่แห่งนี้ นอกจากการที่เราจะได้ชมความสวยงาม แปลกตาของชั้นหินที่เรียงรายอยู่ในหุบเขาแล้ว ในแต่ละฤดูกาลที่หุบเขาแห่งนี้ก็จะมีสีสีนที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย ซึ่งสีสันจะขึ้นอยู่กับการหักเหของแสงในแต่ละวัน เช่น ฤดูร้อน สีสันจะเป็นโทนสีแดง ส้ม และม่วง ฤดูใบไม้ร่วง จะเป็นโทนสีอ่อน เชื่อว่าตากล้องและนางแบบทั้งหลายที่ชอบถ่ายรูปคงจะประทับใจ โพสท่าเก๋ๆ จนเมื่อยกันเลยทีเดียว
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ แอนเทอโลปแคนยอน หุบเขาพิศวงที่รังสรรค์โดยธรรมชาติ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของแอนเทอโลป เรียกได้ว่ามหัศจรรย์และมีความพิศวงชวนหลงไหลอยู่มากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวอเมริกา แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆมากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์ยุโรป
/
สัมผัสมนต์เสน่ห์เมืองชนบท เซอร์แมท สมบัติอันล้ำค่าแห่งสวิสเซอร์แลนด์
สัมผัสมนต์เสน่ห์เมืองชนบท เซอร์แมท สมบัติอันล้ำค่าแห่งสวิสเซอร์แลนด์
เซอร์แมท เมืองชนบทเล็กๆ ที่ถูกห้อมล้อมด้วยขุนเขาและธรรมชาติอันสมบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ สถานที่ที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์หลักล้าน!! และดื่มด่ำกับบรรยากาศอันบริสุทธิ์ในรูปแบบเมืองปลอดมลพิษ เพราะยานพาหนะในเมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ใช้เพียงแบตเตอรี่เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขา แมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์อีกด้วย...
เซอร์แมทตั้งอยู่บนความสูงกว่า 1,620 เมตร บนเทือกเขาแอลป์ในรัฐวาเล ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่แห่งนี้มีประชากรน้อยมาก และอาชีพหลักของคนพื้นเมืองคือ พนักงานโรงแรม และร้านอาหาร ซึ่งรายได้หลักของเมืองนี้มาจากการท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน และฤดูหนาว
เมืองเซอร์แมทได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยสูง และมีอากาศบริสุทธิ์มากที่สุดแห่งนึ่งของโลก นั้นก็เพราะว่า เมืองแห่งนี้ใช้ยานพาหนะที่ไม่ใช้น้ำมันเชื่อเพลิงเลยแม้แต่นิดเดียว เครื่องยนต์ส่วนใหญ่ทำงานโดยการใช้แบตเตอรี่ ซึ่งทำให้ที่แห่งนี้ยังคงเป็นเมืองที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ต้องการมาพักผ่อนตากอากาศอยู่เสมอ
ไฮไลท์หลักของการมาเที่ยวเมืองนี้จะเป็นการพักผ่อนชมธรรมชาติอันงดงามในฤดูกาลต่างๆ และทำกิจกรรมยอดฮิตนั้นก็คือ กีฬาปีนเขาอันน่าตื่นเต้น อีกทั้งที่แห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์มาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งทุกๆ ปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเซอร์แมท และเล่นสกีกันอย่างไม่ขาดสาย
ในวันที่อากาศเอื้ออำนวย จากเมืองด้านล่างนี้ถ้าสภาพอากาศดีและสดใด จะสามารถมองเห็นยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นได้ เรียกได้ว่าเป็นยอดเขาที่งดงามที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์ และด้วยเอกลักษณเฉพาะตัวนี้ ทำให้แบนด์ช็อคโกแลตชื่อดังอย่าง ทับเบอร์โรน และผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่ พาราเม้าท์พิคเจอร์ส นำไปเป็นโลโก้ของบริษัทอีกด้วย
การเดินทางมายังเมืองเซอร์แมท จะสามารถมาได้วิธีเดียวเท่านั้น นั่นก็คือการนั่งรถไฟ Glacier Express รถไฟด่วนที่วิ่งช้าที่สุดในโลก ซึ่งนี้ก็เป็นอีกข้อดีอย่างหนึ่ง เพราะท่านจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอันงดงามในระหว่างไปเมืองเซอร์แมทกันแบบสโลว์ไลฟ์กันเลยทีเดียว
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ สัมผัสมนต์เสน่ห์เมืองชนบทเซอร์แมท สมบัติอันล้ำค่าแห่งสวิสเซอร์แลนด์ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของเซอร์แมท เป็นชนบทที่น่าอยู่มากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์ยุโรป
/
มหาวิหารนอเทรอดาม (Notre Dame Cathedral) ขุมทรัพย์ล้ำค่าแห่งนครปารีส
มหาวิหารนอเทรอดาม (Notre Dame Cathedral) ขุมทรัพย์ล้ำค่าแห่งนครปารีส
มหาวิหารนอเทรอดาม มหาวิหารเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองแห่งกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่สวยงามทั้งภายนอกและภายใน มีผลงานแกะสลักอันงดงามวิจิตรเกี่ยวกับศาสนา วัฒนธรรม ที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ อีกทั้งยังเป็นแลนด์มาร์กสำคัญแห่งมหานครปารีส ที่คอยเย้ายวนนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือนที่แห่งนี้...
ปัจจุบันที่มหาวิหารแห่งนี้รอการบูรณะเนื่องจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ เมื่อวันที่ 15 เมษายน 62 ที่ผ่านมา วันนี้เรามาทำความรู้จักกับมหาวิหารแห่งนี้ และภาพความงดงามก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้กันค่ะ
มหาวิหารแห่งนี้มีระยะเวลาการสร้างหลายยุคหลายสมัย เริ่มตั้งแต่ปีตั้งแต่ ค.ศ. 1163 จนสร้างแล้วเสร็จเมื่อ ค.ศ. 1345 และได้มีการบูรณะมาเรื่อยๆ เนื่องจากมีเหตุการณ์ทางการเมืองของฝรั่งเศส การซ่อมแซมเปลี่ยนวัสดุที่สึกหรอ และด้านอื่นๆ เพื่อคงไว้ซึ่งความงดงามจนมาถึงปัจจุบัน
ในอดีตยังเป็นสถานแห่งนี้เคยเป็นที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารี อังตัวแนตต์ และปัจจุบันยังใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนพีธีที่สำคัญของศาสนาคริสต์ อีกทั้งยังเป็นจุดกิโลเมตรที่ศูนย์ของประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย
ศาสนสถานแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นมหาวิหารแห่งแรกๆ ที่สร้างในสไตล์สถาปัตยกรรมโกธิค โดดเด่นด้วยหอคอยคู่หน้าทรงเหลี่ยมและยอดปลายแหลมบนหลังคาวิหาร ตัวอาคารมีความสูงถึงยอดวัดได้ 69 เมตร และสูงจากระดับพื้นดินถึง 96 เมตรเลยทีเดียว
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมใช้เวลาชมความงดงามกันมากที่สุดคือ ด้านทิศตะวันตก ซึ่งด้านนี้นอกจากความสวยงามแล้วยังมีทั้งความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรม และรายละเอียดประติมากรรมรวมทั้งวัสดุตกแต่งที่ปราณีต วิจิตงดงาม
อีกทั้งบริเวณมุมนี้จะมีทัวร์ทางเรือของเมืองแล่นผ่านจุดนี้เป็นประจำ ส่วนด้านอื่นๆก็จะมีรายละเอียดต่างๆซ่อนอยู่ จากการออกแบบและผลงานแกะสลักที่เต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย รวมทั้งการขอพรจากรูปปั้นพระแม่มาเรียอีกด้วย
ภายในวิหารประดับประดาด้วยงานศิลปะมากมาย มีรูปปั้นและภาพจิตรกรรมที่สวยงามเกี่ยวกับพระแม่มารี มีหน้าต่างกลมทั้งหมด 3 บาน ที่สร้างขึ้นมาในสมัยศตวรรษที่ 13 ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของมหาวิหาร
นอกจากนี้นอเทรอดามยังเป็นสถานที่เก็บรักษาศาสนวัตถุโบราณที่เกี่ยวเนื่องกับพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า ซึ่งได้รับการถ่ายทอดออกมาเป็นชิ้นงานรูปไม้กางเขน ตะปู และมงกุฎหนาม อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปเราคงไม่ได้เข้าไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารนี้ไปอีกสักพัก ยังไงก็ขอเอาใจช่วยชาวฝรั่งเศสและทีมงานทุกท่าน ขอให้บูรณะแล้วกลับมางดงามเช่นเคย พวกเราคนไทยจะได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือน ชมความงดงามของมหาวิหารนี้อีกค่ะ
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ มหาวิหารนอเทรอดามขุมทรัพย์ล้ำค่าแห่งนครปารีส เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของมหาวิหารนอเทรอดาม งดงาม ต้องมนต์สฃสะกดมากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวฝรั่งเศส แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์ยุโรป
/
อุทยานแห่งชาติทะเลสาบ พลิทวิเซ่ ขุมทรัพย์ธรรมชาติแห่งโครเอเชีย
อุทยานแห่งชาติทะเลสาบ พลิทวิเซ่ ขุมทรัพย์ธรรมชาติแห่งโครเอเชีย
นอกจากกีฬาฟุตบอล และสถาปัตยกรรมอันงดงามของโครเอเชียแล้ว “ธรรมชาติ” ของประเทศแห่งนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกตกหลุมรักดินแดนแห่งนี้ วันนี้ Planetholidays จะพาทุกคนไปสัมผัสกับบรรยากาศอันงดงามและบริสุทธิ์ ณ อุทยานแห่งชาติทะเลสาบ พลิทวิเซ่ แลนด์มาร์กทองคำที่สายธรรมชาติไม่ควรพลาด ถ้าพร้อมแล้ว...เรามาลุยไปพร้อมๆกันเล๊ยยย
อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่ ตั้งอยู่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาสำคัญ 3 แห่งได้แก่ Pljesevica, Mala Kapela และ Medvedak ณ เมืองลิก้า ประเทศโครเอเชีย มีพื้นที่ประมาณ 300 ตารางกิโลเมตร ท่ามกลางทะเลสาบ 16 แห่ง และรายล้อมด้วยป่าไม้นานาพันธ์ู ทะเลสาบแห่งนี้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหายากหลากหลายสายพันธุ์จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 1979 จากองค์การยูเนสโก
ที่แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในอุทยานทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ลักษณะของทะเลสาบจะเป็นธารน้ำไหลบนหินปูนและมีน้ำตกอยู่ถึง 16 ชั้น หนึ่งในนั้นคือ น้ำตกเวลิกิ สแล็พ (Veliki Slap) น้ำตกขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านด้วยความสูงกว่า 70 เมตร
ในทุกๆปี สีของน้ำในทะเลสาบจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามอุณหภูมิและฤดูกาล มีตั้งแต่สีเขียวมรกต สีคราม สีฟ้า สีเทา ซึ่งจะสวยงามแตกต่างกันออกไปตามเอกลักษณ์เฉพาะ รวมทั้งเรายังจะได้ชมสีสันต่างๆ ของใบไม้ตามฤดูกาลที่เปลี่ยนไปอีกด้วย มันสุดยอดจริงๆ
ด้วยความสมบูรณ์แบบทางธรรมชาติทำให้ที่แห่งนี้มีสัตว์เจ้าถิ่นอาศัยอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น คุณกวาง น้องหมาจิ้งจอก ปลา นก เป็ดน้อย และพี่ใหญ่ของเรา หมีสีน้ำตาล ออกมาสร้างสีสันให้การเที่ยวอุทยานทะเลสาบแห่งนี้สนุกขึ้นไปอีก
ไฮไลท์หลักของการมาเที่ยวแห่งนี้จะเป็นการเดินชมธรรมชาติไปตามทางเดินเท้าที่จัดไว้อย่างเป็นสัดส่วน ลัดเลาะไปตามทะเลสาบ และน้ำตก ตื่นตาตื่นใจไปกับความบริสุทธิ์ สุขสดชื่น หรือจะออกไปล่องเรือชมความสวยงามของท้องน้ำสีครามในอุทยานแห่งชาติทะเลสาบ ตลอดจนไม้ป่าจำพวกสน ก็เป็นอะไรที่เพลิดเพลินมากเลยทีเดียว
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิทวิเซ่ ขุมทรัพย์ธรรมชาติแห่งโครเอเชีย เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของพลิทวิเซ่ งดงาม สมบูรณ์แบบมากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวโครเอเชีย แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทวีปอเมริกา
/
เปิดประตูสู่ดินแดนโบราณ มาชู ปิกชู นครที่หายสาบสูญแห่งอินคา
เปิดประตูสู่ดินแดนโบราณ มาชู ปิกชู นครที่หายสาบสูญแห่งอินคา
มาชู ปิกชู หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อนึงคือ เมืองสาบสูญแห่งอินคา เป็นซากอารยธรรมโบราณของชาวอินคา ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงประเทศ เปรู ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันเลืองชื่อ ที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจ และยังได้ถูกรับเลือกเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่อีกด้วย…
มาชูปิกชูตั้งอยู่ห่างจากเมืองกุสโกตกเฉียงเหนือประมาณ 70 กิโลเมตร บนยอดภูเขาสูงอยู่ในแนวเทือกเขาแอนตีสซึ่งมีความสูงถึง 2100 เมตร จากระดับน้ำทะเล สถานที่แห่งนี้นับเป็นศูนย์กลางที่มีความสำคัญยิ่งทางโบราณคดีของอเมริกาใต้
มาชูปิกชูคาดว่าสร้างขึ้นราวๆปี ค.ศ. 1450 โดยจักรพรรดิปาชากูตีของชาวอินคา เมืองแห่งนี้ถูกปล่อยล้างไว้นานนับร้อยปี เพราะชาวสเปนได้เข้ามาล่าอาณานิคม และฆ่าชาวเปรูและชาวอินคา เมืองอินคาเลยถูกปล่อยร้างไว้
นักสำรวจคาดการณ์ว่าเมืองแห่งนี้เคยหายสาบสูญไปในช่วงศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นช่วงที่สเปนเข้ายึดครองเป็นเมืองขึ้น และเพิ่งมีการค้นพบใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ.1911 ในอดีตเมืองแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวอินคามีทั้งพื้นที่การทำเกษตรและศูนย์กลางทางศาสนพิธี
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันที่แห่งนี้จะเหลือแค่ซากปรักหักพัง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความนิยมในการมาท่องเที่ยวเมืองโบราณแห่งนี้ลดน้อยลงเลย แถมยังเพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปีด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าใครได้มาก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงความรุ่งเรื่องและมนต์ขลังอันทรงเสน่ห์ แถมวิวทิวทัศน์ที่นี่ก็งดงามากอีกด้วยนะ
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ เปิดประตูสู่ดินแดนโบราณ มาชู ปิกชู นครที่หายสาบสูญแห่งอินคา เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับความงดงามของมาชู ปิกชู เป็นสถานที่ที่มีมนต์เสน่ห์มากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนมา เที่ยวอเมริกา แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์รัสเซีย
/
พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ และ พระราชวังฤดูหนาว ความยิ่งใหญ่แห่งเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ และ พระราชวังฤดูหนาว ความยิ่งใหญ่แห่งเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ หรือ พระราชวังฤดูหนาว สุดยอดพระราชวังแห่งเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก แหล่งรวมเรื่องราวสำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งของประเทศรัสเซีย และประเทศไทย ซึ่งสถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็นที่รับรองการเสด็จเยือนประเทศรัสเซียของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ใน การเจริญสัมพันธไมตรีอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจหรือพระราชวังฤดูหนาว อดีตเคยเป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์โรมานอฟ ระหว่างปี ค.ศ.1732 -1917 ตั้งอยู่ ระหว่างท่าวัง กับ จัตุรัสพระราชวัง ภายนอกของพระราชวังใช้โทนสีเขียว และ ขาว ด้วยสถาปัตยกรรมบารอคซึ่งมีความยิ่งใหญ่ หรูหรา อลังการมาก มีลานกว้าง และเสาอเล็กซานเดอร์ ที่สร้างถวายพระเกียรติแด่กษัตริย์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 ที่พระองค์ทรงชนะ สงครามเหนือนโปเลียนของฝรั่งเศส กล่าวได้ว่า พิพิธภัณฑ์นี้ยิ่งใหญ่เทียบเคียงกับพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ของฝรั่งเศสเลยทีเดียว
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ภายหลังได้ตกเป็นของรัฐบาลโซเวียต โดยทางรัฐบาลได้นำภาพเขียนและสมบัติล้ำค่าส่วนพระองค์จากพระราชวังอื่น ๆ เช่น พระราชวังแคทเธอรีน พระราชวังอเล็กซานดริสกี้ พระราชวังสโตรกานอฟสกี้ และพระราชวังยูซูปอฟสกี้ มารวบรวมเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจแห่งนี้
ซึ่งแต่เดิม พระราชินีแคทเธอรีนได้เก็บรวบรวมภาพเขียนชื่อดังไว้มากมายจากทั่วทุกมุมโลก และซื้อภาพเขียนชื่อดังจากยุโรปกว่า 200 ชิ้น จนต้องสร้างห้องสำหรับเก็บภาพและสมบัติล้ำค่าขึ้นมา โดยมีน้อยคนนักที่จะได้เห็น แต่ต่อมา ได้มีการจัดหมวดหมู่ของสะสมทั้งหมด
ปัจจุบันบางส่วนของพระราชวังฤดูหนาวได้เปิดให้ประชาชนเข้าชมในฐานะ พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ (TheState Hermitage Museum) เป็นสถานที่เก็บรวบรวมงานศิลปะล้ำค่าของโลกกว่า 8 ล้านชิ้น ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่า 5 ปี ในการเที่ยวชมกว่าจะครบทุกส่วนทุกมุม และยังได้รับการบันทึกลงใน กินเนสส์บุค ว่าเป็นหอศิลป์ที่มีงานสะสมมากชิ้นที่สุดในโลก มีงานแสดงตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณจนถึงต้นศตวรรษที่ 20 รวมทั้งภาพเขียนของจิตรกรเอกระดับโลก อย่างเช่น ลิโอนาโด ดาวินซี่,ปิกัสโซ่,แรมบรันด์,แวนโก๊ะ เป็นต้น จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ และพระราชวังฤดูหนาว ความยิ่งใหญ่แห่งเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของพระราชวังฤดูหนาว ยิ่งใหญ่สมคำล่ำลือเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวรัสเซีย แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday