แบนเนอร์บทความ

ทัวร์ยุโรป /

ปราสาทมอลบอร์ก (Malbork Castle) วิหารอัศวินแห่งประเทศโปแลนด์

ปราสาทมอลบอร์ก (Malbork Castle) วิหารอัศวินแห่งประเทศโปแลนด์ ปราสาทมอลบอร์ก ป้อมยุคกลางที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป สร้างในศตวรรษที่ 13 แต่เดิมเป็นวิหารของนักรบศาสนาคริสต์ นิกายทอยโทนิค (Teutonic Order) ปราสาทมอลบอร์กตั้งอยู่ทางทิศเหนือของประเทศโปแลนด์ อาคารเพียง 2 ปีก คือปีกทิศเหนือกับทิศตะวันตก สร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมยุคกอธิค ซึ่งมีความยิ่งใหญ่และงดงามไม่แพ้ปราสาทอื่นๆ ในฝั่งยุโรปด้วย แถมยังได้รับการขนานนามว่าเป็นปราสาทก่อสร้างจากอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประวัติความเป็นมาในอดีต หลังปี ค.ศ. 1309 นิกายทอยโทนิคได้เริ่มเสื่อมลง หลายป้อมทางด้านตะวันออกถูกโจมตีและแตก ทำให้ผู้นำนิกายดังกล่าวได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ ที่จะย้ายที่พักชั่วคราวจากเวนิชไปยังบริเวณแคว้นรัสเซียซึ่งลัทธิดังกล่าวยังมีอิทธิพลสูงอยู่ ดังนั้นมอลบอร์กจึงได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองหลวงของลัทธิดังกล่าว เนื่องจากที่ตั้งอยู่ใจกลางเขตอิทธิพลซึ่งถือว่าเป็นจุดที่มีความปลอดภัยสูง ตัววิหารได้ถูกต่อเติมให้เป็นปราสาทในช่วง 20 ปีต่อมา รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 20 เฮคตาร์ (12,5000ไร่) ตัวปราสาทถูกแบ่งออกเป็น 3 พื้นที่ ปราสาทบน ปราสาทกลาง และปราสาทล่าง ซึ่งทั้งสามปราสาทแยกกันโดยอิสระ มีระบบป้องกันตนเองอย่างสมบูรณ์มีระบบน้ำอิสระแยกขาดออกจากกัน มีที่เก็บอาหารแยกจากกัน สามารถป้องกันตนเองได้นานหลายปีหากถูกปิดล้อม แต่เนื่องจากนิกายดังกล่าวได้พ่ายแพ้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในปี ค.ศ. 1410 ที่กรุนวาลด์ ทำให้มีการเซ็นสัญญาสงบศึกเวลาต่อมาและถูกบังคับให้ออกจากมาลบอร์กในปี ค.ศ. 1466 ตัวปราสาทถูกทอดทิ้งแต่บัดนั้นมา ขากนั้นตัวปราสาทก็ค่อยๆ ทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลา ต่อมาได้รับการบูรณะในศตวรรษที่ 19 - 20 แต่ก็กลับมาเสียหายอีกครั้งจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการบูรณะมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน แถมยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากองค์กรยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1997 อีกด้วย ด้วยความงดงามของตัวปราสาทและสีส้มอิฐ ทำให้ที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวจากนานาประเทศต่างแวะมาเช็คอินชมความงดงามกันอย่างไม่ขาดสาย วิหารของนับรบศาสนาคริสต์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 สิ่งก่อสร้างแสนอลังการที่ออกแบบมาเพื่อรองรับต่อการสู้รบในช่วงสงครามยุคกลาง ความสุดยอดขนาดนี้ เราว่าคุณควรมาเห็นให้ได้ด้วยตาตัวเองนะ… ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ ปราสาทมอลบอร์กวิหารอัศวินแห่งประเทศโปแลนด์ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของปราสาทมอลบอร์ก งดงาม อลังการมากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวโปแลนด์ แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทัวร์ยุโรป /

กรินเดอวาล ความงดงามที่อยู่คู่ยอดเขาจุงเฟรา สวิสเซอร์แลนด์

กรินเดอวาล ความงดงามที่อยู่คู่ยอดเขาจุงเฟรา สวิสเซอร์แลนด์ กรินเดอวาล (Grindelwald) เมืองที่มีชื่อเสียงของของประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนเทือกเขากรุงเบิร์น-แอลป์ (Bernese - Alps) อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,034 เมตร เมืองพักผ่อนตากอากาศที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติ และขุนเขาอันแสนงดงาม อีกทั้งยังเป็นเมืองกีฬายอดฮิตในฤดูหนาวที่ผู้คนทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้ามาพักผ่อนตากอากาศมากที่สุด… ในช่วงฤดูหนาว เมืองแห่งจะค่อนข้างคึกคัก และเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินทางมาพักผ่อนจากทั่วสารทิศ เนื่องจากกรินเดลวาลนั้นเป็นเมืองแห่งรีสอร์ทกีฬาฤดูหนาวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ และมียังหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดในยอด เขาจุงเฟรา (Jungfrau) อีกด้วย ความน่ารักของเมืองนี้นับว่าเป็นเสน่ห์อย่างนึงที่จะช่วยให้วันพักผ่อนของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ การตื่นเช้าขึ้นมาสูดอากาศอันบริสุทธิ์ ชมธรรมชาติอันแสนงดงาม เดินเล่นให้ขุนเขาโอบกอดเราไว้ คงจะไม่มีอะไรโรแมนติกไปกว่าที่แห่งนี้อีกแล้ว นอกจากการชมเมืองน่าๆรักที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะแล้ว ที่แห่งนี้คุณยังจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมยอดฮิตอย่าง การเล่นกีฬาสโนว์บอร์ด หรือจะเลือกเล่นสกีรอบๆ กรินเดลวาลด์ก็เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันเลย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆให้เราทำอีกมากมาย อาทิ เช่น การเดินป่าในฤดูหนาว เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามของไปตามเส้นทาง 15 กิโลเมตร ซึ่งคุณจะได้ตื่นตาตื่นใจกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาไอเกอร์-มองซ์ Eiger- Monch และยอดเขาจุงเฟราอันแสนงดงาม ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ กรินเดอวาล ความงดงามที่อยู่คู่ยอดเขาจุงเฟรา เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ มนต์เสน่ห์ของกรินเดอวาล งดงาม น่าอยู่มากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูกโทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทัวร์ยุโรป /

ซานโตรินี เกาะสุดโรแมนติกที่ผู้คนทั่วโลกตกหลุมหลงรัก

ซานโตรินี เกาะสุดโรแมนติกที่ผู้คนทั่วโลกตกหลุมหลงรัก ซานโตรินี เกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังอันดับ 1 ในหมู่เกาะคิคลาดีส (Cyclades) สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามและโรแมนติกเป็นอันดับต้นๆของโลก เกาะสวรรค์ที่คุณจะต้องตกหลุมรักในความงดงามของธรรมชาติ สถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น ไม่มีใครเหมือน นอกจากนี้ยังมีหลายที่น่าเที่ยวน่าสนใจบนเกาะให้คุณได้เลือกเพลิดเพลินกันอย่างสนุกสนาน นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ชั้นดี ที่ควรค่าแก่การมาพักผ่อนสักครั้งนึงในชีวิต… ซานโตรินีหรือที่เรียกกันในอีกชื่อว่า Thira เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในทะเลอีเจียน ประเทศกรีซ ในอดีตเมืองแห่งนี้เคยเป็นภูเขาไฟทีเกิดการระเบิดหลายครั้ง ทำให้กลายเป็นแอ่งหลุมปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ มีลักษณะเกาะเหมือนรูปพระจันทร์เสี้ยว และกลายมาเป็นซานโตรินีในปัจจุบัน สถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือนของที่นี่ส่วนใหญ่จะออกแบบเป็น สีน้ำเงิน-ขาว ยอดโบสถ์ทรงโดมรายล้อมรอบด้วยสีฟ้าสด ตัดกับวิวทิวทัศน์ ทะเลสีฟ้าคราม งดงามและเป็นเอกลักษณ์มาก อากาศของที่นี่ค่อนข้างอบอุ่นทั้งปี เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเหมาะแก่การมาท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ซานโตรินีมีเมืองหลวงชื่อ ฟีร่า เมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะ และยังเป็นเมืองศูนย์กลางที่มีร้านค้ามากมาย เช่น ร้านอาหาร ที่พัก บาร์ ไนต์คลับ ร้านของฝาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกพักที่นี่เพราะเดินทางสะดวก มีศูนย์กลางท่ารถสำหรับไปยังสถานที่อื่น ๆ บนเกาะ ส่วนกิจกรรมของเมืองนี้คือการเดินช็อปปิ้ง ชมจัตุรัส Plateria Theotokopoulou และทานอาหารซีฟู้ดสดใหม่ พร้อมชมวิวเรือสำราญในทะเลอีเจียน อีกหนึ่งเมืองที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมไม่แพ้ที่อื่นๆนั่นก็คือ เมืองเอีย หมู่บ้านโบราณที่มีสถาปัตยกรรมแบบคาสโทร เน้นความเรียบแต่เสริมลูกเล่นด้วยหลังคาทรงโค้ง ตัวอาคารสีสดใส ตัวบ้านไล่ระดับลดหลั่นตามไหล่เขา หมู่บ้านนี้มีระยะทางห่างฟีร่าประมาณ 11 กม.สามารถลัดเลาะตามไหล่เขามาได้กิจกรรมฮอตฮิตของนักทอ่งเที่ยวที่มายังเกาะแห่งนี้ก็คือ การรอชมพระอาทิตย์ตกตอนเย็น ที่หมู่บ้านแห่งนี้นั่นเอง สถานที่น่าสนใจอื่นๆ : โบราณสถานเก่าแก่ Ancient Thira, Akrotiri, ชายหาด Red Beach, White Beach และ Black Beach, เกาะภูเขาไฟ Nea Kameni ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ ซานโตรินีเกาะสุดโรแมนติกที่ผู้คนทั่วโลกตกหลุมหลงรัก เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของซานโตรินี หรูหรา โรแมนติกเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวกรีก แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทวีปยุโรป /

แนะนำ 3 ประเทศน่าเที่ยวยุโรปเหนือ เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย มนต์เสน่ห์แห่งทะเลบอลติก

แนะนำ 3 ประเทศน่าเที่ยวยุโรปเหนือ เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย มนต์เสน่ห์แห่งทะเลบอลติก เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ประเทศสุดคลาสสิกแห่งทะเลบอลติก ที่แยกตัวออกมาจากสหภาพโซเวียต อยู่ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป ติดกับทะเลบอลติก แลนด์มาร์กที่คุณจะได้สัมผัสกับอากาศที่เย็นสบายตลอดปี พร้อมทั้งที่เที่ยวเด็ดๆ มากมาย ให้คุณได้เลือกสรร และอิ่มเอมกับบรรยากาศที่หาจากที่ใดไม่ได้ วันนี้ Planethlidays จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 3 ประเทศน่าเที่ยวแห่งนี้ เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่ายุโรปโซนเหนือจะมีมนต์เสน่ห์ขนาดไหน ไปชมกันเล๊ย!! เอสโตเนีย (Estonia) เอสโตเนียเป็นประเทศที่มีความโดนเด่นด้านสถาปัตยกรรมยุคกลางมาก มีเมืองหลวงชื่อ กรุงทาลลินน์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงที่มีความเก่าแก่ที่สุดในฝั่งยุโรป ด้านอาคารบ้านเรือน สถาปัตยกรรมก็ถือว่างดงามไม่แพ้ประเทศอื่นๆ มีทั้งโบสถ์ อนุเสาวรีย์ แต่ละที่ล้วนมีเอกลักษณ์เหมาะแก่การเดินเล่นชมเมือง สัมผัสกลิ่นอายที่มีมนต์เสน่ห์ ด้านที่เที่ยวทางธรรมชาติก็ถือว่าสุดยอดไม่แพ้กันเลย มีทั้ง ภูเขา เกาะ ทะเลสาบ หน้าผาหินปูนและป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์สุดๆ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว ที่เที่ยว เอสโตเนีย : เมืองวิลจันดิ (Viljandi), อุทยานแห่งชาติซูมา (Soomaa National Park), ปราสาทรัคแวร์ (Rakvere Castle), เกาะฮีอูมา (Hiiumaa),ปราสาทนาร์วา (Narva Castle), เมืองปาร์นู (Parnu), เกาะซาเรมา (Saaremaa), อุทยานแห่งชาติเลเฮมา (Lahemaa National Park), เมืองทาร์ทู (Tartu), เมืองทาลลินน์ (Tallinn) ลัตเวีย (Latvia) ใครที่ชื่นชอบการชมสถาปัตยกรรมเราขอแนะนำนี่เลยค่ะ ลัตเวีย ประเทศนี้รับรองว่าคุณจะได้เพลิดเพลินกับการชมสถาปัตยกรรมอย่างเต็มอิ่มแน่ๆ และแต่ละที่นั้นล้วนงดงามมาก ไม่ว่าจะเป็น ปราสาท อนุเสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ ป้อมปราการเก่าแก่ หอคอย รวมไปถึงอาคารบ้านเรือน ต้องบอกว่าที่แห่งนี้มันดินแดนแห่งยุคกลางจริงๆ ที่เที่ยว ลัตเวีย : เมืองเลียปายา (Liepaja), อุทยานแห่งชาติเกาจา (Gauja National Park), เมืองคุลดีกา (Kuldiga), แหลมโกลกา (Cape Kolka), เมืองเซซิส (Cesis), พระราชวังรุนดาเล (Rundale Palace), เมืองเวนต์สปิลส์ (Ventspils), เมืองยัวมาลา (Jurmala), เมืองซิกุลดา (Sigulda), เมืองรีกา (Riga) ลิทัวเนีย

ทัวร์จอร์เจีย /

5 สุดยอดเมืองน่า เที่ยวจอร์เจีย อัญมนีแห่งเทือกเขาคอเคซัส

5 สุดยอดเมืองน่า เที่ยวจอร์เจีย อัญมนีแห่งเทือกเขาคอเคซัส เที่ยวจอร์เจีย ประเทศที่ตั้งอยู่บนจุดตัดระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย  มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 2,500 ปี ซึ่งที่แห่งนี้เคยถูกปกครองโดยหลายชาติพันธ์มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เปอร์เซีย มองโกเลียเอเชียกลาง และรัสเซีย ด้วยประวัติศาสตร์ที่ผ่านการปกครองมาหลายชาติ ทำให้จอร์เจียมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรม ที่เหมือนฝั่งยุโรปจนแทบแยกไม่ออกเลย ถึงแม้จะตั้งอยู่บนทวีปเอเชียก็ตาม วันนี้ Planetholidays ก็ได้คัดสรร 5 สุดยอดเมืองน่า เที่ยวจอร์เจีย อัญมนีแห่งเทือกเขาคอเคซัส มาฝากทุกคน ใครที่ชื่นชอบการเที่ยวเมืองแบบสไตล์ยุโรปเตรียมวางแพลนไว้ได้ค่ะ เพราะอีกหนึ่งความพิเศษของประเทศแห่งนี้คือเราไม่ต้องยื่น “วีซ่า” ท่องเที่ยว แถมคนไทยสามารถไปเที่ยวและอยู่ในประเทศได้ 90 วันอีกด้วย อะไรมันจะเยี่ยมแบบนี้ !! 1.ทบิลิซี (Tbilisi) ทบิลิซี เป็นเมืองหลวงของประเทศจอร์เจียที่มีความสำคัญของประวัติศาสตร์มากมาย และมีโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เป็นเมืองใหญ่สุดของจอร์เจีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคูรา Kura หรือเรียกว่า แม่น้ำมิตควารี Mtkvari ในภาษาท้องถิ่น เมืองนี้ถูกสร้างโดย วาคตัง กอร์กาซาลี Vakhtang Gorgasali กษัตริย์จอร์เจียแห่งคาร์ตลี ไอบีเรีย ได้ก่อตั้งเมืองนี้ขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 4 สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในเมือง : โบสถ์ซิโอนิ (Tbilisi Sioni Cathedral), วิหารโฮลี่ทรินิตี้ (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi), ป้อมปราการนาริกาลา (Narikala), 2.อุพลิสชิเค่ (ULISTSIKHECAVE – TOEN) อุพลิสชิเค่ เป็นหนึ่งในเมืองถ้ำเก่าแก่ของจอร์เจีย มีการตั้งถิ่นฐานในดินแดนแถบนี้กันมานานแล้วกว่า 3000 ปีก่อน ในอดีตช่วงยุคโบราณก่อนยุคกลาง (Hellenistic and Late Antique periods) ช่วง500 ปีก่อนคริสตกาล ถึง ค.ศ.500 เมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรม และช่วงที่เมืองนี้มีความเจริญสุดขีดคือ ในช่วงคริสตวรรษที่ 9 ถึง 11 ก่อนจะถูกรุกรานโดยชาวมองโกลในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 และถูกปล่อยให้เป็นเมืองร้างไป ท่านจะได้พบกับศาสนสถานที่มีห้องโถงขนาดใหญ่ที่ชาวเพเก้น (Pagan) ใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมซึ่งเป็นลัทธิบูชาไฟ เป็นลัทธิของคนในแถบนี้ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเข้าเมื่อ 1700 ปีก่อน และยังมีห้องต่างๆ ซึ่งคาดว่าเป็นโบสถ์เก่าแก่ของชาวคริสต์ ที่สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 3.คัสเบกิ (KAZBEGI) คัสเบกิ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาคัสเบก มีความสูงที่ 1,700เมตร หรือ ในปัจจุบันเรียกว่า เมืองสเตปันสมินดา

ทัวร์อังกฤษ /

สัมผัสมนต์เสน่ห์ความคลาสสิกของ ไบเบอร์รี่ หมู่บ้านเก่าแก่ที่สวยที่สุดในอังกฤษ

สัมผัสมนต์เสน่ห์ความคลาสสิกของ ไบเบอร์รี่ หมู่บ้านเก่าแก่ที่สวยที่สุดในอังกฤษ หมู่บ้าน ไบเบอร์รี่ (Bibury Village) เป็นหมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่ในแคว้นกลอสเตอร์เชอร์ (Gloucestershire) เขตคอทส์โวลส์ (Cotswolds) จัดว่าเป็น หมู่บ้านที่สวยที่สุด ในประเทศอังกฤษ (The Most Beautiful Village in England) โดยได้รับการยกย่องจาก วิลเลียม มอร์ริส ดีไซเนอร์เสื้อผ้า นักเขียน และเป็นผู้ที่มีอิทธิพลด้านสังคมของอังกฤษ หมู่บ้านน่ารักแห่งนี้ มีลักษณะบ้านที่เป็นกระท่อมเก่าแก่ เรียกว่าเป็นแบบฉบับบ้านของประเทศอังกฤษโดยแท้ สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17-18 และยังคงรักษาสภาพให้คงอยู่จากอดีตไว้ได้เป็นอย่างดี มีแม่น้ำสายเล็กๆชื่อว่า แม่น้ำโคน (Coln River) ซึ่งมีน้ำใสไหลผ่านหมู่บ้าน โดยบ้านแต่ละหลังจะตกแต่งหน้าบ้านด้วยสวนดอกไม้แบบอังกฤษตามฤดูกาล แต่ที่มีชื่อเสียงและสวยงามมากที่สุดคือ ดอกกุหลาบอังกฤษ อันเป็นที่มาของ กุหลาบอังกฤษ ภายในหมู่บ้านยังมีโรงแรม ที่พักเล็ก ผับ บาร์ ร้านอาหาร ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย นอกจากไบเบอร์รี่จะเป็นหมู่บ้านประวัติศาสตร์ ที่แห่งนี้ยังมีความสำคัญด้านอุตสาหกรรมทอผ้าขนาดเล็กของอังกฤษอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ใจกลางหมู่บ้านยังมีฟาร์มปลาเทราท์ อายุกว่า 100 ปี ซึ่งจัดว่าเป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของหมู่บ้านเลย ใครไม่แวะมาถือว่าพลาดมากๆ แถม ซึ่งฟาร์มแห่งนี้จัดว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้คนในหมู่บ้านนี้เป็นจำนวนมากอีกด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายในการล่องเรือชมหมู่บ้านแห่งนี้จะอยู่ที่ประมาณ 5 ยูโร นอกจากนั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ ภายในหมู่บ้านอีกมากมาย เช่น มิวเซียม ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟแบบฮิปเตอร์ และร้านอาหารเก๋ ๆ ที่เห็นแล้วอยากจะเข้าไปนั่งลิ้มลอง พร้อมชมบรรยากาศเพลินๆ กันเลยทีเดียว ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ สัมผัสมนต์เสน่ห์ความคลาสสิกของไบเบอร์รี่ หมู่บ้านเก่าแก่ที่สวยที่สุดในอังกฤษ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนเสน่ห์ของหมู่บ้านไบเบอร์รี่ คลาสสิกตามสไตล์เมืองผู้ดีเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวอังกฤษ แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทวีปยุโรป /

ล่องลอยไปกับความสงบ ณ กีโธร์น หมู่บ้านกลางสายน้ำแห่งเนเธอร์แลนด์

ล่องลอยไปกับความสงบ ณ กีโธร์น หมู่บ้านกลางสายน้ำแห่งเนเธอร์แลนด์ ถึงเวลาปลดปล่อยตัวเองออกจากความวุ่นวาย หลีกหนีความเจริญ แล้วมาพักผ่อนแแบบช้าๆ กันที่ กีโธร์น หมู่บ้านกลางสายน้ำที่ถูกขนานนามว่าเป็น เวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์ !! กีโธร์น เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ระหว่างเมือง Zwolle และ Steenwijk ประเทศเนเธอร์แลนด์ หมู่บ้านแห่งไม่มีรถ ไม่มีถนน ไม่มีมลพิษ หรือความวุ่นวายใดๆ มีแต่ลำคลองน้ำใส เรือพายลำน้อย แทรกตัวไปทั่วหมู่บ้านมีสะพานไม้ทรงสวยเพื่อใช้เป็นทางเดินติดต่อกันภายในหมู่บ้านกว่า 180 สะพาน ชาวบ้านที่นี้ใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางสัญจรเท่านั้น ในอดีตที่แห่งนี่เคยถูกใช้เป็นเหมืองขุดถ่านหินเลนมาก่อน และรูที่ถูกขุดนั้นก็กลายมาเป็นทางให้น้ำไหลเข้ามา คนในสมัยก่อนก็จึงใช้สายน้ำเหล่านี้เป็นทางขนส่งถ่านหินเลยในที่สุด ที่แห่งนี้มีผู้คนอาศัยอยู่ราวๆ 2,600 คน ส่วนมากเป็นชาวไร่ที่มีฐานะดี บ้านแต่ละหลังมีการออกแบบ และตกแต่งให้เป็นกระท่อมสไตล์ตะวันตกที่แสนน่ารักอบอุ่น ช่วงที่เหมาะกับการมาเที่ยวหมู่บ้านกีโธร์นมากที่สุดจะอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวระหว่าง ฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อน เพราะเราจะได้ล่องเรือชมทัศนียภาพ และความงดงามภายในหมู่บ้าน อากาศกำลังดี อีกทั้งยังเคล้าคลอด้วยดอกไม้ต่างๆ นาๆ ที่รายล้อมเกาะ ซึ่งกำลังผลิดอกบานสะพรั่งต้อนรับนักท่องเที่ยว อะไรมันจะเย้ายวนเบอร์นี้! สำหรับค่าใช้จ่ายในการล่องเรือชมหมู่บ้านแห่งนี้จะอยู่ที่ประมาณ 5 ยูโร นอกจากนั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ ภายในหมู่บ้านอีกมากมาย เช่น มิวเซียม ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟแบบฮิปเตอร์ และร้านอาหารเก๋ ๆ ที่เห็นแล้วอยากจะเข้าไปนั่งลิ้มลอง พร้อมชมบรรยากาศเพลินๆ กันเลยทีเดียว ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ ล่องลอยไปกับความสงบ ณ กีโธร์นหมู่บ้านกลางสายน้ำแห่งเนเธอร์แลนด์ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนเสน่ห์ของหมู่บ้านกีโธร์น มันเงียบสงบซะจนอยากจะหนีเมืองไทยไปเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวเนเธอร์แลนด์ แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทัวร์ตุรเคีย /

ปราสาทปุยฝ้าย ปามุคคาเล่ ความมหัศจรรย์ที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติ

ปราสาทปุยฝ้าย ปามุคคาเล่ ความมหัศจรรย์ที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติ ปามุคคาเล่ อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ที่เกิดจากการรังสรรค์ของธรรมชาติ แลนด์มาร์กอันเลืองชื่อที่เมื่อใครได้ไปเยือนตุรกีแล้ว ก็ต้องแวะไปสัมผัสกับความ Unseen นี้ ปามุคคาเล่ ตั้งอยู่ที่เมืองปามุคคาเล่ ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของนคร “เฮียราโปลิส” (Hierapolis) ปราสาทปามุคคาเล่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินซึ่งมีส่วนประกอบของแคลซียมออกไซด์และมีอุณภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียสได้ไหลลงมาจากภูเขา “คาลดากิ” แล้วแร่ธาตุเกิดการตกตะกอนทำปฏิกิริยาจับตัวกันเป็นก้อนแข็งลดหลั่นเป็นชั้นเป็นแอ่ง ซึ่งมีความกว้างถึง 300 เมตร ยาวกว่า 3 กิโลเมตร ก่อนไหลลงจากผาสูง 100 เมตร จากระดับน้ำทะเล ด้วยความพิเศษนี้จึงทำให้เกิดเป็นงานประติมากรรมจากฝีมือธรรมชาติ สวยงามแปลกตา จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกเมื่อในปี พ.ศ. 2531 คำว่าปามุคคาเล่ในภาษาตุรกีนั้นหมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” เพราะบางส่วนบางมุมของก้อนแคลเซียมก็มีรูปร่างคล้ายก้อนเมฆหรือก้อนหิมะตามแต่จะจินตนาการ ส่วนบางจุดก็จะเป็นแอ่งรองรับน้ำแร่อุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียสที่ชาวตุรกีนิยมนำไปอาบและดื่มกิน เพราะเชื่อว่าเป็นน้ำแร่ธรรมชาติที่มีสรรพคุณในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคทางเดินปัสสาวะ โรคไตและโรคไขข้ออักเสบ ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ ปราสาทปุยฝ้าย ปามุคคาเล่ ความมหัศจรรย์ที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับปราสาทปุยฝ้าย Unseen สุดๆไปเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวตุรกี แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทัวร์ดูไบ /

อลังการงานสร้างกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งใน ดูไบ มิราเคิล การ์เด้น สวนดอกไม้ในดินแดนทะเลทราย

อลังการงานสร้างกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งใน ดูไบ มิราเคิล การ์เด้น สวนดอกไม้ในดินแดนทะเลทราย ดูไบ มิราเคิล การ์เด้น สวนดอกไม้ที่ถูกเนรมิตขึ้นภายใต้ความย้อนแย้งในดินแดนแห่งทะเลทราย ประเทศดูไบ แลนด์มาร์กที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจของโลก สวนดอกไม้ในดูไบ มิราเคิล การ์เด้น เริ่มต้นครั้งแรกปี 2013 จุดเด่นของสวนดอกไม้ในปีนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างดูไบ มิราเคิล การ์เด้น และสายการบินเอมิเรตส์ ที่จัดดอกไม้เป็นรูปเครื่องบินแอร์บัส เอ 380 ขนาดเท่าของจริง โดยสร้างจากวัสดุรีไซเคิล ใช้ดอกไม้สดและพรรณพืชกว่า 500,000 ต้นและยังได้รับการรับรองจากกินเนสส์เวิลด์เรกคอร์ดส์ Guinness World Records ว่าเป็นการจัดดอกไม้ที่มีโครงสร้างใหญ่ที่สุดในโลก เครื่องบินจำลองขนาดใหญ่เท่าของจริงตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิดคือสิ่งที่ดึงดูดให้ฉันและเพื่อนมายังที่แห่งนี้ภาพในมุมหนึ่งที่มองเห็นแอร์บัส เอ 380 ของสายการบินเอมิเรตส์จอดข้างรันเวย์ดอกไม้หลากสีเป็นภาพที่สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่ได้เห็น การเดินชมดอกไม้ในสวนแห่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังชมนิทรรศการศิลปะ บางจุดเราสามารถชื่นชมความงามที่เรียบง่าย ในขณะที่บางจุดมีการนำเสนอไอเดียที่แปลกใหม่และน่าสนใจ เราจะเห็นการจำลองสถานที่ที่มีชื่อเสียงอย่างตึกเบิร์จคาลิฟา ควบคู่ไปกับการสร้างสถานที่และตัวละครในโลกจินตนาการ สร้างบรรยากาศให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในสวนที่มีความมหัศจรรย์ ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีดีไซน์และคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันออกไปอกจากคนจะได้เดินชมความสวยงามของสถานที่ภายในยังมีการจัดโซนต่างๆ ให้นั่งพักผ่อนได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง รวมทั้งมีโซนอาหารและเครื่องดื่มให้บริการอยู่รอบๆ นี่ก็นับว่าเป็นอีก 1 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่เมื่อได้มาเยือนประเทศดูไบแล้ว ก็ควรที่จะแวะมาชมความอลังการและความสวยงานนี้ด้วยตาตัวเองสักครั้ง รับรองว่าคุณจะได้รับประสบการณ์การชมสวนดอกไม้ที่แปลกใหม่ ซึ่งไม่อาจหาชมได้จากที่ไหน ต้องที่ดูไบ มิราเคิล การ์เด้น แห่งเดียวนี้เท่านั้นค่ะ ดูไบมิราเคิล การ์เด้น เปิดให้เข้าชมในเดือน ตุลาคม – พฤษภาคม ของทุกปี เปิดบริการทุกวัน เวลา 9.00-21.00 ค่าบริการ 5.50 เหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 165 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ เข้าฟรี   ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ อลังการงานสร้างกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งในดูไบ มิราเคิล การ์เด้น สวนดอกไม้ในดินแดนทะเลทราย เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ มนต์เสน่ห์ของดูไบ มิราเคิล การ์เด้น สวยสดงดงาม อลังการมากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวดูไบ แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆมากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทัวร์อินเดีย /

4 จุดเช็คอินเด็ด! จัยปูร์ มหานครสีชมพูแห่งประเทศอินเดีย

4 จุดเช็คอินเด็ด! จัยปูร์ มหานครสีชมพูแห่งประเทศอินเดีย จัยปูร์ หรือ ชัยปุระ เมืองท่องเที่ยวสำคัญของรัฐราชสถาน มหานครสีชมพูที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปี ดินแดนที่ถูกเนรมิตโดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ (Maharaja Sawai Pratap Singh) มหาราชาผู้มีบทบาทมากที่สุดในการสร้างที่แห่งนี้ วันนี้ Planetholidays ก็ได้คัดสรร 4 จุดเช็คอินเด็ด! จัยปูร์ มหานครสีชมพูแห่งประเทศอินเดีย มาฝากทุกคน แต่ละที่จะเด็ดแค่ไหนและมีอะไรให้เราประทับใจบ้าง เรามาท่องดินแดนสีชมพูนี้ไปด้วยกันเลยค่ะ 1.พระราชวังหลวง (City Palace) เดิมเป็นพระราชวังของมหาราชใจสิงห์ (Jai Singh) พระราชวัง ถูกสร้างขยายออกในสมัยหลัง ปัจจุบัน ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ Sawai Man Singh Museum ประกอบด้วย 4 ส่วนที่น่าสนใจคือ ส่วนแรกคือส่วนของพระราชวังส่วนที่สองเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงฉลองพระองค์ของกษัตริย์ และมเหสี ซึ่งมีการตัดเย็บอย่างวิจิตร ส่วนที่สามเป็นส่วนของอาวุธ และชุดศึกสงคราม ที่จัดแสดงไว้อย่างน่าทึ่งมากมายหลายหลาก บางชิ้น ก็เป็นอาวุธได้อย่างน่าพิศวง และส่วนที่สี่ คือส่วนของศิลปะภาพวาด รูปถ่าย และราชรถ พรมโบราณ ซึ่งได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ตรงกลางอาคารมีหม้อน้ำขนาดมหึมา 2 ใบ ทำจากโลหะเงิน สูง 1.50 เมตร มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อกันว่าเป็นหม้อน้ำที่กษัตริย์ Madho Singh ได้รับมาจากงานราชาภิเษกของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ซึ่งบรรจุน้ำจากแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ 2.พระราชวังสายลม (Hawal Mahal) ฮาวา มาฮาล เป็นพระราชวัง ที่ตั้งอยู่ในเมืองชัยปุระ รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย สร้างในปีค.ศ. 1799 โดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ (Maharaja Sawai Pratap Singh) ออกแบบโดยลาล ชันด์ อุสถัด (Lal Chand Ustad) โดยถอดแบบมาจากรูปทรงของมงกุฏพระนารายณ์ โดยมีสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นคือ บริเวณด้านหน้าอาคารมีหน้าบันสูงห้าชั้น และมีลักษณะคล้ายรังผึ้งสร้างจากหินทรายสีแดงสดฉลุหินให้เป็นช่องหน้าต่างลวดลายเล็กๆ ละเอียดยิบมีช่องหน้าต่างถึง 953 บางแต่ปิดไว้ ด้วยหินทรายฉลุทำให้นางในฮาเร็มพระสนมที่อยู่ด้านในสามารถมองออกมาข้างนอกได้ โดยที่คนภายนอกมองเข้าไปข้างในไม่เห็น และประโยชน์อีกอย่างคือเป็นช่องแสงและช่องลมจนเป็นที่มาของชื่อ “Palace Of Wind” 3.แอมเบอร์

ทัวร์ตุรเคีย /

เที่ยวตุรกี มีอะไรให้ทำบ้าง? รวมกิจกรรมน่าสนใจในตุรกี

เที่ยวตุรกี มีอะไรให้ทำบ้าง? รวมกิจกรรมน่าสนใจในตุรกี    เรียกได้ว่าช่วงนี้ตุรกีเค้ามาแรงจริงๆนะคะ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนคนเค้าก็ฮิตไป เที่ยวตุรกี กันทั้งนั้น ก็แหมม ประเทศดีๆแบบนี้ถ้าไม่ฮอตก็คงแปลกแล้ว วีซ่าก็ฟรี ค่าครองชีพไม่สูง แถมยังอัดแน่นด้วยสถานที่เที่ยวเจ๋งๆมากมาย การเดินทางก็ไม่ลำบาก ซึ่งวันนี้ Planetholidays ก็ได้รวบรวมสถานที่และกิจกรรมเจ๋งๆที่เมื่อไปเยือนตุรกีแล้วไม่ควรพลาดมาเรียกน้ำย่อยให้กับคนที่ไม่เคยไป และคนที่กำลังจะเตรียมตัวไป เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า ตุรกีนั้นเค้ามีอะไรให้เราทำบ้าง นั่งบอลลูนชมวิวที่คัปปาโตเกีย มาเปิดด้วยกิจกรรมแรกกันเลยค่ะ  กับการนั่งบอลลูนสุดโรแมนติกชมความงดงามของเมืองคัปปาโตเกีย เมืองที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน ให้คุณได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์และบรรยากาศยามเช้าในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น ชมความสวยงามของแท่งหินปูนมากมายที่เรียงรายอยู่ทั่วเมือง อันเกิดมาจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อสามล้านปีก่อน ซึ่งความอัศจรรย์แบบนี้หาชมไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว ต้องที่คัปปาโตเกียเท่านั้นค่ะ นอนโรงแรมถ้ำ พร้อมชมวิวหลักล้าน นอกจากการชึ้นบอลลูนชมความงดงามของเมืองแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากของเมืองคัปปาโตเกียก็คือ โรงแรมถ้ำ! จากอดีตที่แห่งนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหลายพันปี ก่อให้เกิดเถ้าภูเขาไฟก่อตัวรวมกันเป็นถ้ำภูเขา และหลังจากนั้นก็มีประชากรเข้ามาอยู่อาศัย ซึ่งในปัจจุบันก็ได้กลายมาเป็นโรงแรมถ้ำเก๋ๆ มีหลากหลายสไตล์ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักผ่อนพร้อมทั้งจุดชมวิวบริเวณระเบียงที่ต้องขอบอกว่าเด็ดดวงมาก! ยิ่งถ้าใครตื่นเช้าออกมานั่งจิบกาแฟริมระเบียง ทานจะได้พบกับฝูงบอลลูนที่มีสีสันสวยงามกำลังทยอยขึ้นสู่ฟ้าพร้อมแสงอ่อนๆของพระอาทิตย์ที่คอยสาดส่องในช่วงที่ฟ้าเปิด หูยยย มันสุดยอดมากจริงๆ ชมระบำหน้าท้องสุดคลาสสิก ระบําหน้าท้อง หรือ Belly Dance เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมพื้นเมืองสุดคลาสสิกอันเลืองชื่อของตุรกี การเต้นรําที่เก่าแก่นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 6000 ปีก่อน ในดินแดนแถบอียิปต์ ท่วงท่าที่อ่อนช้อย ประกอบเข้ากับเสียงเพลงอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศตุรกี ทำให้เกิดเป็นศิลปะและมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงไหล ไหนๆก็ได้มาแล้วอย่าลืมแวะไปชมกันนะคะ รับรองว่าถูกใจแน่นอน ชมความงดงามของสุเหร่าสีน้ำเงิน อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมเก่าแก่ระดับโลกของตุรกี ถ้าใครได้ย่างกรายเข้าไปแล้วก็ต้องตกอยู่ในสภาวะต้องมนต์สะกด ด้วยความสวยงามภายในวิหารบวกกับแสง ไฟ สีน้ำเงิน ที่คุณมิอาจ ลดละ สายตาได้เลย ชมความอลังการของม้าไม้เมืองทรอย ม้าไม้เมืองทรอย ม้าไม้จำลองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณซึ่งเป็นสาเหตุที่ทําให้กรุงทรอยแตก สงครามม้าไม้เป็นสงครามที่สําคัญตํานานของกรีกและเป็นสงครามระหว่างกองทัพของชาวกรีก และกรุงทรอยหลังจากสู้รบกันเป็นเวลาสิบปี กองทัพกรีกก็ได้คิดแผนการที่จะตีกรุงทรอย โดยการสร้างม้าไม้ จําลองขนาดยักษ์ที่เรียกว่าม้าไม้เมืองทรอย โดยทหารกรีกได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในม้าโทรจันแล้วก็ทําการเข็นไปไว้หน้ากรุงทรอยเหมือนเป็นของขวัญ และสัญลักษณ์ว่าชาวกรีกยอมแพ้สงครามและได้ถอยทัพ ออกห่างจากเมืองทรอย ชาวทรอยเมื่อเห็นม้าโทรจันก็ต่างยินดีว่ากองทัพกรีกได้ถอยทัพไปแล้ว ก็ทําการเข็นม้าโทรจันเข้ามาในเมืองแล้วทําการเฉลิมฉลองเป็นการใหญ่เมื่อชาวทรอยนอนหลับกันหมด ทหารกรีกที่ซ่อนตัวอยู่ก็ออกมาจากม้าโทรจันแล้วทําการเปิดประตูเมืองให้กองทัพกรีกเข้ามาในเมืองแล้วก็สามารถยึดเมืองทรอยได้ ก่อนที่จะทําการเผาเมืองทรอยทิ้ง เที่ยวเมืองโบราณเอฟฟิซุส ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมโรมันสุดคลาสสิก ณ เมืองโบราณเอฟฟิซุส เมืองโบราณที่มีการบํารุงรักษาไว้เป็นอย่างดี ในอดีตเคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionia) จากกรีกซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นใน ศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุสขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน และยังเป็นมหานครแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอีกด้วย แหมมหรูหราจริงๆ เที่ยวเมืองโบราณเฮียราโพลิส มาต่อกันที่เมืองโรมันกันแบบรัวๆเลยค่ะ กับเมืองโบราณเฮียราโพลิส (อ่านดีๆนะคะ ไม่ใช่โพราลิส ผ่าม!) เมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นนํ้าพุเกลือแร่ ร้อน ซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรค เมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทําให้เมืองนี้ เกิดการพังทลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไป บางส่วนยังพอมองออกว่าเดิมเคยเป็นอะไร เช่น โรงละคร แอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่ วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ บลาๆ ปราสาทปุยฝ้าย และแล้วก็มาถึงที่สุดท้าย กับปราสาทปุยฝ้าย ปราสาทแห่งนี้เกิดจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อน ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพน้ำตกสีขาวเรียงรายเป็นชั้นๆ ซึ่งมีความงดงามมากคล้ายๆกับธารน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือเลยค่ะ ก็จบกันไปแล้วนะคะ

ทัวร์ฮ่องกง /

4 วัดดังฮ่องกง ที่ใครได้ขอพรเรื่องความรักก็มักจะไม่ “นก”

4 วัดดังฮ่องกง ที่ใครได้ขอพรเรื่องความรักก็มักจะไม่ “นก”    คงจะเบื่อกันแล้วสินะคะ กับงานเทศกาลใดๆก็ตาม ที่เราเป็นได้แค่ “แขกรับเชิญ” ได้แต่ยื่นมือรับซองรัวๆ พร้อมส่งยิ้มสดใสทั้งที่ในใจอยากร้องไห้ TwT จะไปหวังแย่งช่อดอกไม้ในงานก็ไม่ได้ เพราะคำว่า คาน! มันย้ำอยู่ในหัวตลอด แต่ไม่เป็นไรนะถึงเราจะ นก! ก็นกอย่างมีสไตล์ นกหรู นกฟีนิกส์ด้วย อิอิ    แต่จะดีเสียกว่าไหมคะ? ถ้าคำว่านกมันหายไปจากชีวิต และให้คำว่าหงส์มาแทนที่เดิม มาค่ะ เรามาทำให้มันหายไปด้วยกันดีกว่า วันนี้ Planetholidays ก็ได้รวบรวม 4 วัดดังฮ่องกง ที่ใครได้ขอพรเรื่องความรักก็มักจะไม่ “นก” มาฝากชาวนกทั้งหลาย ใครที่อยากสละโสดแล้วก็บินตามเรามากันเล๊ย วัดหวังต้าเซียน หรือ วัดซิก ซิก หยวน หว่องไทซิน ประเดิมด้วยวัดแรกกันเลยนะคะ กับ วัดหวังต้าเซียน หรือ วัดซิก ซิก หยวน หว่องไทซิน สถานที่ประดิษฐานของเทพพระเจ้าจีนหลายองค์อย่างเทพเจ้าหลักของวัดคือ เทพหวังต้าเซียน ซึ่งขึ้นชื่อด้านการขอพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บเป็นอย่างมาก แต่นั้นก็ไม่ใช่จุดหมายปลายทางของพวกเราชาวนกค่ะ เราต้องเดินต่อมาด้านข้างอีกนิดนึงเราจะพบกับ ศาลกลางแจ้งเทพเจ้าด้ายแดง หรือ เทพเจ้าหยกโหล ที่เราแหล่ะค่ะ ที่ชาวนกเราต้องการ โดยการขอพรกับเทพเจ้าองค์นี้ต้องใช้ด้ายแดงผู้นิ้วเอาไว้ไม่ให้หลุดระหว่างพิธี เพราะชาวจีนเชื่อว่าด้ายแดงนี่แหละคือเส้นโยงโชคชะตาด้านความรัก ซึ่งสามารถทำได้ทั้งคนโสด และ คนมีคู่แล้ว คนโสดก็เป็นการขอพรให้เจอเนื้อคู่ ส่วนคนมีคู่ ก็จะช่วยทำให้มีความรักที่มั่นคงและยืนยาว รู้อย่างงี้แล้วต้องรีบไปขอพรกันแล้วหล่ะ เจ้าแม่กวนอิมรีพัลส์เบย์ ที่หาดรีพัลส์เบย์ (Repulse Bay Beach) เป็นสถานที่ยอดฮิต ที่เมื่อมาเที่ยวฮ่องกงแล้วก็ต้องมาให้ได้เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐ์สถานของ เจ้าแม่กวนอิม ที่ใครหลายๆคนต่างสักการะบูชา และยังเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมมาสักการะ รูปปั้นต่างๆของที่นี่ล้วนมีความหมาย แต่ก็อย่างเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วนะคะ ว่าการขอพรกับเจ้าแม่กวนอิมไม่ว่าจะเป็นเรื่องดวง หรือ โชคลาภ ก็ล้วนต่างสมหวังกันทั้งนั้น เรื่องความรักก็เช่นกัน วัดแชกงหมิว หรือ วัดกังหันลม ที่สถิตของท่านแชกง นักรบผู้เป็นตำนานของฮ่องกง โดยไฮไลท์ของที่นี่จะอยู่ที่ “กังหันลมนำโชค” ซึ่งตามความเชื่อของชาวฮ่องกงแล้ว ถ้าต้องการให้สิ่งไม่ดีในปีที่ผ่านมาหมดไป จะต้องใช้นิ้วชี้หมุนกังหันตามเข็มนาฬิกา แต่ถ้าหากต้องการขอพรให้สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตก็จงตั้งจิตอธิษฐาน แล้วหมุนกังหันกลับจากขวามาซ้าย แล้วกังหันนำโชคจะนำสิ่งดีๆเข้ามาสู๋ชีวิต ส่วนใครที่อยากให้ใครออกไปจากชีวิต และอยากให้ใครเข้ามาในชีวิตก็อธิฐานแล้วหมุนตามนี้เลยนะคะ รับลองว่าชัวร์ ไม่นกแน่นอน และก่อนที่จะออกจากวัดอย่าลืมตีกลองให้เสียงดังสนั่นเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยนะคะ พระใหญ่แห่งวัดโป่หลิน วัดโป่เหลียน สถานที่ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระใหญ่ หรือ พระพุทธรูปเทียนถานที่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาโปหลิน เรียกได้ว่าเป็นอีก 1 ไฮไลท์อันดับต้นๆของการมาไหว้พระที่ฮ่องกงเลย ที่สำคัญหากต้องการให้พรสัมฤทธิ์ผลอย่าลืมขอพรบริเวณจุดประทานพร เพราะเชื่อกันว่าเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดในการขอพระจากองค์พระใหญ่ ใครอยากได้ใคร แอบชอบใคร ก็จัดหนักจัดเต็มกันเลยนะคะ รับรองว่าสมหวังแน่นอน ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับการแนะนำ 4 วัดดังฮ่องกง ที่ใครได้ขอพรเรื่องความรักก็มักจะไม่ “นก” เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับวัดดังทั้ง 4 แห่งของฮ่องกง เห็นแล้วอยากไปปล่อยนกเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนมา เที่ยวฮ่องกง แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป
Promotion 0%