แบนเนอร์บทความ

ทัวร์ญี่ปุ่น /

พา เที่ยวโอซาก้า ดินแดนแห่งกลิ่นอายวัฒนธรรม และประเพณีญี่ปุ่น

พา เที่ยวโอซาก้า ดินแดนแห่งกลิ่นอายวัฒนธรรม และประเพณีญี่ปุ่น “คอนนิจิวะ” ค่ะทุกคน กลับมาเจอกันอีกแล้วนะคะกับซีรีย์ เที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งสถานที่ที่เราจะไปเที่ยวกันในวันนี้นั้นคือ “จังหวัดโอซาก้า” อีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดฮิตที่ติดครองอยู่ในใจนักท่องเที่ยวทั้งหลาย นั่นก็เพราะว่า จังหวัดโอซาก้ายังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของวัฒนธรรมเก่าแก่ที่สืบต่อกันมาเป็นพันปี อาคารบ้านเรือนสุดคลาสสิกที่เมื่อเราได้ย่างกรายเข้าไปแล้วยังกับถูกย้อนเวลาเข้าไปอยู่ในยุคสมัยเอโดะ วันนี้ Planetholidays ก็จะทุกคนไป พา เที่ยวโอซาก้า ดินแดนแห่งกลิ่นอายวัฒนธรรม และประเพณีญี่ปุ่น ถ้าพร้อมแล้วก็มาพบกับความคลาสสิกนี้กันเลยค่ะ ทาคายาม่า (Takayama) เมืองเก่าแก่อันทรงเสน่ห์ที่ถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาเจแปนแอลป์ เมืองที่ถูกขนานนามว่าลิตเติ้ลเกียวโต หรือ เกียวโตน้อยๆ สถานที่ที่อารยธรรม และขนมธรรมเนียมประเพณีถูกอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ บ้านเรือนสร้างขึ้นด้วยไม้แบบโบราณ ภายในเมืองมีสถานที่ให้เราได้เดินเล่นชมบรรยากาศมากมาย เริ่มตั้งแต่ วัด ศาลเจ้า ไปยันตลาดเช้าอันแสนคึกคัก ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่แสนน่ารัก เรียกได้ว่าบรรยากาศมันได้จริงๆ อาคารทาคายาม่าจินยะ (Takayama Jinya) อีกหนึ่งสถานที่ที่มีความน่าสนใจไม่แพ้เมืองทาคาย่าม่าเลยนั่นก็คือ อาคารทาคายาม่าจินยะ (Takayama Jinya) ซึ่งตั้งอยู่ในย่าน ซันมาชิซูจิ ย่านเก่าที่อนุรักษ์ความเป็นเอโดะเมื่อ 300 ปีก่อนได้เป็นอย่างดี อาคารทาคายาม่าจินยะ อดีตเคยเป็นสำนักงานรัฐบาลท้องถิ่นประจำภูมิภาคฮิดะ ในสมัยการปกครองของโชกุนโทคุงาวะในปี 1692 จนกระทั่งปี 1969 จนถึงปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนเข้าชมห้องเสื่อทาทามิที่ได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี ภายในจัดแสดงข้าวของ และเอกสารทางการของขุนนางศักดินา แผนที่ภูมิภาคฮิดะ และประวัติศาสตร์แผนเมือง ซึ่งใครที่ชื่นชอบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นอยู่แล้ว ที่แห่งนี้ก็เป็นอีกที่นึงที่คุณไม่ควรพลาดเลยหล่ะค่ะ ชิราคาวาโกะ (Shirakawago) หมู่บ้านสุดอเมซิ่งที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น The most beautiful village in Japan และยังได้รับการขึ้นชื่อให้เป็นเมืองมรดกโลกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย ซึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวหมู่บ้านแห่งนี้จะเป็นการชมความแปลกตาของหมู่บ้านแบบ กัชโชสึคุริ ของชาวนาโบราณที่มีอายุกว่า 250 ปี คำว่า “กัชโช” มีความหมายว่า “พนมมือ” ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะ รูปแบบของบ้านที่มีหลังคามุงด้วยฟางข้าวที่ทำมุมชันถึง 60 องศา คล้ายสองมือที่ประนมเข้าหากัน ตัวบ้านมีความยาวประมาณ 18 เมตร กว้าง 10 เมตร ทั้งหลังถูกสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู นอกจากนั้นในช่วงฤดูหนาวหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีการจัดงานแสดงไฟชื่องาน Shirakawago Winter Light-Up ซึ่งจะเป็นการนำไฟสีเหลืองมาติดตามอาคารบ้านเรือนที่ถูกหิมะสีขาวปลกคลุม ทำให้เกิดเป็นภาพที่สวยงามตระกาลตา จนเป็นที่ดึงดูนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาชมความงดงาม ณ หมู่บ้า่นชิราคาวาโกะแห่งนี้ โดยกำหนดการการจัดงาน ของปี 2019 จะมีทั้งหมดดังนี้  รอบที่ 1 วันที่ 14 มกราคม 2019 รอบที่ 2 วันที่ 20 มกราคม 2019 รอบที่ 3 วันที่ 27 มกราคม 2019 รอบที่ 4 วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2019  รอบที่ 5 วันที่ 11 กุมภาพันธ์

ทวีปยุโรป /

4 ไฮไลท์ที่ เที่ยวแคชเมียร์ สวิตเซอร์แลนด์แดนอินเดียที่คุณคู่ควร

4 ไฮไลท์ที่ เที่ยวแคชเมียร์ สวิตเซอร์แลนด์แดนอินเดียที่คุณคู่ควร เที่ยวแคชเมียร์ ดินแดนทางตอนเหนือของประเทศอินเดียที่อุดมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม จนได้รับขนานนามว่าเป็นสวงสวรรค์บนดิน และสวิตเซอร์แลนด์แดนอินเดีย วันนี้ Planetholidays ก็จะมาแนะนำ 4 ไฮไลท์ที่เที่ยวแคชเมียร์ สวิตเซอร์แลนด์แดนอินเดียที่คุณคู่ควร ถ้าพร้อมแล้วเราก็ไปทัวร์กันเล๊ย 1.เมืองศรีนาคา เมืองศรีนาคาเป็นนครหลวงของ แคว้นจามมู-แคชเมียร์ ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาแคชเมียร์ ดินแดนแห่งทะเลสาบ สายน้ำ สวนดอกไม้และงานฝีมือ ศิลปะที่ผลิตจากไม้ แลนด์มาร์กที่เหมาะแก่การเดินเล่นชมวัฒธรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่ใช้ชีวิตกับสายน้ำอันเงียบสงบ ให้เราได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศริมน้ำ ทอดมองผู้คนที่ใช้เรือเป็นยานพาหนะในการเดินทางบนทะเลสาบอันกว้างใหญ่ พร้อมที่เดินเล่นชิคๆอย่าง ตลาดน้ำยามเช้าที่สร้างชีวิตชีวาให้กับผู้มาเยือนและนักท่องเที่ยว 2.กุลมาร์ค(GULMARG) กุลมาร์ค เป็นเทือกเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในแคชเมียร์ แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในฤดูหนาว แลนดมาร์กที่อัดแน่นด้วยกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลานสกีหิมะ การนั้งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขากุลมาร์ค ระหว่างทางจะได้พบกับหมู่บ้านยิปซีที่ในช่วงฤดูหนาวจะอพยพไปอยู่ที่เมืองจามมู และจะกลับมาพักอาศัยในช่วงฤดูร้อน นอกจากนั้นในช่วงฤดูร้อน เทือกเขาแห่งนี้จะแปรเปลี่ยนเป็นสนามกอล์ฟที่สูงที่สุดในโลก 2,730 เมตรจากระดับน้ำทะเลอีกด้วย 3.หมู่บ้านพาฮาลแกมหรือหุบเขาแกะ (Village of Shepherds) หมู่บ้านเล็กๆน่ารักๆ ที่เดิมที่แล้วเป็นหมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ พาฮาลแกมได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์” และยังเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ที่มีความนิยมมาก ในช่วงฤดูหนาวจะมีแต่หิมะปกคลุม อากาศหนาว น้ำในลำธารใสเย็น แม่น้ำสายย่อยๆจะบรรจบรวมกันเป็น แม่น้ำลิดดาร์ (Liddar) แม่น้ำสายสำคัญในพาฮาลแกม นอกจากนั้นภายในหมู่บ้านยังเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย และที่ถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของที่แห่งนี้เลยก็คือ หญ้าฝรั่น (Saffron) หญ้าฝรั่นมีขายอยู่ทั่วแคชเมียร์ แต่ที่พาฮาลแกมจะเป็นแหล่งเพาะปลูกหญ้าฝรั่นที่ใหญ่ที่สุด และมีคุณภาพดีที่สุด ซึ่งสรรพคุณของหญ้าฝรั่นนั้นสามารถลดโคเลสเตอรอลในร่างกายได้ดีมากเลยค่ะ 4.ล่องเรือทะเลสาบดาล อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยนั้นก็คือ การล่องเรือทะเลสาบดาลโดยเรือสิคารา ชมความงดงามของทะเลสาบ พร้อมสูดอากาศที่สุดแสนจะบริสุทธิ์ และเสพทัศนียภาพของเทือกเขาหิมะที่ล้อมรอบเมืองแห่งนี้ไว้ สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำบริเวณรอบทะเลสาบ มีนกนานาชนิด ดอกไม้ พืชพรรณต่างๆ หรือ ถ้าอยากจะช้อปปิ้งที่นี่ก็มีตลาดน้ำยามเช้าไว้รองรับ ให้เราได้ช้อปปิ้งกันอย่างเพลิดเพลินไปเลยค่ะ ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับการ 4 ไฮไลท์ที่ เที่ยวแคชเมียร์ สวิตเซอร์แลนด์แดนอินเดียที่คุณคู่ควร เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของ แคชเมียร์ งดงามสมคำล่ำลือมากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนมา เที่ยวอินเดีย แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทัวร์ออสเตรเลีย /

6 ไฮไลท์ที่ เที่ยวออสเตรีย เมืองที่สวยงามดั่งเทพนิยาย

6 ไฮไลท์ที่ เที่ยวออสเตรีย เมืองที่สวยงามดั่งเทพนิยาย เที่ยวออสเตรีย ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของ สวิสเซอร์แลนด์ ดินแดนที่ทีมีความสวยงามดั่งเทพนิยาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลสาป บ้านเมือง เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียว วันนี้ Planetholidays ก็มี 6 ไฮไลท์ที่ เที่ยวออสเตรีย เมืองที่สวยงามดั่งเทพนิยาย มาฝากทุกคนกัน ส่วนจะสวยงามแค่ไหนนั้นต้องตามมาดูกันเองนะคะ ว่าแล้วเราก็ไปกันเลย 1.เมืองอินส์บรูค (Innsbruck) เมืองอินส์บรูค (Innsbruck) เป็นเมืองเล็กๆในอ้อมกอดแห่งภูเขาหิมะ เป็นเมืองหลวงของแคว้นทีโรล เป็นเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของ ประเทศออสเตรีย (Austria) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน ซึ่งคำว่าอินส์บรูคนั้น แปลว่า สะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะแคบๆแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ 2.ถนนมาเรียเทเรซ่า (Maria Theresa Street) ถนนมาเรียเทเรซ่า (Maria Theresa Street) เป็นถนนคนเดินแห่งมนตร์เสน่ห์ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่สีลูกกวาด เชื่อมระหว่างเขตเมืองเก่ากับย่านช้อปปิ้งสมัยใหม เป็นที่ตั้งของ หอคอยประจำเมือง (City Tower) และ เสาอันนาเซาเลอ (Anna Saule) ตั้งสูงเด่นเป็นสง่าบนถนนสายนี้ ท่ามกลางอ้อมกอดแห่งภูเขาหิมะ 3.หลังคาทองคำ (Golden Roof) หลังคาทองคำ (Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรูค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นโดย จักรพรรดิฟรีดริช (Friedrich) ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล ต่อมา จักรพรรดิแม็กซ์ซิมิเลียน (Maximilian) ทรงปรับเปลี่ยนโกลเด้นรูฟให้เป็นสไตล์โกธิก ผสมบาโรค และได้ทรงตกแต่งส่วนของหลังคาที่ยื่นออกมาจากระเบียงด้วยทองคำแท้ จำนวน 2,738 แผ่น เพื่อใช้เป็นที่ทอดพระเนตรเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นบริเวณจัตุรัสด้านหน้าที่ประทับ ปัจจุบันโกลเด้น รูฟ กลายเป็นสำนักงานการประชุมอัลไพน์นานาชาติ 4.หมู่บ้านมรดกโลก ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลก ฮัลสตัท (Hallstatt) เป็นหมู่บ้านแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวย งามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกขององค์กรสหประชาชาติ หรือ Unesco Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน 5.เมืองซาลส์บูร์ก (Salzburg) เมืองซาลส์บูร์ก (Salzburg) เมืองอันเป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก คำว่า “ซาลส์บูร์ก” มีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” เขตเมืองเก่าศิลปะบารอคที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซาลส์ซาค เมืองซาลส์บูร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์ค บิชอป และ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน 6.บ้านเกิดโมสาร์ท (House of Wolfgang Amadeus Mozart) บ้านเกิดโมสาร์ท (House of Wolfgang Amadeus Mozart) กวีเอกของโลกชาวออสเตรีย ปัจจุบันนี้เป็น พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติของโมสาร์ทและครอบครัว

ทัวร์ดูไบ /

ท่องเมืองเศรษฐกิจโลก ดูไบ กับ 9 ไฮไลท์ที่คุณไม่ควรพลาด

ท่องเมืองเศรษฐกิจโลก ดูไบ กับ 9 ไฮไลท์ที่คุณไม่ควรพลาด ดูไบ เมืองเศรษฐกิจสำคัญของโลก ดินแดนแห่งความหรูหรา ทันสมัย ยิ่งใหญ่ตระการตา ประเทศที่ถูกเนรมิตจากทะเลทรายแห้งแล้งจนกลายเป็นเมืองสวรรค์ ทั้งโรงแรม แหล่งช้อปปิ้ง และสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่นั้นเรียกได้ว่าปังมากๆ วันนี้เราจะพาทุกคนไป ท่องเมืองเศรษกิจโลก ดูไบ กับ 9 ไฮไลท์ที่คุณไม่ควรพลาด ถ้าใครพร้อมแล้วก็ไปกันเล๊ย 1.ตึกเบิร์จคาลิฟา  (Burj Khalifa)  ตึกเบิร์จคาลิฟา  (Burj Khalifa) หรือเดิมชื่อ บุรจญ์ดูไบ หนึ่งในสัญลักษณ์อันสำคัญของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งตึก มีความสูงถึง 828 เมตร ปัจจุบันมีทั้งหมด160 ชั้น ตัวตึกได้ทำสถิติกลายมาเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกมีความสูงถึง 546 เมตร และได้มีการเปลี่ยนชื่ออาคารจาก “บุรจญ์ดูไบ” เป็น “บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์” เพื่อ เป็นเกียรติแก่ ท่านชีคค์ อดีตประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยที่ชั้น 124 จะเป็นจุดชมวิวของตึกที่สำคัญ ท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์หลักล้านของประเทศดูไบที่สวยงาม และโอ่อ่าได้จากชั้นนี้  ส่วนบนของตึกจะเป็นเสาอากาศสื่อสารนอกจากนี้ชั้น 78 จะมีสระว่ายน้ำ กลางแจ้งขนาดใหญ่โดยตึกนี้จะติดตั้งลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลกที่ความเร็ว18 ม./วินาที (65 ก.ม./ชม.,40 ไมล์/ชม.) 2.โครงการสุดอลังการ The Plam โครงการเดอะปาล์ม THE PALM เป็นโครงการที่อลังการ สุดยอดโปรเจคส์โดยการถมทะเล ให้เป็นเกาะเทียมสร้างเป็นรูปต้นปาล์ม 3 เกาะ บนเกาะมีที่พักโรงแรม รีสอร์ท อพาร์ตเม้น ร้านค้า ภัตตาคาร รวมทั้งสำนักงาน ต่างๆนับว่าเป็น สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก นำท่านชื่นชมความสวยงามของภูมิประเทศ และบรรยากาศรอบๆ โรงแรมนี้ Palm Island เป็นโครงการมหัศจรรย์ที่คิดค้นสำหรับรองรับการอยู่อาศัยในอนาคต สร้างโดยการนำทรายมาถมทะเลเป็นเกาะเล็กๆ รวม 301 เกาะ รูปร่างหากมองจากด้านบนจะรูปต้นอินทผลัม 3.ตะลุยทะเลทรายโดยรถ4WD อีกหนึงไฮไลท์ที่น่าสนใจของการมาเที่ยวดูไบนี้ก็คือ การออกไปตะลุยทะเลทรายด้วยรถ 4WD ท่านจะได้สนุกสนานกับการนั่งรถตะลุยทะเลทรายที่มีเนินสูงและต่ำสลับกันไป ซึ่งเป็นการเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น และเร้าใจที่คุณควรมาลองให้ได้สักครั้งนะ 4.ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ตกดิน หลักจากนั่งรถตะลุยเททรายไปแล้ว มาต่อกันที่อีก 1 ไฮไลท์เจ๋งๆ กับ การขี่อูฐชมพระอาทิตย์ตกดิน ท่านจะได้เพลิดเพลินกับการนั่งบนหลังอูฐแบบชิลล์ นั่งมองพระอาทิตย์ตกดิ ชมแสงทไวไลท์ ที่สุดแสนจะโรแมนติก นับว่าเป็นอีก 1 วิวทิวทัศน์ที่ไม่อาจหาชมได้ง่ายๆเลย 5.มัสยิดหลวงเชคซัยยิด GRAND MOSQUE มัสยิดหลวงเชคซัยยิด หรือ GRAND MOSQUE เป็นสุเหร่าประจำเมืองดูไบของท่านเชคที่ก่อตั้งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ ที่ท่าน สร้างไว้ก่อนท่านจะสวรรคต การก่อสร้างรวมทั้งหมดเป็นเวลา 10 ปี  สุเหร่านี้มี พรมผืนที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาด 5,627 ตารางเมตร และโคมไฟ Chandelier ใหญ่ที่สุดในโลก นำเข้าจากประเทศเยอรมันทำด้วยทองคำและทองแดง สามารถรองรับผู้มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้สูงถึง 40,000 คน นอกจากนี้มัสยิดแห่งนี้เป็นสุสานหลวงที่ฝังพระบรมศพของ Sheikh Zayed

ทัวร์ไต้หวัน /

เที่ยว ไต้หวัน มีอะไรเด็ดๆให้ทำบ้าง ? เผยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในไต้หวัน

เที่ยว ไต้หวัน มีอะไรเด็ดๆให้ทำบ้าง ?    ไต้หวัน เกาะขนาดกลางที่เปรียบเสมือน “เสือซ่อนเล็บ” ที่ต้องกล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่าไต้หวันนั้น แฝงด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาหารหลากหลายชนิด และแหล่งช้อปปิ้งที่แสนจะถูก เป็นดั่งขุมทรัพย์ของนักท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเลยแม้แต่ที่เดียว วันนี้เราก็จะมาเล่าเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวใน ไต้หวัน ใครอยากรู้ว่าไปไต้หวันมีอะไรเด็ดๆให้ทำบ้างก็ตามเรามาเล๊ย 1.ตึกไทเป101   ตึกสูงเสียดฟ้าใจกลางเมืองไทเป หนึ่งความภาคภูมิใจของชาวไทเป ด้วยความสูงถึง 508 เมตร และการออกแบบด้วยนวัตกรรมทีสุดล้ำ ที่ทำให้ตึกสามารถทนต่อแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว การป้องกันวินาศภัยทางอากาศ ตึกไทเป 101 จะมีทั้งหมด 101 และชั้นใต้ดินอีก 5 ชั้น ที่ชั้น 1-5 จะเป็นส่วนของห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายแบนด์ชื่อดังต่างๆ ร้านค้า ร้านอาหาร โดยที่ชั้น 5 จะมีเค้าเตอร์ขายตั๋วสำหรับขึ้นลิฟท์ไปยังจุดชมวิวที่ชั้น 89 ซึ่งเป็นชั้นชมวิวกว้างๆอยู่ในอาคาร จากนี้จะมีบันไดให้เดินขึ้นไปที่ลานชมวิวกลางแจ้งที่ชั้น 91 ได้ด้วย ท่านสามารถชมทัศนียภาพของเมืองไทเปได้ไกลแบบสุดลูกหูลูกตา ด้วยแสง สี ไฟ ของเมืองนับว่าเป็นภาพวิวที่งดงามหาชมได้ยากที่นึงเลย 2.โรงแรมน้ำแร่ในห้องนอน   อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยคือ การไป นอนแช่น้ำแร่ออนเซ็น ใน ห้องพักส่วนตัว ที่ไต้หวันนั้นค่อนข้างโด่งดังเรื่องโรงแรมน้ำแร่ ทำให้การตามหาที่พักที่มีออนเซ็นในห้องนอนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก ไปพักผ่อน ย่อนกาย สูดกลิ่นกำมะถันกันให้สบายตัวไปเลย 3.ไปล่องเรือเล่นที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา   ทะเลสาบสุริยันจันทรา ตั้งอยู่ในเมือหนานโถว เป็นอีก 1 ไฮไลท์เด็ดที่ไม่ควรพลาด เหมาะแก่การไปนั่งเรือชมวิวทิวทัศน์ในที่แห่งนี้ ด้วยตัวทะเลสาบที่มีภูเขาสลับซับซ้อนล้อมรอบ ประกอบกับมีทัศนียภาพของน้ำและภูเขาที่สวยงามไม่ว่าจะเป็นการชมวิวจากที่ไกลๆ หรือเข้าไปชมความงดงามของทะเลสาบอย่างชิดใกล้ ถนนรอบทะเลสาบมีความยาวประมาณ 33 กิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศที่โดด เด่น ทำให้ตัวทะเลสาบมองแล้วคล้ายพระอาทิตย์และพระจันทร์เสี้ยวซึ่งเป็นที่มาของนามอันไพเราะว่าสุริยันจันทรา 4.เที่ยวหมู่บ้านโบราณ จิ่วเฟิ่น   หมู่บ้านจิ่วเฟิ่น เป็นแหล่งเหมืองทองที่มีชื่อเสียงตั้งแต่สมัยกษัตริย์กวงสวี้ แห่งราชวงศ์ชองจึงมีนักขุดทองจำนวนมากพากันมาขุดทองที่นี่ การโหมขุดทองและแร่ธาตุต่างๆ ทำให้จำนวนแร่ลดลงอย่างน่าใจหาย ผู้คนพากันอพยพย้ายออกไป เหลือทิ้งไว้เพียงแต่ความทรงจำ จนกระทั่งมีการใช้จิ่วเฟิ่นเป็นฉากในการถ่ายทำภาพยนตร์ “ เปยฉิงเฉิงชื่อ ” และ “ อู๋เหยียนเตอะซันซิว ” ทัศนียภาพภูเขาที่สวยงามในฉากภาพยนตร์ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาชื่นชมความงดงามของที่นี่ นอกจากนี้ยังมีถนนคนเดินเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในไต้หวัน ทำให้จิ่วเฟิ่นกลับมาคึกคักและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ให้ท่านได้เพลิดเพลินในการจับจ่ายซื้อของกินที่แปลกตา อีกทั้งยังมีบัวลอยเผือกที่โด่งดังที่สุดในไต้หวัน เนื่องจากมีรสชาติแบบดั้งเดิมไม่เหมือนที่ไหน จะซื้อทานเองหรือเป็นของฝากก็เก๋ไม่แพ้กัน 5 .ชมความงดงามของอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค   อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค เป็นแหล่งรวม รูปภาพ สิ่งของต่างๆที่เป็นประวัติแทบทั้งหมดเกี่ยวกับ ท่านนายพล เจียง ไคเช็ค ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นลูกศิษย์ ดร.ซุนยัดเซ็นจนท่านได้ก้าวมาสู่ ตำแหน่งผู้นำประเทศ โดยไฮไลท์ของที่นี่ท่านจะได้พบกับการเปลี่ยนเวรทหารรักษาการหน้ารู้ปั้นท่านนายพล เจียง ไค เช็ค ซึ่งจะ มีขึ้นทุก 1 ชั่วโมง บนชั้น 4 ของอนุสรณ์แห่งนี้ 6.ช้อปปิ้งที่ ฝงเจี่ยไนท์มาร์เก็ต ตลาดกลางคืนฟ่งเจี่ย เป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไต้หวัน อยู่ที่เมืองไทชุง เป็นตลาดกลางคืนที่มีกลิ่นอายท้องถิ่นของชาวไต้หวัน ที่ตลาดจะมีร้านขายอาหารท้องถิ่นมายมากหลากหลายสไตล์ จึงทำให้สามารถดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวได้มาก และอีก 1 ไฮไลท์เด็ดของตลาดแห่งนี้คงจะหนีไม่พ้น Onitsuka tiger ที่ลดราคาแบบว่าเยอะมาก เรียกได้ว่าขาช้อปห้ามพลาดเลยหล่ะครับ 7.ช้อปปิ้งที่ตลาดซีเหมินติง    ตลาดซีเหมินติง หรือที่คนไทยเรียกว่า สยามสแควร์เมืองไทย มีทั้งแหล่งเสื้อผ้า แบรนด์เนมสไตล์วัยรุ่น กระเป๋า ของฝากสำหรับคนที่ท่านรัก

ทวีปยุโรป /

ทำความรู้จักเขา จุงเฟรา เธอมีอะไรดี?

  ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) เป็นส่วนหนึ่งในเทือกเขาแอลป์ มีความสูงถึง 4,158 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ในรัฐแบร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป และยังได้รับการขนานนามว่าเป็น Top of Europe ส่วนคำว่า จุงเฟรา ในภาษาเยอรมันมีความหมายน่ารักๆว่า สาวน้อย เปรียบภูเขาเป็นสาวน้อยที่สวยงาม    โดยไฮไลท์ของจุงเฟรานั้น คงจะหนีไม่พ้น วิวทิวทัศน์ของธรรมชาติที่สวยงาม ถ้ำน้ำแข็งพันปี Ice Palace  และ อาคารสังเกตการณ์ Sphinx โดยการจะเดินทางไปยังยอดเขาจุงเฟรานั้นค่อนข้างจะสะดวกมาก เพราะที่นี่เค้ามีรถไฟไว้บริการ   สำหรับเส้นทางขึ้นยอดเขาจุงเฟรา จะมีทั้งหมด 2 เส้นทาง สามารถวางแผนการเดินทางได้ตามนี้เลย  1.เส้นทาง เมืองกรินเดลวาลด์ (Grindelwald) ลำดับเส้นทาง : Interlaken-Ost – Zweilütschinen – Grindelwald – Kleine Scheidegg – Jungfraujoch 2.เส้นทาง เมืองเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) ลำดับเส้นทาง : Interlaken-Ost – Zweilütschinen – Lauterbrunnen เปลี่ยนรถไฟสาย Wengernalpbahn – Wengen – Kleine Scheidegg – Jungfraubahn    ทั้งสองเส้นทางนี้ค่อนข้างแตกต่างกันมาก ซึ่งถ้าใครไปเที่ยวกับทัวร์ก็จะได้นั่งรถไฟครบทั้งสองเส้นทาง ชมบรรยากาศที่ต่างกันได้แบบชิลๆไปเลย รถไฟสีแดงขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟราจะค่อยๆพาเราเดินทางลัดเลาะไปตามเขา ลอดอุโมงค์ไปเรื่อยๆ จากเส้นทางนี้เราจะได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยเกินจะบรรยาย อาคารสังเกตการณ์ Sphinx   หลังจากนั่งรถไฟมาสักพักในที่สุดเราก็มาถึงจุดหมายของเรา นั้นก็คือ อาคารสังเกตการณ์ Sphinx ที่นี่เราจะสามารถออกไปปสัมผัสกับหิมะข้างนอก และชมวิวสวยงามที่ยอดเยี่ยมที่ใครต่างขนานนามว่า Top of Europe ได้อย่างเต็มที่ ณ จุดชมวิวที่สูงที่สุดบนยอดเขาแห่งนี้ อยู่ที่ระดับความสูง 3,571 เมตร วิวหลักล้านแบบนี้จะหาได้จากที่ไหนอีก ถ้าไม่ใช่ “จุงเฟรา” cr. jungfrau.ch ถ้ำน้ำแข็งพันปี Ice Palace   Ice Palace ถ้ำน้ำแข็งพันปีที่ไม่มีวันละลาย เกิดจากการขุดเจาะใต้ธารน้ำแข็ง Glacier ลึกลงไป 30 เมตร ภายในท่านจะพบกับน้ำแข็งแกะสลัก เสมือนอยู่ในแกลเลอรี่งานศิลปะดีๆเลย ให้ท่านสามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึก cr. jungfrau.ch   แถมให้! หลังจากที่ได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติอย่างเต็มอิ่มไปแล้ว บนยอดเขาแห่งนี้ยังมีอีกที่นึงที่น่าสนใจ นั่นก็คือ ร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับยอดเขาจุงเฟรา และยังเป็นที่ตั้งของตู้ไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลก ไหนๆก็มาแล้วลองเลือกโปสการ์ดสักใบนึงเขียนถึงคนที่เรารัก หรือจะเขียนให้ตัวเองก็ได้ ว่าวันนึงเราได้มาเยือนสถานที่ที่สวยงามระดับโลกแห่งนี้ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Top of Europe ในฝันของใครหลายๆคน       ก็จบกันไปแล้วนะครับ กับ ทำความรู้จักเขา จุงเฟรายอร์คเธอมีอะไรดี? เป็นยังไงกันบ้างครับ? อ่านแล้วคงจะเริ่มอยากมากันแล้วใช่ไหม มาๆ มาทัวร์เฟาจุง สวิตเซอร์แลนด์ กัน ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณสิครับ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริปรับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ   planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 087-078-1777

ทัวร์เวียดนาม /

พักใจไปสูดโอโซน ณ เมืองสายหมอก บาน่าฮิลล์ กับ 5 ไฮไลท์ที่คุณพลาดไม่ได้

       บานาฮิลล์ (Ba Na Hills)  ดานัง เมืองที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝรั่งเศษ ทำให้สถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือน มีกลิ่นอายของยุโรปตะวันออก เมืองที่จัดว่าสวยที่สุดแห่งนึงในเอเซีย สถานที่ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา สูงจากระดับน้ำทะเลมากถึงประมาณ 1,487 เมตร มีสายหมอกปกคลุมตลอดปี จัดว่าเป็นที่นึงที่น่ามาพักตากอากาศมากที่สุด วันนี้เราก็จะขอแนะนำ 5 ไฮไลท์ ณ บาน่าฮิลล์ที่คุณพลาดไม่ได้ ให้ทุกคนได้ชาร์จแบตพักใจ สูดโอโซนกันให้เต็มปอด จะมีอะไรบ้าง ตามมาสิ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง 1.กระเช้าลอยฟ้า   กระเช้าไฟฟ้าที่ยาวและสูงที่สุดในโลกด้วย มีความยาวมากถึง 5,801 เมตร และสูง 1,368 เมตร ทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงามแบบไม่มีหยุดพัก ปล่อยใจล่องลอยออกไป คิดแล้วก็ฟินไม่เบาเลย 2.สะพานลอยฟ้าโกลเด้น (Golden Bridge)   สะพานโกลเด้น มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร ความยาว 150 เมตร ทางเดินแบ่งออกเป็น 8 ช่วง โค้งไปตามแนวเขา โดยไฮไลท์ของสะพานนี้ คือ อุ้งมือหินขนาดยักษ์ ที่แบกรับสะพานสีเหลืองทองนี้เอาไว้ ซึ่งแตกต่างจากสะพานอื่นทั่วไปที่เราเคยเห็น นอกจากนั้นบนสะพานยังปลูกดอก Lobelia Chrysanthemum สีม่วงสดใส ยาวตลอดทาง เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ สูดโอโซนอันสดชื่น และชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองดานังอันกว้างไกล ให้ความรู้สึกประหนึ่งยืนอยู่บนสวรรค์ ท้องฟ้าและปุยเมฆสีขาวล่องลอย หูยยยยนึกแล้วกระเป๋าตังเริ่มสั่น 3.หมู่บ้านฝรั่งเศส (Frence Village)   หมู่บ้านสไตล์ฝรั่งเศสสมัยยุคกลางบนยอดเขา ประกอบด้วยร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก โบสถ์ ร้านขายของที่ระลึก เรียกได้ว่าเป็นฝรั่งเศสย่อม ๆ ครบจบในที่เดียว โดยที่พักที่อยู่ในหมู่บ้านฝรั่งเศสนี้มีชื่อว่า Mercure Banahills French Village ให้บริการห้องพักมากกว่า 160 ห้อง ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรรตามสไตล์ที่ชอบ แต่รับรองว่าสวยทุกห้องแน่นอน 4.ร้านชาที่วิวดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก Tru Vu Tea Shop   Tru Vu Tea Shop ร้านชาวิวดีมีคุณภาพจาก เวียดนาม ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงในเขตโรงแรม Mercure Banahills French Village ซึ่งสามรถมองเห็นวิวโดยรอบได้อย่างสวยงามอลังการ จิบชาอุ่นๆ นั่งมองท้องฟ้า ปุยเมฆ สายหมอก เรียกได้ว่าเป็นวิวหลักล้านเลยทีเดียว   5.บานาฮิลล์ แฟนตาซี ปาร์ค (Ba Na

ทัวร์ตุรเคีย /

เวอร์วัง! กับโรงแรมถ้ำ Turkey ที่ชาตินี้ต้องโดนสักครั้ง

  ใครจะไปรู้หล่ะ ! ว่านอกจากความสวยงามของธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และบอลลูน ณ ประเทศตุรกี “คัมปาโดเกีย” เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมรดกโลกยูเนสโกแล้ว ก็ยังมีอีก 1 ไฮไลท์ที่น่าสนใจซ่อนอยู่ในที่นี่นั่นคือ โรงแรมถ้ำ! จากอดีตที่แห่งนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหลายพันปี ก่อให้เกิดเถ้าภูเขาไฟก่อตัวรวมกันเป็นถ้ำภูเขา และหลังจากนั้นก็มีประชากรเข้ามาอยู่อาศัย สร้างที่พักจากภูเขานี้จนมาถึงปัจจุบัน วันนี้เราก็จะพาไปชมภาพจากโรมแรมถ้ำตุรกี และวิวหลักล้าน ที่ชาตินี้ควรมาทัวร์ให้ได้สักครั้ง มาเริ่มกันเลย ด้านนอก   ที่คัมปาโตเกียจะ มีโรงแรมถ้ำมากมายหลายดีไซน์ ให้คุณได้เลือกสรรตามสไตล์ของคุณ  ราคาก็จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับช่วงเวลา แต่ส่วนใหญ่แล้วสวยงามทุกที่ครับ ใครสนใจจองที่พักสามารถเข้าไปดูตามลิ้งค์ด้านล่างนี้ได้เลย https://www.booking.com/region/tr/cappadocia.th.html ภายใน  ภายในตกแต่งสวยงามตามสไตล์ตุรกี เห็นแล้วอยากจะเก็บกระเป๋าไปเดี๋ยวนี้เลย เหมาะแก่การมาพักผ่อนในช่วงหยุดยาวหรือ ฮันนีมูนจริงๆ ระเบียง   จุดชมวิวที่เรียกว่าท็อปฟอร์มที่สุดของโรงแรมถ้ำ ก็คงหนีไม่พ้นระเบียงนี่แหล่ะครับ เวอร์วังอลังกาลจริงๆ ด้วยอากาศที่บริสุทธิ์ บวกกับวิวทิวทัศน์หลักล้าน!แบบนี้ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว และอีกเรื่องนึงที่พลาดไม่ได้เลย ก็คือ ที่คัมปาโดเกียบอลลูนจะขึ้นในช่วงเช้า อย่าลืมตื่นมาถ่ายรูปคู่กับบอลลูนด้วยนะครับ ^ ^ เป็นยังไงกันบ้างครับ กับความเว่อวังอลังกาลของโรงแรมถ้ำตุรกี เห็นแล้วกระเป๋าตังเริ่มสั่นกันเลยใช่ไหม ผมเองเห็นแล้วอยากจะไปให้ได้สักครั้งเลย แล้วเพื่อนๆหล่ะครับ อยากไปไหม? ถ้าอยากไปทัวร์ตุรกีให้เรา PlanetHolidays วางแผนการเดินทางให้สิครับ เราพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ด้วยทัวร์ชั้นนำ และบริการดีๆมากมาย PlanetHolidays คำตอบของคนชอบเที่ยว โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 087-078-1777 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทัวร์ญี่ปุ่น /

5 STEP เตรียมพร้อมเที่ยวเทศกาลหิมะฮอกไกโด

    ใกล้เข้ามาแล้วนะคะกับ “เทศกาลหิมะ” ในฝันที่ฮอกไกโดของใครหลายคน ซึ่งจัดขึ้นในช่วงใกล้ๆ กับเทศกาลปีใหม่พอดี เรียกได้ว่าเป็นไฮซีซั่นของประเทศญี่ปุ่นเลย สำหรับคนที่ต้องการไปเที่ยวในช่วงเทศกาลหิมะนี้ ก็อาจจะต้องทำการบ้านเพื่อเตียมตัวกันหน่อย วันนี้เราก็จะมาแนะนำ 5 STEP สั้นๆ ในการเตรียมพร้อมเที่ยวช่วงเทศกาลหิมะฮอกไกโด จะมีอะไรบ้าง ตามมาชมกันเลยค่าาาาา STEP1.วางแผนการเดินทาง สำคัญมากเรื่องนี้ต้องแพลนให้ดีนะคะ เพราะว่าช่วงนี้มันไฮซีซั่นจริงๆ ใครยังไม่ได้จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก จองทัวร์ต้องรีบเลย ชักช้าคุณอาจไม่ได้ไปนะจ๊ะ STEP2.เอกสารต้องพร้อม ตรวจสอบตัวเอง พาสปอร์ตทำหรือยัง? หมดอายุไหม? บัตรประชาชน ใบขับขี่ เอกสารสำคัญต่างๆเอาติดเพื่อไปด้วย อย่าลืมทำประกันระหว่างเดินทางด้วยหล่ะ STEP3.เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ถึงตรงนี้ต้องจัดหนักกันหน่อยค่ะ เนื่องจากอากาศมันติดลบ และลมก็เป็นอีกสิ่งนึงที่คุณต้องเจอแน่ๆ เพราะฉะนั้นเสื้อผ้าต้องพร้อม อาจจะต้องใส่กันหลายชั้นเลยทีเดียว ทางทีดีควรหาชุดที่เก็บความอบอุ่นของร่างกายได้ดีไว้ก่อน ชั้นในสุดอาจจะใส่เป็นเสื้อ Heattech แบบ extra warm แล้วหาเสื้อ fleece ใส่ทับ ตามต่อด้วยเสื้อกันหนาวที่สามารถกันลม กันน้ำ เพราะหิมะเวลาตกมาใส่เรา สักพักก็จะกลายเป็นน้ำคงไม่ดีแน่ๆ พร็อพอื่นๆ หมวกไหมพรม ผ้าพันคอ ฮู้ด รองเท้าก็เป็นอีกสิ่งนึงที่สำคัญ ควรหารองเท้าที่ยืดเกาะพื้นได้ดี และกันน้ำได้ด้วยจะดีมากๆ  อ้อ! อย่าลืมซืัอแผ่นแปะความร้อนกันด้วยหล่ะ STEP4.แลกเงินให้พร้อม เพื่อให้การทัวร์เทศกาลหิมะของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น การเตรียมเงินแลกเงินนั้นก็เป็นอีกสิ่งนึงที่สำคัญ ลองคำนวนดูนะคะ ว่าทริปนี้จะใช้เงินเท่าไหร่ เผื่อการเดินทางนั่งไฟ ช็อปปิ้ง ทานอาหารของคุณด้วย โดยประเทศญี่ปุ่นเค้าจะใช้เป็นสกุลเงินเยน  1 เยนของญี่ปุ่นจะเท่ากับ 0.29 บาท ของเมืองไทย ขึ้นอยู่กับช่วงเวลานั้นๆ ท่านสามารถเช็คค่าสุกลเงินตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ https://www.xe.com/currencyconverter/ 5.เผื่อเวลา  โดยเวลาของประเทศญี่ปุ่นนั้นจะเร็วกว่าไทยประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ ใครที่ลงเครื่องแล้วก็อย่าลืมปรับเวลากันด้วย จะไปที่ไหนทำอะไรก็เผื่อเวลาไว้กันสักนิด เผื่อต้องนัดเจอไกด์ทัวร์ ย้ายสถานที่ ขึ้นเครื่องกลับ จะได้ไม่ไปผิดเวลาค่ะ    ก็ขอจบ 5 STEP ของการเตรียมพร้อมเที่ยวเทศกาลหิมะฮอกไกโดไว้เท่านี้นะคะ ส่วนท่านใดที่ยังไม่ได้วางแผนทัวร์ฮอกไกโด ก็สามารถเข้ามาปรึกษากับเรา PlanetHolidays ได้ตลอดเวลาเลย เรายินดีให้คำแนะนำ พร้อมทัวร์ดีๆมากมายไว้บริการทุกท่าน อุ่นใจ ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ PlanetHolidays คำตอบของคนชอบเที่ยว โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 087-078-1777 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทัวร์ฮ่องกง /

9 วัดไฮไลท์ฮ่องกง ที่สายบุญ เสริมรวย แก้ชง ต้องไม่พลาด

“ฮ่องกง” แลนด์มาร์กที่ทรงอิทธิพลเรื่องศาสนาและวัฒนธรรม หากใครที่ต้องการหาที่ทำบุญเสริมมงคลก็มักจะนึกถึงที่นี่เป็นอันดับต้นๆ สถานที่ที่รวมวัดชื่อดังไว้มากมายเหมาะแก่สายบุญทั้งหลายที่ชอบขอพร เสริมดวง เสริมรวย วันนี้เราก็รวบรวม 9 วัดไฮไลท์ของฮ่องกง ที่ถ้าได้มาแล้วต้องห้ามพลาดเด็ดขาด 1.วัดแชกงหมิว หรือ วัดกังหันลม   ที่สถิตของท่านแชกง นักรบผู้เป็นตำนานของฮ่องกง ไฮไลท์ของที่นี่จะอยู่ที่ “กังหันลมนำโชค” โดยตามความเชื่อของชาวฮ่องกงแล้ว ถ้าต้องการให้สิ่งไม่ดีในปีที่ผ่านมาหมดไป จะต้องใช้นิ้วชี้หมุนกังหันตามเข็มนาฬิกา แต่ถ้าหากต้องการขอพรให้สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตก็จงตั้งจิตอธิษฐาน แล้วหมุนกังหันกลับขจากขวามาซ้าย แล้วกังหันนำโชคจะนำสิ่งดีๆเข้ามาสู๋ชีวิต  และก่อนที่ท่านจะออกจากวัดจะต้องตีกลองให้เสียงดังสนั่นเพื่อความเป็นสิริมงคล 2.วัดหวังต้าเซียน หรือ วัดซิก ซิก หยวน หว่องไทซิน    วัดที่ขึ้นชื่อด้านการขอพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เป็นที่ที่ได้รับการนับถือเป็นอย่างมากจากบรรดาผู้ป่วย ซึ่งใครที่กำลังเจ็บป่วย หรือมีญาติพี่น้อง คนที่เรารักก็สามารถมาขอพรจากที่นี่ได้ นอกจากนั้นโบราณสถานแห่งนี้ยังคงความสวยงานแบบจีนโบราณอีกด้วย 3.เจ้าแม่กวนอิมรีพัลส์เบย์    ที่หาดรีพัลส์เบย์ (Repulse Bay Beach) เป็นสถานที่ยอดฮิตที่เมื่อมาทัวร์ฮ่องกงก็ต้องมาให้ได้ เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐ์สถานของเจ้าแม่กวนอิมที่ใครหลายๆคนต่างสักการะบูชา และยังเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมมาสักการะ รูปปั้นต่างๆ ของที่นี่ล้วนมีความหมาย นอกจากนั้นยังมีบริเวณที่สวยงามให้ได้ถ่ายรูปมากมายอีกด้วย 4.พระใหญ่แห่งวัดโป่หลิน  วัดโป่เหลียน สถานที่ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระใหญ่ หรือ พระพุทธรูปเทียนถานที่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาโปหลิน เรียกได้ว่าเป็นอีก 1 ไฮไลท์อันดับต้นๆของฮ่องกง เรื่องความศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียว ที่สำคัญหากต้องการให้พรสัมฤทธิ์ผลอย่าลืมขอพรบริเวณจุดประทานพร เพราะเชื่อกันว่าเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดในการขอพระจากองค์พระใหญ่ 5.วัดเทียนโหว่    วัดเทียนโหว่ ตั้งอยู่ในย่านคอสเวย์ เบย์ ของประเทศฮ่องกง เป็นที่ประดิษฐานขององค์เจ้าแม่ทับทิม ที่แต่เดิมนั้นได้รับความเคารพบูชาสำหรับเหล่าชาวประมงที่ต้องการสักการะขอพรให้แคล้วคลาดปลอดภัยในการออกเรือทุกครั้ง ปัจจุบันเป็นที่เลื่องชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และการปัดเป่าสิ่งร้ายให้หายกลายเป็นดี จนเป็นที่นิยมอย่างมากในเหล่าคนฮ่องกงที่จะมาสักการะขอพระ 6 .วัดชีหลิน  วัดชีหลิน หรือ วัดนางชี เป็นที่ประดิษฐานของพระศากยมุนีและเจ้าแม่กวนอิม ที่นอกจากความศักดิ์สิทธิ์แล้วนั้น ที่นี่มีเพียงแม่ชีพำนักเท่านั้น ซึ่งถือว่าแตกต่างจากวัดทางพระพุทธศาสนาอื่นๆทั่วไปในฮ่องกง และยังโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณที่สร้างขึ้นจากไม้เนื้อหอม 7.วัดปักไท   เป็นวัดยอดนิยมสำหรับการมาขอพรหรือแก้ชงของชาวฮ่องกง มีความเก่าแก่กว่า 200 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจีนโบราญรวมทั้งประติมากรรมตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์ซ่งและสมัยราชวงศ์ชิง และเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลของลัทธิเต๋า หรือที่รู้จักกันในนามจักรพรรดิแห่งดินแดนสุขขาวดี 8.วัดหมั่นโหม่   วัดหมั่นโหม่ ตั้งอยู่ในเขตเชิงหว่าน เป็นสถานที่สักการะสำหรับผู้ที่ต้องการพรด้านปัญญาและพละกำลัง  โดยจะมีอีกเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างการจุดธูปบูชาที่มีลักลักษณะเป็นเกลียวขด และยังเป็นที่ประดิษฐานของ 2 เทพเจ้าองค์สำคัญนั่นก็คือ เทพแห่งความรู้ (หมั่น)มีสีเขียวในมือถือพู่กันจีน และเทพแห่งสงคราม (โหม่)มีสีแดงในมือถือดาบ นอกจากจะปัดเป่าสิ่งร้ายๆให้ออกไปจากชีวิต 9.วัดหยวนหยวน   วัดหยวนหยวน เป็นวัดเดียวที่รวมความเชื่อของทั้ง 3 ศาสนา นั่นคือ ศาสนาพุทธ ลัทธิเต๋าและลัทธิขงจื้อไว้ในวัดเดียว ซึ่งเป็นวัดที่โดดเด่นเรื่องการแก้ปีชง หรือ เสริมดวงชะตามากที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยะครบทั้ง 60 องค์พร้อมปีเกิดกำกับ โดยเชื่อว่าเทพเจ้าองค์นี้มีหน้าที่คอยคุ้มครองดูแลดวงและคุ้มครองดวงชะตาของมนุษย์    ก็จบกันไปแล้วนะครับ กับ 9 วัดไฮไลท์ฮ่องกง ที่สายบุญ เสริมรวย แก้ชง ต้องไม่พลาด เป็นยังไงกันบ้างครับ? อ่านแล้วคงจะเริ่มเตรียมวันหยุดกันแล้วใช่ไหมหล่ะ มาๆ มาทัวร์ฮ่องกงกัน ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณสิครับ ที่นี่เรามีทัวร์ดีๆมากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริปรับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ PlanetHolidays คำตอบของคนชอบเที่ยว โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 087-078-1777 Line เราก็มีนะ @planetholiday

ทัวร์ญี่ปุ่น /

ห้ามพลาด! กับ 4 ไฮไลท์ แหล่งช็อบปิ้งละลายทรัพย์ ณ เมืองโอกินาว่า

  “โอกินนาว่า” เมืองที่แสนสวยงามอุดมไปวัฒนธรรมเก่าแก่ นอกจากนั้นยังเป็นศูนย์รวมความบันเทิงอย่างครบครัน เหมาะแก่สายบันเทิงที่ต้องมาทัวร์ญี่ปุนให้ได้สักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นแหล่งร่วมที่ช็อปปิ้งหลากหลายสไตร์ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้สำหรับขาช็อปทั้งหลาย ซึ่งถ้าเกิดท่านได้หลวมตัวมาแล้วอาจจะกลับบ้านตัวเปล่าก็เป็นได้! 1.อเมริกัน วิลเลจ ( American Village)   แหล่งช็อปปิ้งและศูนย์รวมความบันเทิงแบบคูลๆ ที่ได้แรงบรรดาลใจจากย่านซานดิเอโก้ของสหรัฐอเมริกา ได้กลิ่นอายของความเป็นวัฒนธรรมตะวันตก ในถิ่นฐานของโอกินาว่าก็เป็นการทัวร์ที่แปลกใหม่ดี ซึ่งที่นี่ก็ประกอบไปด้วยสถานบันเทิงมากมาย เช่น โรงภาพยนตร์ , โบว์ลิ่ง , คาราโอเกะ , เกมเซ็นเตอร์ , ชิงช้าสวรรค์ , ไลฟ์เฮ้าส์ , บาร์ , ร้านอาหาร , ร้านหนังสือ , ร้านเสื้อผ้า และร้านตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และชายหาด เรียกได้ว่าเป็นจุดไฮท์ไลท์ที่ละลายทรัพย์ได้ดีอีกที่นึงของการมาทัวร์โอกินาว่า 2.ห้างอิออน (Aeon Mall Okinawa Rycom)    เป็น Aeon Mall ที่ใหญ๋และสวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ห้อมล้อมด้วยท้องฟ้าและน้ำทะเล แหล่งรวมสินค้ามากมาย ไม่ม่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นจากแบนด์ดัง ร้านอาหารเจ๋งๆ ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องสำอาง ศูนย์รวมของเล่นสำหรับคุณหนู ขนมชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น ด้วยสินค้าที่หลากหลาย ให้คุณได้ช็อปกันอย่างเพลิดเพลินเลยทีเดียว แถมยังแฝงด้วยพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ให้เข้าไปเที่ยวชมได้ด้วยอีกนะ 3.ย่านชินโตชิน   อิสระช็อบปิ้งที่ย่านชินโตชิน ซึ่งเป็นย่านเมืองใหญ่ของโอนิกาว่า มีร้านค้าต่างๆ ให้ท่านได้ช้อปปิ้งมากมาย เช่น ร้านนะฮา เมนเพลส ซึ่งเป็นเหมือนซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้างร้านสรรพสินค้า ร้าน 100 เยน ร้านค้าต่างๆ เป็นต้น และที่ใกล้ๆ กัน มีร้านหนังสือ ดีวีดี สึตายะ ร้าน UNIQLO ซึ่งมีเสื้อผ้าผู้ชาย และผู้หญิงที่หลายหลาย หลายสไตล์ให้เลือก ร้าน MUJI เป็นต้น 4.ถนนโคคุไซ    ถนนหลักของเมืองนาฮะ นี่ก็เป็นอีก 1 ไฮไลท์ที่ใครๆก็ต้องมาเยือนเมื่อมาเที่ยวโอกินาว่า ดั่งฉายา 1 ไมล์มหัศจรรย์ ด้วยระยะทาง 1.6 กิโลเมตรบวกกับ 2 ข้างทางและตามซอกตามซอยอุดมไปด้วยร้านค้ามากมายตั้งแต่ร้านของฝาก ร้านอาหารโอกินาวา บาร์ คลับ คาเฟ่ และ ร้านขายของเก่า ซึ่งถ้าใครได้หลงเข้ามารับรองเพลินจนเงินหมดกระเป๋าแน่ๆ  ก็จบกันไปแล้วนะ กับ 4 ไฮไลท์แหล่งช็อบปิ้งละลายทรัพย์ ณ เมืองโอกินาว่า ใครที่กำลังจะเตรียมตัวมาเที่ยวโอกินาว่าก็ลองตามไปยังพิกัดที่บอกไว้ดูนะ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วนคนที่อยากมาทัวร์โอกินาว่า แต่ยังไม่ได้วางแผนการเที่ยวก็ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา  PlanetHolidays ก่อนได้เลย

ทัวร์เกาหลี /

หนาวนี้ ! เตรียมตัวอย่างไร ? ก่อนไปตะลุยหิมะที่เกาหลี

      ช่วงนี้ก็เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว และเทศกาลปีใหม่ หลายๆคนคงเริ่มแพลนกันแล้วว่าจะไปพักผ่อนหย่อนใจที่ไหน ซึ่งเราก็เชื่อว่า 1 ในตัวเลือกของใครหลายๆคนต้องมีสถานที่ยอดฮิตอย่างประเทศเกาหลีอยู่ในดวงใจเป็นแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติที่สวยงาม อากาศ วัฒนธรรม และโอปป้าที่สาวๆทั้งหลายใฝ่ฝัน (รวมถึงฉันด้วย อิอิ ) ซึ่งวันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกทัวร์เกาหลี จะต้องทำอย่างไรบ้างตามมาดูกันค่ะ   อันดับแรกเลย เอกสารการเดินทาง  สำหรับคนที่เดินทางไปด้วยตัวเอง ตม. ประเทศเกาหลีเค้าอาจจะเข้มนิดนึงค่ะ ส่วนใครที่อยากข้ามความยุ่งยากตรงนี้ แนะนำให้ลองปรึกษาบริษัททัวร์ของเราสิคะ ให้เราช่วยแนะนำและดำเนินการด้านเอกสารให้ ส่วนเอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมก็จะมีดังนี้ พาสปอร์ต สิ่งสำคัญที่ใช้เป็นตัวแทนบัตรประชนของเรา ในระหว่างที่พักอาศัยในที่นี่ (อย่าลืมเช็ควันหมดอายุด้วยนะ) ใบ ตม. เป็นอีกสิ่งนึงที่สำคัญ เป็นเอกสารที่ระบุข้อมูลของเราไม่ว่าจะเป็น ชื่อ - นามสกุล ไฟลท์บิน ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เพื่อยืนยันว่ามาเที่ยวจริงๆ ระบุวันไป-กลับ หลักฐานการจองโรงแรม เพื่อระบุที่อยู่ให้ตรวจสอบ สำเนาบัญชีออมทรัพย์  พร้อมโชว์ยอดเงินคงเหลือ เอกสารประจำตัว บัตรประจำตัวประชาชน, ใบขับขี่รถยนต์, สำเนาทะเบียนสมรส ,เอกสารเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล (ถ้ามี) มาต่อที่เครื่องแต่งกายสำหรับการตะลุยหิมะกันเลยค่ะ  ในช่วงฤดูหนาวของประเทศเกาหลี อุณหภูมิก็จะอยู่ที่ -5 ถึง -20 องศา เรียกได้ว่าทั้งหนาวทั้งเหน็บและแห้งกันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นควรเลือกเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ใส่ทับหลายๆชั้นไปเล๊ย ส่วนคนที่อยากจะอิงแฟชั่นไปด้วยก็เลือกหากันตามสบาย ไปช่วงนี้ก็มีกิจกรรมมากมาย แต่ที่เด็ดๆเลยก็คงหนีไม่พ้นสกีหิมะ ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยเลยค่ะ สกุลเงินเกาหลี ประเทศเกาหลีเค้าจะใช้ สกุลเงินวอน 1000 วอนจะสามารถแลกเป็นเงินไทยได้ประมาณ 28-30 บาท ขึ้นอยู่ช่วงเวลา สามารถตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ https://www.xe.com/currencyconverter/ เรื่องภาษา   ส่วนใหญ่แล้วคนเกาหลีจะใช้ภาษาหลักของตัวเอง แต่ก็ยังพอที่จะสื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้าง แต่ก็ไม่ต้องซีเรียสนะคะ เพราะตามป้ายสถานที่ต่างๆก็ยังมีภาษาอังกฤษเขียนบอกเอาไว้ (บางที่ก็มีภาษาไทยด้วยนะ) เวลา ประเทศเกาหลี เวลาจะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง อย่าลืมเรื่องปรับเวลา และการนัดแนะกับทิวร์ของตัวเอง เวลาย้ายสถานที่ ขึ้นเครื่องกลับ จะได้ไม่มีปัญหานะคะ ยา ใครที่มีโรคประจำตัวก็ควรเตรียมไว้ให้พร้อมนะคะ ส่วนยาสามัญทั่วไปก็สมารถหาซื้อได้ในประเทศ  (แต่จะให้ดีควรเตรียมไปให้พร้อมดีกว่าค่ะ) และนี่ก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องเตรียม ใครที่คิดจะเดินทางไปก็ควรวางแผนให้ดีนะคะ พยายยามอย่าให้มีสิ่งใดตกหล่น เพื่อจะได้ไม่พลาดความสนุกในทริปเกาหลีนี้ ส่วนเพื่อนๆคนไหนที่ยังไม่มีแพลนเที่ยวเกาหลี หรือ ยังหาทัวร์เกาหลีไม่ได้  ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณสิคะ ที่นี่เรามีทัวร์ดีๆมากมาย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ  PlanetHolidays คำตอบของคนชอบเที่ยว โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 087-078-1777 Line เราก็มีนะ @planetholiday   
Promotion 0%