ทัวร์อังกฤษ
/
สัมผัสมนต์เสน่ห์ความคลาสสิกของ ไบเบอร์รี่ หมู่บ้านเก่าแก่ที่สวยที่สุดในอังกฤษ
สัมผัสมนต์เสน่ห์ความคลาสสิกของ ไบเบอร์รี่ หมู่บ้านเก่าแก่ที่สวยที่สุดในอังกฤษ
หมู่บ้าน ไบเบอร์รี่ (Bibury Village) เป็นหมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่ในแคว้นกลอสเตอร์เชอร์ (Gloucestershire) เขตคอทส์โวลส์ (Cotswolds) จัดว่าเป็น หมู่บ้านที่สวยที่สุด ในประเทศอังกฤษ (The Most Beautiful Village in England) โดยได้รับการยกย่องจาก วิลเลียม มอร์ริส ดีไซเนอร์เสื้อผ้า นักเขียน และเป็นผู้ที่มีอิทธิพลด้านสังคมของอังกฤษ
หมู่บ้านน่ารักแห่งนี้ มีลักษณะบ้านที่เป็นกระท่อมเก่าแก่ เรียกว่าเป็นแบบฉบับบ้านของประเทศอังกฤษโดยแท้ สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17-18 และยังคงรักษาสภาพให้คงอยู่จากอดีตไว้ได้เป็นอย่างดี มีแม่น้ำสายเล็กๆชื่อว่า แม่น้ำโคน (Coln River) ซึ่งมีน้ำใสไหลผ่านหมู่บ้าน
โดยบ้านแต่ละหลังจะตกแต่งหน้าบ้านด้วยสวนดอกไม้แบบอังกฤษตามฤดูกาล แต่ที่มีชื่อเสียงและสวยงามมากที่สุดคือ ดอกกุหลาบอังกฤษ อันเป็นที่มาของ กุหลาบอังกฤษ
ภายในหมู่บ้านยังมีโรงแรม ที่พักเล็ก ผับ บาร์ ร้านอาหาร ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
นอกจากไบเบอร์รี่จะเป็นหมู่บ้านประวัติศาสตร์ ที่แห่งนี้ยังมีความสำคัญด้านอุตสาหกรรมทอผ้าขนาดเล็กของอังกฤษอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ใจกลางหมู่บ้านยังมีฟาร์มปลาเทราท์ อายุกว่า 100 ปี ซึ่งจัดว่าเป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของหมู่บ้านเลย ใครไม่แวะมาถือว่าพลาดมากๆ แถม ซึ่งฟาร์มแห่งนี้จัดว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้คนในหมู่บ้านนี้เป็นจำนวนมากอีกด้วย
สำหรับค่าใช้จ่ายในการล่องเรือชมหมู่บ้านแห่งนี้จะอยู่ที่ประมาณ 5 ยูโร นอกจากนั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ ภายในหมู่บ้านอีกมากมาย เช่น มิวเซียม ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟแบบฮิปเตอร์ และร้านอาหารเก๋ ๆ ที่เห็นแล้วอยากจะเข้าไปนั่งลิ้มลอง พร้อมชมบรรยากาศเพลินๆ กันเลยทีเดียว
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ สัมผัสมนต์เสน่ห์ความคลาสสิกของไบเบอร์รี่ หมู่บ้านเก่าแก่ที่สวยที่สุดในอังกฤษ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนเสน่ห์ของหมู่บ้านไบเบอร์รี่ คลาสสิกตามสไตล์เมืองผู้ดีเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวอังกฤษ แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทวีปยุโรป
/
ล่องลอยไปกับความสงบ ณ กีโธร์น หมู่บ้านกลางสายน้ำแห่งเนเธอร์แลนด์
ล่องลอยไปกับความสงบ ณ กีโธร์น หมู่บ้านกลางสายน้ำแห่งเนเธอร์แลนด์
ถึงเวลาปลดปล่อยตัวเองออกจากความวุ่นวาย หลีกหนีความเจริญ แล้วมาพักผ่อนแแบบช้าๆ กันที่ กีโธร์น หมู่บ้านกลางสายน้ำที่ถูกขนานนามว่าเป็น เวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์ !!
กีโธร์น เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ระหว่างเมือง Zwolle และ Steenwijk ประเทศเนเธอร์แลนด์ หมู่บ้านแห่งไม่มีรถ ไม่มีถนน ไม่มีมลพิษ หรือความวุ่นวายใดๆ มีแต่ลำคลองน้ำใส เรือพายลำน้อย แทรกตัวไปทั่วหมู่บ้านมีสะพานไม้ทรงสวยเพื่อใช้เป็นทางเดินติดต่อกันภายในหมู่บ้านกว่า 180 สะพาน ชาวบ้านที่นี้ใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางสัญจรเท่านั้น
ในอดีตที่แห่งนี่เคยถูกใช้เป็นเหมืองขุดถ่านหินเลนมาก่อน และรูที่ถูกขุดนั้นก็กลายมาเป็นทางให้น้ำไหลเข้ามา คนในสมัยก่อนก็จึงใช้สายน้ำเหล่านี้เป็นทางขนส่งถ่านหินเลยในที่สุด
ที่แห่งนี้มีผู้คนอาศัยอยู่ราวๆ 2,600 คน ส่วนมากเป็นชาวไร่ที่มีฐานะดี บ้านแต่ละหลังมีการออกแบบ และตกแต่งให้เป็นกระท่อมสไตล์ตะวันตกที่แสนน่ารักอบอุ่น
ช่วงที่เหมาะกับการมาเที่ยวหมู่บ้านกีโธร์นมากที่สุดจะอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวระหว่าง ฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อน เพราะเราจะได้ล่องเรือชมทัศนียภาพ และความงดงามภายในหมู่บ้าน อากาศกำลังดี อีกทั้งยังเคล้าคลอด้วยดอกไม้ต่างๆ นาๆ ที่รายล้อมเกาะ ซึ่งกำลังผลิดอกบานสะพรั่งต้อนรับนักท่องเที่ยว อะไรมันจะเย้ายวนเบอร์นี้!
สำหรับค่าใช้จ่ายในการล่องเรือชมหมู่บ้านแห่งนี้จะอยู่ที่ประมาณ 5 ยูโร นอกจากนั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ ภายในหมู่บ้านอีกมากมาย เช่น มิวเซียม ร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟแบบฮิปเตอร์ และร้านอาหารเก๋ ๆ ที่เห็นแล้วอยากจะเข้าไปนั่งลิ้มลอง พร้อมชมบรรยากาศเพลินๆ กันเลยทีเดียว
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ ล่องลอยไปกับความสงบ ณ กีโธร์นหมู่บ้านกลางสายน้ำแห่งเนเธอร์แลนด์ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนเสน่ห์ของหมู่บ้านกีโธร์น มันเงียบสงบซะจนอยากจะหนีเมืองไทยไปเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวเนเธอร์แลนด์ แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์ตุรเคีย
/
ปราสาทปุยฝ้าย ปามุคคาเล่ ความมหัศจรรย์ที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติ
ปราสาทปุยฝ้าย ปามุคคาเล่ ความมหัศจรรย์ที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติ
ปามุคคาเล่ อีกหนึ่งความมหัศจรรย์ที่เกิดจากการรังสรรค์ของธรรมชาติ แลนด์มาร์กอันเลืองชื่อที่เมื่อใครได้ไปเยือนตุรกีแล้ว ก็ต้องแวะไปสัมผัสกับความ Unseen นี้
ปามุคคาเล่ ตั้งอยู่ที่เมืองปามุคคาเล่ ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของนคร “เฮียราโปลิส” (Hierapolis) ปราสาทปามุคคาเล่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินซึ่งมีส่วนประกอบของแคลซียมออกไซด์และมีอุณภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียสได้ไหลลงมาจากภูเขา “คาลดากิ” แล้วแร่ธาตุเกิดการตกตะกอนทำปฏิกิริยาจับตัวกันเป็นก้อนแข็งลดหลั่นเป็นชั้นเป็นแอ่ง ซึ่งมีความกว้างถึง 300 เมตร ยาวกว่า 3 กิโลเมตร ก่อนไหลลงจากผาสูง 100 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ด้วยความพิเศษนี้จึงทำให้เกิดเป็นงานประติมากรรมจากฝีมือธรรมชาติ สวยงามแปลกตา จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโกเมื่อในปี พ.ศ. 2531
คำว่าปามุคคาเล่ในภาษาตุรกีนั้นหมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” เพราะบางส่วนบางมุมของก้อนแคลเซียมก็มีรูปร่างคล้ายก้อนเมฆหรือก้อนหิมะตามแต่จะจินตนาการ ส่วนบางจุดก็จะเป็นแอ่งรองรับน้ำแร่อุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียสที่ชาวตุรกีนิยมนำไปอาบและดื่มกิน เพราะเชื่อว่าเป็นน้ำแร่ธรรมชาติที่มีสรรพคุณในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคทางเดินปัสสาวะ โรคไตและโรคไขข้ออักเสบ
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ ปราสาทปุยฝ้าย ปามุคคาเล่ ความมหัศจรรย์ที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับปราสาทปุยฝ้าย Unseen สุดๆไปเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวตุรกี แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์ดูไบ
/
อลังการงานสร้างกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งใน ดูไบ มิราเคิล การ์เด้น สวนดอกไม้ในดินแดนทะเลทราย
อลังการงานสร้างกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งใน ดูไบ มิราเคิล การ์เด้น สวนดอกไม้ในดินแดนทะเลทราย
ดูไบ มิราเคิล การ์เด้น สวนดอกไม้ที่ถูกเนรมิตขึ้นภายใต้ความย้อนแย้งในดินแดนแห่งทะเลทราย ประเทศดูไบ แลนด์มาร์กที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจของโลก
สวนดอกไม้ในดูไบ มิราเคิล การ์เด้น เริ่มต้นครั้งแรกปี 2013 จุดเด่นของสวนดอกไม้ในปีนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างดูไบ มิราเคิล การ์เด้น และสายการบินเอมิเรตส์ ที่จัดดอกไม้เป็นรูปเครื่องบินแอร์บัส เอ 380 ขนาดเท่าของจริง โดยสร้างจากวัสดุรีไซเคิล ใช้ดอกไม้สดและพรรณพืชกว่า 500,000 ต้นและยังได้รับการรับรองจากกินเนสส์เวิลด์เรกคอร์ดส์ Guinness World Records ว่าเป็นการจัดดอกไม้ที่มีโครงสร้างใหญ่ที่สุดในโลก
เครื่องบินจำลองขนาดใหญ่เท่าของจริงตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิดคือสิ่งที่ดึงดูดให้ฉันและเพื่อนมายังที่แห่งนี้ภาพในมุมหนึ่งที่มองเห็นแอร์บัส เอ 380 ของสายการบินเอมิเรตส์จอดข้างรันเวย์ดอกไม้หลากสีเป็นภาพที่สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่ได้เห็น
การเดินชมดอกไม้ในสวนแห่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังชมนิทรรศการศิลปะ บางจุดเราสามารถชื่นชมความงามที่เรียบง่าย ในขณะที่บางจุดมีการนำเสนอไอเดียที่แปลกใหม่และน่าสนใจ เราจะเห็นการจำลองสถานที่ที่มีชื่อเสียงอย่างตึกเบิร์จคาลิฟา ควบคู่ไปกับการสร้างสถานที่และตัวละครในโลกจินตนาการ สร้างบรรยากาศให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในสวนที่มีความมหัศจรรย์
ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีดีไซน์และคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันออกไปอกจากคนจะได้เดินชมความสวยงามของสถานที่ภายในยังมีการจัดโซนต่างๆ ให้นั่งพักผ่อนได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง รวมทั้งมีโซนอาหารและเครื่องดื่มให้บริการอยู่รอบๆ
นี่ก็นับว่าเป็นอีก 1 สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่เมื่อได้มาเยือนประเทศดูไบแล้ว ก็ควรที่จะแวะมาชมความอลังการและความสวยงานนี้ด้วยตาตัวเองสักครั้ง รับรองว่าคุณจะได้รับประสบการณ์การชมสวนดอกไม้ที่แปลกใหม่ ซึ่งไม่อาจหาชมได้จากที่ไหน ต้องที่ดูไบ มิราเคิล การ์เด้น แห่งเดียวนี้เท่านั้นค่ะ
ดูไบมิราเคิล การ์เด้น เปิดให้เข้าชมในเดือน ตุลาคม – พฤษภาคม ของทุกปี เปิดบริการทุกวัน เวลา 9.00-21.00
ค่าบริการ 5.50 เหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 165 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ เข้าฟรี
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับ อลังการงานสร้างกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งในดูไบ มิราเคิล การ์เด้น สวนดอกไม้ในดินแดนทะเลทราย เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ มนต์เสน่ห์ของดูไบ มิราเคิล การ์เด้น สวยสดงดงาม อลังการมากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนจะไป เที่ยวดูไบ แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆมากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์อินเดีย
/
4 จุดเช็คอินเด็ด! จัยปูร์ มหานครสีชมพูแห่งประเทศอินเดีย
4 จุดเช็คอินเด็ด! จัยปูร์ มหานครสีชมพูแห่งประเทศอินเดีย
จัยปูร์ หรือ ชัยปุระ เมืองท่องเที่ยวสำคัญของรัฐราชสถาน มหานครสีชมพูที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปี ดินแดนที่ถูกเนรมิตโดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ (Maharaja Sawai Pratap Singh) มหาราชาผู้มีบทบาทมากที่สุดในการสร้างที่แห่งนี้
วันนี้ Planetholidays ก็ได้คัดสรร 4 จุดเช็คอินเด็ด! จัยปูร์ มหานครสีชมพูแห่งประเทศอินเดีย มาฝากทุกคน แต่ละที่จะเด็ดแค่ไหนและมีอะไรให้เราประทับใจบ้าง เรามาท่องดินแดนสีชมพูนี้ไปด้วยกันเลยค่ะ
1.พระราชวังหลวง (City Palace)
เดิมเป็นพระราชวังของมหาราชใจสิงห์ (Jai Singh) พระราชวัง ถูกสร้างขยายออกในสมัยหลัง ปัจจุบัน ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ Sawai Man Singh Museum ประกอบด้วย 4 ส่วนที่น่าสนใจคือ ส่วนแรกคือส่วนของพระราชวังส่วนที่สองเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงฉลองพระองค์ของกษัตริย์ และมเหสี ซึ่งมีการตัดเย็บอย่างวิจิตร ส่วนที่สามเป็นส่วนของอาวุธ และชุดศึกสงคราม ที่จัดแสดงไว้อย่างน่าทึ่งมากมายหลายหลาก บางชิ้น ก็เป็นอาวุธได้อย่างน่าพิศวง และส่วนที่สี่ คือส่วนของศิลปะภาพวาด รูปถ่าย และราชรถ พรมโบราณ ซึ่งได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ตรงกลางอาคารมีหม้อน้ำขนาดมหึมา 2 ใบ ทำจากโลหะเงิน สูง 1.50 เมตร มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อกันว่าเป็นหม้อน้ำที่กษัตริย์ Madho Singh ได้รับมาจากงานราชาภิเษกของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ซึ่งบรรจุน้ำจากแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์
2.พระราชวังสายลม (Hawal Mahal)
ฮาวา มาฮาล เป็นพระราชวัง ที่ตั้งอยู่ในเมืองชัยปุระ รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย สร้างในปีค.ศ. 1799 โดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ (Maharaja Sawai Pratap Singh) ออกแบบโดยลาล ชันด์ อุสถัด (Lal Chand Ustad) โดยถอดแบบมาจากรูปทรงของมงกุฏพระนารายณ์ โดยมีสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นคือ บริเวณด้านหน้าอาคารมีหน้าบันสูงห้าชั้น และมีลักษณะคล้ายรังผึ้งสร้างจากหินทรายสีแดงสดฉลุหินให้เป็นช่องหน้าต่างลวดลายเล็กๆ ละเอียดยิบมีช่องหน้าต่างถึง 953 บางแต่ปิดไว้ ด้วยหินทรายฉลุทำให้นางในฮาเร็มพระสนมที่อยู่ด้านในสามารถมองออกมาข้างนอกได้ โดยที่คนภายนอกมองเข้าไปข้างในไม่เห็น และประโยชน์อีกอย่างคือเป็นช่องแสงและช่องลมจนเป็นที่มาของชื่อ “Palace Of Wind”
3.แอมเบอร์
ทัวร์ตุรเคีย
/
เที่ยวตุรกี มีอะไรให้ทำบ้าง? รวมกิจกรรมน่าสนใจในตุรกี
เที่ยวตุรกี มีอะไรให้ทำบ้าง? รวมกิจกรรมน่าสนใจในตุรกี
เรียกได้ว่าช่วงนี้ตุรกีเค้ามาแรงจริงๆนะคะ ไม่ว่าจะหันไปทางไหนคนเค้าก็ฮิตไป เที่ยวตุรกี กันทั้งนั้น ก็แหมม ประเทศดีๆแบบนี้ถ้าไม่ฮอตก็คงแปลกแล้ว วีซ่าก็ฟรี ค่าครองชีพไม่สูง แถมยังอัดแน่นด้วยสถานที่เที่ยวเจ๋งๆมากมาย การเดินทางก็ไม่ลำบาก ซึ่งวันนี้ Planetholidays ก็ได้รวบรวมสถานที่และกิจกรรมเจ๋งๆที่เมื่อไปเยือนตุรกีแล้วไม่ควรพลาดมาเรียกน้ำย่อยให้กับคนที่ไม่เคยไป และคนที่กำลังจะเตรียมตัวไป เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า ตุรกีนั้นเค้ามีอะไรให้เราทำบ้าง
นั่งบอลลูนชมวิวที่คัปปาโตเกีย
มาเปิดด้วยกิจกรรมแรกกันเลยค่ะ กับการนั่งบอลลูนสุดโรแมนติกชมความงดงามของเมืองคัปปาโตเกีย เมืองที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน ให้คุณได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์และบรรยากาศยามเช้าในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น ชมความสวยงามของแท่งหินปูนมากมายที่เรียงรายอยู่ทั่วเมือง อันเกิดมาจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อสามล้านปีก่อน ซึ่งความอัศจรรย์แบบนี้หาชมไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว ต้องที่คัปปาโตเกียเท่านั้นค่ะ
นอนโรงแรมถ้ำ พร้อมชมวิวหลักล้าน
นอกจากการชึ้นบอลลูนชมความงดงามของเมืองแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากของเมืองคัปปาโตเกียก็คือ โรงแรมถ้ำ! จากอดีตที่แห่งนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหลายพันปี ก่อให้เกิดเถ้าภูเขาไฟก่อตัวรวมกันเป็นถ้ำภูเขา และหลังจากนั้นก็มีประชากรเข้ามาอยู่อาศัย ซึ่งในปัจจุบันก็ได้กลายมาเป็นโรงแรมถ้ำเก๋ๆ มีหลากหลายสไตล์ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักผ่อนพร้อมทั้งจุดชมวิวบริเวณระเบียงที่ต้องขอบอกว่าเด็ดดวงมาก! ยิ่งถ้าใครตื่นเช้าออกมานั่งจิบกาแฟริมระเบียง ทานจะได้พบกับฝูงบอลลูนที่มีสีสันสวยงามกำลังทยอยขึ้นสู่ฟ้าพร้อมแสงอ่อนๆของพระอาทิตย์ที่คอยสาดส่องในช่วงที่ฟ้าเปิด หูยยย มันสุดยอดมากจริงๆ
ชมระบำหน้าท้องสุดคลาสสิก
ระบําหน้าท้อง หรือ Belly Dance เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมพื้นเมืองสุดคลาสสิกอันเลืองชื่อของตุรกี การเต้นรําที่เก่าแก่นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 6000 ปีก่อน ในดินแดนแถบอียิปต์ ท่วงท่าที่อ่อนช้อย ประกอบเข้ากับเสียงเพลงอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศตุรกี ทำให้เกิดเป็นศิลปะและมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงไหล ไหนๆก็ได้มาแล้วอย่าลืมแวะไปชมกันนะคะ รับรองว่าถูกใจแน่นอน
ชมความงดงามของสุเหร่าสีน้ำเงิน
อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมเก่าแก่ระดับโลกของตุรกี ถ้าใครได้ย่างกรายเข้าไปแล้วก็ต้องตกอยู่ในสภาวะต้องมนต์สะกด ด้วยความสวยงามภายในวิหารบวกกับแสง ไฟ สีน้ำเงิน ที่คุณมิอาจ ลดละ สายตาได้เลย
ชมความอลังการของม้าไม้เมืองทรอย
ม้าไม้เมืองทรอย ม้าไม้จำลองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณซึ่งเป็นสาเหตุที่ทําให้กรุงทรอยแตก สงครามม้าไม้เป็นสงครามที่สําคัญตํานานของกรีกและเป็นสงครามระหว่างกองทัพของชาวกรีก และกรุงทรอยหลังจากสู้รบกันเป็นเวลาสิบปี กองทัพกรีกก็ได้คิดแผนการที่จะตีกรุงทรอย โดยการสร้างม้าไม้ จําลองขนาดยักษ์ที่เรียกว่าม้าไม้เมืองทรอย โดยทหารกรีกได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในม้าโทรจันแล้วก็ทําการเข็นไปไว้หน้ากรุงทรอยเหมือนเป็นของขวัญ และสัญลักษณ์ว่าชาวกรีกยอมแพ้สงครามและได้ถอยทัพ ออกห่างจากเมืองทรอย ชาวทรอยเมื่อเห็นม้าโทรจันก็ต่างยินดีว่ากองทัพกรีกได้ถอยทัพไปแล้ว ก็ทําการเข็นม้าโทรจันเข้ามาในเมืองแล้วทําการเฉลิมฉลองเป็นการใหญ่เมื่อชาวทรอยนอนหลับกันหมด ทหารกรีกที่ซ่อนตัวอยู่ก็ออกมาจากม้าโทรจันแล้วทําการเปิดประตูเมืองให้กองทัพกรีกเข้ามาในเมืองแล้วก็สามารถยึดเมืองทรอยได้ ก่อนที่จะทําการเผาเมืองทรอยทิ้ง
เที่ยวเมืองโบราณเอฟฟิซุส
ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมโรมันสุดคลาสสิก ณ เมืองโบราณเอฟฟิซุส เมืองโบราณที่มีการบํารุงรักษาไว้เป็นอย่างดี ในอดีตเคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionia) จากกรีกซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นใน ศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุสขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน และยังเป็นมหานครแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอีกด้วย แหมมหรูหราจริงๆ
เที่ยวเมืองโบราณเฮียราโพลิส
มาต่อกันที่เมืองโรมันกันแบบรัวๆเลยค่ะ กับเมืองโบราณเฮียราโพลิส (อ่านดีๆนะคะ ไม่ใช่โพราลิส ผ่าม!) เมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นนํ้าพุเกลือแร่ ร้อน ซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรค เมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทําให้เมืองนี้ เกิดการพังทลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไป บางส่วนยังพอมองออกว่าเดิมเคยเป็นอะไร เช่น โรงละคร แอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่ วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ บลาๆ
ปราสาทปุยฝ้าย
และแล้วก็มาถึงที่สุดท้าย กับปราสาทปุยฝ้าย ปราสาทแห่งนี้เกิดจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อน ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพน้ำตกสีขาวเรียงรายเป็นชั้นๆ ซึ่งมีความงดงามมากคล้ายๆกับธารน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือเลยค่ะ
ก็จบกันไปแล้วนะคะ
ทัวร์ฮ่องกง
/
4 วัดดังฮ่องกง ที่ใครได้ขอพรเรื่องความรักก็มักจะไม่ “นก”
4 วัดดังฮ่องกง ที่ใครได้ขอพรเรื่องความรักก็มักจะไม่ “นก”
คงจะเบื่อกันแล้วสินะคะ กับงานเทศกาลใดๆก็ตาม ที่เราเป็นได้แค่ “แขกรับเชิญ” ได้แต่ยื่นมือรับซองรัวๆ พร้อมส่งยิ้มสดใสทั้งที่ในใจอยากร้องไห้ TwT จะไปหวังแย่งช่อดอกไม้ในงานก็ไม่ได้ เพราะคำว่า คาน! มันย้ำอยู่ในหัวตลอด แต่ไม่เป็นไรนะถึงเราจะ นก! ก็นกอย่างมีสไตล์ นกหรู นกฟีนิกส์ด้วย อิอิ
แต่จะดีเสียกว่าไหมคะ? ถ้าคำว่านกมันหายไปจากชีวิต และให้คำว่าหงส์มาแทนที่เดิม มาค่ะ เรามาทำให้มันหายไปด้วยกันดีกว่า วันนี้ Planetholidays ก็ได้รวบรวม 4 วัดดังฮ่องกง ที่ใครได้ขอพรเรื่องความรักก็มักจะไม่ “นก” มาฝากชาวนกทั้งหลาย ใครที่อยากสละโสดแล้วก็บินตามเรามากันเล๊ย
วัดหวังต้าเซียน หรือ วัดซิก ซิก หยวน หว่องไทซิน
ประเดิมด้วยวัดแรกกันเลยนะคะ กับ วัดหวังต้าเซียน หรือ วัดซิก ซิก หยวน หว่องไทซิน สถานที่ประดิษฐานของเทพพระเจ้าจีนหลายองค์อย่างเทพเจ้าหลักของวัดคือ เทพหวังต้าเซียน ซึ่งขึ้นชื่อด้านการขอพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บเป็นอย่างมาก แต่นั้นก็ไม่ใช่จุดหมายปลายทางของพวกเราชาวนกค่ะ เราต้องเดินต่อมาด้านข้างอีกนิดนึงเราจะพบกับ ศาลกลางแจ้งเทพเจ้าด้ายแดง หรือ เทพเจ้าหยกโหล ที่เราแหล่ะค่ะ ที่ชาวนกเราต้องการ โดยการขอพรกับเทพเจ้าองค์นี้ต้องใช้ด้ายแดงผู้นิ้วเอาไว้ไม่ให้หลุดระหว่างพิธี เพราะชาวจีนเชื่อว่าด้ายแดงนี่แหละคือเส้นโยงโชคชะตาด้านความรัก ซึ่งสามารถทำได้ทั้งคนโสด และ คนมีคู่แล้ว คนโสดก็เป็นการขอพรให้เจอเนื้อคู่ ส่วนคนมีคู่ ก็จะช่วยทำให้มีความรักที่มั่นคงและยืนยาว รู้อย่างงี้แล้วต้องรีบไปขอพรกันแล้วหล่ะ
เจ้าแม่กวนอิมรีพัลส์เบย์
ที่หาดรีพัลส์เบย์ (Repulse Bay Beach) เป็นสถานที่ยอดฮิต ที่เมื่อมาเที่ยวฮ่องกงแล้วก็ต้องมาให้ได้เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐ์สถานของ เจ้าแม่กวนอิม ที่ใครหลายๆคนต่างสักการะบูชา และยังเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมมาสักการะ รูปปั้นต่างๆของที่นี่ล้วนมีความหมาย แต่ก็อย่างเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วนะคะ ว่าการขอพรกับเจ้าแม่กวนอิมไม่ว่าจะเป็นเรื่องดวง หรือ โชคลาภ ก็ล้วนต่างสมหวังกันทั้งนั้น เรื่องความรักก็เช่นกัน
วัดแชกงหมิว หรือ วัดกังหันลม
ที่สถิตของท่านแชกง นักรบผู้เป็นตำนานของฮ่องกง โดยไฮไลท์ของที่นี่จะอยู่ที่ “กังหันลมนำโชค” ซึ่งตามความเชื่อของชาวฮ่องกงแล้ว ถ้าต้องการให้สิ่งไม่ดีในปีที่ผ่านมาหมดไป จะต้องใช้นิ้วชี้หมุนกังหันตามเข็มนาฬิกา แต่ถ้าหากต้องการขอพรให้สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตก็จงตั้งจิตอธิษฐาน แล้วหมุนกังหันกลับจากขวามาซ้าย แล้วกังหันนำโชคจะนำสิ่งดีๆเข้ามาสู๋ชีวิต ส่วนใครที่อยากให้ใครออกไปจากชีวิต และอยากให้ใครเข้ามาในชีวิตก็อธิฐานแล้วหมุนตามนี้เลยนะคะ รับลองว่าชัวร์ ไม่นกแน่นอน และก่อนที่จะออกจากวัดอย่าลืมตีกลองให้เสียงดังสนั่นเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยนะคะ
พระใหญ่แห่งวัดโป่หลิน
วัดโป่เหลียน สถานที่ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระใหญ่ หรือ พระพุทธรูปเทียนถานที่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาโปหลิน เรียกได้ว่าเป็นอีก 1 ไฮไลท์อันดับต้นๆของการมาไหว้พระที่ฮ่องกงเลย ที่สำคัญหากต้องการให้พรสัมฤทธิ์ผลอย่าลืมขอพรบริเวณจุดประทานพร เพราะเชื่อกันว่าเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดในการขอพระจากองค์พระใหญ่ ใครอยากได้ใคร แอบชอบใคร ก็จัดหนักจัดเต็มกันเลยนะคะ รับรองว่าสมหวังแน่นอน
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับการแนะนำ 4 วัดดังฮ่องกง ที่ใครได้ขอพรเรื่องความรักก็มักจะไม่ “นก” เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับวัดดังทั้ง 4 แห่งของฮ่องกง เห็นแล้วอยากไปปล่อยนกเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนมา เที่ยวฮ่องกง แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป
ทัวร์ญี่ปุ่น
/
พา เที่ยวโอซาก้า ดินแดนแห่งกลิ่นอายวัฒนธรรม และประเพณีญี่ปุ่น
พา เที่ยวโอซาก้า ดินแดนแห่งกลิ่นอายวัฒนธรรม และประเพณีญี่ปุ่น
“คอนนิจิวะ” ค่ะทุกคน กลับมาเจอกันอีกแล้วนะคะกับซีรีย์ เที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งสถานที่ที่เราจะไปเที่ยวกันในวันนี้นั้นคือ “จังหวัดโอซาก้า” อีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดฮิตที่ติดครองอยู่ในใจนักท่องเที่ยวทั้งหลาย นั่นก็เพราะว่า จังหวัดโอซาก้ายังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของวัฒนธรรมเก่าแก่ที่สืบต่อกันมาเป็นพันปี อาคารบ้านเรือนสุดคลาสสิกที่เมื่อเราได้ย่างกรายเข้าไปแล้วยังกับถูกย้อนเวลาเข้าไปอยู่ในยุคสมัยเอโดะ วันนี้ Planetholidays ก็จะทุกคนไป พา เที่ยวโอซาก้า ดินแดนแห่งกลิ่นอายวัฒนธรรม และประเพณีญี่ปุ่น ถ้าพร้อมแล้วก็มาพบกับความคลาสสิกนี้กันเลยค่ะ
ทาคายาม่า (Takayama)
เมืองเก่าแก่อันทรงเสน่ห์ที่ถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาเจแปนแอลป์ เมืองที่ถูกขนานนามว่าลิตเติ้ลเกียวโต หรือ เกียวโตน้อยๆ สถานที่ที่อารยธรรม และขนมธรรมเนียมประเพณีถูกอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ บ้านเรือนสร้างขึ้นด้วยไม้แบบโบราณ ภายในเมืองมีสถานที่ให้เราได้เดินเล่นชมบรรยากาศมากมาย เริ่มตั้งแต่ วัด ศาลเจ้า ไปยันตลาดเช้าอันแสนคึกคัก ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่แสนน่ารัก เรียกได้ว่าบรรยากาศมันได้จริงๆ
อาคารทาคายาม่าจินยะ (Takayama Jinya)
อีกหนึ่งสถานที่ที่มีความน่าสนใจไม่แพ้เมืองทาคาย่าม่าเลยนั่นก็คือ อาคารทาคายาม่าจินยะ (Takayama Jinya) ซึ่งตั้งอยู่ในย่าน ซันมาชิซูจิ ย่านเก่าที่อนุรักษ์ความเป็นเอโดะเมื่อ 300 ปีก่อนได้เป็นอย่างดี อาคารทาคายาม่าจินยะ อดีตเคยเป็นสำนักงานรัฐบาลท้องถิ่นประจำภูมิภาคฮิดะ ในสมัยการปกครองของโชกุนโทคุงาวะในปี 1692 จนกระทั่งปี 1969 จนถึงปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนเข้าชมห้องเสื่อทาทามิที่ได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี ภายในจัดแสดงข้าวของ และเอกสารทางการของขุนนางศักดินา แผนที่ภูมิภาคฮิดะ และประวัติศาสตร์แผนเมือง ซึ่งใครที่ชื่นชอบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นอยู่แล้ว ที่แห่งนี้ก็เป็นอีกที่นึงที่คุณไม่ควรพลาดเลยหล่ะค่ะ
ชิราคาวาโกะ (Shirakawago)
หมู่บ้านสุดอเมซิ่งที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น The most beautiful village in Japan และยังได้รับการขึ้นชื่อให้เป็นเมืองมรดกโลกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย ซึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวหมู่บ้านแห่งนี้จะเป็นการชมความแปลกตาของหมู่บ้านแบบ กัชโชสึคุริ ของชาวนาโบราณที่มีอายุกว่า 250 ปี คำว่า “กัชโช” มีความหมายว่า “พนมมือ” ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะ รูปแบบของบ้านที่มีหลังคามุงด้วยฟางข้าวที่ทำมุมชันถึง 60 องศา คล้ายสองมือที่ประนมเข้าหากัน ตัวบ้านมีความยาวประมาณ 18 เมตร กว้าง 10 เมตร ทั้งหลังถูกสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู นอกจากนั้นในช่วงฤดูหนาวหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีการจัดงานแสดงไฟชื่องาน Shirakawago Winter Light-Up ซึ่งจะเป็นการนำไฟสีเหลืองมาติดตามอาคารบ้านเรือนที่ถูกหิมะสีขาวปลกคลุม ทำให้เกิดเป็นภาพที่สวยงามตระกาลตา จนเป็นที่ดึงดูนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาชมความงดงาม ณ หมู่บ้า่นชิราคาวาโกะแห่งนี้ โดยกำหนดการการจัดงาน
ของปี 2019 จะมีทั้งหมดดังนี้ รอบที่ 1 วันที่ 14 มกราคม 2019 รอบที่ 2 วันที่ 20 มกราคม 2019 รอบที่ 3 วันที่ 27 มกราคม 2019 รอบที่ 4 วันที่ 03 กุมภาพันธ์ 2019
รอบที่ 5 วันที่ 11 กุมภาพันธ์
ทวีปยุโรป
/
4 ไฮไลท์ที่ เที่ยวแคชเมียร์ สวิตเซอร์แลนด์แดนอินเดียที่คุณคู่ควร
4 ไฮไลท์ที่ เที่ยวแคชเมียร์ สวิตเซอร์แลนด์แดนอินเดียที่คุณคู่ควร
เที่ยวแคชเมียร์ ดินแดนทางตอนเหนือของประเทศอินเดียที่อุดมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม จนได้รับขนานนามว่าเป็นสวงสวรรค์บนดิน และสวิตเซอร์แลนด์แดนอินเดีย วันนี้ Planetholidays ก็จะมาแนะนำ 4 ไฮไลท์ที่เที่ยวแคชเมียร์ สวิตเซอร์แลนด์แดนอินเดียที่คุณคู่ควร ถ้าพร้อมแล้วเราก็ไปทัวร์กันเล๊ย
1.เมืองศรีนาคา
เมืองศรีนาคาเป็นนครหลวงของ แคว้นจามมู-แคชเมียร์ ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาแคชเมียร์ ดินแดนแห่งทะเลสาบ สายน้ำ สวนดอกไม้และงานฝีมือ ศิลปะที่ผลิตจากไม้ แลนด์มาร์กที่เหมาะแก่การเดินเล่นชมวัฒธรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่ใช้ชีวิตกับสายน้ำอันเงียบสงบ ให้เราได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศริมน้ำ ทอดมองผู้คนที่ใช้เรือเป็นยานพาหนะในการเดินทางบนทะเลสาบอันกว้างใหญ่ พร้อมที่เดินเล่นชิคๆอย่าง ตลาดน้ำยามเช้าที่สร้างชีวิตชีวาให้กับผู้มาเยือนและนักท่องเที่ยว
2.กุลมาร์ค(GULMARG)
กุลมาร์ค เป็นเทือกเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในแคชเมียร์ แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในฤดูหนาว แลนดมาร์กที่อัดแน่นด้วยกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลานสกีหิมะ การนั้งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขากุลมาร์ค ระหว่างทางจะได้พบกับหมู่บ้านยิปซีที่ในช่วงฤดูหนาวจะอพยพไปอยู่ที่เมืองจามมู และจะกลับมาพักอาศัยในช่วงฤดูร้อน นอกจากนั้นในช่วงฤดูร้อน เทือกเขาแห่งนี้จะแปรเปลี่ยนเป็นสนามกอล์ฟที่สูงที่สุดในโลก 2,730 เมตรจากระดับน้ำทะเลอีกด้วย
3.หมู่บ้านพาฮาลแกมหรือหุบเขาแกะ (Village of Shepherds)
หมู่บ้านเล็กๆน่ารักๆ ที่เดิมที่แล้วเป็นหมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ พาฮาลแกมได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์” และยังเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ที่มีความนิยมมาก ในช่วงฤดูหนาวจะมีแต่หิมะปกคลุม อากาศหนาว น้ำในลำธารใสเย็น แม่น้ำสายย่อยๆจะบรรจบรวมกันเป็น แม่น้ำลิดดาร์ (Liddar) แม่น้ำสายสำคัญในพาฮาลแกม นอกจากนั้นภายในหมู่บ้านยังเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย และที่ถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของที่แห่งนี้เลยก็คือ หญ้าฝรั่น (Saffron) หญ้าฝรั่นมีขายอยู่ทั่วแคชเมียร์ แต่ที่พาฮาลแกมจะเป็นแหล่งเพาะปลูกหญ้าฝรั่นที่ใหญ่ที่สุด และมีคุณภาพดีที่สุด ซึ่งสรรพคุณของหญ้าฝรั่นนั้นสามารถลดโคเลสเตอรอลในร่างกายได้ดีมากเลยค่ะ
4.ล่องเรือทะเลสาบดาล
อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยนั้นก็คือ การล่องเรือทะเลสาบดาลโดยเรือสิคารา ชมความงดงามของทะเลสาบ พร้อมสูดอากาศที่สุดแสนจะบริสุทธิ์ และเสพทัศนียภาพของเทือกเขาหิมะที่ล้อมรอบเมืองแห่งนี้ไว้ สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำบริเวณรอบทะเลสาบ มีนกนานาชนิด ดอกไม้ พืชพรรณต่างๆ หรือ ถ้าอยากจะช้อปปิ้งที่นี่ก็มีตลาดน้ำยามเช้าไว้รองรับ ให้เราได้ช้อปปิ้งกันอย่างเพลิดเพลินไปเลยค่ะ
ก็จบกันไปแล้วนะคะ กับการ 4 ไฮไลท์ที่ เที่ยวแคชเมียร์ สวิตเซอร์แลนด์แดนอินเดียที่คุณคู่ควร เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับมนต์เสน่ห์ของ แคชเมียร์ งดงามสมคำล่ำลือมากเลยใช่ไหมหล่ะ ส่วนใครที่กำลังจะวางแผนมา เที่ยวอินเดีย แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ลองเข้ามาปรึกษาพวกเรา planetholidays สิคะ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มความทรงจำของคุณ ที่นี่เรามี ทัวร์ดีๆ มากมาย จัดหนักจัดเต็มทุกทริป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
planetholidays คำตอบของคนชอบเที่ยว รู้ยัง! รูดบัตรไม่ชาร์จด้วยนะ ยินดีต้อนรับทุกธนาคารเลยจ้า ทัวร์ดี ราคาถูก โทรสอบถามข้อ มูลเพิ่มเติมได้ที่ Tel: 02-530-9899, 081-855-7999, 094-794-1666 Line เราก็มีนะ @planetholiday
ทัวร์ออสเตรเลีย
/
6 ไฮไลท์ที่ เที่ยวออสเตรีย เมืองที่สวยงามดั่งเทพนิยาย
6 ไฮไลท์ที่ เที่ยวออสเตรีย เมืองที่สวยงามดั่งเทพนิยาย
เที่ยวออสเตรีย ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของ สวิสเซอร์แลนด์ ดินแดนที่ทีมีความสวยงามดั่งเทพนิยาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลสาป บ้านเมือง เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียว
วันนี้ Planetholidays ก็มี 6 ไฮไลท์ที่ เที่ยวออสเตรีย เมืองที่สวยงามดั่งเทพนิยาย มาฝากทุกคนกัน ส่วนจะสวยงามแค่ไหนนั้นต้องตามมาดูกันเองนะคะ ว่าแล้วเราก็ไปกันเลย
1.เมืองอินส์บรูค (Innsbruck)
เมืองอินส์บรูค (Innsbruck) เป็นเมืองเล็กๆในอ้อมกอดแห่งภูเขาหิมะ เป็นเมืองหลวงของแคว้นทีโรล เป็นเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของ ประเทศออสเตรีย (Austria) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน ซึ่งคำว่าอินส์บรูคนั้น แปลว่า สะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะแคบๆแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์
2.ถนนมาเรียเทเรซ่า (Maria Theresa Street)
ถนนมาเรียเทเรซ่า (Maria Theresa Street) เป็นถนนคนเดินแห่งมนตร์เสน่ห์ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่สีลูกกวาด เชื่อมระหว่างเขตเมืองเก่ากับย่านช้อปปิ้งสมัยใหม เป็นที่ตั้งของ หอคอยประจำเมือง (City Tower) และ เสาอันนาเซาเลอ (Anna Saule) ตั้งสูงเด่นเป็นสง่าบนถนนสายนี้ ท่ามกลางอ้อมกอดแห่งภูเขาหิมะ
3.หลังคาทองคำ (Golden Roof)
หลังคาทองคำ (Golden Roof) เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรูค ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นโดย จักรพรรดิฟรีดริช (Friedrich) ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล ต่อมา จักรพรรดิแม็กซ์ซิมิเลียน (Maximilian) ทรงปรับเปลี่ยนโกลเด้นรูฟให้เป็นสไตล์โกธิก ผสมบาโรค และได้ทรงตกแต่งส่วนของหลังคาที่ยื่นออกมาจากระเบียงด้วยทองคำแท้ จำนวน 2,738 แผ่น เพื่อใช้เป็นที่ทอดพระเนตรเทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นบริเวณจัตุรัสด้านหน้าที่ประทับ ปัจจุบันโกลเด้น รูฟ กลายเป็นสำนักงานการประชุมอัลไพน์นานาชาติ
4.หมู่บ้านมรดกโลก ฮัลสตัท (Hallstatt)
หมู่บ้านมรดกโลก ฮัลสตัท (Hallstatt) เป็นหมู่บ้านแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวย งามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกขององค์กรสหประชาชาติ หรือ Unesco Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
5.เมืองซาลส์บูร์ก (Salzburg)
เมืองซาลส์บูร์ก (Salzburg) เมืองอันเป็นบ้านเกิดของนักดนตรีเอก “วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ที่มีชื่อเสียงก้องโลก คำว่า “ซาลส์บูร์ก” มีความหมายว่า “ปราสาทเกลือ” เขตเมืองเก่าศิลปะบารอคที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซาลส์ซาค เมืองซาลส์บูร์กเคยเป็นที่ประทับถาวรของอาร์ค บิชอป และ เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกที่สำคัญยิ่งของบรรดาประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมัน
6.บ้านเกิดโมสาร์ท (House of Wolfgang Amadeus Mozart)
บ้านเกิดโมสาร์ท (House of Wolfgang Amadeus Mozart) กวีเอกของโลกชาวออสเตรีย ปัจจุบันนี้เป็น พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติของโมสาร์ทและครอบครัว
ทัวร์ดูไบ
/
ท่องเมืองเศรษฐกิจโลก ดูไบ กับ 9 ไฮไลท์ที่คุณไม่ควรพลาด
ท่องเมืองเศรษฐกิจโลก ดูไบ กับ 9 ไฮไลท์ที่คุณไม่ควรพลาด
ดูไบ เมืองเศรษฐกิจสำคัญของโลก ดินแดนแห่งความหรูหรา ทันสมัย ยิ่งใหญ่ตระการตา ประเทศที่ถูกเนรมิตจากทะเลทรายแห้งแล้งจนกลายเป็นเมืองสวรรค์ ทั้งโรงแรม แหล่งช้อปปิ้ง และสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่นั้นเรียกได้ว่าปังมากๆ วันนี้เราจะพาทุกคนไป ท่องเมืองเศรษกิจโลก ดูไบ กับ 9 ไฮไลท์ที่คุณไม่ควรพลาด ถ้าใครพร้อมแล้วก็ไปกันเล๊ย
1.ตึกเบิร์จคาลิฟา (Burj Khalifa)
ตึกเบิร์จคาลิฟา (Burj Khalifa) หรือเดิมชื่อ บุรจญ์ดูไบ หนึ่งในสัญลักษณ์อันสำคัญของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งตึก มีความสูงถึง 828 เมตร ปัจจุบันมีทั้งหมด160 ชั้น ตัวตึกได้ทำสถิติกลายมาเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกมีความสูงถึง 546 เมตร และได้มีการเปลี่ยนชื่ออาคารจาก “บุรจญ์ดูไบ” เป็น “บุรจญ์เคาะลีฟะฮ์” เพื่อ เป็นเกียรติแก่ ท่านชีคค์ อดีตประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยที่ชั้น 124 จะเป็นจุดชมวิวของตึกที่สำคัญ ท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์หลักล้านของประเทศดูไบที่สวยงาม และโอ่อ่าได้จากชั้นนี้ ส่วนบนของตึกจะเป็นเสาอากาศสื่อสารนอกจากนี้ชั้น 78 จะมีสระว่ายน้ำ กลางแจ้งขนาดใหญ่โดยตึกนี้จะติดตั้งลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลกที่ความเร็ว18 ม./วินาที (65 ก.ม./ชม.,40 ไมล์/ชม.)
2.โครงการสุดอลังการ The Plam
โครงการเดอะปาล์ม THE PALM เป็นโครงการที่อลังการ สุดยอดโปรเจคส์โดยการถมทะเล ให้เป็นเกาะเทียมสร้างเป็นรูปต้นปาล์ม 3 เกาะ บนเกาะมีที่พักโรงแรม รีสอร์ท อพาร์ตเม้น ร้านค้า ภัตตาคาร รวมทั้งสำนักงาน ต่างๆนับว่าเป็น สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก นำท่านชื่นชมความสวยงามของภูมิประเทศ และบรรยากาศรอบๆ โรงแรมนี้ Palm Island เป็นโครงการมหัศจรรย์ที่คิดค้นสำหรับรองรับการอยู่อาศัยในอนาคต สร้างโดยการนำทรายมาถมทะเลเป็นเกาะเล็กๆ รวม 301 เกาะ รูปร่างหากมองจากด้านบนจะรูปต้นอินทผลัม
3.ตะลุยทะเลทรายโดยรถ4WD
อีกหนึงไฮไลท์ที่น่าสนใจของการมาเที่ยวดูไบนี้ก็คือ การออกไปตะลุยทะเลทรายด้วยรถ 4WD ท่านจะได้สนุกสนานกับการนั่งรถตะลุยทะเลทรายที่มีเนินสูงและต่ำสลับกันไป ซึ่งเป็นการเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น และเร้าใจที่คุณควรมาลองให้ได้สักครั้งนะ
4.ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ตกดิน
หลักจากนั่งรถตะลุยเททรายไปแล้ว มาต่อกันที่อีก 1 ไฮไลท์เจ๋งๆ กับ การขี่อูฐชมพระอาทิตย์ตกดิน ท่านจะได้เพลิดเพลินกับการนั่งบนหลังอูฐแบบชิลล์ นั่งมองพระอาทิตย์ตกดิ ชมแสงทไวไลท์ ที่สุดแสนจะโรแมนติก นับว่าเป็นอีก 1 วิวทิวทัศน์ที่ไม่อาจหาชมได้ง่ายๆเลย
5.มัสยิดหลวงเชคซัยยิด GRAND MOSQUE
มัสยิดหลวงเชคซัยยิด หรือ GRAND MOSQUE เป็นสุเหร่าประจำเมืองดูไบของท่านเชคที่ก่อตั้งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ ที่ท่าน สร้างไว้ก่อนท่านจะสวรรคต การก่อสร้างรวมทั้งหมดเป็นเวลา 10 ปี สุเหร่านี้มี พรมผืนที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาด 5,627 ตารางเมตร และโคมไฟ Chandelier ใหญ่ที่สุดในโลก นำเข้าจากประเทศเยอรมันทำด้วยทองคำและทองแดง สามารถรองรับผู้มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้สูงถึง 40,000 คน นอกจากนี้มัสยิดแห่งนี้เป็นสุสานหลวงที่ฝังพระบรมศพของ Sheikh Zayed
ทัวร์ไต้หวัน
/
เที่ยว ไต้หวัน มีอะไรเด็ดๆให้ทำบ้าง ? เผยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในไต้หวัน
เที่ยว ไต้หวัน มีอะไรเด็ดๆให้ทำบ้าง ?
ไต้หวัน เกาะขนาดกลางที่เปรียบเสมือน “เสือซ่อนเล็บ” ที่ต้องกล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่าไต้หวันนั้น แฝงด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาหารหลากหลายชนิด และแหล่งช้อปปิ้งที่แสนจะถูก เป็นดั่งขุมทรัพย์ของนักท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเลยแม้แต่ที่เดียว วันนี้เราก็จะมาเล่าเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวใน ไต้หวัน ใครอยากรู้ว่าไปไต้หวันมีอะไรเด็ดๆให้ทำบ้างก็ตามเรามาเล๊ย
1.ตึกไทเป101
ตึกสูงเสียดฟ้าใจกลางเมืองไทเป หนึ่งความภาคภูมิใจของชาวไทเป ด้วยความสูงถึง 508 เมตร และการออกแบบด้วยนวัตกรรมทีสุดล้ำ ที่ทำให้ตึกสามารถทนต่อแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว การป้องกันวินาศภัยทางอากาศ ตึกไทเป 101 จะมีทั้งหมด 101 และชั้นใต้ดินอีก 5 ชั้น ที่ชั้น 1-5 จะเป็นส่วนของห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายแบนด์ชื่อดังต่างๆ ร้านค้า ร้านอาหาร โดยที่ชั้น 5 จะมีเค้าเตอร์ขายตั๋วสำหรับขึ้นลิฟท์ไปยังจุดชมวิวที่ชั้น 89 ซึ่งเป็นชั้นชมวิวกว้างๆอยู่ในอาคาร จากนี้จะมีบันไดให้เดินขึ้นไปที่ลานชมวิวกลางแจ้งที่ชั้น 91 ได้ด้วย ท่านสามารถชมทัศนียภาพของเมืองไทเปได้ไกลแบบสุดลูกหูลูกตา ด้วยแสง สี ไฟ ของเมืองนับว่าเป็นภาพวิวที่งดงามหาชมได้ยากที่นึงเลย
2.โรงแรมน้ำแร่ในห้องนอน
อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยคือ การไป นอนแช่น้ำแร่ออนเซ็น ใน ห้องพักส่วนตัว ที่ไต้หวันนั้นค่อนข้างโด่งดังเรื่องโรงแรมน้ำแร่ ทำให้การตามหาที่พักที่มีออนเซ็นในห้องนอนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก ไปพักผ่อน ย่อนกาย สูดกลิ่นกำมะถันกันให้สบายตัวไปเลย
3.ไปล่องเรือเล่นที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา
ทะเลสาบสุริยันจันทรา ตั้งอยู่ในเมือหนานโถว เป็นอีก 1 ไฮไลท์เด็ดที่ไม่ควรพลาด เหมาะแก่การไปนั่งเรือชมวิวทิวทัศน์ในที่แห่งนี้ ด้วยตัวทะเลสาบที่มีภูเขาสลับซับซ้อนล้อมรอบ ประกอบกับมีทัศนียภาพของน้ำและภูเขาที่สวยงามไม่ว่าจะเป็นการชมวิวจากที่ไกลๆ หรือเข้าไปชมความงดงามของทะเลสาบอย่างชิดใกล้ ถนนรอบทะเลสาบมีความยาวประมาณ 33 กิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศที่โดด เด่น ทำให้ตัวทะเลสาบมองแล้วคล้ายพระอาทิตย์และพระจันทร์เสี้ยวซึ่งเป็นที่มาของนามอันไพเราะว่าสุริยันจันทรา
4.เที่ยวหมู่บ้านโบราณ จิ่วเฟิ่น
หมู่บ้านจิ่วเฟิ่น เป็นแหล่งเหมืองทองที่มีชื่อเสียงตั้งแต่สมัยกษัตริย์กวงสวี้ แห่งราชวงศ์ชองจึงมีนักขุดทองจำนวนมากพากันมาขุดทองที่นี่ การโหมขุดทองและแร่ธาตุต่างๆ ทำให้จำนวนแร่ลดลงอย่างน่าใจหาย ผู้คนพากันอพยพย้ายออกไป เหลือทิ้งไว้เพียงแต่ความทรงจำ จนกระทั่งมีการใช้จิ่วเฟิ่นเป็นฉากในการถ่ายทำภาพยนตร์ “ เปยฉิงเฉิงชื่อ ” และ “ อู๋เหยียนเตอะซันซิว ” ทัศนียภาพภูเขาที่สวยงามในฉากภาพยนตร์ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาชื่นชมความงดงามของที่นี่ นอกจากนี้ยังมีถนนคนเดินเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในไต้หวัน ทำให้จิ่วเฟิ่นกลับมาคึกคักและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ให้ท่านได้เพลิดเพลินในการจับจ่ายซื้อของกินที่แปลกตา อีกทั้งยังมีบัวลอยเผือกที่โด่งดังที่สุดในไต้หวัน เนื่องจากมีรสชาติแบบดั้งเดิมไม่เหมือนที่ไหน จะซื้อทานเองหรือเป็นของฝากก็เก๋ไม่แพ้กัน
5 .ชมความงดงามของอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค
อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค เป็นแหล่งรวม รูปภาพ สิ่งของต่างๆที่เป็นประวัติแทบทั้งหมดเกี่ยวกับ ท่านนายพล เจียง ไคเช็ค ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นลูกศิษย์ ดร.ซุนยัดเซ็นจนท่านได้ก้าวมาสู่ ตำแหน่งผู้นำประเทศ โดยไฮไลท์ของที่นี่ท่านจะได้พบกับการเปลี่ยนเวรทหารรักษาการหน้ารู้ปั้นท่านนายพล เจียง ไค เช็ค ซึ่งจะ มีขึ้นทุก 1 ชั่วโมง บนชั้น 4 ของอนุสรณ์แห่งนี้
6.ช้อปปิ้งที่ ฝงเจี่ยไนท์มาร์เก็ต
ตลาดกลางคืนฟ่งเจี่ย เป็นตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไต้หวัน อยู่ที่เมืองไทชุง เป็นตลาดกลางคืนที่มีกลิ่นอายท้องถิ่นของชาวไต้หวัน ที่ตลาดจะมีร้านขายอาหารท้องถิ่นมายมากหลากหลายสไตล์ จึงทำให้สามารถดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวได้มาก และอีก 1 ไฮไลท์เด็ดของตลาดแห่งนี้คงจะหนีไม่พ้น Onitsuka tiger ที่ลดราคาแบบว่าเยอะมาก เรียกได้ว่าขาช้อปห้ามพลาดเลยหล่ะครับ
7.ช้อปปิ้งที่ตลาดซีเหมินติง
ตลาดซีเหมินติง หรือที่คนไทยเรียกว่า สยามสแควร์เมืองไทย มีทั้งแหล่งเสื้อผ้า แบรนด์เนมสไตล์วัยรุ่น กระเป๋า ของฝากสำหรับคนที่ท่านรัก